ตอนที่แล้วตอนที่ 276 ฟงโฉ่ว – พลังเผาผลาญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 278 ความคิดโง่เขลาของฟงโฉ่ว

ตอนที่ 277 ชัยชนะ


หย่งชิวตกตะลึงจ้องมองถังเทียน มือของเขาเย็นเฉียบ  ไม่มีร่องรอยความคิดต่อสู้เหลืออยู่ในใจเขา

นั่นคือสุดยอดวิชาโดดเด่นหรือ?

ใบหน้าเขาเขียวคล้ำ เดาะอาวุธลับในมือ  ตอนนี้เขายังไม่หยุดสั่นเขาเคยได้ยินเรื่องสุดยอดวิทยายุทธโดดเด่นมาก่อน แต่ยังไม่เคยเห็นพลังของวิชาประเภทนี้กับตัวเอง  ในที่สุดเขาก็เข้าใจ มันแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก

หย่งชิวไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ประสบความพ่ายแพ้

ถังเทียนเลือกหย่งชิวเป็นคู่ต่อสู้เนื่องจากเป็นเป้าหมายใกล้  ดังนั้นเป้าหมายของหลิงซิ่วจึงตกอยู่ที่หวีซุ่น

ในบรรดาสามคนนี้หวีซุ่นเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดฝ่ามือสายฟ้ากำศรวลของเขาเด็ดขาดและใช้ได้ดั่งใจ  แม้แต่ถังเทียนก็ยังไม่กล้าต้านรับโดยตรง  แต่หลิงซิ่วไม่กลัว

ร่างที่อยู่บนนกพุ่งออกมาเหมือนกับหอกเล่มหนึ่งและบิดนิ้วอย่างนุ่มนวล

ฝนสีเงินกระจายตัวอย่างเข้มข้นต่อหน้าหวีซุ่น

เมื่อเขาเคลื่อนไหว ร่างของหลิงซิ่วกระตุก  หน้าของเขามีท่าทางตื่นเต้นมาก

วี้.....

เสียงหวีดแหวกอากาศของหอกเหมือนกับฝูงแตนกระพือปีก

ฝีมือที่รุดหน้าของหลิงซิ่วสามารถได้ยินได้จากเสียงหอกหวีดแหวกอากาศ  ก่อนนั้นเมื่อเขาปลดปล่อยพลังหอกเสียงหวีดแหวกอากาศจะดังเหมือนชายผ้าสะบัดแต่ตอนนี้เสียงกลับเป็นเสียงสั่นต่ำทำให้หัวใจผู้คนสั่นไหว  นี่หมายความว่าการปล่อยพลังหอกของเขารวบรัดมากขึ้นเสียงแหวกอากาศลดลงมาก แต่จำนวนครั้งที่เขาปล่อยพลังหอกเพิ่มขึ้นมากมายเพราะฉะนั้นจึงทำให้เสียงที่ดังออกมาเหมือนกับฝูงแตนกระพือปีก

แต่สิ่งที่ทำให้หลิงซิ่วตื่นเต้นมากขึ้นก็คือความถี่ในการปล่อยพลังหอกผ่านจุดสำคัญไปได้

หนึ่งวินาทีปล่อยพลังได้ร้อยหอก

ในเมื่อผ่านจุดสำคัญไปได้ก็หมายความว่าหอกทะเลจุดของเขาบรรลุเข้าขอบเขตใหม่

รังสีที่เยือกเย็นเต็มแฝงไปด้วยพลังระเบิด  เหมือนกับฝนที่ระเบิดออก  พลังที่สร้างขึ้นมาในขณะนั้นน่าหวาดหวั่น

เมื่อหวีซุ่นปล่อยพลังฝ่ามือของเขา สีหน้าเขาเปลี่ยนไป

สายตาของเขาบอดไปชั่วขณะเพราะแสงสีเงิน  ความรู้สึกถึงอันตรายเพิ่มขึ้นในใจลึกๆ ของเขาเขามีประสบการณ์การต่อสู้มามากมาย  ดังนั้นจึงถอยออกมาอย่างไม่คิดอะไร

ปุ ปุ ปุ

รังสีเย็นทั้งสิบทะลวงผ่านฝ่ามือของเขา ในพริบตากลุ่มรังสีเย็นยะเยียบที่หนาแน่นก็ทะลวงผ่านพลังฝ่ามือของเขาและปรากฏอยู่ตำแหน่งที่เขาเพิ่งยืน

ปัง

ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ก่อนนั้นระเบิดออกทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยทรายกระจัดกระจาย

หลิงซิ่วไม่ได้ไล่ตาม และยืนอยู่ในจุดเดิมของเขา  มองมายังหวีซุ่น เขาใช้หอกเงินในมือค่อยๆบิดหอกไปมา เสียงกระพรวนเลือนรางดังก้องในหูของหลิงซิ่ว

ทันใดนั้นหลิงซิ่วคิดถึงบทเพลงประหลาด

“หอกเงินย้อมด้วยหิมะ  ไม่มีอะไรปนเปื้อนตลอดไป  กระพรวนสายลมเขาแกะส่งเสียงชัดเจนจนไม่ได้ยินเสียง  พระอาทิตย์ทอแสงแต่ไม่เห็นเงา  เพราะหอกตระหง่านตรง น่าชุ่มชื่นใจ ดวงดาวปกป้องวิญญาณข้าไว้ หมู่ดาวแกะเป็นยอดฝีมือเชิงหอก”

เพราะเหตุผลบางอย่างเขามีความต้องการจะร้องเพลงด้วยเสียงของเขา  แต่เขาส่ายศีรษะและทิ้งความคิดนั้น

ไม่ว่ายังไงก็ตาม กองพาหนะน้ำแข็งเงินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

อาจารย์ไม่เคยพูดถึงมันมาก่อน  ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเป็นธรรมดา แม้ว่ากองพาหนะน้ำแข็งเงินมีประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรือง  แต่เขาอยู่ที่นี่ หอกเงินคือหอกของหลิงซิ่วหอกทะเลจุดก็คือวิชาหอกทะเลจุดของหลิงซิ่ว

หลิงซิ่วยังคงเคลื่อนไหว!

ความมุ่งมั่นต่อสู้อย่างห้าวหาญเขารู้ดีอยู่เต็มอกความปรารถนาต่อสู้แรงกล้า เขากระตุ้นฟลามิงโกและค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้หวีซุ่น ความเจ็บปวดตามกระดูกสันหลังเพิ่มขึ้นเป็นการเตือนถึงความไม่สมประกอบของเขาแต่เขายังคงตรงเข้าต่อสู้ต่อไป

แรงกดดันบนตัวหวีซุ่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

หัวใจเขาเต็มไปด้วยความกลัว  คนพวกนี้โผล่มาจากที่ใดกันแน่?  พวกเขายังอายุน้อย แต่ก็ทรงพลัง!

นักรบฟลามิงโกที่อยู่ต่อหน้าเขายืนตรงตระหง่านเหมือนคันหอก เหมือนกับทหารม้าโบราณผู้เคร่งครัดวินัย ภายในเปลวเพลิงที่สง่างาม ผมเงินที่พัดพลิ้ว ใบหน้าที่ห้าวหาญนัยน์ตาสีเพลิง

เขาเหมือนกับมีเปลวไฟลุกท่วม

เขาแค่กำลังเดินเข้ามาใกล้  แต่ก็ทำให้หวีซุ่นรู้สึกเหมือนเขากำลังเผาไหม้

หวีซุ่นสูดหายใจลึก เขารู้ว่าตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ถ้าเขาไม่ใส่ใจให้ดี  วันนี้อาจเป็นวันตายของเขาภายใต้แรงกดดันของความตาย  หวีซุ่นทิ้งความคิดกวนใจทั้งหมดรวมทั้งปิดกั้นเสียงรอบตัวเขาด้วย

รอบตัวหวีซุ่นกลายเป็นความเงียบสงัด  เขาเงยหน้าขึ้นมองหลิงซิ่วผู้หยุดห่างจากเขาประมาณเจ็ดเมตร

เขาไม่รู้สึกเสียใจหรือดีใจ

ทั้งสองฝ่ายจ้องมองกันสามวินาที

ภายในเปลวเพลิง หลิงซิ่วยังคงนั่งอยู่บนฟลามิงโก ตาสีเพลิงของเขาเหมือนกับไฟ ผมสีเงินของเขากระพือตามลม  เขาพูดออกมา  “ท่าเดียวตัดสินแพ้ชนะ!”

ความชื่นชมปรากฏในสายตาของหวีซุ่น  ความตั้งใจสู้ในตัวเขาเพิ่มขึ้สูง  เขายิ้ม “ท่าเดียวตัดสินแพ้ชนะ!”

ทั้งสองฝ่ายจ้องกันและกัน และเคลื่อนไหวพร้อมกัน

ฟลามิงโกก้าวสั้นๆ แต่ในก้าวสั้นเหล่านี้ความเร็วของฟลามิงโกเพิ่มขึ้นในระดับน่าตกใจ และที่ระยะห่างจากหวีซุ่นสามเมตร กรงเล็บของมันจิกลงพื้นทรายพลังมหาศาลระเบิดออกและมันกระโจนขึ้น

ฟลามิงโกดูเหมือนลูกไฟที่ลอยในอากาศ

หวีซุ่นไม่ได้รู้สึกอะไร สีหน้าของเขาสงบเรียบเฉย ฝ่ามือทั้งสองเขาชิดอก และเหมือนกับโอบบอลสีเงินไว้ เกิดประกายไฟฟ้านับไม่ถ้วนควบแน่นในระหว่างฝ่ามือของเขาจนเป็นบอลไฟฟ้าสว่างกำลังปลดปล่อยปราณที่น่ากลัว

ฝ่ามือสายฟ้ากำศรวล เคล็ดสังหาร อัสนีบาตกำศรวล

หลิงซิ่วที่ทะยานในอากาศในจุดที่สูงสุดเริ่มตกลงมามองดูเหมือนกับดาวตก

วี้....

รอบๆ ดาวตกมีรัศมีเยือกเย็นนักไม่ถ้วนลักษณะเหมือนดวงดาว

อัสนีบาตรกำศรวลเต็มไปด้วยปราณทำลายล้างแต่มิเพียงแต่ไม่ทำให้หลิงซิ่วกลัวเท่านั้น แต่ทำให้เขายิ่งระห่ำมากขึ้น ความตั้งใจสู้ของเขารุนแรงกว่าเดิม บุรุษหนุ่มผู้นั่งตัวตรงอยู่บนนกฟลามิงโก  ทั่วทั้งตัวปลดปล่อยเปลวเพลิง ขณะที่ถือหอกเงินอยู่ในมือ

รอบๆ ดวงดาวมีรัศมีสว่างหนาแน่นซึ่งเข้าไปในหอกในมือของเขา

หอกเงินกำลังสว่างเจิดจ้า ตัวหอกเร่าร้อน แต่หลิงซิ่วไม่รู้สึกอะไร ความเจ็บปวดจากกระดูกสันหลังทำให้เขารู้สึกมึนชา และใบหน้าที่หล่อเหลามีแววบ้าระห่ำ

อาจารย์ นี่คือหอกทะเลจุดของเสี่ยวซิ่ว

อาจารย์ นี่คือแก่นหอกผดุงธรรมของเสี่ยวซิ่ว

อาจารย์ นี่คือคุณธรรมของเสี่ยวซิ่ว!

อาจารย์, นี่คือหัวใจของเสี่ยวซิ่ว!

ร่างของบุรุษหนุ่มบ้าดีเดือดที่เหมือนกับเงาตรงเข้ามาและแทงหอกสวน

รังสีหอกเงินทะลวงเข้าไปในอัสนีบาตกำศรวล

ปัง!

บอลแสงเปล่งแสงเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์และความมืดจุดดำหายไป ในท่ามกลางสนามรบที่ยุ่งเหยิง  ทุกคนตกใจกับเสียงระเบิดและหยุดเคลื่อนไหวทันที

ในแสงเงิน มีร่างๆหนึ่งถูกเหวี่ยงออกมาอย่างโหดร้ายพร้อมกับเลือดไหลเป็นทาง

“พี่หวี!”

สุ่ยเฉิงร้องเสียงหลงหลังจากฝืนตั้งรับการโจมตีจากถังอี้อย่างหนัก  เขากระอักโลหิต แต่ร่างของเขาว่องไวเขาคว้าตัวหวีซุ่นที่หมดสติไปก่อนเขาจะร่วงลงพื้นและใช้พลังของเขาในกลางอากาศหนีไป

แขนขวาหวีซุ่นหายไป บาดแผลสาหัสโลหิตไหลทะลักเป็นทาง

นักสู้ที่เหลือตกตะลึงกันหมด  หัวหน้าสองคนหลบหนี  กำลังใจย่อมตกต่ำลงทั้งหมด  จำนวนยอดฝีมือเหลือน้อยกว่าสี่สิบคนและทุกคนมองดูหย่งชิว

หย่งชิวค่อยสงบจิตใจได้ เขาชูมือสองข้างและฝืนยิ้ม“เรายอมแพ้”

นักสู้อื่นๆ ต่างโล่งใจโดยไม่รู้ตัว โยนอาวุธลงเงียบๆไม่มีใครข้องใจสงสัยว่าพวกเขาจะต้องตายแน่ หากยังต่อต้านขัดขืนต่อไป

เมื่อถังเทียนและแถวของกองกำลังเชลยปรากฏตัวในเผ่าหมาป่าไฟ  ภาพนี้สั่นสะเทือนไปทั้งเผ่า  ทุกคนออกมาดูและมองดูกองกำลังที่มาถึงอย่างเหลือเชื่อ

“พระเจ้า!นี่มันท่านหย่งชิวนี่!”

“ข้าได้ยินว่าแม้แต่ท่านหวีซุ่นและท่านสุ่ยเฉิงก็ยังบาดเจ็บหนักหลบหนีไป”

“ศักดินาชาวยุทธจบสิ้นแล้ว!”

“ถังเทียนและพวกพ้องเป็นเทพสงครามโดยแท้!”

เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยตื่นเต้นและประหลาดใจและเสียงชื่นชมสรรเสริญจากทั่วทุกมุม หัวหม่าเอ้ออยู่บนหลังม้าถึงกับนั่งตัวตรงแววภูมิใจปรากฏบนใบหน้านาง  นางเห็นประจักษ์และได้พบกับการต่อสู้ที่จะเป็นตำนานด้วยตัวเองซึ่งจะส่งผลต่อนางยิ่งขึ้นไป

หัวใจนางเปี่ยมไปด้วยความสุข การได้พบกับถังเทียนและพวกพ้องเป็นการตัดสินใจที่ถูกที่สุดในชีวิตนาง

คนที่ประหลาดใจไม่เพียงแค่ชาวเผ่าหมาป่าเพลิงเท่านั้น  แม้แต่สายลับที่คอยสอดแนมตามเผ่าต่างๆ ก็ยังไม่อยากเชื่อตาตนเอง   พวกเขาลืมซ่อนตัวไปโดยปริยาย

ก่อนนี้เผ่าหมาป่าเพลิงเอาชนะซินลี่ได้เผ่าทะเลทรายทุกเผ่าก็สั่นสะเทือนไปหมด พวกเขาไม่แน่ใจตื้นลึกหนาบางของกลุ่มถังเทียน  ดังนั้นทุกเผ่าจึงส่งคนมาคอยสอดแนม

รอบๆ เผ่าหมาป่าเพลิง มีตาหลายคู่มองดูอยู่ในเงามืด

ตำนานการต่อสู้แพร่กระจายออกไปเหมือนกับสายลม  ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นข่าวกระจายไปทุกท้องที่ทะเลทราย

ทั่วทั้งทะเลทรายปั่นป่วน

แม้ว่าซินลี่จะแข็งแกร่ง แต่เขาที่เป็นใหญ่ในท้องที่ทะเลทรายก็เป็นแต่เพียงผู้ช่วยเท่านั้น  แต่กลุ่มศักดินาชาวยุทธเป็นหนึ่งในสามกลุ่มพลังใหญ่ทรงอิทธิพลในกลุ่มดาวหมาป่า  และเป็นกลุ่มชั้นนำของกลุ่มดาว  หวีซุ่น สุ่ยเฉิงและหย่งชิวเป็นขุนพลที่ร้ายกาจของอูเถี่ยหวี่ ไม่ว่าคนใดคนหนึ่งก็ยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเผ่าทะเลทรายรวมพลังกันเสียอีก

แต่กลับกลายเป็นว่าขุนพลผู้ร้ายกาจทั้งสามของศักดินาชาวยุทธ  คนหนึ่งยอมแพ้และอีกสองคนบาดเจ็บ

และความล้มเหลวที่กลุ่มศักดินาชาวยุทธได้รับอีกอย่างหนึ่งก็คือมือดีเป็นจำนวนมากพ่ายแพ้

มือดีของกลุ่มศักดินาชาวยุทธเป็นพวกที่แข็งแกร่งที่สุดในสามกลุ่มของกลุ่มดาวหมาป่า  ทุกคนเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถี แต่นักสู้ฝีมือดีเหล่านี้ได้ผ่านการคัดเลือกที่เข้มงวดมากและทุกคนที่ได้รับเลือกจะแข็งแกร่งกว่านักสู้ระดับสวรรค์วิถีทั่วไปอยู่มาก  เทียบกับชาวเผ่าทะเลทรายแล้ว  พวกเขาแข็งแกร่งกว่าสองสามเท่า

อูเถี่ยหวี่ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลและกำลังคนสร้างมือดีของกลุ่มศักดินาชาวยุทธ

การทำลายมือดีของกลุ่มศักดินาชาวยุทธสำหรับพวกเขาแล้วอาจกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้น

แค่ก่อนค่ำคืน ไม่มีใครคิดว่ากองกำลังที่แข็งแกร่งจะพ่ายแพ้ได้  แต่พวกเขาก็พ่ายแพ้ด้วยฝีมือของชายหนุ่มทั้งสาม

ในสายตาคนอื่น ถังอี้คือขุนพลวิญญาณของถังเทียน  ดังนั้นความสามารถของถังอี้น่าจะแทนถังเทียนได้หมด

ชื่อเสียงของถังเทียน อาเฮ่อและหลิงซิ่วขจรไปไกล

ก่อนหน้านี้ทุกคนแทบไม่เข้าใจพลังของถังเทียนและกลุ่มของเขา  แต่หลังจากการต่อสู้ที่กลายเป็นตำนานไม่มีใครสามารถหยั่งทราบพลังของพวกเขาได้ แต่ทุกคนรู้ว่า พวกเขาไม่ธรรมดา

บุรุษหนุ่มทั้งสามแข็งแกร่ง  แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งเกินกว่าพวกเขาจะนึกภาพออก

ไม่มีอะไรพิสูจน์ความจริงได้นอกจากผลต่อสู้   ไม่มีอะไรทำให้ผู้คนคลายใจได้รับความเชื่อถือนอกจากพลัง ยิ่งกว่านั้นพวกเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่น่ากลัวอย่างนั้น

ผู้นำเผ่าทะเลทรายทุกคนนำองครักษ์ผู้ภักดี หินดวงดาวไม่สนใจว่าจะต้องสิ้นเปลืองปราณแท้ เดินทางกันตลอดทั้งคืน

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในวันรุ่งขึ้นที่ทางเข้าหมู่บ้านเผ่าหมาป่าเพลิง ผู้นำเผ่าต่างๆ ก็เดินทางมาถึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด