ตอนที่แล้วตอนที่ 9-41 ความเอื้อเฟื้อของเทพสงคราม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-43 ศพอยู่ไหน

ตอนที่ 9-42 มณฑลอาคเนย์


จักรพรรดิโจฮันน์ทิ้งตัวลงที่ม้านั่งในอุทยานดอกไม้ของวังหลวง  รู้สึกได้ถึงความไร้พลังหน้าของเขาดูอ่อนแอซีดขาว เขาหลับตาและอยู่ในความเงียบ สิ่งเดียวที่มหาดเล็กที่อยู่ใกล้ๆสามารถทำได้ก็คือดูแลเขาอย่างระมัดระวัง มหาดเล็กรู้สึกงงมาก “ก่อนนั้นฝ่าบาทยังอารมณ์ดีอยู่เลย แต่หลังจากคุยกับอาจารย์ลินลี่ย์ครู่เดียว พระองค์ก็กลายเป็นแบบนี้?”

จักรพรรดิโจฮันน์ลืมตากว้างทันที

“ส่งราชโองการนี้ไป มาร์ควิสเจฟฟ์จงไปที่มณฑลกลางและร่วมกับกองกำลังชาร์คและให้ช่วยแบ่งเบาภาระแม่ทัพเลซ เว้นแต่มีสถานการณ์พิเศษ มาร์ควิสเจฟฟ์ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเมืองหลวง”  จักรพรรดิโจฮันน์ตรัสอย่างใจเย็น  เขาไม่ต้องการเห็นมาร์ควิสเจฟฟ์อีก  เมื่อใดที่เขาเห็นมาร์ควิสเจฟฟ์  เขาจะต้องนึกถึงเจ้าชายจูเลียน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้คือความอัปยศที่สุดในใจของจักรพรรดิโจฮันน์ แต่จักรพรรดิโจฮันน์รู้ว่าเขาไม่มีทางทำอะไรได้  ทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้ก็คือก้มหน้ายอมรับชะตากรรม

แม้ว่ามหาดเล็กจะรู้สึกงงกับราชโองการของจักรพรรดิ  แต่เขาก็ทูลรับด้วยความเคารพ  “พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”

จักรพรรดิโจฮันน์นั่งลงอีกครั้ง  ดูเหมือนเขาจะชราภาพขึ้นมาก

จากนครหลวงมุ่งสู่มณฑลอาคเนย์  แม้จะบินเป็นเส้นตรงด้วยความเร็วสูงแต่ก็กินระยะทางเกินกว่าสองพันกิโลเมตร ในขณะที่บินลินลี่ย์แปลงร่างเป็นนักรบเลือดมังกรและมุ่งสู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้เต็มความเร็ว

เมื่อลินลี่ย์ออกจากเมืองหลวงพระอาทิตย์เริ่มอัสดงค์จนลับแนวขอบฟ้าไปแล้ว

เมื่อลินลี่ย์มาถึงหัวเมืองมณฑลอาคเนย์ทั้งโลกก็ตกอยู่ในความมืดสลัวและประชาชนส่วนใหญ่เริ่มนั่งพักอยู่ในบ้านพวกเขาและเตรียมอาหารมื้อค่ำ

“วืดดด” ขณะที่บินไปยังหัวเมืองมณฑลในร่างมังกรแปลงทันใดนั้นลินลี่ย์แผ่พลังจิตของเขาครอบคลุมปราสาทงดงามสวยหรูในใจกลางเมืองไว้อย่างง่ายดาย

เจ้าชายจูเลียนอยู่ที่นั่น  “พี่ใหญ่ จะให้ข้าช่วยจัดการไหม?”  บีบีบินเคียงข้างลินลี่ย์

“ไม่ต้อง!”  เมื่อใดก็ตามที่ลินลี่ย์คิดถึงเรย์โนลด์น้องสี่ของเขา  เพลิงโทสะในใจของเขาก็ยิ่งลุกโหมมากขึ้น  แม้ว่าเขาจะบินมาที่นี่ด้วยความเร็วสูง  ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกว่าการเดินทางครั้งเสียเวลานานมาก

ตาสีทองเข้มของลินลี่ย์มีรอยเส้นเลือดขึ้นเล็กน้อย

“จูเลียน!”  ลินลี่ย์เค้นเสียงรอดไรฟันเบาๆจากนั้นนัยน์ตาสีทองเข้มก็แข็งกระด้างขึ้น

ทหารนับพันลาดตระเวนอยู่ด้านนอกปราสาทเจ้าครองมณฑลอาคเนย์ มีบ่าวทาสหน้าตางดงามเดินเข้าออกภายในปราสาทเช่นกัน

ภายในห้องที่เงียบสงัดภายในปราสาทเบื้องหลังม่านบางสลัว เสียงหอบหายใจต่ำ เสียงครางกระเส่าดังต่อเนื่องไม่หยุด สองร่างกำลังนัวเนียพัวพันกัน

หลังจากนั้นสักพัก....

มีเสียงครางเบาๆจากนั้นห้องก็กลับสู่ความเงียบสงบ

“ฝ่าบาท” เสียงอ่อนหวานดังขึ้น

“ที่รัก!เจ้าช่างน่าหลงใหลเสียจริง เจ้าดีกว่าภรรยาของข้ามากนัก” เจ้าชายจูเลียนเปิดม่านเบาบาง จากนั้นสวมชุดยาวและลุกจากเตียง  “ยอดรัก!  พักอยู่ตรงนี้ก่อนนะข้าจะสั่งให้คนเอาอาหารมาให้เจ้า”

“ขอบพระทัย, ฝ่าบาท” สตรีที่อยู่หลังม่านเบาบางผมสีเหมือนหยกสยายทิ้งตัวเหมือนสายน้ำตก  และตาของนางดูน่าหลงใหล

รอยยิ้มพอใจปรากฏอยู่ที่ใบหน้าของเจ้าชายจูเลียน

เขาพอใจกับชีวิตของเขามาก

เป็นจักรพรรดิจะดีมากสักแค่ไหนกันเชียว?  ในฐานะเจ้าชาย เขามีบ่าวทาสรับใช้มากเท่าที่ต้องการ มีสตรีมากมายเท่าที่ต้องการ ชีวิตแบบนี้ยังดีกว่าเทพเจ้าอีกไม่ใช่หรือ?

“ส่วนพระเชษฐาของข้า  โธ่เอ๊ย, แค่ข้าทำให้เรย์โนลด์ตายก็เอาแต่บ่นแต่สอนข้า”  เจ้าชายจูเลียนเม้มปากดูถูก

ชีวิตของเขามีค่ามาก

ถ้าขุนนางธรรมดาตายแล้วก็แล้วกันไป มันจะเรื่องใหญ่สักแค่ไหนเชียว? บรรทัดฐานวัดคนต่ำของเจ้าชายจูเลียนเป็นเช่นนี้  ไม่ว่าสิ่งใดที่คุกคามชีวิตของเขา  ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงไหน ก็ต้องหยุดเอาไว้

เจ้าชายจูเลียนเดินออกมาจากห้องด้วยความรู้สึกพอใจ

“ฝ่าบาท” นางกำนัลสองคนที่อยู่หน้าห้องกราบเรียนด้วยความเคารพ

เจ้าชายจูเลียนลูบหน้าของนางกำนัลคนหนึ่ง  หัวเราะเบาๆ เขากล่าว “แม่ยาหยี,คืนนี้เจ้ามารับใช้ข้านะ”

“เพคะ, ฝ่าบาท”แววยินดีปรากฏอยู่ในใบหน้าของนางกำนัลนั้น

ขณะที่เจ้าชายจูเลียนรู้สึกว่าชีวิตของเขาช่างบริบูรณ์ไปเสียทุกสิ่งก็มีเสียงเยือกเย็นดังมาจากท้องฟ้ากลบไปทั้งปราสาท  “เจ้าชายจูเลียนท่านกำลังเพลิดเพลินกับชีวิตนักหรือ?”  เสียงนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจและเกลียดทำให้เจ้าชายจูเลียนสั่นสะท้านทันที

ใครกัน?”ทหารประจำปราสาทต่างถืออาวุธและคำรามด้วยความโกรธ

“ข้างบน อ๊า... นั่นปีศาจ!” ทหารคนหนึ่งเห็นลินลี่ย์ยืนอยู่ในกลางอากาศ

หัวใจของเจ้าชายจูเลียนเต็มไปด้วยความสะพรึงกลัว  เขาไม่รู้ว่าใครจะมาลงมือกับเขา คนที่เจ้าชายจูเลียนล่วงเกินก็มีแต่พวกสถานะด้อยกว่าเขา  เจ้าชายจูเลียนรู้เป็นอย่างดีว่ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งไม่อาจจะไปล่วงละเมิดได้  แล้วนี่เป็นใครกัน?  เจ้าชายจูเลียนเงยหน้าขึ้นมอง..และหน้าเขาซีดขาวด้วยความกลัว

ลินลี่ย์ตอนนี้ยืนอยู่กลางอากาศเหนือที่พักของเจ้าชายจูเลียน ในร่างมังกรแปลงลินลี่ย์มีหมอกปราณยุทธสีฟ้าดำหนาทึบพันหุ้มรอบตัวของเขา  ลินลี่ย์มองดูเหมือนปีศาจจากแดนนรก

ตาสีทองเข้มของเขาจ้องลงมาที่เจ้าชายจูเลียน

ทั้งหมดที่ลินลี่ย์ทำคือใช้พลังจิตวิญญาณของเขาสืบหาค้นดู หลังจากได้ยินคำพูดของเจ้าชายจูเลียนกับนางกำนัลทั้งสองแล้ว  เขารู้ว่าคนผู้นี้ก็คือเจ้าชายจูเลียนนั่นเอง

ร่างของลินลี่ย์เลื่อนลงมาและคลื่นพลังงานที่น่ากลัวระเบิดออกไปทุกตำแหน่ง

“บึ้ม!”

อาคารที่อยู่ใกล้ๆถูกแรงระเบิดที่น่ากลัวกระแทกกระจาย ลินลี่ย์ลงสัมผัสพื้นอย่างแรง และหินที่พื้นถึงกับแตกและร้าวราวกับว่าถูกหินก้อนมหึมาตกใส่

“ใต้เท้า, ท่านเป็นใคร?” เจ้าชายจูเลียนฉีกยิ้มแสดงความนอบน้อมอย่างไม่น่าเชื่อ

บุรุษที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นนักสู้ระดับเซียน  เจ้าชายจูเลียนมั่นใจว่าใช่แน่

ลึกๆแล้วเจ้าชายจูเลียนห่วงชีวิตตนเอง ดังนั้นเขาไม่เคยรุกรานนักสู้ระดับเซียนเลย

“ใต้เท้า!  ต้องมีความเข้าใจผิดบางอย่างกระมัง?ทำไมท่านต้องมาตามหาข้าด้วย?” เจ้าชายจูเลียนฝืนยิ้ม แต่ครั้งนี้เสียงของทหารได้ยินมาแต่ไกล “ฝ่าบาทผู้นั้นคืออาจารย์ลินลี่ย์  ข้าได้เคยไปเมืองหลวงและเห็นเขาประลองกับท่านเฮนด์เซนมาแล้ว”

หลายคนได้ดูการประลองระหว่างลินลี่ย์และเฮนด์เซน  คนที่มาจากมณฑลอาคเนย์ก็ไปมาด้วยเช่นกัน  เป็นธรรมดาที่ทหารผู้นั้นจำลินลี่ย์ได้

เจ้าชายจูเลียนไม่ได้ไป

สำหรับเจ้าชายจูเลียนการไปดูยอดฝีมือต่อสู้ไม่ใช่กิจกรรมที่น่าสนใจเท่ากับสาวงาม เป็นวาสนาของเขาที่เขาเป็นพระอนุชาของจักรพรรดิ  เพราะฉะนั้นในประเทศอย่างจักรวรรดิโอเบรียนที่คนบูชายอดฝีมือจะให้คุณค่ากับการฝึกฝนและพลังส่วนตัวแบบนั้น  ชีวิตของเขาคงจะน่ากลัวมาก

“อาจารย์ลินลี่ย์?”

เจ้าชายจูเลียนใจสั่นสะท้าน   ในที่สุดสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็มาถึง!  เดิมทีที่เมืองนีลเขาเป็นเหตุให้เรย์โนลด์ตาย หลังจากเจ้าชายจูเลียนพบเจอความสัมพันธ์ระหว่างลินลี่ย์กับเรย์โนลด์แล้ว  เขาก็เต็มไปด้วยความเสียใจ  แต่มันสายเกินไปแล้ว

“พระเชษฐาข้าทำอะไรอยู่? เขาไม่บอกลินลี่ย์ให้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าไม่ใช่หรือ?”  เจ้าชายจูเลียนเริ่มสบถด่าโจฮันน์ในใจ  ขณะเดียวกัน ลินลี่ย์จ้องมองเจ้าชายจูเลียน

เรย์โนลด์น้องรักของเขาตายเพราะจูเลียนผู้นี้ตัดโอกาสสุดท้ายที่จะรอดชีวิตของเขา เพราะความขี้ขลาดของตัวเขาเอง  น้องที่รักของรักไม่ควรต้องมาตายเลย

“ท่านรู้เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ไหม?”  ลินลี่ย์ไม่สามารถอดกลั้นความโกรธได้อีกต่อไป

“อ๊า, งั้นก็เป็นอาจารย์ลินลี่ย์!”  เจ้าชายจูเลียนรีบกล่าว “นับเป็นเกียรติของจูเลียนยิ่งนักที่สามารถต้อนรับอาจารย์ที่นี่  แต่ข้าไม่รู้เลยว่าทำไมท่านอาจารย์ถึงมาที่นี่”

ตอนนี้กลุ่มคนเริ่มจับกลุ่มรุมล้อมดู

มีหลายคนเป็นสตรีของเจ้าชายจูเลียน  บางส่วนก็เป็นลูกของเขาและทหารมหาดเล็กและนางกำนัลอีกหลายคน พวกเขาทุกคนมองดูด้วยความหวาดหวั่น แม้ว่าจะมียอดฝีมือระดับเก้าอยู่สองคนซึ่งเป็นอาคันตุกะพิเศษของเจ้าชายจูเลียนที่ยืนอยู่ห่างไกล  หัวใจพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความกลัว

“อาจารย์ลินลี่ย์  ถ้ามีอะไรที่ท่านต้องการ โปรดพูดกันดีๆข้าคิดว่าท่านอาจารย์ต้องมีความเข้าใจผิดฝ่าบาทเป็นแน่”    ผู้ดูแลปราสาทพูดเสียงสั่นอยู่ด้านข้าง

ลินลี่ย์หันกลับไปจ้องมองผู้ดูแลปราสาท  เขาถึงกับหน้าถอดสี

“เข้าใจผิด?”

ลินลี่ย์เดินเข้าหาเจ้าชายจูเลียนเพียงก้าวเดียว เหงื่อไหลพรั่งพรูจากหน้าผากของเจ้าชายจูเลียน  เขาหวาดกลัวจนหน้าไม่มีสีเลือด  ริมฝีปากลินลี่ย์เริ่มโค้งแสยะยิ้ม

“ควั่บ” หางมังกรที่น่ากลัวของลินลี่ย์ขยับทันทีและรวบร่างของเจ้าชายจูเลียนไว้เหมือนแส้

“อ๊า!!!”  เสียงกรีดร้องดังออกจากปากของเจ้าชายจูเลียนเสียงดังเหมือนกับสตรีกำลังโดนขืนใจ

ดวงตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จ้องมองเจ้าชายจูเลียนอย่างไม่ปราณี  “เจ้าจะแหกปากร้องทำไม?  ข้ายังไม่ได้ใช้กำลังเลยเจ้าก็แหกปากร้องเสียแล้ว ถ้าข้าใช้กำลัง...”

“ไว้ชีวิตข้าด้วย  อาจารย์ลินลี่ย์  ไว้ชีวิตข้าด้วย”  เจ้าชายจูเลียนพูดอย่างหวาดผวา

“ไว้ชีวิตเจ้า?”

เสียงของลินลี่ย์เปลี่ยนเป็นคำรามทันที  “ข้า, ต้องไว้ชีวิตเจ้าน่ะหรือ?  แล้วเรย์โนลด์น้องข้าเล่า?  ใครจะไว้ชีวิตเขา?”  หางมังกรของลินลี่ย์แผ่ประกายเยือกเย็นและเริ่มรวบรัดและยกร่างของเจ้าชายจูเลียนชูในอากาศ

เจ้าชายจูเลียนถูกหางมังกรซึ่งหนาพอๆกับแขนคนยกขึ้นในอากาศ ขณะที่หางเริ่มสั่นเล็กน้อยเจ้าชายจูเลียนร้องโหยหวน  “อ๊า..” “อั้ก”เลือดเริ่มย้อมเสื้อผ้าเจ้าชายจูเลียนเป็นสีแดง

“หยุดนะ!”  องครักษ์ผู้ภักดีหลายคนชูอาวุธแต่ไกลร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว  พวกเขาไม่กล้าพุ่งเข้าโจมตี  แต่อย่างน้อยก็ยังกล้าตะโกน

“หุบปาก!”ลินลี่ย์หงุดหงิด  ใจเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

“บึ้ม!” คลื่นพลังที่น่ากลัวแผ่ออกมาจากลินลี่ย์กระจายออกไปทุกตำแหน่ง  พวกที่รายล้อมทั้งองครักษ์และคนสนิทชายหญิงลอยกระเด็น  องครักษ์บางคนโชคร้ายศีรษะกระแทกผนังสมองกระจายคนอื่นๆ ล้มลงกับพื้นก็ได้รับบาดเจ็บหนัก

ในพริบตานอกจากลินลี่ย์และเจ้าชายจูเลียนแล้วไม่มีใครสักคนที่เข้ามาใกล้เลย

“พี่ใหญ่คลั่งไปจริงๆ เสียแล้ว”  บีบีมองจากอากาศเงียบๆ

ลินลี่ย์ถอนสายตาออกจากคนที่รายล้อมหันไปจ้องหน้าเจ้าชายจูเลียนที่หน้าเต็มไปด้วยเลือด  “จูเลียน ไม่ต้องห่วงข้าจะให้เจ้ามีชีวิตนานอีกเล็กน้อย... ข้าจะให้เจ้ารู้สึกถึงความตายช้าๆ”  เสียงของลินลี่ย์เบามาก  แต่กลับทำให้จูเลียนกลัวสุดขีด

“อาจารย์, โปรดไว้ชีวิตข้า  จะให้ข้าทำอะไรก็ได้  ขอเพียงท่านต้องการ ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้อะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญ อย่าฆ่าข้าเลย” เจ้าชายจูเลียนยังคงคิดว่าเขาสามารถรอดชีวิตไปได้

ลินลี่ย์ไม่ให้ความสนใจใดๆกับคำวิงวอนของเจ้าชายจูเลียน สิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเขาก็คือรอยยิ้มของน้องสี่เรย์โนลด์  เด็กหนุ่มผู้น่ารักแก่นแก้วและเกียจคร้านใช้เวลาสิบวันสิบคืนเฝ้าดูเขาแกะสลักงาน ‘ตื่นจากฝัน’ ในท่ามกลางพายุหิมะ

“กร๊อบ” เสียงถูกบีบได้ยินจากทั่วร่างของเจ้าชายจูเลียน

เอวของเขาลีบจนเหมือนกับสุภาพสตรีเอวบาง  หน้าของเจ้าชายจูเลียนแดงก่ำ  เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้สักประโยคเลือดเริ่มทะลักออกจากปาก

“ไว้..ไว้...” เจ้าชายจูเลียนเริ่มจ้องลินลี่ย์อย่างหวาดผวา

สตรีรับใช้และนางกำนัลที่อยู่ไกลออกไปมองดูเจ้าชายจูเลียนเอวลีบลงๆอย่างหวาดผวา

“กร๊อบ!”  เสียงกระดูกสันหลังดังจนได้ยิน  เลือกทะลักออกมาจากปากของเจ้าชายจูเลียนและหน้าของเขากลายเป็นสีม่วง

อวัยวะภายในถูกบีบจนแทบแหลกความเจ็บปวดรุมเร้าจนเจ้าชายจูเลียนปรารถนาจะตาย

“เจ้าไม่ตายเร็วนักหรอก” ความอดทนของเจ้าชายจูเลียนยังอ่อนแอมากกว่าเคลย์เมื่อหลายปีก่อน

ทันใดนั้นหางมังกรลินลี่ย์คลายตัวและรั้งกลับมา เจ้าชายจูเลียนที่ใกล้ตายร่วงลงกับพื้น เจ้าชายจูเลียนระบายลมหายใจโล่งออก แต่ก่อนที่เขาจะร่วงลงพื้น...

“ปัง!”  ลินลี่ย์ใช้ขาขวาเตะร่างเจ้าชายจูเลียนอย่างแรง

เจ้าชายจูเลียนตาเหลือกด้วยความหวาดกลัว

ร่างของเจ้าชายจูเลียนลอยไปตามแรงเตะและกระแทกเข้ากับผนังไกลๆ  ผนังที่หนาแตกกระจายจากแรงปะทะ  เจ้าชายจูเลียนล่ะ?  ร่างกายที่เปราะบาง อ่อนแอของเขากองลงเหมือนโคลนเลือดเนื้อ กระดูกแตกกระจายยับ

“น้องสี่ ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ไว้ชีวิตคนที่ทำให้เจ้าตายแม้แต่คนเดียว”  ลินลี่ย์รำพึงกับตนเองเบาๆนัยน์สีทองของเขามีรอยน้ำตาคลอ

ลินลี่ย์หันไปมองบีบีในกลางอากาศ

“ไปกันเถอะ, เราจะไปที่เมืองนีลกัน!”

“ควั่บ!”  ลินลี่ย์เหาะขึ้นไปในอากาศบินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วยความเร็วสูงโดยมีบีบีบินอยู่ข้างๆ  คนนับพันที่อยู่ด้านล่างเงียบสนิท  มีแต่ศพที่ไม่สมบูรณ์ของของเจ้าชายจูลินเป็นภาพสะดุดตาและสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้พบเห็น!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด