ตอนที่แล้วตอนที่ 9-36 วิกฤติของเรย์โนลด์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-38 ความจริง?

ตอนที่ 9-37 ข่าวเศร้าวันแต่งงาน


“เปิดประตู!”

“เปิดประตู!”

เรย์โนลด์และคนของเขาคำรามโกรธอย่างต่อเนื่อง ศัตรูมีเพียงสามร้อยคนเท่านั้นขณะที่เมืองนีลมีทหารเป็นแสน  มีอะไรต้องกลัว?  หลังจากหาทางกลับมาถึงที่นี่เรย์โนลด์และคนของเขาคิดว่าชีวิตปลอดภัยแล้วแต่ตอนนี้....

“ฉัวะ..” ดาบศึกฟันใส่คออัศวินคนหนึ่งผ่าสะพายแล่ง อวัยวะภายในของเขาทะลักออก

“ตาย, พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย!”  หัวหน้าศัตรูหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

คนข้างตัวเรย์โนลด์ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว ในพริบตา มีคนเหลือเพียงไม่มีคน เมื่อดูศัตรูเรย์โนลด์อดรู้สึกสิ้นหวังไม่ได้

“ข้ากำลังจะตายหรือนี่?”

เรย์โนลด์มีเป้าหมายและความฝันมากมายที่เขายังไม่บรรลุผลสำเร็จ  แต่ตอนนี้ เขากำลังจะตาย

บนกำแพงเมือง กลุ่มขุนนางกำลังรุมล้อมผู้สูงศักดิ์วัยกลางคนสีหน้าซีดคนหนึ่ง

“ฝ่าบาท, พระองค์ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“อย่ากลัวเลยฝ่าบาท ศัตรูไม่สามารถบุกเข้ามาได้”

หลังจากได้รับการยืนยันปลอบใจอย่างต่อเนื่องผู้สูงศักดิ์วัยกลางคนก็ค่อยๆสงบใจ  คนผู้นี้เป็นเจ้าปกครองมลฑลอาคเนย์พระอนุชาของจักรพรรดิ นามว่าเจ้าชายจูเลียน

เจ้าชายจูเลียนไม่ได้เกิดมามีความสามารถที่เด่นอันใด  แต่เขาเป็นพราะอนุชาของจักรพรรดิโจฮันน์ และจักรพรรดิโจฮันน์ก็รักตามใจพระอนุชาคนนี้  ดังนั้น เจ้าชายจูเลียนจึงมีชีวิตที่ค่อนข้างสบาย

เขารู้ว่าเป็นเวลาเกินกว่าทศวรรษนับแต่จักรวรรดิโอเบรียนและจักรวรรดิโรฮอลท์ได้ทำสงครามขนาดใหญ่  ดังนั้น เขาจึงมีความสุขที่ได้มาที่นี่เพื่อ ‘ดูแลชายแดน’ การมาถึงของเขาทำให้ขุนนางท้องถิ่นรอบๆ เมืองนีลรุมล้อมสอพลอเอาใจเขา

แต่ใครจะคิดกันว่าขณะที่เขากำลังคุยโตเกี่ยวแสนยานุภาพของจักรวรรดิอยู่บนกำแพงเมืองมีธนูดอกหนึ่งยิงเฉียดเขาไป โชคดีที่ทหารองครักษ์ข้างตัวเขาป้องกันไว้ทัน

“เปิดประตู!”  เสียงร้องกราดเกรี้ยวโหยหวนดังมาจากข้างล่าง

ดวงตาของนักรบรอบๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีเมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์  มีศัตรูไม่มาก ถ้าให้ทหารของเมืองนีลบุกโจมตี พวกเขาสามารถฆ่าศัตรูทั้งหมดได้ง่าย แต่เจ้าชายจูเลียนปฏิเสธไม่ยอมให้พวกเขาเปิดประตู

“ฝ่าบาท, ข้างล่างมีศัตรูไม่มาก ให้ข้าพระบาทนำทหารออกไปเข่นฆ่าเถิดพะย่ะค่ะ”  นายทหารคนหนึ่งทูลขอร้อง

“เหลวไหล” เจ้าชายจูเลียนชี้จมูกของเขาและสบถด่า “เจ้ามันจะรู้อะไร? เจ้ามองไม่เห็นที่ไกลออกไป  ยังมีทหารอยู่อีกหลายร้อยหรือ?”

“แต่ฝ่าบาท เมืองนีลของเรามีทหารถึงสามหมื่น” นายทหารแย้ง

องค์ชายจูเลียนแค่นเสียง “ตอนนี้พลบค่ำแล้ว และในระยะไกลออกไปมีหญ้าสูงมาก ใครจะรู้กันเล่าว่ามีศัตรูหมอบซุ่มรออยู่เท่าใด?  คิดดูสิกับคนแค่ไม่กี่ร้อยยังกล้าบุกโจมตี พวกมันจะต้องมีกำลังเสริมมาอย่างแน่นอน จริงไหม? ไม่คุ้มค่ากับการเสี่ยงและเสียเลือดเนื้อเพื่อช่วยทหารจักรวรรดิไม่กี่สิบคน”

องค์ชายจูเลียนพูดด้วยอำนาจและความมุ่งมั่น

“แต่ว่าฝ่าบาท...” นายทหารไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เห็นได้ชัดว่าเจ้าชายจูเลียนผู้นี้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกิจการทหารเลย  เนื่องจากวิธีการศึกษาในเมืองนีลต่อให้ศัตรูของพวกเขามาเป็นแสน พวกเขาจะไม่มีทางทำลายแนวป้องกันของเมืองนีลและทหารสามหมื่นของเขาได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ ด้านเขาก็แค่ลงไปฆ่าศัตรูข้างล่างกำแพงเมือง  ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะลงไปไล่ล่าตอบโต้

เจ้าชายจูเลียนปาดเหงื่อที่หน้าผาก

“ก็แค่ทหารสามัญชนไม่กี่สิบคนไม่ใช่หรือ? ถ้าพวกเขาจะตาย ก็ปล่อยให้ตายไป ข้าไม่ต้องการเสี่ยงใดๆ ทั้งนั้น” เจ้าชายจูเลียนลอบพูดกับตัวเอง เขาพูดกระชากเสียง  “จำไว้,พวกเจ้าต้องไม่โจมตีโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้น อย่าโทษว่าข้าไม่เมตตาก็แล้วกัน”

“ฝ่าบาท, ผู้นำคนพวกนั้นดูเหมือนจะเป็นเรย์โนลด์พะย่ะค่ะ”  มีทหารบางคนพูดทันที

“เรย์โนลด์ไหน?” เจ้าชายจูเลียนขมวดคิ้ว

“เรย์โนลด์เป็นทายาทสายหลักจากตระกูลดันสตัน”

“ตระกูลดันสตัน?”  เจ้าชายจูเลียนขมวดคิ้ว  แต่แล้วเขาหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “ตายเพื่อจักรวรรดิคือเกียรติยศสำหรับตระกูลพวกเขา  นอกจากนี้ตระกูลดันสตันก็เป็นตระกูลใหญ่  จะเป็นอะไรไปกับแค่ลูกหลานตายคนเดียว?”

เจ้าชายจูเลียนไม่สนใจแม้แต่น้อย

“เปิดประตูเมือง!” เสียงร้องแหบแห้งดังขึ้นอีกครั้ง และจากนั้นก็ไม่มีเสียงร้องให้ได้ยินจากนอกเมืองอีกต่อไป

เรย์โนลด์ทรุดตัวลงนอนติดกับกำแพงเมือง ธนูดอกหนึ่งปักที่ไหล่ของเขา และมีบาดแผลน่ากลัวที่อกของเขา โลหิตไหลนองไปทั่ว

เรย์โนลด์หมดสติไปแล้ว

“นายกองหรือ?” เกราะของเรย์โนลด์ระบุถึงสถานะของเขา

ผู้นำทหารคว้าตัวเรย์โนลด์ทันทีแบกร่างเขาขึ้นบ่าจากนั้นตะโกนสั่งคนของเขา “ไปได้แล้ว”  ขณะที่เขากล่าวคนทั้งสิบที่เหลือจากไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า

ตั้งแต่เริ่มจนจบ นอกจากธนูที่ยิงมาจากกำแพงเมือง ทหารป้องกันเมืองนีลไม่เปิดประตูหรือออกมาสู้รบเลย

ตระกูลดันสตันมีอิทธิพลมากมายในกองทัพ ในไม่ช้าข่าวที่หน่วยของเรย์โนลด์ถูกกวาดล้างขณะที่เจ้าชายจูเลียนออกคำสั่งไร้สาระไม่ให้คนของเขาออกไปจากเมืองเข้าร่วมสู้รบก็มาถึงตามวิถีของตระกูลดันสตัน

ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าชายจูเลียนก็กลับถึงที่พัก  บริวารของเขาบอกเรื่องที่น่าตกใจกับเขา

“ฝ่าบาท! ใต้เท้าเรย์โนลด์ที่ตายในการสู้รบเป็นสหายสนิทของอาจารย์ลินลี่ย์  ทั้งสองคนศึกษาด้วยกันที่สถาบันเอินส์ และความสัมพันธ์ของพวกเขาเหมือนกับเป็นพี่น้องแท้ๆ” บุรุษวัยกลางคนไว้เครารายงานเจ้าชายจูเลียนด้วยความเคารพ

“ว่าไงนะ?  อาจารย์ลินลี่ย์? ทั้งสองสนิทกันเหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆหรือ?”  เจ้าชายจูเลียนลุกขึ้นยืนทันที

“เจ้าพวก...เจ้าพวกบัดซบนั่น! ทำไมพวกมันไม่ยอมบอกข้าตั้งแต่ที่กำแพงเมือง?”  เจ้าชายจูเลียนพูดลิ้นรัว

“ฝ่าบาท!มีคนเพียงไม่กี่คนที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างลินลี่ย์กับเรย์โนลด์ แม้แต่ในเมืองหลวงก็มีขุนนางรู้กันไม่กี่คน และขุนนางที่อยู่ห่างไกลถึงเมืองนีลจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”

เจ้าชายจูเลียนเริ่มหงุดหงิดทันที

เขาไม่กลัวล่วงเกินตระกูลดันสตัน แต่ไม่ว่าตระกูลดันสตันจะมีอำนาจมากเพียงไหน  พวกเขาก็ยังอาศัยใต้ร่มบารมีของจักรพรรดิ  ก็แค่สมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเท่านั้น ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือพูดอะไรบางอย่างกับตระกูลดันสตัน  และเรื่องนี้ก็จะจบลงได้ง่ายอย่างแน่นอน

แต่ล่วงเกินลินลี่ย์ เป็นอีกเรื่องหนึ่งแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

“ส่งข่าวไปที่ตระกูลดันสตันทันที นอกจากนี้.. ป้องกันอย่าให้ข่าวใดๆ เล็ดรอดออกไปจากเมืองนีลได้  อย่าให้ข้อมูลส่งไปถึงเมืองหลวง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งลินลี่ย์ แค่บอกว่าเรย์โนลด์พลีชีพในการรบขณะรับใช้จักรวรรดิ”  เจ้าชายจูเลียนเริ่มแตกตื่นอย่างแท้จริงแล้ว

วันที่ 15 กันยายน ศักราชยูลานที่ 10009 นี่คือวันที่วอร์ตันและนีน่ากำลังจะแต่งงานกัน วอร์ตันคือน้องชายของอาจารย์ลินลี่ย์ผู้มีชื่อเสียงก้องโลก  ขณะที่นีน่าเป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์

งานสมรสที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาเป็นกิจกรรมสำคัญที่ไม่มีที่ติ

ภายในวังหลวง ดนตรีไพเราะดังต่อเนื่องเอื่อยเหมือนสายน้ำดังไปทั้งหอจัดงาน ขุนนางทุกคนดื่มฉลองชนแก้วกันพลางสนทนาหัวเราะกัน

“องค์จักรพรรดิโจฮันน์  ขออภัยพะย่ะค่ะ”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็นขณะเติมเหล้า

ความจริงลินลี่ย์ไม่คุ้นเคยกับการต้อนรับขุนนางเหล่านี้  หลังจากพูดคุยด้วยไม่กี่คำกับคนไม่กี่คนลินลี่ย์ก็ออกจากหอโถงใหญ่ไปที่สวน และเดเลียตามเขาไปที่นั่นในไม่ช้า

“มีอะไรหรือ ลินลี่ย์?”  เดเลียหัวเราะ

“รู้สึกอึดอัด”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“ดูเหมือนว่าวันนี้เจ้าอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ” เดเลียเห็นว่าท่าทางที่ไม่สบายใจปรากฏบนใบหน้าลินลี่ย์  ลินลี่ย์พยักหน้า  “ข้าไม่รู้ว่าทำไม  แต่มีเหตุผลบางอย่าง  ข้ารู้สึกกังวลและไม่สบายใจ”

เมื่อคนมีพลังวิญญาณระดับลินลี่ย์แล้วเป็นเรื่องยากที่เขาจะรู้สึกหงุดหงิดและอึดอัด

“วันนี้เป็นวันแต่งงานของวอร์ตัน ต้องมีความสุขสิ”  เดเลียปลอบโยน

ลินลี่ย์ถอนหายใจยาวและพยักหน้า

ขณะที่ลินลี่ย์และเดเลียอยู่ในสวน จักรพรรดิโจฮันน์ได้รับจดหมายลับ  มหาดเล็กของเขาพูดกระซิบ  “ฝ่าบาท!  เรย์โนลด์แห่งตระกูลดันสตันพลีชีพในการสู้รบ”

“เรย์โนลด์ตาย?  เรย์โนลด์ไหน?”  จักรพรรดิโจฮันน์มองดูมหาดเล็กของพระองค์  ทำไมกะอีแค่คนตายคนเดียวต้องให้มหาดเล็กมาแจ้งจักรพรรดิด้วยหรือ?จักรพรรดิไม่มีอะไรต้องทำกันแล้วนอกจากต้องมาคอยกังวลเรื่องนี้ใช่ไหม?

“เรย์โนลด์ผู้นี้คือสหายร่วมชั้นเรียนในสถาบันเอินส์ของอาจารย์ลินลี่ย์  เขาสนิทกับอาจารย์ลินลี่ย์มาก”  มหาดเล็กส่วนพระองค์กระซิบต่อ  “ฝ่าบาท!  เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงพระอนุชาเจ้าชายจูเลียนพะย่ะค่ะ”

“จูเลียน?”

“ตามรายงานของเรา เรย์โนลด์และคนของเขาถูกทหารจักรวรรดิโรฮอลท์ไล่ล่ามาจนถึงกำแพงเมือง แต่องค์ชายจูเลียนสั่งคนของพระองค์มิให้เปิดประตูรับและคอยป้องกันอย่างเข้มงวดอย่างเดียว

“ป้องกัน? ฝ่ายศัตรูมีทหารมาเท่าใด?” จักรพรรดิโจฮันน์ขมวดคิ้ว

“300 พะย่ะค่ะ”  มหาดเล็กทูล

พระเนตรของจักรพรรดิโจฮันน์เบิกกว้าง “สามร้อย และเขาเอาแต่ป้องกันอย่างนั้นหรือ?  จูเลียนนี่.. โธ่เอ๊ย...”  จักรพรรดิโจฮันน์รู้สึกกริ้ว  แต่จากนั้นในพริบตา เขาก็เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

เขาเข้าใจน้องชายตัวเองเป็นอย่างดี

จูเลียนเป็นคนที่ไม่มีความทะเยอทะยานเท่าใดนัก  ปัญหาหลักของเขาก็คือเขาค่อนข้างจะขลาดเขลา จักรพรรดิโจฮันน์ไม่ถือว่านี่เป็นข้อบกพร่องเท่าใดนัก  ที่สำคัญเขาไม่จำเป็นต้องอาศัยจูเลียนเพื่อนำกองทัพทำอะไรอย่างอื่น

แต่ตอนนี้ สถานการณ์มีความซับซ้อน ถ้าลินลี่ย์ค้นพบความจริง... และถ้าลินลี่ย์สร้างความยุ่งยาก...

เมื่อนึกถึงพลังที่น่ากลัวซึ่งลินลี่ย์แสดงออกมาที่ภูเขาทุสคอนแล้วและอสูรเวทที่มีพลังทั้งสองตัว จักรพรรดิโจฮันน์ก็เข้าใจว่าเว้นแต่ยอดฝีมือจากวิทยาลัยเทพสงครามเข้าแทรกแซง ไม่มีทางที่เขาจะสามารถปราบพลังของลินลี่ย์ได้แม้แต่น้อย

แต่วิทยาลัยเทพสงครามจะเข้ามาแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของเจ้าชายพระองค์เดียวได้ยังไง?

นี่เป็นไปไม่ได้

“จูเลียน ทุกอย่างที่เขาก่อขึ้นสร้างหายนะให้กับข้า” จักรพรรดิโจฮันน์ไตร่ตรองถึงสิ่งที่ควรทำอย่างรวดเร็ว  แม้ว่าพระองค์กริ้ว  แต่ก็ยังปกป้องพระอนุชาของพระองค์

“ฝ่าบาท! เนื่องจากเจ้าชายจูเลียนเล่าไว้แล้ว พวกเขาไม่มีโอกาสช่วยเหลือเรย์โนลด์ก่อนที่เรย์โนลด์และคนของเขาจะถูกฆ่าที่เชิงกำแพงเมือง  เวลานั้นมืดค่ำมากแล้ว  และพวกเขาไม่แน่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามมีกำลังพลเท่าใดกันแน่”  มหาดเล็กกระซิบทูล

จักรพรรดิโจฮันน์พยักหน้าเล็กน้อย พระองค์ไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง

ไม่มีทางที่จะปกปิดเรื่องนี้ไว้ได้!

นี่คือปฏิกิริยาแรกของจักรพรรดิโจฮันน์ ทางที่ดีที่สุดอย่าพยายามปกปิดเรื่องจากยอดฝีมือชั้นเซียนอย่างลินลี่ย์เลย  มิฉะนั้นเมื่อถูกจับได้ว่าโกหก  หลายเรื่องอาจจะเลวร้ายก็ได้

จักรพรรดิโจฮันน์ดำเนินออกจากหอโถงทันทีและตรงไปที่อุทยานเพื่อหาตัวลินลี่ย์

“จักรพรรดิโจฮันน์?”  ลินลี่ย์ที่เดินเล่นคู่กับเดเลียเห็นจักรพรรดิโจฮันน์เดินออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี  เขาอดทักด้วยความสงสัยมิได้

เมื่อจักรพรรดิโจฮันน์เห็นลินลี่ย์ สีหน้าของพระองค์เต็มไปด้วยความหม่นหมอง

“จักรพรรดิโจฮันน์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจ  “ลินลี่ย์,ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า แต่เจ้าต้องสงบใจเอาไว้”

“เกิดอะไรขึ้น?” ลินลี่ย์ยิ่งสงสัยมากขึ้น สองสามวันมานี้ลินลี่ย์รู้สึกหงุดหงิดกระวนกระวายใจ  เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิโจฮันน์เขาเริ่มกังวลใจ

ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้น

จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจเบาๆ “เมื่อครู่นี้ เราเพิ่งได้รับแจ้งข่าวจากกองกำลังเพลิงทองซึ่งมีฐานอยู่ที่มณฑลอาคเนย์ หน่วยอัศวินที่นำโดยเรย์โนลด์ถูกกองทัพศัตรูซุ่มจู่โจมและไล่ล่ามาตลอดทาง...”

หัวใจของลินลี่ย์ตกวูบ

“เรย์โนลด์และคนที่เหลือไม่กี่คนหนีมาจนถึงเมืองนีล  แต่เมืองนีลไม่มีเวลามากพอช่วยเหลือพวกเขา  เรย์โนลด์และหน่วยของเขา... ตายในการสู้รบทุกคน!”

“ตายในการรบทุกคน!”  “ตายในการรบทุกคน!” “ตายในการรบทุกคน!”...

คำเหล่านี้กระทบใจลินลี่ย์ราวกับถูกอัสนีบาตกึกก้องอยู่ในใจลินลี่ย์  ลินลี่ย์รู้สึกความคิดว่างเปล่าและหมดเรี่ยวแรงทุกอย่างว่างเปล่าไปหมด!

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน...

“น้องสี่.... น้องสี่.... เขาตายแล้วหรือ?” ลินลี่ย์ตะกุกตะกัก

“เฮ้..เพื่อน  ข้าชื่อเรย์โนลด์มาจากจักรวรรดิโอเบรียน” ลินลี่ย์ยังคงจำได้ชัดเจนถึงวันที่เขากับเรย์โนลด์พบกันครั้งแรก  ขณะที่พวกเขาสมัครเข้าเรียนในสถาบันเอินส์  คนแรกที่เขาพบก็คือเรย์โนลด์  ตอนนั้นลินลี่ย์อยู่กับลุงฮิลแมน  ขณะที่เรย์โนลด์อยู่กับปู่โลมุ

เด็กทั้งสองกลายเป็นสหายกันตั้งแต่นั้น

แปดปีหลังจากนั้น พวกเขาอยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งวันทั้งคืน  เรย์โนลด์ขี้เกียจ ซุกซน และนิสัยร่าเริงภาพความหลังภาพแล้วภาพเล่าผุดขึ้นมาในใจของลินลี่ย์

“น้องสี่,  เขาตายแล้ว?”

ลินลี่ย์ไม่อยากเชื่อ เมื่อไม่นานนี้เองน้องสี่ของเขายังพูดคุยเฮฮากับเขาและพี่ใหญ่เยลอยู่เลย  แต่หลังจากนั้นเขาตายในการรบ

ลินลี่ย์สามารถจำได้ชัดว่าเขามีท่าทางยังไง พูดยังไง

น้องสี่ตายได้ยังไง?

“อาจารย์ลินลี่ย์ ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถระงับความโศกเอาไว้บ้าง”  จักรพรรดิโจฮันน์เมื่อเห็นสีหน้าของลินลี่ย์  ก็ยิ่งเริ่มกระวนกระวาย  เขาเกรงว่าลินลี่ย์จะบ้าทำอะไรโง่ๆ

ลินลี่ย์หันมาจ้องจักรพรรดิโจฮันน์ สายตาของเขาเพ่งมองจักรพรรดิโจฮันน์เหมือนกับมีดคม เขาพูดเสียงต่ำ  “จักรพรรดิโจฮันน์  บอกข้าที เกิดอะไรขึ้นกันแน่?  ข้าหวังว่าท่านจะไม่โกหกข้า  ถ้าท่านฉลาด ท่านอาจจะเดาได้ถึงผลที่ตามมาของคนที่โกหกข้า  บอกข้ามา เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด