ตอนที่แล้วตอนที่ 269 ลอบจู่โจม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 271 การเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 270 กระพรวนลมเขาแกะ


ปราณยะเยือกของนกยูงแผ่ออกมาจากทั้งร่างของเขา  หัวใจของถังเทียนเป็นเหมือนน้ำแข็งและหิมะ

อากาศโดยรอบถูกกักไว้เกือบทั้งหมดคลื่นปราณแท้ลูกแล้วลูกเล่าระเบิดใส่ในขอบเขต 3 เมตร  ระลอกพลังโปร่งใสทะลักออกเป็นชั้นๆ เสียงต่ำของสายฟ้าก้องผ่านระลอกปราณ

ปราณแท้ที่แข็งแกร่งจริงๆ

แต่หน้าของถังเทียนไม่มีวี่แววกลัวสักนิด

มือขวาที่แนบอยู่ข้างตัวเขาจู่ๆมีประกายไฟแปลบปลาบอยู่รอบๆปลายนิ้วของเขา  เขาเหยียดข้อศอกออกทันทีกรงเล็บทั้งห้าที่งอเป็นตะขอยื่นออกมา

ปราณแท้ที่แหลมคมและเย็นยะเยือกยิงออกมาจากปลายนิ้วของเขาปะทะใส่ฝ่ามือสายฟ้ากำศรวลของหวีซุ่น

ซี่.....

พลังของกรงเล็บเพลิงภูตพรายเป็นเหมือนทวนแหลมคมห้าเล่มทะลวงใส่ฝ่ามือของคู่ต่อสู้

แต่ฝ่ามือของหวีซุ่นครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่  แม้ว่าจะถูกทะลวงเข้ามาได้ แต่ยังเหลือพลังพุ่งเข้าหาถังเทียนในช่วงเวลานั้นประทับฝ่ามือพุ่งมาถึงตัวเขา ตาของถังเทียนสว่างเป็นประกายน้ำเงินทันทีเตรียมใช้โล่ตะลุยเลือดมาขวางไว้ที่หน้าอกเขาทันที

ปัง!

ร่างของถังเทียนจมไปในทรายเล็กน้อยทรายใต้เท้าเขาระเบิดกระจายฟุ้งไปทุกที่

ถังเทียนจมลึกลงไปครึ่งเมตรเส้นผ่าศูนย์กลางสองเมตร

หวีซุ่นเข้ามาใกล้เพราะแรงเหวี่ยงพลิกตัวในกลางอากาศทันทีเหมือนกับถูกงูกัดเขาถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนจะหยุดได้ หน้าของหวีซุ่นเขียวคล้ำ พลังฝ่ามือของเขาถูกถังเทียนทำลายสิ้นเชิงและพลังแปลกประหลาดจากนิ้วยังชอนไชเข้าไปในเส้นชีพจรของเขาทำให้เขาต้องใช้พลังปราณขับพลังนั้นออกจากตัว

มีพลังกรงเล็บอย่างนั้นที่สามารถทะลวงผ่านฝ่ามือสายฟ้ากำศรวลได้หรือนี่?

ใจของเขาหนาวเหน็บ วิทยายุทธของเขาเป็นวิชาระดับเจ็ดและเป็นวิชาระดับสูงแน่นอน เขาฝึกวิชาฝ่ามือที่ทรงพลังนี้จนถึงระดับสมบูรณ์แบบ นักสู้ระดับสวรรค์วิถีที่เผชิญกับฝ่ามือนี้จะถูกสังหารด้วยฝ่ามือเดียว

นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี!

หวีซุ่นหรี่ตาปราณแท้ของเขาแผ่ออกเป็นระลอกมีรังสีเหมือนไฟฟ้าปรากฏอยู่บนมือของเขาทันที

นึกไม่ถึงว่าคู่ต่อสู้ของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที

หัวใจของหวีซุ่นแทบกระดอน เขาเร่งเร้าพลังป้องกันสูงสุดเตรียมพร้อมรับการโจมตีของคู่ต่อสู้ ห้าหกวินาทีต่อมาไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่อย่างเดียว แย่แล้ว หลงกลแล้ว

หวีซุ่นบังเอิญเห็นร่างหนึ่งปรากฏอยู่ข้างกลุ่มพวกเขาเอาชีวิตคนของเขาอย่างเยือกเย็น

โธ่เว้ย!

เขาบินออกไปโดยไม่ลังเลใจ

คู่ต่อสู้ของหย่งชิวคือถังอี้ ขุนพลวิญญาณของเขาเป็นนักดาบระดับแปดเรียกว่าฟงโฉ่ว  ฟงโฉ่วหน้าตาน่าเกลียดมากแต่เป็นนักดาบจากเมื่อหกสิบปีที่แล้ว ฟงโฉ่วเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของหย่งชิวด้วยพลังระดับแปดยังคงเป็นขีดจำกัดของหย่งชิวด้วย วิชาดาบของฟงโฉ่วมีความสำเร็จอยู่ในระดับสูงบรรดาคนระดับเดียวกัน มีไม่กี่คนที่สู้กับเขาได้

แต่เมื่อเผชิญกับขุนพลวิญญาณผู้ใช้ดาบ  ฟงโฉวถูกข่มอย่างแท้จริง

นี่เป็นครั้งแรกที่หย่งชิวเห็นฟงโฉ่วถูกข่ม  ช่างเป็นขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งยิ่งนัก  ประกายแสงวาบผ่านดวงตาเขา  ถ้าแค่ได้ขุนพลวิญญาณนั้นที่แข็งแกร่งมาใช้งานเพื่อตัวเขาเอง...

เขาไม่พูดอะไรเขาบังคับมีดบินห้าเล่มรอบมือของเขาให้บินออกไป เกิดเสียงหึ่งๆและมีรัศมีโค้งขณะที่มีดพุ่งเข้าหาถังอี้

ถังอี้ไม่ได้มองดูแค่เหวี่ยงดาบฟันขาม้าตามปกติเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  มีดบินทั้งห้าเล่มเหมือนกับปะทะกำแพงไร้สภาพเผียะ เผียะ เผียะ มีดบินเหล่านั้นแฉลบออกไปทั้งหมด

ความสนใจของหย่งชิวกลายเป็นคร่ำเคร่งมากขึ้นนิ้วทั้งสิบของเขาปล่อยอาวุธลับที่แฝงด้วยปราณธาตุไม้ออกไปนับไม่ถ้วน ทั้งหมดนั้นมองดูเหมือนพิรุณสีเขียวปกคลุมเต็มท้องฟ้าขณะร่วงลงใส่ถังอี้

ถังอี้ไม่สนใจกับการโจมตีที่มาถึง พลังดาบของเขากวาดออกรังสีดาบเป็นเหมือนแผงใหญ่เกินกว่าจะครอบงำได้อาวุธลับกระแทกเข้ากับแผงดาบเหมือนฝนตกลงใส่ร่ม

อาวุธลับของหย่งชิวดูเหมือนจะมีได้ไม่สิ้นสุด  เนื่องจากยิงออกมาจากนิ้วของเขา

แม้ด้วยการร่วมมือกันระหว่างหย่งชิวและฟงโฉ่ว  พวกเขาก็ยังมีปัญหากับการขัดขวางถังอี้

แต่นักสู้คนอื่นไม่สามารถช่วยได้  ด้วยจำนวนอาวุธลับมากมายที่กระทบดาบที่เกิดปราณปั่นป่วนไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้

การต่อสู้กับอาเฮ่อและสุ่ยเฉิงเป็นภาพแตกต่างกันสิ้นเชิง

ทั้งสองคนเป็นมือกระบี่ ใช้ความเร็วสู้ความเร็ว  ทั้งสองสัมผัสแล้วก็แยกออกจากกันไวเหมือนสายฟ้า

สุ่ยเฉิงใช้กระบี่ยาวได้ดีร่างของเขาเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว วิชากระบี่ของเขาแปรเปลี่ยนยากทำนายได้  ขณะที่อาเฮ่อก็รวดเร็วพอกัน  แต่เหมือนกับกระเรียนดำร่ายรำในท้องฟ้า  เขาสู้ด้วยความรู้สึกที่ปลอดโปร่ง วิชากระบี่ของเขาไม่มีลักษณะเจ้าเล่ห์แม้แต่น้อย  เขาแสดงถึงพลังที่แข็งแกร่งเป็นแบบแผน

ถังเทียนเป็นเหมือนปลา เดี๋ยวปรากฏตรงนี้บ้างตรงโน้นบ้างในท่ามกลางหมู่ผู้คนที่ยุ่งเหยิง

แต่คนเหล่านี้ทุกคนเทียบกับบริวารของซินลี่แล้วจัดการได้ยากกว่ามาก  หลังจากตื่นเต้นในตอนแรก  หลายคนสงบจิตใจได้ นักสู้ระดับสวรรค์วิถีไม่มีทีท่าคุกคามถังเทียน แต่ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าพวกเขาด้วยไม้ตายอย่างหรือสองอย่าง  นักสู้คนอื่นจะเข้ามาสนับสนุน

ถังเทียนฆ่าไปหกคนติดต่อกันจากนั้นถูกนักสู้สามคนตรึงไว้ มีเสียงตะโกนจากด้านหลังเขา หวีซุ่นกำลังเข้ามา

ฝ่ามือของเขาแผ่พลังออกและระเบิดจากด้านหลังของเขา

ทันใดนั้นถังเทียนปล่อยเสียงหวีดหวิวบ้าง  ฝ่ามือขวาของเขาใช้กรงเล็บเพลิงภูตพรายมือซ้ายกวัดแกว่งโล่ตะลุยเลือด รังสีโล่ในอากาศระเบิดพลังโจมตีนั่นพลังโล่อากาศโจมตี

เมื่อได้ยินเสียงหวีดหวิวของถังเทียนหลิงซิ่วผู้ซุ่มซ่อนอยู่รอลอบโจมตี เลือดใจร้อนของเขาพุ่งขึ้นหน้าทัน

นั่นคือแผนส่งสัญญาณลับ

วิชาตัวเบาของหลิงซิ่วธรรมดา  ขณะที่คู่ต่อสู้เป็นยอดฝีมือ  ถ้าเขาเข้าไปใกล้  เขาจะเปิดเผยตัวตนแน่นอนเขามักรอโอกาสลอบจู่โจมจากการต่อสู้ รอให้ส่งสัญญาณโจมตี

ตอนนี้แหละ!

ฟลามิงโกร้องและวิ่งออกไปทันที

ลมแรงด้านหน้าของเขาและความสับสนในสายตาของเขาทำให้พลังต่อสู้ในตัวหลิงซิ่วระเบิดออกมา  อุณหภูมิในเลือดของเขาร้อนขึ้น

ฟลามิงโกได้รับการปรับปรุงโดยเซรีนและแข็งแกร่งขึ้นมากในทุกด้าน สิ่งที่ทำให้เซรีนประหลาดใจก็คือความจริงฟลามิงโกมีจิตวิญญาณพลังยุทธ  แม้ว่าจะอ่อนแอมาก  แต่นั่นหมายความว่าฟลามิงโกนี้ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว ฟลามิงโกจึงกลายเป็นอาวุธจักรกลวิญญาณอีกชนิดหนึ่ง

ความเร็วของฟลามิงโกเพิ่มกว่าเดิมถึงสามเท่า

ด้วยความเร็วเป็นพายุของมัน แม้แต่หลิงซิ่วผู้คลั่งไคล้ก็ยังต้องใช้เวลาปรับตัวกับมัน

แต่เมื่อเขาคุ้นเคยกับมันแล้ว หลิงซิ่วก็หลงรักความรู้สึกที่ไวเหมือนสายฟ้านี้

เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น

ฟลามิงโกยังคงรู้สึกถึงเจตนาต่อสู้ของหลิงซิ่วและมันเร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ  ความเร็วของมันทะลุขีดจำกัดปกติของมัน ปังปรากฏบอลเพลิงแดงที่เท้าของมันขณะที่มันกำลังควบเร่งความเร็ว

มีทั้งเปลวเพลิงและสายลมในพริบตาไฟก็ครอบคลุมเต็มไปทั้งตัวฟลามิงโก

หลิงซิ่วประหลาดใจแต่ก็ตระหนักได้ทันทีว่าไฟไม่ได้ทำร้ายเขาแต่อย่างใด แต่ทำให้ปราณแท้ในร่างของเขามีชีวิตชีวามากขึ้น  นอกจากนี้ไฟยังครอบคลุมตัวหลิงซิ่ว

ทันใดนั้นหลิงซิ่วรู้สึกว่าเขาและฟลามิงโกกลายเป็นหนึ่งเดียวกันมีความเชื่อมโยงที่ไม่อาจอธิบายได้

เสียงวิ่งของฟลามิงโกดังลั่นมันใช้พลังงานทั้งหมดในการวิ่ง สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในสนามต่อสู้

แต่...มันไวมาก

ทุกคนเพียงแต่เห็นร่างที่อยู่ในไฟเหมือนธนูพุ่งออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ในพริบตาไฟก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา

อะไรนั่น?

ทันใดนั้นใบหน้ระห่ำหน้าหนึ่งปรากฏอยู่ภายในเปลวเพลิงสร้างความประหลาดใจให้นักสู้ทุกคน  ทุกคนชักอาวุธป้องกันข้างหน้าตนเอง ขณะที่ประกายแสงเย็นนับไม่ถ้วนระเบิดออกมาจากเพลิงครอบคลุมพวกเขาในพริบตา  พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่ป้องกันท่วงท่าที่รุนแรงและสง่างามเท่านั้น

รังสีแสงเยือกเย็นโจมตีอาวุธของพวกเขาในขณะเดียวกัน

พลังมหาศาลราวกับว่าสามารถถล่มภูเขาทลายทะเลปะทะใส่พวกเขาปัง ปัง ปัง นักสู้สามคนกระเด็นไปสองสามร้อยเมตรเหมือนกับกระสอบทราย เลือดไหลออกจากทวารในร่างกายพวกเขาและพวกเขาไม่หายใจแล้ว

หลิงซิ่วฆ่าเหมือนเป็นปกติ ฟลามิงโกไม่สูญเสียความเร็ววิ่งอย่างฮึกเหิมนและทะยานขึ้นไปในอากาศ

ผมเงินของหลิงซิ่วก็มีเพลิงหุ้มไว้ชั้นหนึ่งเช่นกัน  ผมสีเงินพัดพลิ้วอยู่ในท้องฟ้ามองดูเหมือนม่านไฟริกรี้อยู่ในสายลม

ฟลามิงโกกระโจนได้ไกลถึงห้าเมตรอย่างคาดไม่ถึงทำให้นักสู้ทุกคนที่มองอยู่กลัวและแตกตื่น  หน้าของหลิงซิ่วก็แปลกใจมากเช่นกันมันดูไม่เหมือนกับเขาตามปกติ เหมือนกับว่าเขาจะกลายเป็นทหารม้าเพลิงโบราณ  รังสีฆ่าฟันหลั่งไหลไปทุกที่

หอกเงินของเขาส่งเสียงร้องออกมาอย่างร่าเริง เหมือนกับว่าครั้งหนึ่งเหมือนได้ลิ้มรสชาติบางอย่างที่มันไม่ได้ชิมมานานแล้ว

ในท่ามกลางสถานการณ์ทั้งหมดนี้ หลิงซิ่วตระหนักได้ทันทีหอกทะเลจุดเป็นวิชาหอกโบราณพื้นฐานเท่านั้น

เขาสะดุ้งเหมือนกับถูกฟ้าผ่า  ท่วงท่าหอกทะเลจุดทั้งหมดเคล็ดการปลดปล่อยพลังเฉพาะที่พิเศษเริ่มผุดขึ้นมาในใจของเขาชั่วแว่บเดียวเขาก็เข้าใจได้ทันที

จากครั้งล่าสุดเขามักรู้สึกว่าหอกทะเลจุดเป็นวิชาที่มีประโยชน์ในสนามรบ  แต่เขาคิดว่าวิชาหอกโบราณก็มีลักณณะนี้  แต่ตอนนี้เขาพยายามรบในขณะขับขี่ฟลามิงโก  แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหอกทะเลจุดโดยพื้นฐานเป็นวิชาหอกในสนามรบที่ใช้ในสนามรบโบราณ!

อาจารย์ไม่เคยบอกเขาว่าหอกทะเลจุดต้องใช้พาหนะ!

ใช่แล้ว หอกทะเลจุดต้องใช้พาหนะตราบใดที่ผู้ใช้หอกขับขี่พาหนะ เขาจะสามารถใช้หอกทะเลจุดที่แท้จริงได้

ความรู้แจ้งฉายผ่านสมองของเขาเมื่อเขาคืนความรู้สึกกลับมา เขาก็วิ่งเข้าหาแถวศัตรูแล้ว โดยไม่คิดอะไร หอกเงินในมือของเขาเริ่มแทงไปข้างหน้า

การแทงครั้งนี้ใช้สัมผัสที่เบามาก  นิ้วของเขาใช้สัมผัสหมุนหอกที่เบามาก

แต่หอกเงินกลับเชื่องเชื่อมากเหมือนกับว่ามันเล็ดรอดอยู่ตามนิ้วของเขาและพุ่งออกไปและเกิดการหมุนวนเล็กน้อย

กระพรวนลมเขาแกะที่ผูกไว้ที่หอกสะบัดทันที  หลังจากได้รับกระพรวนนี่มาจากเซียนกระบี่ลับมาแล้วเมื่อหลิงซิ่วผูกเข้ากับหอก มันไม่เคยดังเลย

ติง!

เสียงกระพรวนที่ดังสบายๆออกมาจากชั้นและซอกหลืบประวัติศาสตร์ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสะท้านหัวใจผู้คน

ร่างของหลิงซิ่วสะท้าน เขาลืมตากว้างด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

ปุ

นักสู้ที่อยู่ต่อหน้าของเขารู้สึกเหมือนสูญเสียวิญญาณไม่ขยับเลยสักนิ้วพริบตาเดียวปลายหอกก็ทะลวงอกเขา ปัง นักสู้ผู้นั้นล้มลง แต่ใบหน้าเขาไม่มีวี่แววเจ็บปวด

เมื่อสีหน้าของนักสู้ขณะที่ล้มลง  หลิงซิ่วสั่นสะท้านอีกครั้ง

ฟลามิงโกไม่หยุด เหมือนกับระบำเพลิงมันวิ่งขวางเข้าหานักสู้อีกสองสามคน

หลิงซิ่วปล่อยพลังหอกต่อเนื่อง ปุ ปุ ปุหอกเขาไวเหมือนแสงที่ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นได้หอกกระพริบประกายคราใดก็มีคนล้มลงตา ทุกคนที่ล้มลงไม่มีสีหน้าว่าเจ็บปวด

เมื่อหลิงซิ่วเรียกความรู้สึกกลับมาได้  เขาก็วิ่งผ่านไปทั่วทั้งค่ายนักสู้แล้ว  เขาวิ่งเป็นเส้นตรงและตามแนวเส้นตรงมีศพนับไม่ถ้วน เขารู้สึกว่าปราณแท้ในร่างเขายังไม่หมดเลยแม้แต่น้อยและรู้สึกเหมือนกับว่าเดินเล่นมาไม่กี่เมตร

หลิงซิ่วจ้องกระพรวนที่ผูกไว้กับหอกเขาอย่างเหลือเชื่อ

ตัวหอกสั่นอย่างต่อเนื่อง เสียงกระพรวนดังออกมาอีกครั้งเป็นเสียงมีทำนองไพเราะชัดเจนเข้าไปในใจสอดคล้องเข้ากับปราณแท้ในร่างเขา

ทันใดนั้นเมื่อได้ยินสียงหวีดหวิวของถังเทียนเขากลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขาไม่ลังเลใจกระตุ้นฟลามิงโกปล่อยสนามรบไว้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด