ตอนที่แล้วตอนที่ 267 ศัตรูมาเยือน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 269 ลอบจู่โจม

ตอนที่ 268 เป็นฟืนเป็นไฟ


เซรีนหัวใจเต้นรัว เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่ได้มาที่นี่อย่างมีเจตนาดีแน่นอน

ถึงตอนนี้มีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ไง, ทุกคน มีเรื่องอะไรกัน?”

อาวุธจักรกลสีฟ้างดงามปรากฏเงียบๆด้านหลังของทุกคน เสียงอู้อี้ของเขาดังออกมาจากภายใน

การมาถึงของพยัคฆ์ฟ้าดึงดูดสายตาของทุกคน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เฒ่าหลี่จับตาดูอยู่ข้างๆตัวคุณชายเกอเงียบๆ ตาของเขาเป็นประกายขณะที่ตั้งใจมองพยัคฆ์ฟ้า

โครงสร้างของพยัคฆ์ฟ้าไม่เหมือนอาวุธจักรกลธรรมดาที่ดูแข็งทื่อและช้า  พยัคฆ์ฟ้ามีรูปร่างที่บางและสัดส่วนกระชับพอดีด้วยโลหะสีฟ้าและปีกที่อยู่ด้านหลังของมัน เห็นได้ชัดว่าพยัคฆ์ฟ้าเต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย

มันเงียบสงบเหมือนยืนอยู่ในท้องฟ้าและร่างของมันโน้มมาข้างหน้าสายตาเหมือนนักล่า รังสีฆ่าฟันครอบคลุมพื้นที่ทันที

คนกลุ่มนั้นกระสับกระส่ายทันที  นักสู้ที่ล้อมรอบคุณชายเกอสีหน้าเปลี่ยนไปทุกคน ยอดฝีมือสองสามคนที่โดดเด่นเดินออกมาจากกลุ่มคนโดยมิอาจอดกลั้นได้

เสียงเครื่องสายที่โหยหวนเศร้าสร้อยดังออกมาจากที่ไกล

เสียงเครื่องสายนั้นมีผลต่อหัวใจผู้คนทำให้สีหน้าของคุณชายเกอแสดงอาการงุนงง เขามีพลังที่ธรรมดามากจะต่อต้านบทเพลงนี้ได้อย่างไร  ใจของเขาถูกดูดซึมซับเข้าไปในเพลงสิ้นเชิง

นักสู้ที่อยู่ข้างคุณชายเกอทุกคนหน้าไร้สีกันหมด

ผู้เฒ่าหลี่ขมวดคิ้ว เขาเดินมาที่คุณชายเกอและวางมือบนไหล่ของเขา  คลื่นพลังปราณแท้ถ่ายเข้าไปในร่างของเขาทำให้เขารู้สึกตัว  หน้าของเขาแสดงความประหลาดใจทันที

สายตาผู้เฒ่าหลี่มองไปที่ระเบียงอาบแดด  ชายชราตาบอดผู้หนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นกำลังขึงซอเอ้อหูของเขา ด้านหลังเป็นบุรุษร่างกายล่ำสันกำลังมองผู้เฒ่าหลี่อย่างเย็นชา

ผู้เฒ่าหลี่หัวใจเต้นแรงมีชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในใจเขาทันที

เขาสูดลมหายใจลึกเร่งเร้าปราณแท้ในร่างของเขา และถามขึ้นด้วยเสียงดัง “ข้าขอถาม  ท่านคือเฒ่าบอดซอกำศรวลใช่หรือไม่?”

ชายชราหยุดทันทีเสียงแหบแห้งดังขึ้น “เป็นข้าเอง”

หัวใจของผู้เฒ่าหลี่เต้นถี่แรง เขาคาดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะได้พบกับนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีในเมืองสามวิญญาณและยิ่งกว่านั้นเขายังเป็นตาแก่ตาบอดที่อารมณ์แปลกประหลาด  ผู้เฒ่าหลี่รู้สึกตัวรีบกล่าวทันที“เราไม่รู้ว่าเป็นธุรกิจของผู้อาวุโส ขอโทษด้วยที่รบกวน”

“ข้าเป็นแค่ลูกจ้าง เฝ้าสถานที่นี้ให้นายจ้าง”ผู้เฒ่านักเล่นซอตอบอย่างเฉื่อยชา

ถึงตอนนี้หน้าของผู้เฒ่าหลี่บิดเบี้ยวน่าเกลียดทันที  นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีเป็นคนหยิ่งภาคภูมิใจกันทั้งนั้น   พวกเขาเป็นกลุ่มบุคคลผู้แข็งแกร่งของโลกและยืนอยู่ในจุดสูงของมนุษยชาติ  นักสู้ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ดึงดูดลูกค้าได้เสมอ

สามารถมีพลังของนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีได้นี่ไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลเล็กน้อยแล้ว

“ข้าสงสัยว่าเป็นเจ้านายชั้นสูงคนใดกันแน่....”ผู้เฒ่าหลี่ต้องการสืบสาวต่อ

“นายท่านไม่อยากดังและเกี่ยวกับเรื่องอื่นทั้งหมด ตาเฒ่าคนนี้ก็แค่คนเฝ้าประตู งานเร่งด่วนก็คือ ข้าขอให้เจ้าออกไป”

ผู้เฒ่าหลี่ตอบทันที  “เป็นเราที่รบกวนเอง!  เราจะพาคนของเราไปเดี๋ยวนี้! เราจะออกไปเดี๋ยวนี้!”

เขาฉุดคุณชายเกอออกมาอย่างหงุดหงิด

เซรีนถอนหายใจโล่งอกสายตาที่เร่าร้อนของคุณชายเกอทำให้นางผมตั้งชัน

“พวกเขาจะมาอีกไหม?”  เซรีนถามอย่างกังวลใจ

“หา, พวกมันอย่าได้มาจะดีกว่า หึ หึ!”  รังสีอำมหิตของปิงกระจายทันที  เขาพิ่งจะแยกมาจากถังเทียน และอารมณ์ไม่ดีอย่างมากนึกไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกับคนเหล่านี้ และเขาแทบรอสู้กับคนพวกนี้ไม่ไหว

ต่อไปถ้าข้าจะขอเงินจากเสี่ยวถังคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้ว...

ข้าต้องใช้ยุทธวิธีและแผนการที่ฉลาดจะได้ก่อให้เกิดข้อผิดพลาดต่ำที่สุด ตามคาด การต้องติดอยู่เด็กหนุ่มงี่เง่าพลอยดึงสติปัญญาเราให้ตกต่ำไปด้วย...

ปิงมองขึ้นไปในท้องฟ้าน้ำตาคลอเบ้าความเสียใจในใจเขาผุดขึ้นมา

คุณชายเกอถูกฉุดลากมาตลอดถามด้วยความสงสัย  “ผู้เฒ่าหลี่, ตาแก่ตาบอดนั่นเป็นใคร?”

“เขาคือนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี”  หน้าของผู้เฒ่าหลี่เคร่งเครียด  “คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเขา!  ดูเหมือนว่าเราต้องตรวจดูอย่างระมัดระวังว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเขา! ส่งคนมาจับตาอย่างระมัดระวัง อย่าเพิ่งทำอะไร แต่ให้คอยสอดแนมพวกเขาไว้ก่อน  อาวุธจักรกลนั่นไม่ธรรมดาแน่นอน”

“นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี....”  สีหน้าของคุณชายเกอเปลี่ยน  “เขาเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี!”

แววตาไม่พอใจฉายวาบอยู่ในตาของผู้เฒ่าหลี่  นักสู้ผู้แข็งแกร่งต้องการการให้เกียรติพอๆกับนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี แต่ท่าทีของคุณชายผู้นี้ทำให้เขาโกรธ แต่เขาไม่พูดอะไรมาก  “คุณชาย,โปรดอย่าประมาท อีกฝ่ายหนึ่งมีเบื้องหลังที่หยั่งไม่ถึงและยังตรวจดูไม่ชัดเจน เราอย่าบาดหมางกันดีกว่า”

คุณชายเกอไม่คำรามอย่างไม่พอใจ  “แล้วยังไงเล่า  ถ้าพวกเขามีนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี  เราก็มีเหมือนกัน!”

ผู้เฒ่าหลี่อธิบายอย่างอดทน  “จากที่เห็นเจ้าบอกได้เลยว่าเฒ่าบอดไม่ใช่ผู้สั่งการ  สามารถทำให้นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถียินดีเฝ้าสถานที่ให้กลุ่มอิทธิพลธรรมดาจะทำได้อย่างไร? สงครามจะจบลงก็ขึ้นอยู่กับความอดทน คุณชาย..ท่านต้องไม่ประมาท”

“งั้นเราจะหมดหวังในลักษณะนี้หรือ?”  คุณชายเกอไม่สบายใจ

ผู้เฒ่าหลี่มีแววตาเจ้าเล่ห์  “คุณชายไม่ต้องห่วงเรายังไม่สมควรเคลื่อนไหว แต่เราสามารถหาคนมาทำงานได้”

“ท่านกำลังบอกว่า....” คุณชายเกอตาเป็นประกาย

“ถูกแล้ว ถ้าพวกเขากำลังหลอกลวง พวกเขาจะเผยตัวจริงทันที” ผู้เฒ่าหลี่พูด “ใช่ว่านักสู้สวรรค์วิถีทุกคนจะเห็นเงินเป็นของสกปรก  คุณชายสายตาดีจริงๆอาวุธจักรกลนั่นไม่ธรรมดาแน่นอน มันเข้ามาใกล้เราโดยไม่มีเสียงได้ อาวุธจักรกลแข็งแกร่งอย่างนั้น ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”

ผู้เฒ่าหลี่นัยน์ตาแวววาว  ทันทีที่เขาเห็นพยัคฆ์ฟ้า  เขาแทบไม่สามารถละสายตาได้เลย

เขาคลุกคลีกับวิชาจักรกลมาเกินกว่าสิบปี  สายตาเขาแหลมคมแหลมคมมากกว่าที่คุณชายเกอรู้เสียอีก

แม้ว่าคุณชายเกอจะชอบวางก้ามเขื่องโขแต่สายตาและปัญญาของเขานับว่าไม่ด้อยเลย

“ถ้าเราสามารถได้มันมามันจะสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับคุณชายได้อย่างมากมาย” ผู้เฒ่าหลี่เกรงว่าคุณชายจะก่อเรื่องวุ่นวาย  ดังนั้นเขาเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง

คุณชายเกอยังคงเงียบ

ตระกูลของพวกเขาเท่ากับเป็นรุ่นที่สอง  พวกเขาถูกส่งไปในที่ต่างๆ มากมายพวกเขาทุกคนจะหาธุรกิจทำเป็นของตนเอง และจะได้รับการประเมินประจำปี  ผลของการประเมินจะเป็นตัวชี้วัดความสามารถของพวกเขา

เขาไม่เพียงแต่ต้องแข่งขันกับพี่น้องของเขาเท่านั้น  แต่เขาต้องแข่งขันกับทายาทสายอื่นๆ อีกด้วย

เมื่อคิดถึงเรื่องบิดาของเขาซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะว่าหนักแน่นใจแข็ง  เขารู้สึกมึนงงยิ่งนัก การแข่งขันชิงไหวพริบนั่นคือกฎเหล็ก  บิดาของเขามีผู้สนับสนุนที่ภักดี   เขาเพิ่มคนเกินกว่าสองร้อยคนในปีนั้นและแน่นอนการได้รับตำแหน่งจึงทำให้เขามีวันนี้

ทุกๆปีเขาเพียงแต่ได้รับคะแนนทั่วไป และยังไม่นับว่าโดดเด่น

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าหลี่  เขาสงบใจได้

“ข้าจะเชื่อท่าน”  คุณชายเกอพูดต่อ  “ข้ามีความอดทนอยู่แล้ว!”

ผู้เฒ่าหลี่หัวเราะอย่างพอใจ

ถังเทียนพบหนังสือพิมพ์ล่าสุดจากข่าวสถาบันวิทยายุทธอมตะ

พาดหัวข่าวแนะนำเรื่องของเขาเรื่องการต่อสู้กับห้ามือสังหาร และรายละเอียดที่ถูกต้องอย่างคาดไม่ถึง  แต่ขณะเดียวกัน พวกเขามีข้อสันนิษฐานสองสามข้อแต่เพราะถูกปล่อยออกมาจากการต่อสู้ จึงไม่ดึงดูดความสนใจมาก  ข่าวล่าสุดก็คือการต่อสู้ระหว่างสำนักหลิวกับเซียนกระบี่คนหนึ่ง

หลังจากหาดูทุกมุมข่าว  เขาไม่พบข่าวใดๆ ที่เกี่ยวกับเชียนฮุ่ย

ถังเทียนผิดหวังแต่รีบเงยหน้าโดยเร็ว ความมุ่งมั่นในสายตาของเขาฉายประกายอีกครั้ง

ถังเทียนหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝน  ไม่ว่าแผนใดก็ตาม เขายกให้อาเฮ่อทั้งหมด  เขารู้สติปัญญาและความคิดของตัวเองดี    เรื่องซับซ้อนทั้งหมดมักทำให้เขาปวดหัว

ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วข้าขอใช้เวลาฝึกฝนดีกว่า

ไม่ว่าพวกเขาจะคิดกลยุทธไหนขึ้นมาในที่สุดก็ต้องสรุปลงที่ว่ากำปั้นสามารถนำชัยชนะมาให้ได้

ขอให้กำปั้นข้าแข็งแกร่งที่สุดก็พอ

ปิงไม่มีเวลาถามเกี่ยวกับเรื่องการฝึกฝนของเขา  ดังนั้นเขาจึงวางกลยุทธเอง

เป้าหมายล่าสุดก็คือโล่อากาศโจมตีเขายังไม่สามารถฝึกท่าหลุมถล่มศิลาได้สำเร็จ แต่นั่นไม่ทำให้เขายอมแพ้  เขาเพิ่งเริ่มฝึกกวัดแกว่งโล่ ท่าเคลื่อนไหวพื้นฐานของโล่เกี่ยวข้องกับวิทยายุทธ

ทุกๆ รอบการฝึกเขาจะกวัดแกว่งโล่ถึงสองหมื่นครั้ง

เหงื่อของเขาพร่างพรูเหมือนฝนตก

หลิงซิ่วและอาเฮ่อรู้สึกแตกต่าง ถังเทียนไม่เคยมีความรู้สึกว่าพรสวรรค์ในการฝึกฝนของเขาโดดเด่น  ตั้งแต่เล็กไม่มีใครเคยเรียกเขาว่าอัจฉริยะ  ตรงกันข้ามทุกคนจะล้อเลียนหัวเราะเยาะเขาเมื่อเขาเติบโตเขาข่มใจฝึกฝนจนชาชินและบังคับตนเองให้มุ่งมั่นและอดทนยิ่งขึ้น

ฝนทั่งจะแสนครั้งหรือล้านครั้งมันก็คงจะคมจนได้

บางทีอาจมีทางลัด  คนฉลาดมักหาทางลัดเสมอ  ขณะที่เขาฝึกฝนอย่างเคร่งครัดซื่อตรง  ฝึกจนกระทั่งเพียงพอ

หยาดเหงื่อและการฝึกหนักโกหกกันไม่ได้

จากอดีตจนถึงตอนนี้เขามักเชื่อเช่นนั้นเสมอมา หลักการทฤษฎีในโลกมีมากเกินไป ตราบที่เขาเข้าใจเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ทุกครั้งที่เขาฝึกจบรอบหนึ่งเขาจะนั่งโคจรพลังฟื้นฟูปราณแท้ของเขา ขณะเดียวกันก็ใช้เพลิงจิตวิญญาณยุทธของเขาถ่ายเทไปที่กรงเล็บแมวโลหิต ครั้งสุดท้ายที่เขาลองดูด้วยพลังของกระเรียน  มีอุปสรรคบางอย่างขวางอยู่  เขารู้สึกว่าพลังยังไม่เพียงพอถ่ายเทไปที่กรงเล็บแมวโลหิต ดังนั้นเขาจึงเริ่มถ่ายพลังไปที่มันอย่างต่อเนื่อง

“ใช้ไม่ได้,ไม่ว่าเจ้าจะฝึกมากแค่ไหนก็ยังใช้ไม่ได้”

เสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวดังมาจากในค่ายทหารใหม่

“อยู่ต่อหน้าตระกูลชนชั้นสูงความเพียรของเจ้าทั้งหมดไม่มีความหมาย!  เมื่อเริ่มตอนแรกก็แพ้เสียแล้ว! ไม่ว่าเจ้าจะวิ่งเร็วแค่ไหน พยายามหนักแค่ไหน ก็ไม่มีความหมาย!”

“พวกเขาทุกคนมีอาจารย์   วัสดุสมบัตินับไม่ถ้วน ตั้งแต่เล็กๆพวกเขาก็เปิดพลังชีพจร วิทยายุทธโดดเด่นไม่ซ้ำใครพวกเขาก็ฝึกกันตั้งแต่เล็ก  แล้วเจ้าจะรับมือพวกเขาได้อย่างไร? หยาดเหงื่อของเจ้าน่ะหรือ?  ฮ่าฮ่า เลิกล้อเล่นได้แล้ว”

เสียงโกรธดังออกมาจากควันที่ลอยอ้อยอิ่ง

“สังคมไม่มีความยุติธรรม!  คนอ่อนแอ ก็เป็นคนอ่อนแออยู่ร่ำไป”

“ลืมตาเจ้าได้แล้ว ดูซะ, หยุดฝันได้แล้ว!”

ตั้งแต่สองสามวันก่อนดวงตาที่โกรธในหมอกควันมักจะมีความเคลื่อนไหวบางอย่าง  จากนั้น...ก็กลายเป็นอย่างนั้น!

ถังเทียนคร้านเกินกว่าจะให้ความสนใจมัน แต่ดูเหมือนมันไม่มีความตั้งใจจะหยุดยังคงตะโกนต่อไปทั้งวันและเสียงของมันก็ดังมาก

ถังเทียนกำลังนั่งขัดสมาธิลุกขึ้นยืนทันทีเดินเข้าไปในม่านควันและกล่าว “เฮ้, เจ้ารู้จักเงียบบ้างไหม?”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!งั้นข้าคงพูดกระทบใจเจ้าใช่ไหม? เจ้ามดน้อย ความจริงเจ้ารู้แล้ว แต่เจ้ากำลังโกหกตัวเอง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”  ม่านควันนั้นหัวเราะ

“ก็ได้ ก็ได้” ถังเทียนผงกศีรษะ “ข้ารู้แล้วรู้ว่าเจ้าเป็นสุนัขตัวร้าย”

“เจ้า!” ม่านควันนั้นโกรธ

“ล้มเหลวตามคาด”  ถังเทียนส่ายศีรษะ  “เอาความล้มเหลวมาเป็นข้อแก้ตัวไม่ใช่หรือ?หมัดเหล็กกลืนแสงอะไรกัน ท่านเป็นแค่คนปากคอเราะร้ายและจิตใจอ่อนแอและยังได้รับหมัดเหล็กนั่นมาได้หรือ? ตอนนี้ข้าไม่มีความสนใจท่านเลย ขอบอกเรื่องนี้ท่านก็ได้ ถ้าท่านยังไม่หุบปากนะ ข้าจะลบท่านทิ้งซะ”

“เจ้ากล้า!”

“ผู้ใดว่าข้าไม่กล้า?”  ถังเทียนแค่นเสียง  “ท่านลืมไปแล้วหรือว่านี่คือถิ่นใคร  ถังอี้, เรามีวิธีไหนที่จะลบเจ้าเด็กนี่ทิ้งได้บ้าง?”

ถังอี้ตอบ  “เราก็แค่โยนมันเข้าไปผนังวิชายุทธเพื่อให้กลืนกินการ์ดวิญญาณ และสร้างขุนพลวิญญาณขึ้นใหม่”

ถังเทียนส่ายศีรษะ“เจ้าเด็กใจอ่อนแอนี่จะสร้างขุนพลวิญญาณดีๆ ได้ยังไง?  มีถังขยะหรืออะไรอื่นแถวๆ นี้บ้างไหม?”

ม่านควันนั้นแตกตื่น  “เจ้าไม่ต้องการหมัดเหล็กกลืนแสงแล้วใช่ไหม?นี่คือวิทยายุทธโดดเด่นไม่ซ้ำใครเชียวนะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด