ตอนที่แล้วตอนที่ 27 นั่งรถไฟ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29 จอมบงการแม็กนัส (อ่านฟรี)

ตอนที่ 28 ก่อมรสุม (อ่านฟรี)


"ก็เพราะมันเป็นที่ต้องหัวใจที่เกล้าแกร่ง กล้าหาญ และยุติธรรม แบบที่นายเป็น" ซิเรียสกล่าวว่า

แม็กนัสส่ายหัว “นายคิดผิดแล้วซิเรียส แค่คำพูดและการเข้าร่วมบ้านไม่ได้ทำให้กลายเป็นชายที่กล้าหาญ การกระทำของเขาต่างหาก”

“ฉันแน่ใจว่าตอนที่สร้างฮอกวอตส์ ผู้ก่อตั้งไม่ต้องการเห็นวันที่บ้านสองหลังจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของกันและกัน นั่นเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ฮอกวอตส์ยืนหยัด เป็นสถานที่สำหรับเด็กที่จะเรียนรู้เวทมนตร์ เด็กที่เคยถูกข่มเหงจากพวกคริสตจักรหรืออะไรแบบนั้น”

“ฉันอ่านหนังสือประวัติศาสตร์บางเล่มตอนว่างๆ ฉันเชื่อว่าฮอกวอตส์ไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ลองยกตัวอย่างนะซิเรียส อย่างน้องชายของนาย”

“เขาเป็นเด็กดีใช่ไหมล่ะ ไม่เหมือนสลิธีรินเลย” แม็กนัสถาม

“ถูกต้อง เขาไม่เหมือนสลิธีรินเลย” ซิเรียสยอมรับอย่างภาคภูมิใจ

“แล้วเมื่อเขามาที่ฮอกวอตส์ ถ้าเขาถูกส่งไปอยู่บ้านสลิธีรินล่ะ มันจะทำให้เขาแย่โดยอัตโนมัติหรือเปล่า หรือเพราะอะไรที่เขาควบคุมไม่ได้”

“ฉันเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้สลิธีรินจำนวนมากกลายเป็นพวกไม่ดีเป็นเพราะตัวโรงเรียนเอง ฉันหมายความว่ามันก็มีเมล็ดที่ไม่ดีอยู่ทุกต้น แต่ละบ้านล้วนมีตัวอย่างที่ไม่ดี แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนายเจาะจงไปที่ความรู้สึกภายในของใครบางคน แล้วใส่พวกเขาไว้ในบ้าน”

“เขาว่ากันว่า การเป็นสลิธีรินต้องมีความตั้งใจแน่วแน่ มีไหวพริบคล่องตัว และที่ไม่อยากบอกไม่ยึดมั่นในกฎข้อบังคับ นี่เป็นความสับสนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับฉัน เราจะเข้าใจลักษณะนิสัยของเด็กอายุ 11 ปีได้อย่างไร?”

"ซิเรียส เราอายุแค่ 11 ขวบเอง เด็กวัยเรามีสมองเหมือนน้ำ

ใส่ภาชนะไหนก็ปรับตัวได้”

“เหตุผลเดียวที่ทำให้สลิธีรินจำนวนมากกลายเป็นคนไม่ดี ก็เพราะมีคนที่มีจิตใจแบบเดียวกันมารวมตัวกันมากเกินไป เมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดีเพียงเมล็ดเดียวก็มีอิทธิพลต่อพวกเขาได้อย่างง่ายดาย อีกอย่าง ถ้าพวกเรานักเรียนเริ่มเกลียดกันเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำ จะทำให้เราดีขึ้นกว่าคนไม่ดีได้ยังไง?”

“เขาเป็นเรเวนคลออย่างแน่นอน” ซิเรียสพูดกับเจมส์

แม็กนัสส่ายหน้า “นายสองคนไม่ฟังฉันเลยหรือไง ช่างเถอะ ได้เวลากินข้าวแล้ว”

แม็กนัสหยิบกล่องอาหารกลางวันออกมา เขาอุ่นมันสองสามวินาทีโดยไม่มีใครเห็นว่าเขาทำ

วินาทีที่เขาเปิดมัน กลิ่นหอมสดชื่นก็โชยเข้าจมูก

ท้องของทุกคนส่งเสียงดัง แม็กนัสหัวเราะ "ฮ่าๆ ฉันรู้ว่าคนอื่นต้องทนไม่ไหวแน่ ฉันเลยเอามาเผื่อ นี่ไง กินกับฉันสิ"

“เจ๋ง” ซิเรียสไม่สงวนท่าทีและหยิบแพนเค้ก เจมส์ก็ตามเขาไป

ในที่นั่งอีกฝั่ง หันหน้าเข้าหาเขา ลิลลี่กับสเนปนั่งอยู่ ทั้งสองไม่ได้คุยกันมากนัก

"นี่ แม่ฉันทำสิ่งนี้ให้ฉัน นี่คือของโปรดของฉันล่ะ" เขาเสนอ

ลิลลี่เลือกอย่างเขินอาย จากนั้นแม็กนัสก็เสนอให้สเนป แต่เขาไม่รับมันกลับกอดอกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวแทน

“ฮ่าฮ่า ไม่อยากงั้นเหรอ ไม่เป็นไร ส่วนของฉันก็เพิ่มขึ้น” แม็กนัสหัวเราะออกมา

"เหมียวววว..."

“อ่า ฉันลืมแชดไปเลย” แม็กนัสอุทานและรีบให้อาหารแมว

หลังจากนั้นพวกเขาก็คุยกันต่ออีกพักใหญ่ ลิลลี่กับสเนปเลือกจะเงียบเป็นหลัก แม็กนัสรู้ว่าเจมส์มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยเช่นกัน แต่ไม่มีอิทธิพลเท่าพวกตระกูลแบล็ก

“นายมีพี่น้องกี่คน เป็นยังไงบ้าง” แม็กนัสถามซีเรียส

“ก็เยอะอยู่ พวกเขาส่วนใหญ่เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันแต่เราโตมาในบ้านเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเปรียบเสมือนพี่สาวของฉัน

พี่สาว 2 คนเรียนจบแล้ว พี่คนโตที่ฉันบอกได้เลยธอมันนางมารร้าย แอนโดรแมนด้าใจดีมากและเป็นเหมือนฉัน นาร์ซิสซายังอยู่ในปีที่ 6 และเธอค่อนข้างลึกลับ แต่ฉันว่าเธอน่ารักดี แล้วก็มีน้องชายฉัน” ซิเรียสเผย

“นายมั่นใจไหมว่าถ้าพวกเขาถูกคัดแยกไปบ้านอื่น พวกเขาจะต้องเปลี่ยนไปจากเดิม” แม็กนัสถาม

ซิเรียสส่ายหัว “ไม่ ครอบครัวของฉันไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้น

พวกเขาจะปฏิเสธพวกนั้นหากพวกเขาต้องไปอยู่บ้านอื่น ครอบครัวของฉันคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์มากและต่อต้านสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ในสายตาของพวกเขา ครั้งหนึ่งลูกพี่ลูกน้องของฉันพยายามทำให้การล่ามักเกิ้ลถูกกฎหมาย สำหรับครอบครัวของฉัน สายเลือดไม่สำคัญเท่ากับอุดมคติของพวกเขา”

แม็กนัสพักการโต้เถียงของเขาไว้ที่นั่นโดยอ้าแขนออก “แล้วนายยังกล้าโทษสลิธีริน ปัญหาครอบครัวเรื่องเลือดของเด็กพวกนี้มันรุนแรงเกินไปไม่ใช่หรือไง?  ฉันหมายความว่า ถ้าเด็กคนใดต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขา เขาก็จะกลายเป็นพวกนั้นด้วย ทางออกเดียวคือการเลือกบ้านแบบสุ่มแทนที่จะเลือกตามลักษณะ”

เจมส์พยักหน้า "อืม ที่นายพูดก็ถูก แต่นั่นจะไม่มีวันเกิดขึ้น ผู้มีอำนาจหลายคนในกระทรวงเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือเลือดหรือตัวหมากของพวกเขา นายเป็นพ่อมดที่เกิดจากมักเกิ้ล แม็กนัส นายจะไม่ถูกจับไปอยู่ในบ้านหลังนั้นอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องกังวลด้วยล่ะ”

แม็กนัสไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนในห้องนี้อายุ 11 ขวบ แม้ว่าความสามารถทางสมองของเขาจะดีกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเข้าใจคำพูดของเขา เขากลับไปอ่านหนังสือปรุงยาอีกครั้ง พยายามทำความเข้าใจวิธีทำของเหลวนำโชคนี้

ระหว่างทางซิเรียสกับเจมส์มักจะทะเลาะกับสเนป สเนปก็ไม่ยอมฝ่ายเดียวเช่นกัน บางครั้งเขามักจะทะเลาะกันในบทสนทนาระหว่างซิเรียสกับเจมส์ด้วยการพูดอะไรที่น่ารังเกียจ นี่จะทำให้ทั้งสองมุ่งความสนใจไปที่สเนป

แม็กนัสไม่ยุ่งกับพวกเขาอีก

“โอ้ เราควรจะเปลี่ยนชุดได้แล้ว” แม็กนัสอุทาน

แต่แล้วเขาก็เห็นลิลลี่ไม่สบายใจเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินที่เขาพูด “ลิลลี่ ทำไมเธอไม่ออกไปก่อน แล้วเดี๋ยวเราค่อยสลับกันเปลี่ยน”

เธอพยักหน้าอย่างเงียบๆ และออกไปด้วยหน้าแดงแจ๋ เธอรู้สึกเสียใจที่ไม่พบห้องโดยสารกับผู้หญิง

เด็กชายทุกคนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า

ชุดของพวกเขาเรียบง่าย เสื้อเชิ้ตสีขาวติดกระดุม กางเกงขายาวสีดำ เสื้อสเวตเตอร์และเสื้อคลุม พวกเขายังสวมเนคไท ทั้งหมดนี้เป็นสีดำธรรมดาตอนนี้ยังไม่ได้จัดสรรบ้าน

ต่อไปก็ถึงตาของ ลิลลี่ที่จะเปลี่ยนชุดบ้าง ทุกคนออกมายืนอยู่นอกประตูเลื่อน แต่แม็กนัสสังเกตเห็นว่าเจมส์แอบมองเล็กน้อย

*ผั่ว*

“นายไม่ได้มาจากบ้านหลังใหญ่ที่น่านับถือหรือไง งั้นก็ทำตัวให้เหมือนบ้านนั้นสิ” แม็กนัสเคาะหนังสือบนหัวของเขา

“ไม่เอาน่าพวก นายนี่ไม่หนุกเลย” เจมส์ทำหน้าบึ้ง

“ถ้าการเป็นคนนิสัยเสียเป็นเรื่องสนุก ฉันขอไม่สนุกเลยตลอดชีวิต” แม็กนัสกล่าว

"ฮ่าฮ่า... เจมส์ เขาพูดถูก เธอตัวเล็กเกินไปที่จะแอบดู เราควรไปที่ห้องของนักเรียนที่มีอายุมากกว่านะ" ซิเรียสแนะนำด้วยรอยยิ้ม จากนั้น ทั้งคู่ก็จากไป

“ช่างต่ำช้าจริง” สเนปออกความเห็นเมื่อพวกเขาจากไปแล้ว

แม็กนัสเลิกคิ้ว “เหรอ? เพราะฉันแน่ใจว่าฉันเห็นนายก็พยายามแอบมองเหมือนกัน”

สเนปก้มหน้าลงไม่พูดอะไร

เป็นการเดินทางที่ยาวนานและพวกเขาก็มาถึงจุดหมายในตอนเย็น มันถูกเรียกว่าสถานีฮอกส์มี้ด แม็กนัสชอบมาก มันเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายเลย สถานที่เหมือนหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีต้นไม้สวยงามบนอาคาร

ขณะที่พวกเขาทั้งหมดลงจากรถม้า ชายมีหนวดมีเคราตัวใหญ่กำลังรอพวกเขาอยู่ "เอาล่ะ ปีหนึ่งมาทางนี้"

"เชิญทางนี้ ปีหนึ่งไม่ต้องเขิน เอาล่ะ ทางนี้ไปลงเรือ เข้ามาเลย" ชายร่างใหญ่ประกาศซ้ำสองสามครั้งจนกระทั่งนักเรียนปี 1 ทุกคนอยู่ที่นั่น

"ฉันรูเบอัส แฮกริด ผู้เฝ้าประตูฮอกวอตส์ โอเค ให้ฉันนับ อืม... 1...2... บลิมีย์... เราขาดไปหนึ่งคน" แฮกริดอุทาน

"อยู่นี่ครับ...กำลังมา..." เด็กชายร่างผอมเตี้ยวิ่งออกมาจากรถไฟ เขาหอบและเสื้อผ้าของเขาดูไม่เรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งสวมมัน

แม็กนัสมองไปที่เด็กชายผมบลอนด์ตัวผอมบาง ดูเตี้ยกว่าปกติ เขาสามารถรู้ได้จากท่าทางของเด็กชายแล้วว่าเขามีปัญหาเรื่องความมั่นใจ

"ผม-ผมเอ่อคือ..."

"ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ" แฮกริดไม่ได้ว่าอะไรแล้วพาพวกเขาไปที่เรือ

"รวมกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละสี่คน ระวังอย่าตก มันเป็นเวลากลางคืน สิ่งมีชีวิตบางตัวอาจหิวโหยอยู่ในนั้น" แฮกริดเตือน ทำให้เด็กๆ ส่วนใหญ่ตกใจกลัว

แต่ไม่นานทุกคนก็อ้าปากค้าง แม็กนัสก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาชื่นชมสถานีรถไฟ ตอนนี้เขามองไปที่ฮอกวอตส์และเขารู้สึกเหมือนอยู่ในเทพนิยายจริงๆ ปราสาทที่ดูเก่าแก่และใหญ่โต มีเทียนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หน้าต่าง มันตั้งตระหง่าอยู่บนหน้าผา ทำให้มันมีการป้องกันที่น่าทึ่งเช่นกัน ใต้แสงจันทร์ที่สว่างไสว เป็นภาพที่น่ามอง

แม็กนัสรู้สึกหวิวๆ ในท้องเมื่อเขาคิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่ไปอีก 7 ปี

เมื่อคุณเพลิดเพลินกับการชมวิว การเดินทางไกลดูเหมือนสั้น ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว พวกเขาก็มาถึงปราสาทเสียแล้ว แม็กนัสกับซิเรียสกำลังพายเรือ ในขณะที่เจมส์และเด็กชายผมบลอนด์ผอมบางก่อนหน้านี้ติดแท็กไปด้วย

แม็กนัสกัลซิเรียสอยากจะแข่งกับเรือลำอื่นและพวกเขาก็พายเรืออย่างบ้าคลั่ง แต่แฮกริดดุพวกเขาเล็กน้อยตอนพวกเขาเข้ามาใกล้และจะชนเรือของเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็ชะลอตัวลง

พวกเขาลงจากเรือและปีนบันไดขึ้นไปบนหน้าผา หลังจากปีนอย่างเหน็ดเหนื่อย ในที่สุดพวกเขาก็เข้ามาภายในอาคาร แต่พวกเขาถูกหยุดโดยคุณนายมักกอนนากัลซึ่งยืนดักอยู่ข้างหน้าพวกเขาบนบันไดขั้นสูงสุด มองพวกเขาด้วยสายตาพินิจ

สายตาของเธอจับจ้องไปที่แม็กนัสซึ่งทำให้เธอสนใจเล็กน้อย เธอพยักหน้าให้เขาโดยสัญชาตญาณ แม็กนัสทำเช่นเดียวกันโดยสัญชาตญาณ

"ยินดีต้อนรับสู่ฮอกวอตส์ ก่อนที่คุณจะเข้าร่วมงานเลี้ยงและนั่งลง คุณจะถูกจัดให้อยู่ในบ้านหนึ่งในสี่หลัง พวกเขาคือกริฟฟินดอร์ เรเวนคลอ ฮัฟเฟิลพัฟ และสลิธีริน ในขณะที่คุณอยู่ที่นี่ บ้านของคุณจะเป็นเหมือนครอบครัว ชัยชนะของคุณจะทำให้คุณได้รับคะแนน และการทำผิดกฎใดๆ คุณก็จะเสียคะแนน ในช่วงปลายปี บ้านที่มีคะแนนมากที่สุดจะได้รับรางวัลถ้วยบ้านดีเด่น พิธีคัดแยกจะเริ่มขึ้นอีกสักครู่" จากนั้นเธอก็หันหลังกลับและพาพวกเขาเข้าไป

ประตูบานใหญ่เปิดออกและนำพวกเขาเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีโต๊ะอาหารวางเรียงเป็นแถวแล้วโดยมีนักเรียนรุ่นพี่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของโต๊ะ พวกเขาทั้งหมดสวมหมวกทรงแหลมที่แม็กนัสหวังว่าจะในช่วงชีวิตของเขาจะไม่ต้องสวม

แม็กนัสตะลึงกับความงามของห้องโถง เพดานดูสวยงามเป็นพิเศษ มีมนต์เสน่ห์มองเห็นเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน

แต่แล้วเขาก็มองไปรอบๆ ตัว ผ่านไปที่โต๊ะหลัก มีครูหลายคนและตรงกลางคือดัมเบิลดอร์ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่สุดเหมือนกษัตริย์

“งั้นเชิญรวมกันที่นี่” มักกอนนากัลหยุดพวกเขาที่หน้าเก้าอี้ซึ่งวางหมวกสกปรกเก่าๆ ไว้

ทันใดนั้นหมวกก็เริ่มขยับและร้องเพลงที่ไร้ทำนอง

"บัดนี้ เมื่อฉันขานชื่อผู้ใด จงก้าวออกมา ฉันจะสวมหมวกคัดสรรไว้บนหัวของเธอ... และเธอจะถูกคัดให้เข้าอยู่ตามบ้าน" เธอพูดขณะที่เธอยกหมวกขึ้นที่ปลายแหลม

เธอประกาศชื่อแรก "ซิเรียส แบล็ก"

นักเรียนที่อยู่บนโต๊ะสลิธีรินเพียงแค่ได้ยินชื่อนั้นก็โห่ร้อง ผู้หญิงคนหนึ่ง สูง ผอม ผิวซีดมาก ตาสีฟ้าและผมยาวสีบลอนด์ไม่ยิ้ม เพราะเธอรู้จักญาติผู้น้องของเธอ

หมวกคัดแยกเริ่มส่งเสียงดัง "อ๊าาา... แบล็คอีกคน ดี ท้าทาย กล้าหาญและกล้าหาญ เป็นแบล็คที่แปลกมาก แต่ฉันรู้ว่าที่ไหนที่จะเหมาะกับเธอ... กริฟฟินดอร์"

นักเรียนที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ได้ยินอย่างนั้นก็โห่ร้องยินดี ในขณะที่สลิธีรินไม่พอใจ

“ต่อไป แรกนาร์ อุลริก โอโรโบรัส” มักกอนนากัลเปล่งเสียง

มันเป็นเด็กชายผมบลอนด์ผอมๆ เตี้ยๆ เขาเดินไปข้างหน้าอย่างสุภาพและนั่งลงบนเก้าอี้

สลิธีริน” หมวกประกาศก่อนที่มันจะแตะหัวเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เด็กชายกลับมีสีหน้าสลดใจ

“เจมส์ พอตเตอร์...”

"กริฟฟินดอร์"

“ลิลี่ แอฟเวนส์...”

"กริฟฟินดอร์..."

"เฮนรี่ วินท์..."

"ฮัฟเฟิลพัฟ..."

“เซเวอร์รัส สเนป...”

"สลิธีริน..." หมวกประกาศ แต่สเนปดูเศร้าใจที่เพื่อนของเขาไปกริฟฟินดอร์

นักเรียนทุกคนถูกจัดเรียงทีละคน ตอนนี้เหลือเพียงแม็กนัสที่ยืนอยู่คนเดียว เขารู้สึกกระอักกระอ่วน ราวกับว่าเขาถูกละทิ้งเมื่อเลือกทีมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลในโรงเรียนของเขา

มักกอนนากัลสูดหายใจยาว เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดจะก่อมรสุมลูกมหึมาในโลกเวทมนตร์ เรื่องน่าปวดหัวกำลังจะมาถึง ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้

~ฉันหวังว่าคุณจะคิดถูกนะ อัลบัส~ เธอคิดกับตัวเอง

ทุกคนสงสัยว่าเหตุใดจึงมีการเรียกชื่อเขาล่าช้าเช่นนี้ เด็กชายผมบลอนด์ตัวสูงบนโต๊ะของสลิธีรินมองแม็กนัสด้วยสายตาขุ่นเคือง

จากนั้นมักกอนนากัลก็พูดขึ้น

"นักเรียนคนสุดท้าย... แม็กนัส แกรนท์... เอ็มรีส เพนดรากอน" คราวนี้ฟังดูเหมือนเธอเรียกเขาหรืออย่างน้อยก็เหมือนว่าเธอกำลังประกาศชื่อของเขาให้ทุกคนรู้

*บูม*

เสียงภายในห้องโถงพลันดังสนั่นหวั่นไหว นักเรียนอยู่ต่ำกว่า 5 ปีส่วนใหญ่ไม่รู้จักนามสกุลเหล่านี้ แต่เหล่าผู้อาวุโสนั้นหรือจากตระกูลเก่าแก่ที่มีทรงภูมิล้วนรู้จักนามสกุลเหล่านี้รวมทั้งความหมายแฝงนี้ ครูทุกคนมีปฏิกิริยาเหมือนกัน ชายมีอายุที่นั่งข้างดัมเบิลดอร์ดูราวกับว่าตาของเขากำลังจะถลนออกมา

"อัลบัส นี่เรื่องจริงเหรอ เขา...?" เขาถามอย่างเร่งรีบ

“ทุกอย่างเป็นความจริง ฮอเรซ” ดัมเบิลดอร์ตอบอย่างใจเย็น

ขณะที่แม็กนัสกำลังมองไปรอบๆ เพื่อดูว่าเธอกำลังเรียกหาใครหรือเปล่า แต่เมื่อมักกอนนากัลก็พยักหน้าให้เขา แม็กนัสจึงแน่ใจว่าเธอกำลังพูดถึงเขา

~พ่อเปลี่ยนนามสกุลตั้งแต่เมื่อไหร่?~ เขาเกาหัวอย่างสงสัย

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

สถานีฮอกส์มี้ด

ฮอกวอตส์

ห้องโถงใหญ่

หมวกคัดสรร

การคัดสรรบ้าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด