ตอนที่แล้วตอนที่ 9-19 ทางเลือก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-21 ศิษย์อาวุโสที่สุด

ตอนที่ 9-20 วิทยาลัยเทพสงคราม


เวลากลางคืนแขกเหรื่อหลายคนที่คฤหาสน์จากไปแล้ว และขุนนางทั้งหมดในตอนนี้ก็ออกไปกันแล้ว งานเลี้ยงฉลองการหมั้นคือเลี้ยงตอนบ่าย ผู้คนที่รั้งอยู่ในคฤหาสน์จะเป็นแขกสำคัญทั้งหมด

“วอร์ตัน, พี่ใหญ่เจ้าอยู่ไหน?”  เยลรินไวน์สองแก้ว  จากนั้นเดินไปอยู่ข้างๆ วอร์ตัน  “ข้าไม่เห็นเขาเลยตลอดเวลาช่วงบ่าย  คิดว่าอย่างนั้นนะ?”

“พี่ใหญ่ออกไปกับท่านฮ็อดเดิลผู้นั้นไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหนกัน” วอร์ตันส่ายศีรษะ

“ข้าจะไปดูเขา เพราะจากนิสัยของพี่ชายเจ้า เขาอาจจะไปที่ลานฝึกและเริ่มฝึกฝนที่ลานฝึกอยู่ก็ได้

“แผละ” “แผละ”

น้ำไหลลงจากน้ำพุจำลอง น้ำแต่ละหยาดหยดนั้นสามารถได้ยินชัดในลานฝึกที่เงียบสงบ  ลินลี่ย์นั่งเข้าสมาธิอยู่ที่สนามหญ้าไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

ถ้าใครบางคนเข้าไปใกล้เขาและตรวจสอบเขาอย่างระมัดระวัง ก็อาจมองเห็นกล้ามเนื้อของลินลี่ย์หดและขยายเป็นจังหวะและขณะที่เป็นอย่างนั้น ดูเหมือนจะมีลมรุนแรงพัดอยู่รอบตัวลินลี่ย์

พลังจิตของเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับธาตุดินไม่มีที่สุดและปรับเข้ากับสายลมไร้ขอบเขต

“บึ้ม!”  “บึ้ม!”...

“ควั่บ!”  “ควั่บ!”...

เขาหลับตา, ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือน  วิญญาณของธาตุดินสั่นสะเทือน  และลมที่ไร้ลักษณ์ซึ่งมีเต็มท้องฟ้า  หลังจากผ่านไปนานลินลี่ย์จึงค่อยลืมตา

“ใต้เท้าสั่งเอาไว้ว่าไม่ว่าใครหากไม่ได้รับอนุญาต จะไม่ให้เข้าไปขอรับ”

“แม้แต่ข้าอย่างนั้นหรือ?”  เสียงของเยลพูดขึ้นอย่างจนใจ

“พี่ใหญ่เยล, เข้ามาเถอะ” ลินลี่ย์ยิ้มเต็มหน้า และเขาลุกขึ้นยืนทันที ตอนนี้เยลจึงเดินเข้ามาได้ เมื่อเห็นลินลี่ย์  เขาหัวเราะ  “น้องสาม ข้ารู้นะ เจ้ากำลังฝึกอีกแล้ว ทำไมเจ้าถึงฝึกหนักนักเล่า? เจ้าเป็นนักสู้ระดับเซียนชั้นสูงแล้ว พลังของเจ้าเหลือเชื่ออยู่แล้ว”

ลินลี่ย์ชำเลืองมองเยลและหัวเราะ

สำหรับเยลแล้วลินลี่ย์สามารถนับได้ว่าเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานในทวีปยูลาน  แม้แต่จักรพรรดิของจักรวรรดิโอเบรียนก็ยังต้องมีมารยาทกับลินลี่ย์อย่างเหลือเชื่อ  แต่หลังจากได้คุยกับฮ็อดเดิลแล้ว  ลินลี่ย์รู้ว่าเขายังห่างจากคำว่าพออีกมาก

“มาเถอะ ดื่มเหล้ากับข้าหน่อย  ข้าไม่ค่อยมีโอกาสดื่มกับเจ้าในวันนี้เลย”  เยลวางแก้วเหล้าลงที่โต๊ะหิน

ลินลี่ย์นั่งลงเช่นกัน จากนั้นดึงแก้วเหล้าออกมาจากแหวนเก็บสมบัติของเขา

“น่าเสียดายที่น้องสี่ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและถอนหายใจ  หนึ่งเดือนที่แล้ว เมื่อจักรพรรดิโจฮันน์ประกาศถึงผู้ที่จะได้แต่งงานกับธิดาเขา  เรย์โนลด์ก็ไปจากเมืองหลวง

“เขาไม่มีทางเลือก  กองทัพได้สั่งให้เขากลับ  เขาต้องไป” เยลพูดอย่างจนใจ “ล่าสุดเขาเพิ่งจะจากไปทำให้เราสามพี่น้องไม่สามารถเจอกันได้  น้องสี่ยังไม่เลวนักหรอก  แต่น้องรอง... ถ้าเราต้องการพบเขา  เราก็ต้องไปจักรวรรดิยูลาน”

ระยะทางจากจักรวรรดิยูลานไปจักรวรรดิโอเบรียนไกลมาก

การได้พูดคุยกับพี่น้องร่วมรุ่นของเขาทำให้ลินลี่ย์รู้สึกร่าเริง ทำไมเขาต้องยกเลิกการไปพิภพเบื้องสูงและร่วมไล่ล่าสังหารด้วยเล่า?

ส่วนที่น่าเพลิดเพลินที่สุดของการฝึกอบรมพลังทางจิตก็มีความเข้าใจมากขึ้นด้วยไม่ใช่เรื่องการเข่นฆ่านองเลือด

“น้องสาม ในอีกไม่กี่วัน ข้าก็จะไปจากเมืองหลวงด้วยเช่นกัน”  เยลถอนหายใจอย่างตื้นตัน  “ไม่มีอะไรมาก ข้ายังอายุน้อย  มีหลายอย่างมากมายที่หอการค้าต้องการให้ข้ารับมือจัดการ  มิฉะนั้น ในอนาคตข้าจะไม่มีคุณสมบัติได้จัดการ”

ลินลี่ย์เข้าใจ

องค์กรใหญ่ระดับหอการค้าดอว์สันจะไม่ตบรางวัลให้ได้รับตำแหน่งผู้นำเพียงเพราะบิดาของเขายกตำแหน่งให้แน่นอน  มิฉะนั้นหอการค้าดอว์สันคงจะไม่รุ่งเรืองเหมือนปัจจุบันนี้  แน่นอนว่าการเป็นลูกชายของประธานหอการค้าย่อมได้เปรียบแต่เขาจำเป็นต้องมีความสามารถและมีประวัติการทำงาน

“เดือนหน้าโอลิเวอร์จะสู้กับเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนแล้ว นั่นหมายความว่าเจ้าจะพลาดไม่ได้ชมใช่ไหม?”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“ใช่แล้ว” เยลหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ  “ข้าเป็นแค่จอมเวท  แค่ดูการสู้รบระหว่างนักรบระดับเซียน จะทำให้มีความเข้าใจได้แค่ไหนกันเชียว?”

ลินลี่ย์วางแก้วเหล้าและมองดูที่ประตู  “มีคนกำลังมา”

“ใคร?” เยลงง “ใครบางคนรู้ว่าเจ้ามาที่นี่หรือ?”

“สองคนนั้นมาจากวิทยาลัยเทพสงคราม”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น

ยอดฝีมือระดับเซียนใช้พลังจิตตรวจสอบพื้นที่ได้  คฤหาสน์ค่อนข้างเล็กสามารถตรวจสอบได้ง่าย  เป็นธรรมดาอยู่เองที่พวกเขาสามารถตรวจสอบหาลินลี่ย์ได้ง่าย

คาสโตรและแลงค์เดินเข้ามาที่หลังลานฝึกคู่เคียงกัน  พวกเขาประหลาดใจมากกับการแนะนำของอาจารย์

“แม้ว่าพลังของลินลี่ย์จะนับว่าไม่เลว แต่ไม่มีความจำเป็นที่อาจารย์ต้องทำเช่นนี้”  แลงค์ส่ายศีรษะ

“ข้าไม่เข้าใจเหมือนกัน”  คาสโตรรู้สึกมึนงง

ทั้งสองคนสับสน  เมื่อเดินเข้าไปที่ลานฝึกหลังบ้าน  พวกเขาเห็นว่ายามประตูเปิดประตูรอเขาไว้แล้ว  คาสโตรและแลงค์มองหน้ากันเอง

“ลินลี่ย์รู้แล้วว่าเรากำลังมา”

คาสโตรและแลงค์เห็นลินลี่ย์นั่งอยู่ข้างเยลแทบจะทันที  เมื่อเห็นเยลอยู่ที่นี่ด้วย ทั้งสองคนขมวดคิ้ว

เยลลุกขึ้นยืนทันที  “น้องสาม มีคนมาพบเจ้า  ทำไมเจ้าไม่สนทนากับพวกเขาเล่า?  ข้าจะกลับไปที่ห้องโถงใหญ่เดี๋ยวนี้และ”

ลินลี่ย์พลักหน้า..

หลังจากเยลออกไปแล้ว  คาสโตรและแลงค์ก็นั่งลง  ลินลี่ย์ถาม “ท่านคาสโตร ท่านแลงค์ทำไมพวกท่านถึงมาที่นี่ได้เล่า?”

คาสโตรหัวเราะ  “ลินลี่ย์,เราสองคนมาเพื่อส่งคำเชิญจากอาจารย์ขอให้เจ้ามาเยี่ยมที่วิทยาลัยเทพสงคราม”

“เทพสงครามกำลังจะเชิญข้าไปที่วิทยาลัยเทพสงครามหรือ?”  ลินลี่ย์รู้สึกยากจะเชื่อได้

คนอย่างเทพสงครามจะยอมเชิญเขาหรือ?

แลงค์พยักหน้า  “ลินลี่ย์, อาจารย์สั่งให้เรารับเจ้ามาที่วิทยาลัยเทพสงครามจริงๆ และนอกจากนี้อาจารย์ยังสั่งให้ศิษย์พี่ของเรารอต้อนรับเจ้าเป็นการส่วนตัว  ลินลี่ย์, เจ้าต้องเข้าใจก่อนแม้แต่เมื่อเซียนดาบเจ้าภูผาเฮนด์เซนมาเยี่ยมวิทยาลัยเทพสงครามในอดีต  ศิษย์พี่ของเรายังไม่ออกมาต้อนรับเขาเอง”

“โอว?”

ลินลี่ย์รู้สึกทึ่ง  ศิษย์พี่ผู้นี้จากวิทยาลัยเทพสงครามเป็นใครกัน

“ศิษย์พี่ของท่านน่าจะเป็นศิษย์คนแรกของเทพสงครามใช่ไหม?เดี๋ยว.. เขาอายุเท่าใด?” ทันใดนั้นลินลี่ย์ตระหนักได้ทันที โอวสวรรค์ เทพสงครามคือคนที่ถึงระดับเซียนเมื่อเกินกว่าห้าพันปีที่แล้ว

คาสโตรกับแลงค์ยิ้มทั้งคู่

“ถูกแล้วศิษย์พี่ใหญ่ของเรามีอายุห้าพันปีแล้ว เขาอ่อนกว่าอาจารย์ไม่มาก” คาสโตรพยักหน้า “เราแปลกใจมากเหมือนกัน เมื่อได้ยินอาจารย์สั่งให้ศิษย์พี่ใหญ่ต้อนรับเจ้า”

ลินลี่ย์รู้ว่าเทพสงครามยอมรับศิษย์ส่วนตัวทุกๆสามร้อยปี

ศิษย์คนเล็กที่สุดก็คือบลูเมอร์อายุราวๆ สามสิบ ศิษย์คนโตที่สุดก็คือศิษย์พี่ผู้นี้และเขามีอายุห้าพันปี

“ตกลง จะให้ข้าไปเมื่อใด?” ลินลี่ย์ถามพลางหัวเราะ

“เจ้าสามารถมาวิทยาลัยเทพสงครามได้ทุกเมื่อ  เอาอย่างนี้เป็นไง?  นี่คือตราประจำตัวของข้าเมื่อเจ้ามาถึงวิทยาลัยเทพสงคราม ก็ยื่นให้ศิษย์คนหนึ่งของเราพวกเขาจะแจ้งให้ข้าทราบ”  คาสโตรพลิกมือยื่นเหรียญตราสีแดงสลักชื่อของคาสโตรไว้

ลินลี่ย์รับตราไว้  เขาหัวเราะและพยักหน้า  “ไม่ต้องห่วง ข้าจะไปแน่นอน”

คาสโตรและแลงค์พยักหน้า  จากนั้นค่อยจากมา

ลินลี่ย์ลอบสงสัยกับตัวเอง...ถ้าศิษย์พี่ของวิทยาลัยเทพสงครามมีอายุห้าพันปี เขาจะแข็งแกร่งทรงพลังมากขนาดไหน?

หรือว่าเขาจะอ่อนมากกว่าเซียนดาบจ้าวภูผา?

ลินลี่ย์ไม่เชื่อเท่าใดนัก เซียนดาบจ้าวภูผาอายุไม่กี่ร้อยปีขณะที่ศิษย์พี่ใหญ่ฝึกฝนอยู่ในวิทยาลัยเทพสงครามมาหลายพันปีโดยได้รับคำแนะนำจากเทพสงครามเป็นส่วนตัวเขาจะไม่แข็งแกร่งได้อย่างไร?

ยอดเขาหลักของภูเขาเทพสงครามเต็มไปด้วยอาคารมากมาย นี่คือสถานที่ให้ศิษย์กิตติมศักดิ์ของเทพสงครามพักอยู่  รวมทั้งเคนยอนคาสโตรและแลงค์ซึ่งรับดูแลกิจกรรมเดิมทั้งน้อยทั้งใหญ่ของภูเขาเทพสงคราม

วันนี้ลมภูเขารุนแรงมาก ศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงครามหลายคนกำลังฝึกฝนอยู่

“ฮ่าาาาห์!”

ก้อนหินหนักหลายสิบตันถูกคนผลัดกันโยนไปมา  อีกคนหนึ่งก็เตะมันกลับคืนมา...ศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงครามสองคนสามารถเตะก้อนหินขนาดใหญ่อย่างง่ายดาย

ที่สำคัญที่สุด  ก้อนหินไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย

นี่จำเป็นต้องควบคุมทั้งพลังกายและปราณยุทธให้ดี

เวลานี้ร่างสง่างามร่างหนึ่งปรากฏตัวทะยานข้ามฟ้าเหมือนควันสีฟ้าจากนั้นบินโค้งรอบภูเขาเทพสงครามอย่างสง่างามและในพริบตาก็มาถึงที่วิทยาลัยเทพสงคราม

“หืม?” หนึ่งในศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงครามมองดูผู้มาถึงด้วยความประหลาดใจ  เขาไม่เคยเห็นใครมาก่อน  แต่แล้วจู่ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นทันที

“ท่านคือ... อาจารย์ลินลี่ย์หรือ?”  ศิษย์กิตติมศักดิ์ยังจำเขาได้  วันประลองที่สนามประลองศิษย์กิตติมศักดิ์ไปเชียร์บลูเมอร์

ลินลี่ย์ยิ้มพยักหน้า  “ท่านคาสโครเชิญข้ามา  นี่คือเหรียญตราของเขา โปรดแจ้งเขาด้วย”  ลินลี่ย์โยนเหรียญตราให้ศิษย์กิตติมศักดิ์

ศิษย์กิตติมศักดิ์รีบกล่าว  “ข้าจะไปแจ้งเดี๋ยวนี้  อาจารย์ลินลี่ย์โปรดพักก่อน”

ลินลี่ย์พยักหน้า  งานหมั้นของวอร์ตันผ่านมาสองวันแล้ว  และวันนี้ลินลี่ย์ยอมรับคำเชิญและเดินทางมาที่วิทยาลัยเทพสงครามต้องการจะเห็นทุกอย่างด้วยตัวเอง

“คนนั้นคืออาจารย์ลินลี่ย์  ข้าได้ยินว่าเขาอายุเพียง 27 ปีเอง”

“แม้แต่ศิษย์พี่เคนยอนยังพ่ายแพ้เขาอย่างง่ายดาย”

“ข้าอยู่ที่นั่นวันนั้นเพียงลงมือเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เทียบกับลินลี่ย์แล้ว ศิษย์พี่เคนยอนอ่อนแอกว่ามาก”

“ศิษย์พี่เคนยอนเป็นเพียงศิษย์ส่วนตัวคนที่ 25ของอาจารย์เรา ยังพอเข้าใจได้ว่าเขาอ่อนแอกว่าเล็กน้อย  มีแนวโน้มว่าศิษย์พี่คาสโตรน่าจะพอๆกับลินลี่ย์ ถ้าศิษย์สิบคนแรกของอาจารย์ลงมือสู้พร้อมกัน ก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะเอาชนะลินลี่ย์ได้ง่าย”

ศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงครามหลายคนแอบนินทากันเบาๆขณะที่มองดูลินลี่ย์ ศิษย์กิตติมศักดิ์ทุกคนเหล่านี้เป็นอัจฉริยะในแบบของตนและพวกเขามีความหยิ่งภูมิใจกันทุกคน แต่เมื่อเทียบกับลินลี่ย์แล้ว พวกเขายังต้องเดินทางอีกไกล

“ลินลี่ย์” เสียงสดใสดังขึ้น

คาสโตรวิ่งออกมาสีหน้าของเขามีรอยยิ้ม  “เจ้ามาถึงจนได้มาเถอะ ไปยอดเขาสายฟ้ากัน”

“ไม่ใช่ที่นี่หรือ?”  ลินลี่ย์งง

เห็นได้ชัดว่ายอดเขาหลักเป็นพื้นที่ก่อสร้างใหญ่โตที่สุด  ยอดเขาอีกสี่ยอดไม่มีสิ่งปลูกสร้างมากนัก

คาสโตรหัวเราะ เรามีศิษย์กิตติมศักดิ์อยู่ที่นี่วิทยาลัยเทพสงครามมาก ดังนั้นเราจึงให้พวกเขาพักอยู่ที่ยอดเขาหลัก  ตัวข้าเอง, แลงค์ เคนยอน ทุกคนต้องอยู่ที่นี่เพราะเราต้องดูแลพวกเขา  ศิษย์ทุกคนที่เหลือจะอยู่ตามยอดเขาต่างๆ”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

คาสโตรนำทางลินลี่ย์ทันทีไปยังอีกยอดเขาหนึ่ง ลินลี่ย์และคาสโตรเดินขึ้นไปบนผนังเขาสูงชันได้ง่ายราวกับว่าพวกเขาเดินบนพื้นราบ  ก้าวย่างของพวกเขาดูสง่างามเหมือนนกบิน

“ท่านคาสโตรท่านเป็นศิษย์ส่วนตัวคนที่เท่าใดของเทพสงคราม?” ลินลี่ย์ถาม

“ข้าน่ะหรือ? ข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวคนที่ 22” คาสโตรหัวเราะ

“ตอนนี้ท่านถึงระดับเซียนชั้นสูงแล้วใช่ไหม?”  ลินลี่ย์ถาม เมื่อเขาอยู่ที่ลานฝึก เขาได้ยินศิษย์กิตติมศักดิ์พูดว่าคาสโตรน่าจะพอๆกับเขา นี่คือเหตุผลที่ลินลี่ย์ถามคำถามนี้

คาสโตรพยักหน้า  “ถูกแล้ว แต่ข้าอาจยังไม่ใช่คู่ต่อกรกับเจ้า ความเร็วของเจ้าน่าทึ่งมาก แทบจะพอๆ กับโอลิเวอร์”

ลินลี่ย์คิดไม่หยุด

แม้แต่ศิษย์ส่วนตัวคนที่22 ก็เป็นระดับเซียนชั้นสูงแล้ว อย่างนั้นรุ่นก่อนๆ นั้นจะขนาดไหน?

“ท่านคาสโตร, เซียนดาบเจ้าภูผาเฮนด์เซนเป็นเซียนหมายเลขหนึ่งในโลก เขาเคยประลองกับศิษย์พี่ใหญ่ของท่านบ้างหรือไม่?”  ลินลี่ย์ถาม

“ไม่มีทาง”

คาสโตรหัวเราะอย่างไม่ตั้งใจ “แม้ว่าเฮนด์เซนจะเข้าใจและบรรลุกฎธรรมชาติธาตุดินแล้วก็ตาม แต่วิทยาลัยเทพสงครามก็มีคนแข็งแกร่งมากกว่าเขาสองสามคน  เหตุผลที่เฮนด์เซนมีชื่อเสียงเป็นเพราะศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่รองล้วนแต่มีอายุห้าพันปีขึ้นไปทั้งนั้นและถอนตัวจากวงการมาหลายพันปีแล้ว  แล้วพวกเขาจะไปท้าทายแข่งขันกับผู้เยาว์อายุไม่กี่ร้อยปีเพื่อความรุ่งเรืองหรือชื่อเสียงอะไรอีก?”

ลินลี่ย์เข้าใจทันที

“แม้ว่านอกเหนือจากวิทยาลัยเทพสงครามของเรา ข้ายังรู้จักคนอื่นที่ทรงพลังมากกว่าเขาเช่นกัน  ตัวอย่างเช่น ราชันย์มือสังหารซีซาร์  เมื่อพันปีที่แล้ว  ซีซาร์มาร่วมซ้อมฝีมือกับศิษย์พี่ใหญ่  และพวกเขาทั้งสองคนมีฝีมือเสมอกัน  ข้านึกภาพว่าถ้าซีซาร์ต้องการลงมือกับเฮนด์เซน  เขาสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย”คาสโตรพูดอย่างจริงจัง

ลินลี่ย์สะดุ้ง

ซีซาร์?

ดูเหมือนคาสโตรจะไม่รู้ว่าซีซาร์เข้าถึงระดับเทพแล้วแต่ศิษย์พี่ใหญ่ของเขาก็ได้ประลองกับซีซาร์ซึ่งพลังยังหยุดนิ่งอยู่เมื่อพันปีที่แล้วก็มีแนวโน้มว่าเขาน่าทึ่งจริงๆ

“เรามาถึงยอดเขาสายฟ้าแล้ว  มาเถอะข้าเองก็ไม่ได้พบกับศิษย์พี่ใหญ่นานแล้วเหมือนกันอาจารย์มักบอกว่าในหมู่พวกเราที่เป็นศิษย์ส่วนตัว พี่ใหญ่มีแนวโน้มว่าจะไปถึงระดับเทพได้” หน้าของคาสโตรเต็มไปด้วยความมั่นใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด