ตอนที่แล้วตอนที่ 247 แผนต่อเนื่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 249 ชนะ

ตอนที่ 248 ดาบเพลิงบิน


อีกด้านหนึ่งของเมืองม่อเฉิง

“เจ้าคิดว่าใครจะชนะ?”  บุรุษวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานถามอย่างสง่างาม  เขาคือประมุขตระกูลม่อรุ่นปัจจุบัน ม่อเว่ยเทียน  ขณะที่คนที่อยู่ด้านข้างของเขาสวมชุดมอมแมมรองเท้าสกปรกมองดูเหมือนชาวนา ความจริงเขาคือปรมาจารย์เครื่องจักรกลของตระกูลม่อม่อเหล่ง

“ยากจะบอกได้” ม่อเหล่งพูดอย่างอิจฉา

ม่อเว่ยเทียนมีสีหน้าเย็นชา  “กลุ่มอาวุธสายเลือดไม่ใช่ตัวดีจริงๆ แต่ข้าสงสัยว่าอาวุธจักรกลที่สามารถทำให้พวกเขารู้สึกถูกคุกคามได้สงสัยจริงว่าเขาจะเหมือนอะไร?”

ทันใดนั้นเขาหันไปหาพ่อบ้านที่อยู่ข้างๆเขาและถาม “แล้วเจ้าได้พบอะไรมาบ้าง?”

พ่อบ้านรายงานอย่างเคารพ  “องค์การกลุ่มอาวุธสายเลือดมีความเข้มงวดและรักษาความลับเป็นอย่างดี โชคดีที่เราพบหนึ่งในพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกตระกูลม่อคนหนึ่ง เขาเป็นวิศวกรจักรกลอยู่ในกลุ่มนั้นมาเป็นเวลานาน อาจถือได้ว่าเป็นคนสำคัญก็ได้ประวัติของกลุ่มสาวไปได้เกินกว่าพันปี พวกเขาดำเนินงานประสบความสำเร็จมาหลายชั่วอายุคนและเป็นหนึ่งในองค์การที่อยู่ในสังกัดองค์การวิญญาณมืด พวกเบื้องบนเป็นสมาชิกขององค์การวิญญาณมืดทั้งหมด  แต่ภายในองค์การวิญญาณมืด  พวกเขามีระดับที่ไม่สูงนัก ราวๆ เจ็ดปีที่แล้ววิชาอาวุธจักรกลพลังสายเลือดของพวกเขาสร้างได้สมบูรณ์แบบ  อาวุธระดับสูงก็ทำได้สำเร็จมากขึ้น ปัจจุบันพวกเขามีอาวุธระดับสูงอยู่สามชุดซึ่งก็คือ คิงคอง, เหวยถัว, เย่ซา”

“โอวนั่นก็หมายความว่าหลิ่วย่าจือมีระดับที่สูงใช่ไหม?”  ม่อเว่ยเทียนลูบคิ้ว “ข้าจำได้ว่าอาวุธสายเลือดของเขาก็คือคิงคองใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว!”  พ่อบ้านตอบด้วยความเคารพ “แต่อาวุธระดับสูงสามชุดนี้ทำให้กลุ่มต้องหมดเงินทุนไปมาก  และตอนนี้พวกเขากำลังต้องการเงินทุน”

วิชาจักรกลนับว่าล้างผลาญเงินทองจริงๆ  และไม่มีใครเข้าใจเรื่องนี้ดีไปกว่าม่อเว่ยเทียนแล้ว กลุ่มอาวุธสายเลือดมาพบกับตระกูลม่อต้องการได้รับเงินทุนที่จำเป็นและปรารถนาว่าด้วยช่องทางที่มากมายของตระกูลม่อ  พวกเขาจะสามารถผลิตอาวุธพลังสายเลือดได้เป็นจำนวนมาก

“คิงคองแข็งแกร่งมากอย่างแท้จริง”  ม่อเหล่งพูดขึ้นทันที  “มันแข็งแกร่งกว่าหอคอยห้าวหาญเสียอีก”

เขาคือปรมาจารย์วิศวจักรกลและด้วยรูปลักษณ์นี้เอง เขาสามารถกำหนดมาตรฐานอาวุธจักรกลได้   เพื่อดึงดูดตระกูลม่อ หลิ่วย่าจือไม่มีอดออมรั้งฝีมือของเขาแต่ประการใด และคิงคองได้แสดงพลังต่อตระกูลม่อเต็มศักยภาพของมัน

แม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะเจ็บปวดเมื่อม่อเว่ยเทียนได้ยิน  แต่เขารู้ว่าปรมาจารย์เหล่งพูดถูก  หอคอยห้าวหาญก็คืออาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันของตระกูลม่อ  แต่มันไม่อาจเทียบได้กับคิงคองในฐานะที่เป็นตระกูลเก่าแก่ทางด้านงานจักรกล ตระกูลม่อไม่มีทางยอมแพ้ในการฟื้นฟูงานจักรกลมาถึงจุดนี้พวกเขาและกลุ่มอาวุธสายเลือดตกลงกันแล้ว

เมื่อวิชาจักรกลตกต่ำไม่ว่าจะเป็นนักสู้สายอาวุธจักรกลหรืออาวุธจักรกล ก็ล้วนตกต่ำไปกันหมด

แต่,ม่อเว่ยเทียนและตระกูลของเขาไม่ชอบกลุ่มอาวุธสายเลือด  สำหรับเขาอาวุธสายเลือดไม่ใช่อาวุธจักรกลอีกต่อไป

ม่อเว่ยเทียนพูดอย่างเฉื่อยชา  “แต่เมื่อเห็นวิธีสกปรกของพวกเขาดูเหมือนความเชื่อมั่นของพวกเขายังไม่เพียงพอ”

พ่อบ้านตอบ“ข้าได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อหลิ่วย่าจือทดสอบคิงคอง  เขาได้พบกับนักสู้อาวุธจักรกลคนหนึ่งและพ่ายแพ้เขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด  ยอดฝีมือสองสามคนจากกลุ่มอาวุธสายเลือดร่วมกันล้อมจับศัตรูแต่ศัตรูยังกำจัดพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และเรื่องนี้เป็นเหตุให้เบื้องบนโกรธมาก”

“มิน่าเล่า!”  ม่อเว่ยเทียนตระหนักได้ทันทีนัยน์ตาเขาเป็นประกายและพูดอย่างครุ่นคิด “ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งมากกว่าคิงคอง! คนผู้นั้นมาจากไหนกัน? ข้าจะยอมทุ่มค่าใช้จ่ายเพื่อตามหาเขาให้ได้”

ประโยคสุดท้ายนั่นสำเนียงของเขาจริงจังมาก คิงคองของหลิ่วย่าจือมีพลังเพียงพอทำให้เขารู้สึกตกตะลึง  ถ้ามีอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งกว่าคิงคองนั่นก็หมายความว่า คนผู้นั้นมีพลังระดับอยู่ในทำเนียบสวรรค์วิถีมิใช่หรือ?

นั่นน่าตกใจเกินไปแล้ว

วิชาจักรกลจะถูกฟื้นฟูกลับมาได้จริงหรือ?

ม่อเว่ยเทียนไม่มั่นใจ

พ่อบ้านเห็นด้วยทันที

ม่อเหล่งผู้ไม่เคยละสายตาจากหิมะสายฟ้ากล่าวทันที“อาวุธจักรกลนั่นดูแล้วไม่ธรรมดาแน่นอน”

อาวุธจักรกลที่ดูเหมือนชำรุดนั้นในสายตาของม่อเหล่ง มันเคลื่อนไหวราวกับสุภาพสตรีชั้นสูง  หลายคนคงคิดว่ามันน่าเกลียดแต่ม่อเหล่งสามารถบอกได้ว่าโครงสร้างของมันสร้างตามหลักวิชาการแบบอย่างดั้งเดิมหลายอย่าง แม้ว่าจะแทบจำไม่ได้แต่ม่อเหล่งสามารถบอกได้ว่าต้นแบบเดิมมาจากกองทัพดาวกางเขนใต้

แต่ม่อเหล่งมีสีหน้าเฉยชางงงันมองดูไม่มั่นใจ เขาพึมพำกับตัวเอง “มันใช้เวลา 7.6 วินาทีได้อย่างไร?”

ผ่านการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งในเวลา7.6 วินาที นั่นเป็นสถิติที่น่าทึ่งอย่างแน่นอน

แม้แต่คิงคองของหลิ่วย่าจือก็ไม่สามารถทำได้

แต่โดยรวดเร็วทั้งสองคนไม่สนใจคุยต่อไป สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่ร่างสีน้ำเงินและแดงที่เคลื่อนไหวทันที

อาวุธของปะการังก็คือดาบยาวเมตรครึ่งใบดาบจะมีรังสีแดง ดาบแดงยิงรังสีจนเต็มท้องฟ้าทันที

เหมือนกับว่าถังเทียนติดอยู่ใต้พายุทำให้เขาปวดศีรษะ  ดาบของศัตรูบินอยู่ในอากาศอย่างต่อเนื่องและความรู้สึกถึงอันตรายที่กล้าแข็งทำให้หัวใจถังเทียนตื่นเต้น  ด้วยการเสริมจิตวิญญาณพลังยุทธของเขา สัญชาตญาณของเขาเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบสองเท่าจากเดิมที่เป็นสิบแปดเท่า

ข้าไม่สามารถลากออกไปได้ไกลกว่านี้

รังสีเย็นสายหนึ่งวาบผ่านอยู่ในดวงตาของถังเทียนเขากระแอมเบาๆ “หิมะสายฟ้าไปกันเถอะ!”

เหมือนกับว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาคิดถึงมัน  หิมะสายฟ้าเขาใจได้ทันที  มันปลดปล่อยพลังและวิ่งเข้าหาดาบ

วูบ วูบ วูบ

ทันใดนั้นลำแสงดาบเพลิงเจ็ดสายส่องเข้ามาในสายตาถังเทียนความระวังตัวของถังเทียนตื่นตัวในระดับสูง จิตวิญญาณพลังยุทธของเขาสั่น และสัญชาตญาณยี่สิบสองเท่าของเขา ทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวชัดเจนยิ่งขึ้น

กิ่งก้านสาขาของไม้บนพื้นถูกเผา  ปราณร้อนทำให้อากาศรอบตัวพวกเขาบิดเบี้ยว  ฝุ่นบนพื้นฟุ้งกระจายขึ้น

รังสีดาบเพลิงเจ็ดสายตัดขวางกันเป็นคลื่นโดยรอบเหมือนกับตาข่ายใหญ่  และพุ่งตรงหาถังเทียนไม่มีช่องว่าง

ไม่นะ!

มีพื้นที่เพียงเล็กน้อย

ดวงตาของถังเทียนสว่างเหมือนหินดวงดาวปราณแท้ในร่างของเขาไหลเวียนเข้าไปในร่างหิมะสายฟ้า  เขาโน้มตัวท่อนบนไปข้างหน้าพุ่งออกไปด้วยความเร็วขึ้นทำให้ลำแสงใบมีดแดงเพลิงบิดเบี้ยว ทันใดนั้นของเขากลายเป็นเหมือนตะปูที่ถูกค้อนตอกลงไปกับพื้นขุดลึกลงไปในดิน

เนื่องจากแรงเฉื่อยร่างกายท่อนบนของเขาดูเอียงผิดธรรมดา ทันใดนั้นเขาปล่อยพลังฝ่ามือออกมาทันที

ประทับหัตถ์ใหญ่

รังสีดาบในอากาศซึ่งกำลังฟันลงมาเปลี่ยนตำแหน่งฟันลงทันที

เมื่อประทับหัตถ์ใหญ่ปรากฏอยู่บนพื้น แทนที่เป็นเสียงดังบึ้มอย่างที่คาดแต่เป็นเสียงปั้บเบาๆ ดังออกมา

“หิมะสายฟ้า ลุย ลุย ลุย”

ถังเทียนตะโกนลั่นขาของหิมมะสายฟ้าที่จมลึกในพื้นพลันใช้แรงถอนออกมาและฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ทั้งสองเป็นเหมือนกระดานใสไร้รูป  ถังเทียนเลื่อนตัวไปข้างหน้า

ปุ ปุ ปุ!

รังสีดาบเจ็ดสายแฉลบผ่านหนังศีรษะของถังเทียนและตัดใส่พื้นข้างหลังเขา  ทิ้งรอยดาบเจ็ดสายไว้เบื้องหลัง

ม่อจื่อหวีคิดไม่ถึงว่าถังเทียนจะใช้วิธีนี้หลบรังสีดาบ

หิมะสายฟ้าที่ก้าวอยู่บนกระดานใสประทับหัตถ์ใหญ่มีความเร็วมากมันเลื่อนตัวไปเร็วจนตาเปล่ายากจะมองได้ทันเหมือนกับสายฟ้า

ระยะสองสามเมตรกลับดูใกล้ทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด