ตอนที่แล้วตอนที่ 245 ฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 247 แผนต่อเนื่อง

ตอนที่ 246 ตัวก่อปัญหา


ถังเทียนตะลึง  คนในกระจกแปลกตาเกินไปและกลิ่นอายที่เฉื่อยชาไม่อนาทรนั้นเป็นครั้งแรกสำหรับเขา  หลังจากนั้นชั่วขณะ จุดแหลมเล็กในม่านตาของเขาก็หายไปพร้อมกับกลิ่นอายที่เฉื่อยชานั้นอย่างเงียบๆโดยไม่รู้ตัว

นั่นต้องเป็นภาพลวงตาแน่!

ถังเทียนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าหนุ่มชาวฟ้านี้เป็นบุรุษเลือดอุ่นสีฟ้าอย่างแน่นอน  เขาหันหน้าเข้าหากระจกเงาและยิ้มเห็นฟันสีขาวหิมะพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นสดใส

ถังเทียนรีบผลักความสงสัยนี้ไว้เบื้องหลัง  จิตวิญญาณพลังยุทธที่เสริมพลังได้เพิ่มสัญชาตญาณให้กับเขา สัมผัสที่หกของเขาไวขึ้นและรอบตัวดูเหมือนจะเป็นโลกที่ซับซ้อนขึ้น

ถังเทียนต้องการเวลากับการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงนี้

“หิมะสายฟ้า มาทดสอบกันเถอะ!”

ทันทีที่ถังเทียนเริ่มควบคุมหิมะสายฟ้า  เขาสังเกตว่ามีความแตกต่างอย่างมาก หิมะสายฟ้าดูเหมือนจะมีความเข้าใจทุกอย่างได้เร็วขึ้นและมันฉลาดขึ้นมาก  ก่อนหน้านี้ เมื่อถังเทียนออกคำสั่งมันหิมะสายฟ้ามักจะลังเลอยู่บ้าง แม้ว่าจะอยู่ภายใต้การสนับสนุนให้กำลังใจของเขา  อาการลังเลใจเหล่านี้ถึงจะลดลงไปมากแต่ก็ยังคงมีอยู่

แต่ตอนนี้ถังเทียนไม่รู้สึกถึงความลังเลหรือชะงักงันเลย  หิมะสายฟ้าแทบจะมีปฏิกิริยาทันทีที่เขาคิด

หิมะสายฟ้ากลายเป็นฉลาดและแม่นยำขึ้น

สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจอย่างแท้จริงก็คือความคุ้นเคยของหิมะสายฟ้ากับวิทยายุทธสามรูปแบบเท้าดาบถานถุ่ย, ประทับหัตถ์ใหญ่และวังวนวิหคขาวที่ทำให้ประหลาดใจมากยิ่งขึ้นก็คือมันสามารถใช้ได้กระทั่งเคล็ดสังหาร

เป็นไปได้ไหมว่าเมื่อเขาใช้เพลิงวิญญาณของเขาฝึกให้หิมะสายฟ้า  ความเข้าใจของเขาในวิชาเหล่านี้หิมะสายฟ้าก็สามารถซึมซับรับเอาไปด้วย?

ถังเทียนคิดอยู่นานก็ยังไม่แน่ใจ เขาเลยถามหิมะสายฟ้าตรงๆ

“ใช่...ใช่แล้ว”

เสียงที่ไม่คุ้นเคยและห้าวดังขึ้นในใจของถังเทียน  ตาของถังเทียนแทบถลน ตกตะลึงผ่านไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเรียกความรู้สึกกลับมาได้ และถูกความตื่นเต้นครอบงำทันที  "หิมะสายฟ้า นั่นเจ้าหรือเปล่า?เมื่อกี๊..เจ้าพูดใช่หรือเปล่า?”

“ใช่” เสียงของหิมะสายฟ้าดังชัดมากกว่าเดิม  “ถังเทียน, ข้าคือหิมะสายฟ้า”

เสียงของหิมะสายฟ้าเหมือนกับเด็กน้อยขี้อาย

“ว้าว ว้าว ว้าว! หิมะสายฟ้าพูดได้ด้วย!” ถังเทียนแทบกระโดดโลดเต้นดีใจ นัยน์ตาของเขาเป็นประกาย “ข้าจะเพิ่มแก่นพลังวิญญาณให้เจ้า หิมะสายฟ้า เจ้าจะได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”

“โปรดอย่าทำ!”  หิมะสายฟ้าตอบเช่นนี้ทำให้ถังเทียนตะลึง  “ข้าถึงขีดจำกัดเท่าที่ทองอีกาจะทนได้แล้ว  ดังนั้นจิตวิญญาณพลังยุทธของข้าไม่อาจเสริมพลังมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว”

เมื่อตระหนักได้เช่นนั้นถังเทียนงง“อย่างนั้นข้าจะให้เซรีนช่วยเรื่องนี้”

“โปรดใช้เวลาช่วงนี้ฝึกฝนให้เต็มที่ดีกว่า” หิมะสายฟ้าเตือนถังเทียนด้วยน้ำเสียงแฝงความอาย  “ข้ายังแข็งแกร่งไม่พอ  ดังนั้นข้าขอเรียนวิทยายุทธทั้งสามของท่านดีกว่า  เราจำเป็นต้องมีวิชาอื่นๆ อีกโปรดอย่าเพิ่งวางใจ”

“หิมะสายฟ้าน้อย  เจ้าพูดถูก” ถังเทียนพูดขึงขัง  “มีเวลาอีกสามวันก่อนการแข่งขันจริง  เราต้องฝึกฝนอย่างหนัก!  ทีมสายฟ้ากะหิมะ สู้สู้สู้!”

หิมะสายฟ้าแย้งเสียงอ่อย  “โปรดอย่าทำอย่างนี้  คำว่าหิมะ เป็นชื่อผู้หญิง...”

“ไอ้หยา.. หิมะสายฟ้าน้อย  อย่าทำตัวเป็นจิตวิญญาณพลังยุทธที่เคร่งเครียดนักเลย  หลังจากการแข่งขันนี้แล้ว  ข้าก็ไม่ใช้อีกต่อไปแล้ว”  ถังเทียนพูดอย่างไม่ไยดี

“แต่ว่า....”

“อย่าเสียเวลาอีกต่อไปเลย!  ไปฝึกกันได้แล้ว!”

ถังเทียนหมกมุ่นกับการฝึกฝนของเขาเสียแล้ว

ขณะที่เวลาผ่านไปเขายิ่งเข้าใจอาวุธจักรกลได้ดีขึ้น อาวุธจักรกลและสมบัติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง   สมบัติดวงดาวนั้นมีพลังอยู่แต่แรกและนักสู้เพียงปลดปล่อยพลังเหล่านี้ออกมา ในขณะที่อาวุธจักรกลไม่มีพลังงานในตัวเองและมันจะใช้พลังจากนักสู้จนถึงระดับสูงสุดเท่านั้น

จิตวิญญาณพลังยุทธของอาวุธจักรกลและสมบัติดวงดาวก็มีการใช้งานที่แตกต่างเช่นกัน

จิตวิญญาณพลังยุทธของอาวุธจักรกลเป็นแกนระหว่างนักสู้และอาวุธจักรกลมันช่วยกรองปราณแท้ที่นักสู้ถ่ายเทเข้ามาในอาวุธจักรกลเพิ่มพลังปราณแท้ก่อนปล่อยออกมาในรูปวิทยายุทธ เหมือนกับสมองของอาวุธจักรกล

ในทางตรงกันข้ามจิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติจะอยู่ที่แก่นพลังสมบัติ  มันจะค่อยๆดูดซับพลังงานและเก็บกักเอาไว้ในสมบัติ วิธีนี้คล้ายกับการฝึกฝนพลังภายในของนักสู้

แต่ไม่ว่าจะเป็นอาวุธจักรกลหรือสมบัติก็ตาม ความสำคัญของจิตวิญญาณพลังยุทธไม่จำเป็นต้องพูดถึงกันแล้ว

ความรับรู้และประโยชน์เหล่านี้ลึกซึ้งเกินไปสำหรับถังเทียน

ขณะที่ถังเทียนและหิมะสายฟ้ากำลังซึมซับในการฝึกฝนของพวกเขาเสียงสับสนวุ่นวายดังมาจากนอกประตูและเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของเซรีนแว่วดังมา

ถังเทียนหยุดด้วยสีหน้าเย็นชา เขาควบคุมหิมะสายฟ้าวิ่งออกไป

เมื่อวิ่งมาถึงที่ทางเข้าลานเสียงบ่นของเซรีนดังจนได้ยิน

“เราเช่าบ้านหลังนี้ไว้แล้วเงินก็จ่ายไปและเซ็นสัญญาไปแล้ว เจ้ามีสิทธิอะไรถึงให้เรามายกบ้านให้เจ้า?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ถังเทียนเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นขณะที่เขาเดินออกมา

อาวุธจักรกลจำนวนหนึ่งรายล้อมประตูไว้  และบุรุษที่หน้าแหลมเหมือนหนูแค่นเสียงเย็นชา  “สัญญาหรือ? เราก็มีสัญญาฉบับคัดลอกเหมือนกัน จ่ายหรือ? เราก็จ่ายเหมือนกัน? ทำไม? ข้าต้องการที่ดินผืนนี้ ขึ้นอยู่กับเจ้าจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเจ้า หรือยังไง หึหึหึ”

การวิวาทกันของทั้งสองฝ่ายสร้างความสนใจให้กับคนหลายคน  คนส่วนใหญ่จำคนเหล่านี้ได้  พวกเขาคือนักเลงท้องถิ่นของเมืองม่อเฉิงและคนที่พูดก็คือม่อลิ่ว  ในเมืองม่อเฉิงคนแซ่ม่อมักจะมีสายสัมพันธ์กับตระกูลม่อ และม่อลิ่วเป็นนักเลงคุมถนนสายนี้  เขามักจะมีธุรกิจสกปรก แต่เนื่องจากตระกูลม่อปล่อยให้เขาเหิมเกริม  เขาจึงกลายเป็นนักเลงท้องถิ่น

พวกเขาเดินเข้ามาใกล้

คนจิตใจดีบางคนแนะนำเซรีน  “แม่นาง, ยอมถอยสักก้าวเถอะ  อย่าเอาพิมเสนไปแลกเกลือเลย”

เซรีนไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนั้นนางโกรธจนแทบจะร้องไห้

ม่อลิ่วยังคงโอหัง  เขามองเซรีนด้วยสายตาที่มีแววหื่นกระหาย  เขาเลียริมฝีปาก  “แหกตาให้กว้างไว้   นี่คือถิ่นข้า  แต่ข้าเห็นว่าเจ้าก็ดูดีเหมือนกันนะ หึหึ...”

ทันใดนั้นเงาร่างน้ำเงินปรากฏวูบอยู่ต่อหน้าคนกลุ่มนั้น

ปัง!

คำพูดของม่อลิ่วชะงักกระทันหันและเขาลอยละลิ่วเหมือนเหมือนกระสอบทรายก่อนจะร่วงลงกับพื้นอย่างหนัก  แรงเตะของหิมะสายฟ้าทรงพลังมากจนม่อลิ่วสลบเหมือดกับพื้นเลือดไหลออกจากมุมปากเขา

หิมะสายฟ้าปรากฏอยู่หน้าคนกลุ่มนี้

“กล้าดียังไงมาก่อเรื่องหน้าบ้านข้า  พวกเจ้าเบื่อหน่ายชีวิตกันแล้วใช่ไหม?” ถังเทียนส่งเสียงคำรามเย็นชาดังออกมาจากหิมะสายฟ้า

“บังอาจจริงๆ!”  บุรุษวัยกลางคนกระชากเสียง “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลม่อ”

ถังเทียนไม่สนใจคำต่อรองอะไรของพวกเขาและพูดตามตรง “เจ้าต้องการจะสู้หรือเปล่า?”

“อย่านึกว่าเป็นเพราะเจ้าสอบผ่านทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งได้...”

บุรุษวัยกลางคนยังไม่ทันพูดจบประโยคเมื่อร่างสีฟ้ามาปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาราวกับประกายไฟ หนังตาเขากระตุกและได้แต่อุทานในใจขณะถอยกลับทันที  เขาคาดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะดุร้ายขนาดลงมือก่อนเจ้าผู้นี้ไม่เห็นหรือว่าเขามีคนมากกว่า?

ฮึ่ม!

เงาขาร่างสีฟ้าเฉียดผ่านหน้าเขาไป

บุรุษวัยกลางคนค่อยรู้สึกโล่งใจและแหกปากตะโกน  “เนื่องจากเจ้าไร้เหตุผลเกินไป....”

ก่อนที่เขาจะได้ทันพูดจบประโยคม่านตาของเขาหดลีบกะทันหัน หน้าของเขาแสดงอาการหวาดกลัวเงาขาสีฟ้านั้นอยู่นอกเหนือหลักการวิทยาศาสตร์จริงๆมันงอและตวัดกลับในกลางอากาศขณะที่ดีดยิงดาบออกไปจากตัว  รังสีรูปขาสีทองพร่างพรายกระแทกเข้ากลางอกอาวุธจักรกลของเขา

เท้าดาบถานถุ่ย!

ปัง!

อาวุธจักรกลหนาแข็งไม่สามารถทนรับพลังเตะนี้ได้เหมือนกับว่าอกของเขาถูกค้อนหวดกระหน่ำจนกระอักเลือด  อาวุธจักรกลขนาดมหึมากระเด็นถอยหลังไปหลายหลา

เท้าดาบถานถุ่ยที่ใช้ออกโดยหิมะสายฟ้าทรงพลังน่าตกใจ  ดาบแสงน้ำเงินแข็งที่ยิงออกมามีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรและแข็ง

ไม่ต้องรอให้อาวุธจักรกลนี้ร่วงลงถึงพื้น ถังเทียนวิ่งเข้ามาถึงกลางวงอาวุธจักรกลที่เหลือ

คนกลุ่มนี้ยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจแม้แต่น้อย พวกเขารู้ว่าถังเทียนสอบผ่านทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงพาคนมาอย่างเพียงพอ  ด้วยอาวุธจักรกลเจ็ดชุดเรียงรายกัน  ต่อให้เป็นนักสู้สายจักรกลที่ทรงพลังที่สุดเขาก็ต้องคิดหนัก

ถังเทียนไม่แม้แต่จะทักทายพวกเขาและลงมือทันทีทำให้พวกเขาตะลึง

สหายของพวกเขาปลิวกระเด็นจากการโจมตีทีเดียวทำให้พวกเขาตะลึง

เมื่อหิมะสายฟ้าปรากฏตัวด้านข้างพวกเขา  พวกเขาสะดุ้งรู้สึกตัว แต่จากนั้นร่างสีน้ำเงินเลือนรางก็ปล่อยพลังเหมือนกับน้ำพุ

ปัง ปัง ปัง!

อาวุธจักรกลสองเครื่องถูกโจมตีกระเด็น  อกของพวกเขามีรอยแตกอย่างเห็นได้ชัด  อาวุธจักรนั้นยังคงนอนอยู่กับพื้น  เห็นได้ชัดว่านักสู้สายจักรกลที่อยู่ในนั้นหมดสติไปแล้ว

ตาของถังเทียนเต็มไปด้วยเพลิงอำมหิต

เขาไม่เคยเป็นฝ่ายยั่วยุลงมือก่อน  แต่ทันทีที่เปิดศึก เขาไม่เคยถอยสักก้าว

อาวุธจักรกลเป็นเหมือนแว่นขยาย  พลังของมันตัดสินกันที่สามจุด  จุดแรกคือความสามารถของมัน  ประการต่อมาคือพลังของนักสู้และสุดท้ายก็คือความเข้ากันได้ระหว่างอาวุธจักรกลและนักสู้

ในบรรดานักสู้สายจักรกล  ถังเทียนเองมีความสามารถที่ทรงพลังแน่นอน

ความเข้ากันได้ระหว่างถังเทียนและหิมะสายฟ้าก็ถึงระดับเชื่อมใจถึงใจอันเนื่องมาจากการฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธ  แม้ว่าเนื่องจากข้อจำกัดธรรมชาติ หิมะสายฟ้าจะมีพลังด้อยกว่าพยัคฆ์ฟ้าอยู่มากก็ตาม แต่ความสามารถของมันก็ยังเหนือกว่าอาวุธจักรกลธรรมดามากมายนัก  เนื่องจากเซรีนต้องการใช้มันเปิดตัว

หิมะสายฟ้าแสดงพลังรบที่น่าตื่นตะลึง

ดาบที่รุนแรงพุ่งเข้ามาปานสายฟ้า

เท้าดาบถานถุ่ยวิทยายุทธระดับห้านี้ เมื่ออยู่ในเงื้อมมือของหิมะสายฟ้าก็ยิ่งใช้ออกได้อย่างน่าตื่นตะลึง

หิมะสายฟ้าไม่มีความเคลื่อนไหวอื่น ทันทีที่ระเบิดพลังมันก็มาปรากฏตัวต่อหน้าอาวุธจักรกลอื่นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า  อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีเวลาตั้งหลักแสงน้ำเงินวาบจากด้านล่างขึ้นมาบดบังการมองเห็นของเขาทัน

เลือดกระเซ็นออกจากกลางมีด

อาวุธจักรกลนี้ถูกผ่าเป็นสองส่วน  เท้าดาบถานถุ่ยของหิมะสายฟ้าครั้งนี้ผ่าอาวุธจักรกลของอีกฝ่ายจากตรงกลาง

“มีคนถูกฆ่า!  มีคนถูกฆ่า!”

สองสามคนที่เหลือตกใจจนคิดอะไรไม่ออก  พวกเขาเป็นแค่อันธพาลท้องถิ่น  ปกติพวกเขาสามารถขู่คนธรรมดาได้  แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่ง  พวกเขาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

อย่างไรก็ตามอยู่ต่อหน้าถังเทียน แล้วหันหลังให้นับเป็นการตัดสินใจที่เลวร้ายอย่างแน่นอน

ไม่จำเป็นต้องพูด  ถังเทียนโจมตีโดยตรง

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!

รังสีดาบสีน้ำเงินแหวกฝ่าอากาศ หิมะสายฟ้าเป็นเหมือนสายฟ้าน้ำเงินไล่ตามอาวุธจักรกลที่กำลังหลบหนี

อาวุธจักรกลที่เหลือวิ่งเตลิดเปิดเปิงสูญเสียการควบคุมทันทีกระแทกลงกับพื้นและนอนกับพื้นอย่างไร้ความรู้สึก

สถานที่นั้นเงียบราวกับป่าช้า

ทุกคนตกตะลึงกับการเคลื่อนไหวที่แข็งกร้าวและอำมหิตของถังเทียน  แม้แต่เซรีนได้แต่จ้องมองอาวุธจักรกลที่อยู่บนพื้นอย่างงุนงงตกตะลึงจนพูดไม่ออก

หลังจากนั้นชั่วขณะกลุ่มคนก็เริ่มซุบซิบกัน

“พวกเขาทำลงไปแล้ว  กล้าดียังไงถึงได้ล่วงเกินตระกูลม่อ!”

“พวกเขาได้ตายแน่!  ป้าของม่อลิ่วเป็นสมาชิกโดยตรงของตระกูลม่อ!”

… …

ตระกูลม่อ?

ถังเทียนมีประกายตาเย็นชา  มีบางอย่างแปลกๆ เกี่ยวกับพวกที่มาเยือน  ต้องมีบางคนวางแผนอยู่เบื้องหลัง

สิ่งที่ถังเทียนทำต่อมาทำให้ทุกคนตกตะลึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด