ตอนที่แล้วตอนที่ 9-11 ท้าทาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-13 การมาเยือนของเคย์ลัน

ตอนที่ 9-12 วุ่นวายราวกับตลาด


ลินลี่ย์ วอร์ตันบลูเมอร์และโอลิเวอร์หันไปมองจักรพรรดิโจฮันน์ด้วยความประหลาดใจแทบจะทันที

วันที่ 15 มีนาคมจักรพรรดิจะประกาศว่าใครจะได้แต่งงานกับองค์หญิงเจ็ดน่ะหรือ?

ในอดีตจักรพรรดิโจฮัน์ยังคงถ่วงเวลาเหมือนกับจะไม่ใช่คนใจร้อนแม้แต่น้อย ทั้งวอร์ตันและบลูเมอร์ก็คิดไม่ถึงเลยว่าจักรพรรดิโจฮันน์จู่ๆก็พูดเช่นนั้นออกมา

“นีน่า...” วอร์ตันหันไปมองนีน่า

นีน่าส่ายศีรษะและยังคงสับสน  “ข้าไม่รู้อะไรพระบิดาไม่ได้บอกอะไรในเรื่องนี้กับข้า” นางก็จ้องดูจักรพรรดิโจฮันน์อย่างสงสัยเช่นกัน  แต่เนื่องจากองค์หญิงเจ็ดเป็นสมาชิกราชตระกูล  การแต่งงานของนางไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถเลือกได้ด้วยตนเองทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินพระทัยของจักรพรรดิโจฮันน์

“องค์หญิง” ขณะนั้นเองนางกำนัลประจำวังเดินเข้ามาหา “ฝ่าบาทเตรียมเสด็จกลับแล้ว ได้เวลาเสด็จกลับแล้วเพคะ”

นีน่าพยักหน้า

จักรพรรดิโจฮันน์ห้ามไม่ให้นางออกจากวัง เหตุผลเดียวที่นางสามารถพบกับวอร์ได้ครั้งนี้เป็นเพราะการประลองในสนามประลองครั้งนี้หลังจากอำลาอาลัยวอร์ตันแล้ว นีน่าก็ติดตามราชตระกูลกลับและจากไป

กองกำลังของลินลี่ย์และวอร์ตันก็ถอยไปจากสนามประลอง

“โอลิเวอร์” ขณะที่ลินลี่ย์เดินผ่านไปด้านหนึ่งเขามองดูโอลิเวอร์และเห็นว่าโอลิเวอร์ยังมองมาที่เขาด้วยเช่นกัน

สุดยอดอัจฉริยะทั้งสองคนนี้ยังคงจ้องมองกันจากนั้นจึงค่อยต่างคนต่างออกจากสนามประลอง

นับตั้งแต่ผู้ชมแปดหมื่นคนได้เห็นเหตุการณ์ในสนามประลองในวันนี้แล้ววันที่ 4 กุมภาพันธ์ข่าวการประลองที่เสริมเข้ามาในสนามประลองทำให้ทั่วทั้งพระนครหลวงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นราวกับเกิดพายุโหม

หลายคนจากเมืองอื่นและจากมณฑลอื่นเมื่อเดินทางกลับ จะนำข่าวการประลองนี้กลับไปยังภูมิลำเนาของพวกเขาด้วยเช่นกัน

ลินลี่ย์เอาชนะเคนยอนได้อย่างง่ายดายและจากนั้นยังได้ต่อสู้กับโอลิเวอร์ จากนั้นโอลิเวอร์ได้ท้าทายเฮนด์เซน สามเหตุการณ์นี้กลายเป็นที่รับทราบกันอย่างรวดเร็วและข่าวลือเหตุการณ์เหล่านี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

ชื่อสียงของลินลี่ย์กลายเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองหลวงและยังแพร่กระจายไปทุกสารทิศด้วยเช่นกัน

เมืองหลวงถนนโบลเดอร์ นอกคฤหาสน์เคานท์วอร์ตัน รถม้าคันแล้วคันเล่ามาเยือน ทั้งหมดนั้นมาเพื่อเยี่ยมเยือนลินลี่ย์

ลานภายในคฤหาสน์

ลินลี่ย์ เยลและเรย์โนลด์นั่งอยู่ด้วยกันสนทนาพลางหัวเราะสนุกสนาน แม้ว่าจะมีขุนนางและคนผู้มีชื่อเสียงหลายคนมาชุมนุมรออยู่หน้าลานหน้าบ้าน  ลินลี่ย์ก็ไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขา

ความจริงขุนนางคนชั้นสูงเหล่านั้นคาดและเข้าเรื่องนี้อยู่เต็มหัวใจ สถานะคนอย่างลินลี่ย์จะยอมมาต้อนรับพวกเขาเป็นการส่วนตัวหรือ?

คนระดับลินลี่ย์อำนาจที่ยึดติดกับโลกธรรมดาไม่มีความหมายอะไรต่อเขา แม้แต่จักรพรรดิยังต้องมีมารยาทมากเมื่อต้องรับมือกับยอดฝีมือระดับเซียนและไม่กล้าแม้แต่จะถอนหายใจ

ไม่มีอะไรต้องสงสัย....

ตอนนี้ตระกูลบาลุคสร้างคนอย่างลินลี่ย์ออกมา  แต่แม้ว่าลินลี่ย์ไม่เคยเป็นขุนนางอยู่ในจักรวรรดิและแม้ว่าวอร์ตันจะมีบรรดาศักดิ์เป็นแค่เคานท์ ตระกูลบาลุคก็ยังอยู่เหนือตระกูลอื่นในพระนครหลวงอยู่ดี

“น้องสาม เจ้าซ่อนพลังและพรสวรรค์ของเจ้าเอาไว้  แต่ตอนนี้เจ้าเอาออกมาแสดงต่อหน้าผู้คนเจ้าทำให้คนสองสามคนต้องตกใจจริงๆ” เยลหัวเราะลั่น

เรย์โนลด์พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ใช่ ใช่แล้วข้าคำนึงอยู่ว่าศาสนจักรเจิดจรัสคงได้ปวดหัวอย่างหนักแน่ในคราวนี้”

เยลและเรย์โนลด์รู้เรื่องคดีที่ลินลี่ย์มีต่อศาสนจักรเจิดจรัส  เพราะพลังของศาสนจักรเจิดจรัสการที่พวกเขาจะฆ่าลินลี่ย์ที่มีระดับพลังในปัจจุบันนี้แทบเป็นไปไม่ได้

นี่เป็นความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะลินลี่ย์ในตอนนี้อยู่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิโอเบรียน ศาสนจักรเจิดจรัสคงไม่กล้าส่งยอดฝีมือระดับเซียนมา  เพราะกลัวว่าเทพสงครามจะเข้าใจผิด  ที่สำคัญนี่คือดินแดนของเทพสงคราม

“จัดการกับศาสนจักรเจิดจรัสน่ะหรือ?”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ข้าได้ฆ่าเป้าหมายหลักในการแสวงการแก้แค้นไปแล้ว สำหรับการจัดการกับศาสนจักรเจิดจรัสที่เหลือ  ข้าไม่ได้เร่งอยู่แล้ว  ในตอนนี้ ข้าไม่กลัวคนของศาสนจักรเจิดจรัสอีกต่อไป  แต่จะจัดการกับศาสนจักรเจิดจรัสได้นั้น...ข้ายังมีพลังไม่พอ”

ศาสนจักรเจิดจรัสมียอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูงอีกสองสามคน

ไฮเดนส์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนปัจจุบัน  ผู้นำวิญญาณของพวกโยคี ท่านใบไม้ร่วง, หัวหน้าตุลาการศาลศาสนจักรโอเซนโน  หัวหน้ามือปราบพิเศษสเตลห์และยังมีผู้นำของผู้คลั่งไคล้...

ห้ายอดฝีมือเฉพาะสเตลห์มีแนวโน้มว่าจะอ่อนแอที่สุดในกลุ่มนี้

ขณะที่อีกสี่คนไม่มีคนไหนที่จะประมาทได้เลย แม้แต่กับสเตลห์ ลินลี่ย์ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้โดยง่าย เหตุผลที่ลินลี่ย์สามารถเอาชนะเคนยอนได้ง่ายก็เป็นเพราะเคนยอนไม่มีอะไรมากไปกว่ายอดฝีมือระดับเซียนชั้นกลาง

“เมื่อร่างมนุษย์ของข้าเข้าถึงระดับเซียนและทักษะจอมเวทของข้าเข้าถึงระดับเซียน...”  นัยน์ตาของลินลี่ย์เป็นประกายดุร้าย

“เมื่อร่างมนุษย์ของเจ้าถึงระดับเซียนน่ะหรือ?”  เยลและเรย์โนลด์ชำเลืองมองกัน พวกเขาอดรู้สึกกังวลอนาคตของศาสนจักรเจิดจรัสไม่ได้

ถ้าลินลี่ย์เข้าถึงระดับเซียนในร่างมนุษย์  อย่างนั้นทันทีที่เขาแปลงกายแค่อาศัยพลังกายล้วนๆ ปราณยุทธ พลังป้องกันและความเร็วเขาก็มีระดับพลังที่น่ากลัวอยู่แล้ว สุดยอดนักรบได้รับการสรรเสริญว่าทรงพลังที่สุดในหมู่เซียนนักสู้ผู้แข็งแกร่ง  พวกเขาไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่หัวเราะ

รากฐานอันทรงพลังดังกล่าวผนวกกับสัจธรรมแห่งธาตุลมและสัจธรรมแห่งธาตุดินของลินลี่ย์....

พวกเขาเชื่อว่าเมื่อลินลี่ย์เข้าถึงระดับเซียนในร่างมนุษย์ อย่างนั้นสัจธรรมแห่งธาตุทั้งสองอย่างก็จะก้าวหน้าไปอีกระดับ  และตอนนั้น เมื่อเขาเข้าถึงความเป็นจอมเวทระดับเซียน...

เขาจะเป็นนักสู้ที่ไร้เทียมทานและสู้ระยะห่างไกล เวทของเซียนจอมเวทก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้

ถ้าคู่ต่อสู้ของเขาใช้ทักษะคลื่นมนุษย์แค่เวททำลายล้างอย่างเดียวก็สามารถทำลายพวกเขาได้แล้ว

“น่ากลัวเหลือเกิน” เยลและเรย์โนลด์ชักจะกลัวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ลินลี่ย์ในปัจจุบันก็เป็นยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูงอยู่แล้ว  ถ้าในอนาคตพลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่าในทุกด้าน .... ใครจะสามารถหยุดเขาได้?

“พอเถอะเรื่องนี้ไม่ต้องพูดอีกแล้ว”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น

เยลหัวเราะและพยักหน้า  “น้องสาม เจ้ารู้ไหม?ผู้เฒ่าของข้ายังคอยบอกให้ข้าจัดการเรื่องนี้ เรื่องนั้น  แต่หลังจากได้ยินว่าเจ้ามาถึงที่นี่  เขาเลิกกดดันข้าเลย ความจริงเขาสนับสนุนให้ข้าใช้เวลาร่วมกับเจ้ามากขึ้น  ข้าต้องบอกไว้ก่อน..หอการค้าของข้าขีดฆ่าข้อตกลงนี้เราถือว่าเจ้าเป็นผู้อาวุโสของหอการค้าของเราอย่างถูกต้อง”

ก่อนหน้านั้นที่เมืองเอกเบซิล เยลได้ให้เหรียญตราผู้อาวุโสกับลินลี่ย์

“ต่อให้เจ้าไม่มอบเหรียญตราให้ข้า  ถ้าหอการค้าดอว์สันมีปัญหายุ่งยากอะไรอาศัยความสัมพันธ์ของเรา พี่ใหญ่เยลข้าจะไปช่วยเจ้าแน่นอน”  ลินลี่ย์หัวเราะ

เยลรู้สึกอบอุ่นในใจและซาบซึ้งใจ

“พูดได้กินใจดี! มาเถอะ ดื่ม!” เยลชูแก้วดื่มฉลองทันที และลินลี่ย์กับเรย์โนลด์ก็หัวเราะด้วยกัน

หัวใจของผู้คนยากจะแยกแยะได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เติบโตแล้วคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเยลลินลี่ย์และเรย์โนลด์ที่จะยอมเชื่อถือผู้คนได้ง่าย  แต่สำหรับสหายที่ดีเหล่านี้พวกเขามีมิตรภาพผูกพันกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พวกเขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากความเชื่อถือไว้วางใจกัน

เป็นเรื่องยากที่ใครๆจะหามิตรแท้ได้

ลินลี่ย์และพวกพ้องรู้สึกโชคดีที่มีพี่น้องที่ดีเช่นนั้น

“พี่สาม” เรย์โนลด์เม้มปาก  “เจ้าแสดงพลังฝีมือดุจเทพยดาในครั้งนี้ที่สนามประลอง  แม้แต่ตระกูลดันสตันของเรายังส่งคนมาพบเจ้าเลย”

“พวกเขาส่งคนมาด้วยหรือ?”  ลินลี่ย์สะดุ้ง  “ใคร?”

“คนหนึ่งคือลุงทางฝ่ายพ่อข้า”  เรย์โนลด์พูดอย่างรังเกียจ  “แต่เขาไม่มีโอกาแม้แต่จะพบเจ้า”

ลินลี่ย์พยักหน้า  ลินลี่ย์ปฏิเสธที่จะพบกับใครก็ตามที่มาเยี่ยมเขา  แม้แต่จะเป็นคนจากราชตระกูลก็ถูกหมางเมินพอๆกัน

“ถ้าตระกูลของเจ้าต้องการพบกับข้าจริงก็แค่ให้ข้าไปหาก็ได้ และข้าจะไปพบกับพวกเขา” เขาจะเห็นแก่หน้าหนึ่งในพี่น้องของเขาแน่นอน

“ไม่จำเป็น” เรย์โนลด์ส่ายศีรษะ  “ข้าไม่พบกับคนในตระกูลข้าตรงๆ  อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตรงนี้แล้ว พี่สาม,เจ้ากลายเป็นผู้มีชื่อเสียงจริงๆ แล้ว นี่ทำให้ชีวิตของข้าง่ายขึ้นเช่นกัน หลายคนในตระกูลทำดีต่อข้าขึ้นมากเช่นกัน พวกเขารู้ว่าข้าเป็นพี่น้องกับเจ้า” เรย์โนลด์หัวเราะขณะมองดูลินลี่ย์  “พี่สามในอนาคต  ถ้ามีอะไรดีเข้ามาทางเจ้า  เจ้าก็ต้องดูแลข้าผู้น้องอยู่แล้ว เจ้าก็รู้”

“เจ้าเด็กวายร้าย”  เมื่อเห็นสีหน้าซุกซนบนใบหน้าของเรย์โนลด์ ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้  ขณะที่เขาทุบหยอก  “เจ้าก็อยู่ในกองทัพมาถึงเจ็ดหรือแปดปีแล้ว  แต่เจ้าก็ยังทำตัวแบบนี้อีก!”

สหายสนิทในหอพักหมายเลข1987  เยลเป็นคนประเภทเจ้าสำราญ  ขณะที่เรย์โนลด์เป็นคนที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดินและกล้าทำทุกอย่าง

“พี่สาม พี่ใหญ่เยลข้าเพียงแต่ทำอย่างนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกท่านเท่านั้น  อยู่ต่อหน้าทหารทั่วไปข้าก็ต้องคอยปั้นสีหน้าข้าอยู่ตลอด” เรย์โนลด์ตั้งใจปั้นสีหน้าเคร่งขรึม หน้าของเขาจึงเคร่งขรึมไปด้วย

ต้องบอกกล่าวว่าเมื่อเรย์โนลด์ปั้นสีหน้าแข็งเขาจึงจะมีมาดของทหารอยู่ในสายตาและความมุ่งมั่นของเขาด้วย

หลังจากคุยและหยอกล้อกันกับสหายสนิทแล้ว  หน้าของลินลี่ย์ก็เคร่งขรึมขึ้น  “พี่ใหญ่เยลน้องสี่มีบางอย่างที่ข้าต้องการให้ท่านทั้งสองช่วยข้าวางแผน”

“เรื่องอะไร?” เรย์โนลด์และเยลมองหน้าลินลี่ย์

เนื่องจากสถานะปัจจุบันของลินลี่ย์ยังมีอะไรที่เขาต้องกังวลอีกหรือ?

“เรื่องนี้เกี่ยวกับน้องชายของข้า  วันนั้นจักรพรรดิโจฮันน์ประกาศว่าในวันที่ 15มีนาคม เขาจะประกาศอย่างเปิดเผยในตำหนักผู้กล้าว่าใครจะได้แต่งงานกับองค์หญิงเจ็ด”  หน้าของลินลี่ย์เคร่งขรึมมาก

เรย์โนลด์และเยลพยักหน้าทั้งคู่

“น้องชายข้าวอร์ตันและองค์หญิงเจ็ดมีความรักต่อกันอย่างลึกซึ้ง  หากปราศจากองค์หญิงเจ็ดข้าเกรงว่าน้องชายข้าจะต้องตกอยู่ในความเจ็บปวดไปเป็นเวลานานข้าไม่อยากเห็นเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก และโดยเฉพาะกับตัวน้องชายข้าเอง” เสียงของลินลี่ย์เบาลงเรื่อยๆ

เรย์โนลด์และเยลมองหน้ากันเอง

พวกเขายังคงจำได้ว่าลินลี่ย์ถึงกับกระอักโลหิตออกมาในปีนั้นเมื่อเขาและอลิซเลิกคบหากัน  และจากนั้นจึงเกิดงานสลัก ‘ตื่นจากฝัน’ ที่ใช้เวลาสิบวันและสิบคืนโดยไม่ดื่มไม่กินอะไร

แม้ว่าลินลี่ย์จะไม่พูดอะไร พวกเขาทั้งสองคนก็เข้าใจว่านี่คือความเจ็บปวดลึกของลินลี่ย์

“น้องสาม ว่าไปเลยบอกเรามาต้องการให้เราช่วยอะไร” เยลพูดตามตรง และเรย์โนลด์พยักหน้าอยู่ข้างเขาเช่นกัน

ลินลี่ย์พยักหน้า  “ตอนนี้ ข้ามีแผนให้เลือกอยู่สองแผน  ถ้าจักรพรรดิโจฮันน์ตั้งใจเลือกน้องชายข้า  อย่างนั้นก็คงเป็นเหตุการณ์ที่น่ายินดี  แต่...ถ้าเขาเลือกบลูเมอร์...”

หน้าของลินลี่ย์เย็นชา

“ถึงเวลานั้นข้าจะไม่สนความจริงว่าเขาเป็นจักรพรรดิหรือว่าพี่ชายของบลูเมอร์แข็งแกร่งมากเพียงไหน ข้าจะช่วยน้องชายข้าพาองค์หญิงเจ็ดออกจากวังและให้พวกเขาหนีไปด้วยกัน  ถ้าใครพยายามหยุดข้า  ข้าจะฆ่าพวกเขา!”  รังสีฆ่าฟันสามารถเห็นได้ในดวงตาของลินลี่ย์

เรย์โนลด์และเยลอดรู้สึกสะท้านใจไม่ได้

คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ  แต่พวกเขาเข้าใจชัด ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ซึ่งลินลี่ย์นำมากับเขาความจริงก็คือนักรบอมตะและอีกสามคนมีพลังระดับเซียน  และนอกจากนั้นยังมีเสือดำเมฆาและบีบี

ยอดฝีมือระดับเซียนถึงหก!

เมื่อลินลี่ย์ตัดสินใจทุ่มสุดตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบีบีซึ่งไม่ได้อ่อนแอกว่าลินลี่ย์เลย  ทั่วทั้งเมืองหลวงจะต้องสั่นสะเทือนจากผลกระทบที่เกิดจากนักสู้ระดับเซียนถึงหก

“ข้าหวังว่าฝ่าบาทจะเลือกวอร์ตันนะ”  เรย์โนลด์และเยลภาวนาอยู่ในใจทั้งคู่

“น้องสาม” เยลมองดูลินลี่ย์อย่างเคร่งขรึม  “อย่าเพิ่งใจร้อน  ต่อให้เจ้าใช้กำลังพาองค์หญิงเจ็ดไปก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น”

“ข้าทราบ” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ข้าเพียงแต่พูดว่า ถ้ามีใครพยายามหยุดข้า  อย่างนั้นข้าจะฆ่าพวกเขา น้องชายข้าและตัวข้าปกติก็ไม่ได้มีความเข้าใจกิจการของเมืองหลวงของตระกูลท่านซึ่งนั่นคือสาเหตุที่ข้าหวังว่าพวกท่านทั้งสองจะช่วยข้าคิดแก้ปัญหานี้”

ตระกูลดันสตันและตระกูลดอว์สันทั้งสองตระกูลหยั่งอำนาจไว้ลึกมากและรู้หลายอย่างหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง

“น้องสาม ทำใจสบายเอาไว้กองกำลังของหอการค้าดอว์สันของข้ามีมาก เรามีนางกำลังและสาวใช้ที่เชื่อฟังคำของหอการค้าของเรา”  เยลพูดด้วยความมั่นใจ

เงินคือสิ่งอัศจรรย์  อำนาจเงินนั้นมีมากมหาศาล

“เมื่อข้ากลับไปแล้ว  ข้าจะคุยกับผู้เฒ่าของข้า  อย่ากังวล ผู้เฒ่าของข้าจะต้องช่วยและสนับสนุนเจ้าอย่างแน่นอน”  เยลหัวเราะ

ลินลี่ย์ก็มั่นใจเรื่องนี้เช่นกัน

ถ้าประธานหอการค้าดอว์สันปล่อยให้ข้อมูลนี้รั่วไปถึงจักรพรรดิ  เขาคงไม่เห็นผลกำไรอะไรมากนัก  ที่สำคัญหอการค้าดอว์สันไม่ขาดแคลนเงิน  แต่สำหรับยอดฝีมือจักรพรรดิไม่อาจสั่งยอดฝีมือระดับเซียนให้มารับใช้หอการค้าดอว์สันได้ใช่ไหม?

“ท่านควรจะรับผิดชอบเรื่องของพี่สามเป็นหลัก ที่สำคัญอำนาจหลักของตระกูลข้าอยู่ในมือกองทัพ”  เรย์โนลด์รู้ขีดจำกัดตนเองดี

ลินลี่ย์พยักหน้า

“อย่างนั้นข้าปล่อยให้ท่าน พี่ใหญ่เยล”  ลินลี่ย์พูดจริงจัง

เยลพยักหน้ามั่นใจ

หลังจากพ่อแม่ของเขาตายไป ลินลี่ย์มีญาติเหลืออยู่เพียงคนเดียวคือวอร์ตัน  ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาจะไม่ยอมปล่อยให้น้องชายต้องเจ็บปวด ถ้าจักรพรรดิโจฮันน์เลือกวอร์ตัน อย่างนั้นนั่นจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม แต่ถ้าเขาไม่เลือก...ลินลี่ย์ไม่ประสงค์จะเปิดเผยอำนาจแท้จริงกับเขาแล้วใช้กำลังฉุดนีน่าออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด