ตอนที่แล้วตอนที่ 236 สุสานกระบี่และกระบี่มหาสุญญตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 238 ติงตังกับผี่ผา

ตอนที่ 237 ของขวัญจากเซียนกระบี่


ไม่มีใครเห็นกระบี่ของเซียนกระบี่ลับ  ไม่ใช่ว่าพวกเขาเห็นไม่ชัดหากแต่พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะเห็น

มีรูบนคอของคนทั้งสี่โลหิตไหลนองพื้น พวกเขาตายหมดทุกคน

“กระบี่มหาสุญญตา...”เซี่ยชิงพึมพำกับตนเอง เขาสั่นอย่างเห็นได้ชัด เขาผู้แบกรับความรับผิดชอบยิ่งใหญ่ ในตอนนี้เขากลายเป็นศิษย์เซียนกระบี่ลับไปแล้ว  ตัวของเขาก็ต้องแบกความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น

“สหายของเจ้านับว่าไม่เลวเลยทีเดียวนับเป็นวาสนาที่เราได้พบพวกเขา ของเหล่านี้ถือเป็นของขวัญที่ข้าจะมอบให้พวกเขา”

เสียงของเซียนกระบี่ลับดังขึ้นมาจากสุสานกระบี่  เขาโบกแขนเสื้อประกายแสงสองสามสายลอยขึ้นมาจากสุสานกระบี่ และลอยเข้าหาพวกเขาสองสามคนและหยุดโดยอัตโนมัติ

บอลแสงที่ลอยอยู่ข้างหน้าถังเทียนมีการ์ดลอยอยู่ข้างใน

ภายในบอลแสงที่ลอยอยู่ข้างหน้าหลิงซิ่ว  เป็นกระพรวนลมเงินลูกหนึ่ง กระพรวนลมถูกสร้างด้วยเขาแกะที่ประณีตและละเอียดอ่อน

ข้างหน้าอาเฮ่อเป็นกระบี่เล่มเล็ก

ข้างหน้าติงตังเป็นการ์ดใบหนึ่ง

ข้างหน้าผู้เฒ่าบอดซอกำศรวลเป็นลูกบอลไหมอย่างดีลอยอยู่ในบอลแสง

ข้างหน้าบ่าวใบ้เป็นยาเม็ดลอยอยู่ในบอลแสง

“เสี่ยวถังสหายข้า,เจ้าฝึกฝนถึงขั้นจิตวิญญาณพลังยุทธเงินด้วยวัยขนาดนั้นนับว่าไม่เลวเลย กรงเล็บเพลิงภูตพรายของเจ้าจะเข้าในการจัดอันดับวิทยายุทธที่ไม่ซ้ำใคร  แต่ถ้าเจ้าต้องการจะกลายเป็นยอดฝีมือนักสู้ระยะประชิด  เจ้ายังถือว่าด้อยอยู่  การ์ดใบนี้ ข้าขอมอบให้เจ้า  เขาลำบากมาทั้งชีวิต  หัวใจของเขาไม่เคยสงบ แม้แต่ในเวลาตายเขาก็ไม่อาจปล่อยวางภาระของเขาได้ ข้าเป็นสหายกับเขามาหลายปี และใจข้าแทบทนไม่ได้เมื่อตอนเขาตาย  ข้าใช้กระบี่ผนึกปีศาจผนึกจิตวิญญาณพลังยุทธของเขาไว้และแปลงมันเป็นการ์ดขอมอบการ์ดใบนี้ให้เจ้า ข้าเองก็มีความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวเหมือนกัน ข้าไม่ต้องการให้ทักษะที่สมบูรณ์ของสหายเก่าของข้าสาบสูญไป  เจ้ามีความสามารถบรรลุวิทยายุทธที่ใหม่ขึ้นได้  ดังนั้นพรสวรรค์ของเจ้าถือว่าดีมาก ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถรู้แจ้งพลังในการ์ดใบนี้”

หลังจากพบเซียนกระบี่ลับ  นี่ถือว่าเขาพูดมากที่สุดแล้ว  แม้แต่กับเซี่ยชิงเขาก็ยังไม่พูดมากนัก

ถังเทียนตรวจดูการ์ดอย่างสงสัยดูอย่างผิวเผินนัยน์ตาของเขาไม่ค่อยพอใจ

“นี่มันการ์ดวิชาอะไร?”  ถังเทียนอดเงยหน้าถามไม่ได้

“ข้าไม่รู้” เซียนกระบี่ลับพูดอย่างเฉยเมย“เขาฝึกวิชาหมัดมวย และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทุกสำนัก ชื่อของเขาก็คือซังกู่ได้รับยกย่องในรุ่นเขาว่าแข็งแกร่งที่สุดและหมัดแข็งที่สุด

ติงตังสีหน้าเปลี่ยนขณะที่นางตะโกนอย่างประหลาดใจ “หมัดเหล็กกลืนแสงซังกู่”

“เขาดังมากเลยเหรอ?”ถังเทียนมองติงตังอย่างประหลาดใจ

“เขาดังมากเชียวล่ะ” ติงตังแสดงสีหน้าชัดเจน“เขาเป็นจอมยุทธหมัดมวยที่โดดเด่นที่สุดในยุคของเขาหมัดเหล็กกลืนแสงของเขา  กล่าวกันว่ามันสามารถดูดกลืนแสงรอบๆ ตัวเขาได้  เขาได้รับยกย่องในฐานะจอมยุทธหมัดมวยจนแทบจะกลายเป็นเซียนหมัดมวยแล้ว”

“ว้าว... กินได้กระทั่งแสง แข็งแกร่งทรงพลังมาก!”ถังเทียนตะโกนอย่างตื่นเต้น

เมื่อเซียนกระบี่ลับพูดจบ  เขาไม่สนใจถังเทียนต่อไปและหันไปทางหลิงซิ่ว “กระพรวนลมเขาแกะนี้คือสมบัติเดิมที่ติดอยู่กับหอกในมือของเจ้าและนี่ก็คือสมบัติจากกลุ่มดาวแกะ ทันทีที่ตกอยู่ในมือของเจ้าเจ้าอาจบอกได้เลยว่าข้าคืนสมบัติเก่าให้เจ้าของที่คู่ควร”

หลิงซิ่วตะลึง  สมบัติเก่าที่เป็นของติดหอกของเขาเอง  เขายกกระพรวนลมเขาแกะเทียบกับหอกเงิน ทันใดนั้นพู่สีแดงจากหอกเงินมีด้ายสีแดงสองเส้นยืดออกมาและเชื่อมเข้ากับกระพรวนลมเขาแกะเอง

หลิงซิ่วตกตะลึงเป็นไปได้ยังไง เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหอกนี้มีกระพรวนอยู่ด้วย?

จากนั้นเซียนกระบี่ลับหันหน้าไปทางอาเฮ่อ“พรสวรรค์ของเจ้าสูงที่สุดในบรรดาทุกคน หัวใจกระบี่ของเจ้าแข็งแกร่งและมั่นคงแต่น่าเสียดาย... สมบัติระดับเงินนี้มาจากกลุ่มดาวอันโดรเมดา กระบี่ร่มมุก  ข้าขอมอบให้เจ้า

อาเฮ่อขอบคุณเขาอย่างสงบ  “ขอบคุณ!”

พูดจบเขายื่นกระบี่กระเรียนที่ยังอยู่ในฝักแทงใส่กระบี่เล็กอย่างคล่องแคล่วและกระบี่น้อยถูกดูดเข้าไปหากระบี่กระเรียน

อาเฮ่อรู้ความลับของกระบี่เขากระตุ้นกระบี่เล็กเบาๆ ทำให้เกิดเสียงดังแคล้งๆๆ กลายเป็นกระบี่น้อยสิบสองเล่มเหมือนกับร่มน้อย กระบี่เหล่านั้นลอยคว้างอยู่เหนือหัวอาเฮ่อ

แววชื่นชมปรากฏอยู่ในดวงตาเซียนกระบี่ลับ  ด้วยการให้เกียรติพรสวรรค์เรื่องกระบี่อาเฮ่อทรงพลังอย่างน่าทึ่ง

จากนั้นเขาหันไปทางติงตัง  “การ์ดที่อยู่ต่อหน้าเจ้าเรียกว่าผงไร้รูป”

เขาหันหน้าไปทางชายชราตาบอด  “บอลไหมนี้ก็คือแผงขนม้าจากกลุ่มดาวม้าบิน”

เขาหันไปทางคนใช้ใบ้ “นี่คือยาเม็ดสามอมตะ”

“สหายขุนพลวิญญาณทั้งสองยินดีที่ได้พบกับพวกท่าน พอดีของทุกอย่างที่ขุนพลวิญญาณใช้ได้ ข้าได้ใช้ไปหมดแล้วก็เลยไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ข้าขอโทษจริงๆ” เซียนกระบี่ลับคุยกับปิงและขลุ่ยวิเศษ

“โอวไม่มีปัญหา”ปิงโบกมือเหมือนกับว่าเขาใจกว้างเสียเต็มประดา แต่ก็เผยรอยยิ้มอย่างคาดหวัง “ถ้าเจ้าไม่มีอะไรที่เราสามารถใช้ได้ จะให้ของที่เราใช้ไม่ได้ก็ได้นะ  ถ้าได้สักสองสามชิ้นสามารถขายทำเงินได้ก็จะดีมาก”

ขลุ่ยวิเศษทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง  “ได้เห็นน้ำใจของท่านเซียนกระบี่ข้าก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้ว เรื่องของขวัญไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไป”

เห็นได้ชัดว่าเซียนกระบี่ลับไม่เข้าใจความหมายของปิง  แต่เขาก็ยังผงกศีรษะให้กับขลุ่ยวิเศษอย่างสนใจ

“เซี่ยชิง,  เจ้าจงฝึกฝนให้ดี เมื่อเวลามาถึงและเจ้าเชี่ยวชาญเพลงกระบี่มหาสุญญตา สนามพลังวิญญาณของกระบี่ผนึกปีศาจจะเปิดรับเจ้าอีกครั้ง และเมื่อนั้นจะเป็นเวลาที่ข้ากับเจ้าได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง”

เมื่อพูดจบทะเลหมอกที่กว้างใหญ่ ค่อยๆหดหายกลับไปในสุสานกระบี่

ฉากภาพรอบๆ กลับคืนสู่สภาพปกติ

ทะเลหมอกสีเทาลดลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นจุดสีเทาเล็กๆและหายไป

ทุกคนตื่นขึ้นเหมือนกับว่าพวกเขากำลังฝันไป  เพียงแต่ว่ายอดเขากระบี่ศิลาหายไปแล้ว  เหลือแต่พื้นกองหิน  ศพของห้ามือสังหารหายไปแล้วทิ้งไว้แต่เพียงรอยสกปรกสีดำ เห็นได้ชัดว่าสถานที่นี้ผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมาแล้ว

ราวกับว่าผ่านมาทั้งชีวิต

“ขี้เหนียวชะมัด,เขามีสมบัติตั้งมากมายหลายเท่า แต่ทิ้งไว้แต่หมอกที่ยุ่งเหยิง”  ปิงบ่นอุบกับตัวเอง  เขารู้ว่าเซียนกระบี่ลับทำเป็นเมินเขาและแน่นอนเขาเต็มไปด้วยความอยากได้อยู่แล้ว

ไม่มีใครสนใจเขา

การต่อสู้ในวันนี้จะเป็นการโจมตีที่สร้างประวัติการณ์ให้กับทุกคน

เซียนกระบี่!

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกับเซียนกระบี่ที่แค่ยกมือขึ้นเท่านั้นก็พังทลายได้ทั้งสนามรบ  พลังนี้ทำให้ทุกคนสั่นโดยมิได้ตั้งใจ  กระบี่ที่มองไม่เห็นและหลบหนีไม่ได้

แม้แต่ถังเทียนผู้มีสัญชาตญาณแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเผชิญหน้ากับกระบวนท่าของเซียนกระบี่ เขากลับไม่รู้สึกถึงอะไรเลย

แต่หลังจากต่อสู้แล้วพวกเขาทุกคนมีความสนใจมากขึ้น

เซี่ยชิงมีกระบี่สีเทาในมือเพิ่มมาอีกเล่มและเมื่อมองดู กระบี่นั้นเก่ามากและน่าเกลียด

“กระบี่ผนึกปีศาจนี่ดูเหมือนอะไรกัน?”  ถังเทียนสงสัยและถามเซี่ยชิงทันที  “จากนี้ไปเจ้าตั้งใจจะทำอะไร?  ยอดเขากระบี่ศิลาก็หายไปแล้ว พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องเฝ้ากระบี่อีกต่อไปแล้ว  ทำไมไม่ตามเราไปกลุ่มดาวกางเขนใต้”

เซี่ยชิงส่ายหัว “ขอบคุณในน้ำใจของท่านผู้กล้าแต่เซี่ยชิงยังคงจะอยู่ที่นี่ต่อไป แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าอาจารย์ข้ายังคงมีลูกหลานคนอื่นๆ อีกหรือไม่  แต่หากว่ามีเล่า?  หมู่บ้านตระกูลเซี่ยคือมือกระบี่องครักษ์  ตอนนี้ข้าได้รับกระบี่ลับในตำนานแล้ว  และด้วยความเมตตาของอาจารย์ข้า  ข้ายังต้องการอยู่รอลูกหลานของท่าน  นอกจากนี้ข้ายังต้องฝึกฝนกระบี่ลับ และนี่ก็ช้ามากไปแล้ว  ข้ายังต้องมีสมาธิยิ่งขึ้นไป

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงซิ่วแตะไหล่เซี่ยชิงหน้าของเขาบ่งบอกว่าชื่นชม “พูดได้ดี! เจ้าเป็นคนที่ซื่อสัตย์และภักดี! ลูกผู้ชายตัวจริง ต้องให้ได้อย่างนี้!”

ถังเทียนรู้สึกว่าเขากล่าวมีเหตุผล  เขาพยักหน้า “ถูกแล้ว ถูกแล้ว”

จู่ๆ ปิงพูดตัดบท  “ในเมื่อเจ้าตั้งใจอยู่ที่หมู่ดาวกาต่อไป  อย่างนั้นทำไมไม่ช่วยเราซื้อรวบรวมทองอีกาเล่า”

“พวกเจ้ายังต้องการทองอีกาอีกหรือ?”  เซี่ยชิงประหลาดใจ  ทองอีกาในหมู่ดาวกาถูกพวกเขากว้านซื้อหมด  แต่พวกเขาก็ยังต้องการเพิ่ม เซี่ยชิงไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะต้องการไปทำไม  แต่เขาตอบโดยไม่ลังเลใจ “ไม่มีปัญหา!”

“ลุงปิง,ลุงชักจะโลภเกินแล้วนะ!”  ถังเทียนชี้จมูกปิง

หนังหน้าของปิงหนาขึ้นมากแล้วและเขาเตรียมจะเยินยอตัวเอง เมื่อได้ยินถังเทียนตะโกน “วางใจได้ ธุรกิจนี้,ถือว่าเจ้ามีหุ้นส่วนด้วย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นปิงหน้าตึงทันที  เขากล่าวต่อทันที“เห็นด้วยว่าเจ้าควรมีหุ้นส่วน เนื่องจากเซี่ยชิงช่วยรวบรวมทองอีกา อย่างนั้นผลกำไรร้อยละสิบจะเป็นของเขา”

ปิงเกรงว่าถังเทียนจะใจกว้างมากเกินไปและจ่ายเงินให้เซี่ยชิงทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงวางแนวทางเป็นบรรทัดฐานไว้ก่อน

เซี่ยชิงหัวเราะ  “ไม่จำเป็นเลย วางใจเถอะ ข้าจะจัดหาให้อย่างดีที่สุด”

เซี่ยชิงกำหนดในใจว่าทองอีกาเป็นของสำคัญต่อพวกเขามาก  ไม่ว่าจะได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่  เขาไม่ค่อยสนใจเท่าใดนัก  เขาแค่มีความรู้สึกอยากตอบแทนถังเทียนและพวกเท่านั้น

ปิงยิ่งอารมณ์ดี ให้เงินเขาแล้ว แต่กลับปฏิเสธเป็นคนดีเสียเหลือเกิน!

ขณะที่เขาเตรียมจะพูดก็ได้ยินถังเทียนโบกมือตะโกน“ลุงทำอย่างนั้นได้ยังไง? ร้อยละสิบมันน้อยเกินไป ต้องร้อยละสิบห้า เซี่ยชิง, เจ้าต้องรับ เจ้าต้องรับ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่ทำอีกต่อไป

ปิงรู้สึกเครียดอีกครั้ง

เจ้าบัดซบนี่เจ้าบ้านี่ช่างไม่รู้เอาเสียเลยว่าค่าใช้จ่ายประจำวันมากมายขนาดไหน!

ร้อยละสิบห้า เจ้ารู้ไหมว่าในอนาคตร้อยละสิบห้าน่ะ มากแค่ไหน? เจ้าเด็กปากมากทันทีที่อ้าปากก็สูญเสียเงินไปมากมาย บัดซบเอ๊ย

เมื่อได้ยินคำยืนยันหนักแน่นของถังเทียนเขาไม่ทางเลือกอื่นได้แต่เห็นด้วย “ก็ได้ ข้าเชื่อฟังท่านผู้กล้าก็แล้วกัน”

ดวงตาของถังเทียนมีความชื่นชมยินดีทันที  “ฮ่าฮ่า, งั้นในอนาคตเราทุกคนก็คือครอบครัวเดียวกัน”

เซี่ยชิงอบอุ่นในหัวใจ  สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ข้อตกลงที่เขารับในวันนี้จะนำความมั่งคั่งมาสู่หมู่บ้านตระกูลเซี่ยในอนาคต เซี่ยชิงผู้เต็มไปด้วยความรู้คุณกำลังคิดหาวิธีกว้านซื้อทองอีกา

หลังจากนั้นถังเทียนและพวกพ้องกลับไปยังหมู่บ้านตระกูลเซี่ยที่พวกเขาพักอยู่มาได้สักระยะหนึ่ง

ติงตังต้องการกลับบ้านเพื่อเอาเลือดไปให้น้องสาวของนาง เฒ่าบอดซอกำศรวลและบ่าวใบ้จะเริ่มเดินทางทั้งคู่เนื่องจากพวกเขาต้องไปหาประตูเข้าภูมิภาควิญญาณแล้วจึงค่อยเข้าเมืองสามวิญญาณ ห้องจิตวิญญาณพลังยุทธของถังเทียนมีทางเข้าที่ใช้ได้เฉพาะเขาและขุนพลวิญญาณเท่านั้น  คนอื่นไม่สามารถใช้ได้

โชคดีที่กลุ่มดาวกามีประตูดวงดาวมุ่งตรงสู่เมืองสามวิญญาณแต่ไม่ได้อยู่ในดาวดวงที่เซี่ยชิงและพวกเขาอยู่

ถังเทียนต้องล่วงหน้าไปก่อน  เนื่องจากเซรีนยังคงซ่อนตัวอยู่ในคลังอาวุธของกองทัพ

เมื่อถังเทียนหาเซรีนพบ  นัยน์ตานางเป็นประกายยินดี“เจ้าได้ทองอีกามามากแค่ไหน?”

ถังเทียนยกนิ้วขึ้นนิ้วเดียว

“พันกิโล?”  เซรีนตื่นเต้น

ถังเทียนส่ายหัว และตอบ “หนึ่งหมื่นกิโลฯ”

เซรีนประหลาดใจมากนางกรี๊ดลั่นและโลดเต้นด้วยความดีใจ มือทั้งสองจับอยู่ที่หน้า นางไม่อยากจะเชื่อ“เรารวยแล้ว!เรารวยแล้ว!  รวยกันใหญ่แล้ว!”

หมื่นกิโลกรัม ก็เท่ากับห้าพันล้านเหรียญดาว

จำนวนมากมายมหาศาล ทำให้เซรีนมึนงงไปโดยปริยาย

จำนวนเหรียญดาวที่ไม่จำกัดนี้เพียงพอให้นางได้รับวัสดุดีๆและได้ทุนสำหรับค้นคว้า

ทอง ทองทั้งนั้น!

“อย่าเพิ่งดีใจเกินไป”เหมือนกับว่าถังเทียนราดน้ำเย็นความหลงใหลที่เร่าร้อนของนาง  “เรามีทองอีกาอยู่ในมือของเรา  แต่เราจะเปลี่ยนเป็นเหรียญดาวได้ยังไง?”

เซรีนตะลึง

นั่นก็จริง พวกเขามีทองอีกา  แต่ด้วยทองมากมายนั้น ยังมีขั้นตอนต่อไปคือเปลี่ยนเป็นเหรียญดาว

นอกจากพวกเขาไม่มีคนอื่นที่รู้คุณค่าของทองอีกา ถ้าไม่มีใครรู้คุณค่าของทองอีกา ก็จะไม่มีใครยินดีซื้อ!

เซรีนรีบสงบอารมณ์อย่างรวดเร็ว  และเริ่มเค้นสมองคิดแผนตามมาและนัยน์ตานางฉายประกายเยือกเย็น

ความสามารถในการหาเงินของหญิงสาวแม้แต่เซียนกระบี่ก็ยังเทียบไม่ได้!

**********************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด