ตอนที่แล้วตอนที่ 234 – ตอนที่ 215 ใช้ปัญญาผ่านด่านวิหารคนคู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 236 – ตอนที่ 217 พันแผล ผลงานชิ้นโบว์แดง

ตอนที่ 235 – ตอนที่ 216 รางวัลคือ ทักษะธรรมชาติคนคู่


เย่ว์หยางแบกเย่ว์ปิงขณะที่เขาวิ่งเข้าไปในห้องโถงวิหารคนคู่

เงาคนคู่ที่สองพยายามอย่างเต็มกำลังของนางเพื่อจะหยุดเขา แต่นางถูกโซ่ล่องหนของเสี่ยวเหวินหลีพันธนาการไว้และจู่โจมด้วยดาบโค้งคู่ เงาเคลื่อนไหวด้วยความยากลำบาก ในทางกลับกัน เมดูซาศิลา, เงือกวายุและนาคาสายฟ้ารีบพุ่งตรงมาทางระเบียงที่นำไปสู่โถงด้านหลังและใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกนาง ขวางทางไว้และช่วยให้เย่ว์หยางได้มีเวลามากขึ้นที่จะเข้าไปข้างในได้

สังข์เรียกพายุถูกเป่าเสียงดังกึกก้อง…และด้วยความช่วยเหลือของเมดูซาศิลาและนาคาสายฟ้า เงือกวายุเรียกพายุไว้ทั่วทุกซอกมุมของวิหารเจมินี่

สายฟ้าก็มีอยู่ทั่วทุกที่ ตราบใดที่เงาคนคู่ที่ใจดียังคืบหน้าไปได้แต่ละนิ้ว นางก็จะสะดุดกับพลังสายฟ้า

เสี่ยวเหวินหลีพยายามจนสุดความสามารถของเธอเพื่อตรึงเงาคนคู่ที่ใจดีร่างที่สองให้อยู่กับที่ เธอรู้ว่าเงาข้างหน้าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าเธอจะถูกทุบตีหรือบาดเจ็บหนักขนาดไหนก็ตาม เธอจะฟื้นขึ้นได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม เสี่ยวเหวินหลียังคงโจมตีเธอด้วยพลังโจมตีที่รุนแรงที่สุด เพราะความสามารถของเงาจะไม่เพิ่มขึ้น นางยังคงเป็นอสูรทองระดับ 6 ….. นี่คือเหตุผลที่เย่ว์หยางยอมเสี่ยงใช้แผนนี้ ในฐานะที่เป็นอสูรทองระดับ 6 แม้ว่านางจะมีระดับปัญญาสูงและเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ เสี่ยวเหวินหลีก็ยังสามารถรับมือนางได้ เย่ว์หยางในปัจจุบันนี้ไม่สนใจว่าโดยรอบจะเกิดอะไรขึ้น เขาเพียงแต่จะมุ่งหน้าเข้าไปห้องโถงด้านหลัง ขณะที่เขาเข้าไปในห้องโถงด้านหลัง เขาเห็นภาพวาดเทพสงครามแขวนอยู่บนผนัง นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมคู่หนึ่งอยู่ใต้ภาพวาด ประติมากรรมหนึ่งเป็นประติมากรรมหน้ายิ้ม ขณะที่อีกชิ้นหนึ่งเป็นปฏิมากรรมมีสีหน้าหม่นหมอง

“เป็นพวกเจ้าอีกแล้ว” เย่ว์หยางรีบวางร่างเย่ว์ปิงไว้ใกล้รูปปั้นสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นเย่ว์หยางหยิบบัตรแก้วออกมา เตรียมจะขอรับรางวัลผ่านด่าน

ทันใดนั้น ลำแสงฉายแว่บมาจากด้านหลังของเขา

จากตรงพื้นที่ว่าง มีแสงเป็นรูปคนเทเลพอร์ตตรงไปที่รูปปั้น

เป็นเงาของคนคู่ผู้ใจดีที่ถูกเสี่ยวเหวินหลีเล่นงานอยู่นี่เอง พลังความแข็งแกร่งที่นางปลดปล่อยออกมาแทบจะเทียบเท่าเย่ว์หยางตอนที่ปลดผนึกพลังปราณก่อกำเนิดแล้ว นางเทเลพอร์ตเข้ามาในห้องโถงได้ฉับพลัน ใช้หมัดของนางโจมตีโต้กลับเย่ว์หยาง เย่ว์หยางไม่เคยคาดว่าเงาจะรู้วิธีเทเลพอร์ตและปลดปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดของเขา เมื่อเงาโจมตีใส่เขา เขาไม่มีเวลาปลดข้อจำกัดพลังปราณก่อกำเนิดที่จะใช้ป้องกันตัวออกมาได้

การจู่โจมจากเงาทำให้เย่ว์หยางมึนจนเห็นดาวและเกือบสลบไป อวัยวะภายในของเขาปั่นป่วน

ในที่สุดเย่ว์หยางก็ได้ลิ้มรสชาติพลังหมัดของตนเอง

ในทางทฤษฎี เงาคนคู่ด้านใจดีน่าจะแข็งแกร่งพอๆ กับเขา.. พลังหมัดที่น่ากลัวของนางสามารถทำร้ายกระดูกสันหลังและซี่โครงของเขาได้ เลือดสดๆ พุ่งออกมาจากคอของเขาชโลมลงบนหน้ากากทอง ขณะที่บางส่วนหยดใส่หน้าของเย่ว์ปิง

เย่ว์หยางเกรงว่าแรงกระแทกจากพลังหมัดบนร่างของเขาจะกระทบไปถึงน้องสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงกัดฟันและทนรับพลังหมัด ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่า เขาเรียนรู้ทักษะแก้ใช้อ่อนหยุ่นสยบแข็งกร้าวกับพี่สาวในฝันมาแล้ว เขาคงตายภายในหมัดเดียวแล้ว ตอนนี้เย่ว์หยางถึงได้ตระหนักว่าหมัดของเขาให้ความรู้สึกที่น่ากลัวเพียงไหน… ในทางตรงกันข้าม เมื่อเย่ว์หยางพ่นเลือดออกมา เงาคนคู่ก็ยังกระอักเลือดออกมาด้วย

นั่นก็แปลก, ทำไมนางถึงดูบาดเจ็บมากกว่าเขา?

เย่ว์หยางสับสน

เขาตระหนักได้ทันทีว่า ไม่ว่าความรู้ใดที่เขาได้เรียนในความฝัน อย่างเช่นอ่อนหยุ่นสยบแข็งกร้าว หรือทักษะกระบี่ไร้ลักษณ์ เป็นทักษะที่กฎโบราณไม่สามารถเลียนแบบได้

เงาคนคู่หน้าใจดียังได้รับบาดเจ็บอย่างเดียวกับที่เย่ว์หยาง แต่นางไม่รู้วิธีต่อต้าน ดังนั้นนางจึงได้รับบาดเจ็บหนักกว่าเย่ว์หยางอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม กฎโบราณได้รักษาอาการบาดเจ็บหนักของนางทันที ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บของนางได้รับการรักษาเท่านั้น นางยังคงฟื้นคืนพลังความแข็งแกร่งของเย่ว์หยางได้เต็มที่อีกด้วย

ขณะที่เย่ว์หยางมองดูด้วยความตื่นตะลึง เงาที่สองที่ใจดีก็ยกระดับพลังขึ้นจนอยู่ในระดับปราณก่อกำเนิดอีก นางยกมือซ้ายขึ้น ดูเหมือนนางจะเรียกเพลิงอมฤตออกมาได้ ทักษะที่เย่ว์หยางเคยใช้ฆ่าถูเฉิง ขณะที่มือขวาของนางดูเหมือนจะเรียกวงจักรล้างโลกออกมา มันเป็นทักษะที่เย่ว์หยางใช้ฆ่าขวงจั่น… วงเวทอักษรรูนที่น่ากลัวปรากฏอยู่บนร่างของนาง… สิ่งเดียวที่แตกต่างจากเย่ว์หยางก็คือ นางไม่สามารถเรียกไฟอมฤตออกมาในมือซ้ายได้ มันเป็นแค่เปลวเพลิงปกติ อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเพียงพอปลุกให้เย่ว์หยางตื่นเต้นจนหัวใจเต้นระรัว

เขาสามารถทนรับการโจมตีครั้งนี้ได้หรือไม่?

ตอนนั้น แม้แต่ถูเฉิงผู้มีพลังใกล้เคียงนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 3 ก็ยังไม่อาจทนได้, ขวงจั่นที่ซ่อนตัวอยู่ไกลก็ยังไม่สามารถทนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาไม่สามารถยกระดับพลังให้อยู่ระดับปราณก่อกำเนิดได้ แล้วเขาจะทนต่อการโจมตีที่รุนแรงได้อย่างไร?

อย่าว่าแต่เย่ว์หยางเลย แม้แต่เสี่ยวเหวินหลีที่เร่งข้ามมาตามระเบียงออกมาก็ยังตกใจหนักและส่งเสียงร้องเตือน

แม้ว่าเพลิงอมฤตจะเป็นของปลอม แต่วงจักรล้างโลกเป็นของจริง

เมื่อผสานการโจมตีทั้งสองเข้าด้วยกันเพื่อเป็นการโจมตีทำลายล้าง โอกาสที่เย่ว์หยางจะป้องกันหรือหลบหนีได้กลายเป็นศูนย์ เขาไม่คิดเลยว่าแม้เขาจะเดาทุกอย่างได้ถูกต้อง แต่เขากลับคาดเงาที่สองที่เป็นคนคู่ด้านใจดีผิดถนัด ความจริงนางครอบครองทักษะของเขาทั้งหมด เป็นแต่ว่านางจะไม่ใช้มันออกมาในช่วงเวลาปกติ นางจะไม่โจมตีผู้เข้าแข่งขันจนบาดเจ็บหนัก อย่างไรก็ตาม ในด่านส่วนท้ายนี้ นางจะต้องเคลื่อนไหวลงมือเองในที่สุด บางทีในหมื่นปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางลงมือโจมตี เย่ว์หยางทำได้เพียงถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้ ที่ความสามารถของเขานั้นเกินธรรมดาไปมาก มิฉะนั้น เขาคงจะไม่พ่ายแพ้ในการสู้กับตัวของเขาเอง

เงาคนคู่ใจดีนั้นพุ่งเข้าใส่เย่ว์หยางด้วยน้ำตานองหน้า มือซ้ายของนางควบคุมเพลิงอมฤตปลอม ขณะที่มือขวาเป็นวงจักรล้างโลกเตรียมตัวตายพร้อมกันไปด้วย

เสี่ยวเหวินหลีใช้ทักษะโซ่ล่องหนพันธนาการ ซึ่งก็สามารถหยุดนางได้เพียงวินาทีเดียว

ในที่สุดเสี่ยวเหวินหลีก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กอดเย่ว์หยางแน่น เธอพยายามอย่างดีที่สุด แต่นี่คือทั้งหมดที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้ ทั้งนี้เป็นเพราะเงาคนคู่ด้านใจดีมีทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของเย่ว์หยาง แม้ว่าเพลิงอมฤตของนางจะไม่ใช่ของจริง แต่ทักษะอื่นๆ ของนางทั้งหมดเหมือนกับของเย่ว์หยางทุกอย่าง

ขณะที่ทักษะทำลายกำลังจะเข้าโจมตีใส่ร่างเย่ว์หยางนั้น ทันใดนั้นเองเย่ว์ปิงก็ตื่นขึ้นจากสภาวะเสมือนตาย เปลือกตาของนางขยับเล็กน้อยก่อนที่นางจะลืมตาขึ้น

รูปประติมากรรมคนคู่ทั้งสอง จู่ๆ ก็เปล่งแสงสีทองสว่างจ้า รูปสลักทางด้านซ้ายปล่อยลำแสงเข้าไปในหน้าผากของเย่ว์ปิงและยิงแสงสีทองเข้าไปที่หลังของเย่ว์หยาง แสงนั้นยังชโลมร่างของเสี่ยวเหวินหลีจนเป็นสีทองกระจ่าง เงาคนคู่ใจดีนั้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงในทันที กลายเป็นแสงรังสีดำสลับขาว แสงสีขาวนำชิ้นส่วนของวงจักรล้างโลกเข้าไปในตัวของเย่ว์ปิง

ในทางกลับกันแสงสีดำ ลอยผ่านตัวเสี่ยวเหวินหลีแล้วเข้าไปในหน้าอกของเย่ว์หยาง

เพลิงอมฤตปลอมนั้นยังระเบิดกระจายเป็นชิ้นเป็นบอลไฟลูกหนึ่งลอยเข้าหาเมดูซาศิลาผู้กำลังพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางและคนอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือ มันลอยอยู่เหนือผมงูของนาง ทันใดนั้นผมงูของนางกลายเป็นผมงูติดเพลิง

เย่ว์หยางและเย่ว์ปิงเรียกคัมภีร์ออกมา พร้อมกับเปิดดูคัมภีร์ของตน

ก่อนที่พวกเขาจะได้เห็นรางวัลที่ผ่านด่านได้ เย่ว์หยางและเสี่ยวเหวินหลีนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง ต่างกอดกันแน่น

พวกเขาเพิ่งเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่ต้องตายได้อย่างหวุดหวิด

ถ้าเย่ว์ปิงไม่ฟื้นขึ้นมาเพื่อจบภารกิจที่จำเป็นต้องทำในการผ่านด่าน อย่างนั้นทุกคนอาจต้องตาย เย่ว์หยางกลัวจริงขนาดที่ตัวของเขามีเหงื่อชุ่มโชกไปหมด วิหารคนคู่แห่งนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ… โชคดีที่เขาพาเย่ว์ปิงมาพร้อมกันด้วย ขณะที่เขาคาดว่าการผ่านด่านวิหารคนคู่ จำเป็นต้องมีคนสองคนเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ มิฉะนั้น เขาคงต้องตายแน่นอน การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เย่ว์หยางเคยเผชิญมา ยังอันตรายมากกว่าเมื่อตอนที่เขาเผชิญหน้ากับอสุรกายดำที่ถูกผนึกไว้ในด้วงหยกขาวเสียอีก ทั้งนี้เป็นเพราะศัตรูของเขาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเงาที่มีทักษะและความสามารถที่เหมือนกับตัวของเขาเอง

เมื่อเย่ว์หยางคิดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เขารู้สึกว่าเขาโชคดีจริงๆ

โชคดีที่เงาใจดีนั้นไม่รู้วิธียิงปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ มิฉะนั้น เขาคงตายทันทีที่นางยิงปราณกระบี่ออกมาแล้ว

เสี่ยวเหวินหลีปล่อยพลังแสงสีขาวบริสุทธิ์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้เย่ว์หยาง

อีกด้านหนึ่ง นางเงือกวายุอุ้มร่างเย่ว์ปิงผู้หมดสติอีกครั้ง และนำนางมาไว้ข้างตัวเย่ว์หยางอย่างนุ่มนวล เย่ว์หยางถึงกับชะงักเมื่อเขาตระหนักได้ว่ามีส่วนของวงเวทของวงจักรล้างโลกติดอยู่ที่หลังของเย่ว์ปิง เศษของวงจักรล้างโลกนั้นค่อยๆ ซึมหายเข้าไปในร่างของนาง เย่ว์หยางรู้สึกทันทีว่า ดรุณีน้อยนี้น่าจะโชคดีมากๆ ถ้านางสามารถเข้าถึงขอบเขตปราณก่อกำเนิดในอนาคตและเข้าใจถึงวิธีใช้วงจักรล้างโลกนี้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งก็ตาม แต่มันจะมีขนาดพลังที่น่ากลัวแน่นอน มากพอที่จะทำลายล้างศัตรูของนางได้

เย่ว์หยางเกรงว่าเย่ว์ปิงจะฟื้นขึ้นมา ดังนั้นเขารีบสวมชุดใหม่ให้นาง เนื่องจากว่าชุดเก่าของนางสลายเป็นผุยผงไปแล้ว จากนั้นเขาเริ่มดูคัมภีร์อัญเชิญของนาง

“ทักษะแฝงคนคู่?”

เย่ว์หยางพบว่าบนหน้าหลักของคัมภีร์อัญเชิญของเย่ว์ปิง ความจริงมีทักษะแฝงเพิ่มขึ้นมา

ทันใดนั้น เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งจนสุดจะพรรณนาได้

การผ่านด่านวิหารสิบสองนักษัตรจะทำให้ได้รับรางวัลเป็นทักษะแฝง (ธรรมชาติ) อย่างหนึ่ง มิน่าเล่าวิหารคนคู่ ถึงได้ผิดธรรมดานัก ยากที่จะผ่านไปได้

มีคำกล่าวไว้ว่า “ยิ่งความเสี่ยงมาก รางวัลตอบแทนก็มากด้วย” นั่นเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน การเผชิญหน้ากับคนอันตรายจนแทบทำให้เขาเกือบตายและรางวัลที่มอบให้เขาก็คือทักษะแฝงธรรมชาติ นี่คือรางวัลที่นักรบทุกคนโหยหาได้แต่ในความฝัน แต่ในความเป็นจริงพวกเขากลับเอามาไม่ได้

ทักษะแฝงคนคู่ ระดับ 1 –เชื่อมต่อทางจิตคนสองคนกับผู้อัญเชิญ ทั้งคู่สามารถเชื่อมกระแสจิตและแลกเปลี่ยนภาพทางจิตจากระยะไกลโดยผู้อัญเชิญได้

ดูผิวเผินทักษะคนคู่ นี้ดูเหมือนจะไม่มีพลังมากในภายนอก

อย่างไรก็ตาม มันเป็นทักษะที่ทรงพลังจริงๆ เย่ว์หยางคิดว่าทักษะแฝงนี้ใช้งานได้ดี มันใช้งานได้ดีกว่าทักษะแฝงเปลวเพลิง, น้ำแข็ง พิษมากกว่าเป็นร้อยเท่า แน่นอนว่าสำหรับคนอื่นๆ อาจจะใช้ได้ไม่ดี แต่สำหรับเย่ว์หยาง นี่คือเครื่องจักรสังหารดีๆ นี่เอง การส่งกระแสจิตจะมีประสิทธิภาพมาก ยังสามารถแลกเปลี่ยนภาพที่เห็นได้ด้วย นี่ นี่ คือทักษะที่ไม่ธรรมดาในหมู่ของทักษะที่ไม่ธรรม

เย่ว์หยางมองดูคัมภีร์อัญเชิญของเขาเองและยังคงพบว่ามีทักษะแฝงคนคู่เพิ่มขึ้นมาด้วย

เรื่องที่แปลกก็คือว่า คำอธิบายทักษะแฝงคนคู่ของเขา แตกต่างจากของเย่ว์ปิง

เบื้องหลังคำอธิบายของทักษะแฝงคนคู่ ยังมีคำว่า “ปราณก่อกำเนิด” เพิ่มเติมขึ้นมา เขียนด้วยสีทองเข้ม หมายความว่ายังไง? เป็นไปได้ไหมว่าทักษะแฝงคนคู่นี้จะเป็นทักษะที่ซ่อนเร้นอีกอย่างหนึ่ง

เย่ว์หยางไม่สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้

สิ่งที่ทำให้เย่วหยางประหลาดใจอย่างมากก็คือ คัมภีร์ชั้นเพชรของเสี่ยวเหวินหลีก็ถูกเรียกออกมาด้วยเหมือนกัน เมื่อเขาเปิดดูข้างใน ก็ยังคงมีทักษะแฝง..คนคู่ด้วย

ระบบรางวัลยังนับรวมเสี่ยวเหวินหลีรวมเข้าไปได้อย่างไร? ต้องมีความผิดพลาดในระบบบางแห่งแน่! เย่ว์หยางกอดเสี่ยวเหวินหลีพลางจูบเธออย่างตื่นเต้น เขาจะไม่รายงานข้อบกพร่องนี้ให้บริษัทเกมสวรรค์แน่นอน เขาพอใจมากกับความผิดพลาดนี้ ดังนั้นเขาจะไม่ยื่นเรื่องร้องเรียนแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะต้องการร้องเรียนก็ตาม แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อกับเทพเจ้าได้อย่างไร นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่า นี่คือวิธีที่กฎโบราณสนับสนุนการให้รางวัลพวกเขา

เย่ว์หยางยอมรับรางวัลด้วยสำนึกที่ชัดเจน ไม่ว่ายังไง เขาจะไม่ปฏิเสธรางวัลพิเศษอยู่แล้ว

เสี่ยวเหวินหลียกมือและชี้หน้ากากทองของเย่ว์หยาง

“ของนี่น่ะหรือ? นี่คงสามารถเรียกเงาของข้าเองได้กระมัง?” เย่ว์หยางตระหนักว่ วันนี้เป็นวันโชคดีของเขา ไม่เพียงแต่ได้รับรางวัลพิเศษทักษะแฝงเร้นเจมินี่แล้ว เขายังได้รับหน้ากากทองที่น่ากลัว เป็นสมบัติชั้นทองที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาสมบัติชั้นทอง

หน้ากากทอง : “คนคู่ ดี-เลว” อุปกรณ์พิเศษของนักรบ ใช้งานด้านมืด ระดับทอง มีพลังผนึกคำสาป 7 ชั้น ชั้นที่หนึ่งถูกปล่อยออกมาแล้ว ทักษะ: เงาปีศาจ, ระดับ 6 ดาวทอง

เงาปีศาจ : เรียกเงาปีศาจตนหนึ่งออกมา มันจะมีพลังครึ่งหนึ่งของผู้อัญเชิญ อยู่ได้นานหนึ่งชั่วโมง เงาปีศาจจะหายไปเองเมื่อมันใช้พลังความสามารถของมันเสร็จแล้ว

เย่ว์หยางลองเรียกมันออกมาและพบว่าสิ่งที่เขาเรียกออกมาความจริงก็คือเงาที่หนึ่งที่อยู่บนสังเวียนต่อสู้ที่เขาเพิ่งจะเผชิญมา อย่างไรก็ตามความสามารถของเงาในตอนนี้อ่อนลงไปมาก มีพลังแค่ครึ่งเดียวของเย่ว์หยาง ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่มีความฉลาด มันมีแต่ทักษะสู้กับฆ่า จำเป็นต้องให้ผู้อัญเชิญควบคุม หากจะให้มันแสดงทักษะอื่นๆ

โดยสรุปก็คือ เงานี้ไม่มีชีวิตหรือปัญญา มันเป็นแค่ทหารเลว

แน่นอนว่า เย่ว์หยางค่อนข้างจะพอใจกับมัน ด้วยเงาที่เป็นเหมือนทหารเดนตายนี้ มันยังใช้ในการหลอกลวงผู้คนได้ มันงดงามและสมบูรณ์แบบแน่นอน

บึ้ม!

เย่ว์หยางสุขใจกับสิ่งที่ได้มาเป็นอย่างมากถึงขนาดอยู่ในโถงใหญ่ด้านหลังวิหารเจมินี่อยู่นาน จนลืมออกไป

ผลก็คือ ประตูห้องโถงปิด ไม่มีทางอื่น เขาทำได้แต่เพียงมุ่งหน้าสู่วิหารกรกฎ ยังไงก็ตามเขาจะต้องผ่านด่านวิหารกรกฎให้ได้

เขาแบกเย่ว์ปิงและตัดสินใจเดินหน้าต่อไปสู่วิหารกรกฎ เขาพบว่าวิหารกรกฎนี้แตกต่างจากสามวิหารแรกสิ้นเชิง มันไม่ใช่วิหาร แต่เป็นที่ลุ่มชายเลนไม่มีที่สิ้นสุด มีเส้นทางโคลนเล็กๆ สายหนึ่งข้างหน้ามุ่งหน้าสู่เขตแดนของอสูรเฝ้าด่านวิหารกรกฎ เย่ว์หยางเปลี่ยนแผนทันทีตอนนี้เขามีทหารเดนตายตนหนึ่งแล้ว และเสี่ยวเหวินหลีและอสูรอื่นจะใช้ความสามารถในที่เช่นนี้ได้เต็มที่ เขาแค่ตามไปดูอสูรเฝ้าด่านชั้นทองวิหารกรกฎว่าจะเป็นปูยักษ์หรือกุ้งยักษ์กันแน่

*******************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด