ตอนที่แล้วตอนที่ 229 พันกระเรียนบรรจบสังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 231 เก็บเกี่ยวผลประโยชน์

ตอนที่ 230 ประวัติกระบี่ผนึกปีศาจ


พันกระเรียนบรรจบสังหาร!

หัวใจของอาเฮ่อเต้นแรงเหมือนคลื่นซัดโถม  แม้ว่าถังเทียนจะสร้างภาพลวงตาได้สี่ภาพ  แต่อาเฮ่อก็จำได้ทันทีว่านั่นคือพันกระเรียนแยกร่าง!  วิชาพันกระเรียนแยกร่างได้สาบสูญมานานหลายปีแล้ว  ครั้งหนึ่งมันเคยครอบงำโลกทำให้ชาวโลกหวาดกลัว

หลายคนคิดว่าพันกระเรียนแยกร่างใช้ลวงตาทำให้ศัตรูสับสน แต่อาเฮ่อรู้ว่าพันกระเรียนแยกร่างเป็นท่าเตรียมปลดปล่อยไม้ตายสังหาร

แต่ไม้ตายสังหารหายสาบสูญไปกลับสายลม นอกจากชื่อที่ตกทอดลงมา ก็ไม่มีร่องรอยของมัน

บรรจบสังหารจะบรรจบรวมกันได้ยังไง ไม่มีใครรู้

ไม่มีสามารถค้นพบพลังร่างกระเรียนไม่มีกระทั่งวิชาพันกระเรียนแยกร่าง  เคยมีใครเล่าจะคิดหาเคล็ดสังหารที่มีแต่ชื่อเท่านั้นที่ตกทอดลงมา?

อาเฮ่อไม่เคยคิดว่าเคล็ดวิชานี้จะตกไปอยู่กับคนที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสำนักกระเรียน  แม้จะเป็นเรื่องแย่ที่เห็นเขาใช้พันกระเรียนแยกร่างได้ก็ตาม

เจ้านี่..

อาเฮ่อจ้องมองถังเทียนอย่างงุนงง

“วู้ฮูววว,นี่เป็นเคล็ดวิชาที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” ถังเทียนกล่าว เมื่อเห็นนิ้วของเขาแปลกๆ เขาพึมพำ  “แต่มันสิ้นเปลืองปราณแท้ของข้ามากมายนัก!เฮ้อ.. ข้าเพียงใช้ปราณแท้ของข้าได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น  ฮะฮะฮะ นี่ก็ยังเป็นอีกเคล็ดสังหารที่สิ้นเปลืองพลังปราณแท้ของข้ามากมายจริงๆ  น่าหงุดหงิดเป็นบ้า”

หงุดหงินเป็นบ้า....

อาเฮ่อหนังตากระตุก  เขากล้าดียังไงถึงได้หงุดหงิดหลังจากเข้าใจเคล็ดพันกระเรียนบรรจบสังหาร

นับเป็นครั้งแรกที่อาเฮ่อที่สงบและสุภาพอยากจะชักกระบี่ออกมาฆ่านัก!

ถังเทียนไม่สนใจแม้แต่น้อยขณะที่มองดูฝ่ามือตนเอง เขาพึมพำ “ถ้าเพียงแต่เคล็ดสังหารที่แข็งแกร่งและทรงพลังใช้พลังปราณแท้ของข้าเพียงเล็กน้อยและเรียนรู้ได้ง่ายกรงเล็บเพลิงจ้าวปีศาจก็กินปราณแท้มากเช่นกัน เฮ้อแต่ปราณแท้ของข้าเพียงพอใช้ได้แค่ครั้งเดียว เฮ้อ..อย่างนี้น่าหงุดหงิดจริงๆ”

ทุกคนหนังตากระตุกทันที  สีหน้าทุกคนกลับกลายไม่เป็นมิตรทันที

อะไรของมัน?ตอนนี้เขาอยู่ดีกินอิ่ม ก็เลยไม่เข้าใจหัวอกคนอดอยากยากจนหรือ? นี่เขาจะพูดพล่อยๆต่อหน้าคนอื่นไปถึงไหนกัน?

เคล็ดสังหารเป็นผลการฝึกที่ทำได้ยากมาก  ใครสามารถพูดกันได้ว่าเคล็ดสังหารของพวกเขาต้องแลกมาด้วยวันและคืนหยาดเหงื่อการฝึกฝนอย่างหนักนับไม่ถ้วนไม่ใช่หรือ? เป็นเรื่องดีแค่ไหนแล้วที่เข้าใจเคล็ดสังหารได้สักอย่าง แต่เขายังบ่นว่ารำคาญอีกเพราะเข้าใจเคล็ดสังหารมากไป...

นอกจากนี้เขายังบ่นเรื่องทำอย่างไรเคล็ดสังหารที่น่ากลัวจะใช้ปราณแท้ได้เพียงเล็กน้อยและศึกษาเรียนรู้ได้ง่าย...

ทุกคนคันไม้คันมืออยากจะทุบเขายิ่งนัก

ทันใดนั้นถังเทียนรู้สึกตัวและกระโดดทันที “เอ๋, ข้าไม่ยอมเสียเวลาต่อไปอีกแล้ว!เร็วเข้า!”

เวลาเป็นเงินเป็นทอง!

ทันใดนั้น เขาโยนเรื่องวิชาสังหารทิ้งไว้เบื้องหลังและลุยเข้าหาฝูงอสูรหินกรวดไม่มีการจดจ่ออะไรมากนักในตอนนี้ตั้งแต่ชายชราตาบอดยอมแพ้  อสูรหินกรวดในตอนนี้ตกอยู่ในความวุ่นวาย  นอกจากนี้เพลงของขลุ่ยวิเศษที่บรรเลงยังทำให้อสูรหินกรวดหันมาทำร้ายกันเอง

การต่อสู้ดำเนินต่อไปอีกหกชั่วโมง

เมื่ออสูรหินกรวดทั้งแสนตัวถูกปราบราบคาบ นับเป็นฉากภาพที่งดงามและน่าจดจำ ชาวบ้านของหมู่บ้านกระบี่ที่รออยู่อีกด้านหนึ่งกุลีกุจอเก็บกวาดสนามรบและรวบรวมทองอีกา

“เราจะทำยังไงกับคนเหล่านี้ดี?”  ปิงเหลือบมองชายชราตาบอดและถามถังเทียน

ผู้เฒ่าบอดถามหาเพื่อขอเรียนรู้เพลงจากขลุ่ยวิเศษอย่างจริงจัง

ในตอนนี้ถังเทียนอยู่ในสถานะลำบากใจ  เขาไม่ต้องการเก็บพวกเขาไว้และเขาก็ไม่มีความคิดจะฆ่าพวกเขาด้วย

ขลุ่ยวิเศษสังเกตการสนทนาของเขาพวกเขา  จากนั้นเขากระซิบบางอย่างกับชายชราตาบอด จากนั้นผู้เฒ่าบอดพยักหน้าและเดินมาพร้อมกับขลุ่ยวิเศษ  “ไว้ชีวิตเขาเถอะ ให้เขาช่วยทำงานก็ได้   เซรีนกำลังขาดคนที่เชื่อถือไว้ใจได้ทำไมเจ้าไม่จัดให้เขาไปอยู่ที่นั่น วิธีนี้ เจ้าจะปลอดกังวลเรื่องความปลอดภัยของเซรีน  ข้าได้ถามเขาก่อนแล้ว  เขายินดีจะทำสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธกับเจ้า”

ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย  ถ้ามีนักสู้สวรรค์วิถีประจำการอยู่ที่นั่นเซรีนก็ไม่มีอะไรต้องกังวลเกี่ยวกับร้านของนาง

เขาเพิ่งจะคิดหาวิธีนำอู่กวงไปที่นั่นเพื่อที่ว่าจะได้ไม่มีใครกล้าสร้างความวุ่นวายในร้านนั้น

ตอนนี้เซรีนเป็นเหมือนแม่ไก่ที่ออกไข่เป็นทอง นางคือสมบัติล้ำค่า ถังเทียนเห็นเรื่องนั้นเพื่อประโยชน์ของตนเอง  เกราะจักรกลของเซรีนขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจริงๆ  เขาตั้งใจจะอาศัยเซรีนเพื่อสร้างรายได้

เมื่อคิดว่าเขาสามารถแก้ปัญหาที่ยุ่งยากได้  ถังเทียนรู้สึกยินดี

ถังเทียนมองกลับไปที่สตรีชุดดำจากนั้นเขาถอนหายใจ  “เอ.. นี่คือสตรีจากองค์การวิญญาณมืดที่อยู่ในตำแหน่งม้านี่  เราเคยพบกันมาแล้วไม่ใช่หรือ?”

“ใช่แล้วข้อมูลเกี่ยวกับกระบี่สมบัตินางเป็นคนพบ แม้ว่าฝีมือนางยังไม่สูงล้ำ แต่นางก็มีมาตรฐานในการหาข้อมูลและข่าวสารได้ดี  นางมีน้องสาวคนหนึ่งที่เกิดมาป่วยนางจึงต้องการสายเลือดพิเศษเพื่อนำไปใช้รักษาน้องสาวนาง”  ชายชราตาบอดตอบตามตรง

สตรีชุดดำเพิ่งฟื้นขึ้นแต่นางยังแกล้งทำเป็นหลับอยู่

“โอว, เป็นคนที่เจ้าพบเจอพร้อมกับจิ่งหาวหรือ?”อู่กวงถามตามปกติ “ก็แค่สังหารนางซะ!  ทุกอย่างที่มาจากวิญญาณมืดเลวร้ายทั้งนั้น!  เราไม่รู้ว่านางฝึกฝนอะไรมา  แต่ถ้าเราฆ่าพวกวิญญาณมืดเราจะได้คะแนนตรงนี้ด้วย”

“มีเรื่องอย่างนั้นด้วยหรือ?”  ถังเทียนตะลึง ในที่สุดเขาก็เข้าใจความแค้นเคืองระหว่างสมาพันธ์ชาวยุทธกับองค์การวิญญาณมืดว่าใหญ่หลวงเพียงไหน

“ใช่ ยิ่งพวกเขาฝึกฝนในระดับสูง พวกเขาก็ยิ่งเพิ่มคะแนนให้เจ้าได้มาก” อู่กวงอธิบาย  “มีคนมากมายที่แค้นเคืองคนจากวิญญาณมืด พวกเขาตั้งรางวัลให้กับคนที่ตามหานักสู้ของวิญญาณมืด มันอันตรายแต่ทันทีที่พวกเขาฆ่าพวกนั้นได้ พวกเขาสามารถได้รับรางวัลเป็นคะแนนซึ่งคุ้มค่าแน่นอน  ดังนั้นเจ้าต้องระวังเพราะผลตอบแทนดังกล่าวก็มีในกลุ่มพวกวิญญาณมืดเช่นกัน แน่นอน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องธรรมดาแม้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูก็ตาม”

สตรีชุดดำไม่สามารถทนได้ต่อไป  นางลุกขึ้นนั่ง  “อย่าฆ่าข้า!”

ควับ,ทุกคนหันไปมองนาง

“ทำไมถึงจะไม่ได้เล่า?”  ปิงล้อ

“ข้าสามารถหาข้อมูลให้พวกท่านได้  ทุกอย่างที่พวกท่านต้องการรู้  ข้าจะหามาให้พวกท่าน”  สตรีชุดทำพยายามเอาตัวรอด

“ก็ได้,ลองพูดเรื่องข่าวเกี่ยวกับกระบี่สมบัติซิ” ปิงมากประสบการและระวังตัวเป็นอย่างดี นิสัยเจ้าเล่ห์ของเขานำมาใช้ได้ในตอนนี้

เซี่ยชิงหูตั้งทันที เขารู้ว่าพวกเขาเป็นองครักษ์ปกป้องกระบี่สมบัติ  แต่ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับสมบัติที่เขาปกป้องเลย

สตรีชุดดำรู้ว่านี่เป็นบททดสอบแรก  นางตอบโดยไม่ลังเล“กระบี่สมบัติเป็นของกลุ่มดาวถ้วย เป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่รู้จักกันในนามว่ากระบี่ผนึกปีศาจ!  ก็อย่างที่รู้กันกลุ่มดาวถ้วยอับแสงจางลงมากชื่อเสียงไม่มีใครได้รู้จักกระบี่ผนึกปีศาจเช่นกัน นานมาแล้วมันตกอยู่ในมือของนักสู้หนุ่มนามว่าหวีเกอ”

“หวีเกอ!” เซี่ยชิงสั่น เขารู้จักชื่อนี้

“มีคนไม่มากที่รู้จักหวีเกอ แต่เขามีอีกชื่อหนึ่งซึ่งทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี”  สตรีชุดดำกล่าวต่อ “เซียนกระบี่ลับ”

“เซียนกระบี่ลับ”

ขลุ่ยวิเศษ,เฒ่าบอดซอกำศรวล, เซี่ยชิงและคนอื่นๆ ปากอ้าค้างตะลึงกันหมด

แน่นอนว่าพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเซียนกระบี่ลับมาก่อน  เขามีชื่อเสียง! นักสู้ที่ฝึกฝนกระบี่ทุกคนไม่มีใครประหลาดใจกับชื่อนี้กล่าวกันว่าข่าวลือของเซียนกระบี่ลับในปัจจุบันยังคงมีให้ได้ยินบ้างก็ว่ากระบี่ลับในปัจจุบันนี้ถูกสร้างและตกทอดโดยเซียนกระบี่ลับ

ตำนานกล่าวไว้ว่ากระบี่ของเซียนกระบี่ลับยังคงซ่อนอยู่ในจุดบอดที่ท่านมองไม่เห็น  กระบี่ของเขาเหมือนกับจะถูกเข้ารหัสและซ่อนไว้

เขาเป็นเซียนกระบี่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในช่วงเวลาของเขา

ไม่มีใครรู้จักชื่อของเขา แต่ผู้ที่ได้รับยกย่องให้มีฐานะเสมอเซียนก็ต้องมีช่วงเวลารุ่งเรืองสุดยอดในยุคของเขาเอง

กระบี่ในมือของเซียนกระบี่ลับความจริงก็คือกระบี่ผนึกปีศาจ!

เซี่ยชิงเชื่ออย่างนี้แน่นอน พวกเขาปกป้องสมบัติในตำนานที่ตกทอดมาโดยเซียนกระบี่คนหนึ่งนี่เอง

“เซียนกระบี่ลับมักจะทำตัวไม่โดดเด่น  เขามีศิษย์คนหนึ่งเมื่อเขายังมีชีวิตเขาได้อธิบายวิธีที่เขาใช้กระบี่ลับซึ่งถ่ายทอดต่อๆกันหลายชั่วคนโดยบุคคลผู้นี้ เขามีบุตรชายคนหนึ่งนามว่าหวีชิงกระบี่ผนึกปีศาจจะต้องตกทอดไปยังบุตรชายเขา แต่ศิษย์ของเขาก็อยากได้กระบี่เล่มนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีและวางแผนฆ่าหวีชิง ในที่สุดก็มีเพียงบ่าวรับใช้คนหนึ่งเหลืออยู่ข้างกายหวีชิงเขาคือเซี่ยซินอู่ หวีชิงบาดเจ็บหนักไม่สามารถขยับตัวได้ เพื่อหลอกล่อศัตรูเซี่ยซินอู่นำกระบี่ผนึกปีศาจหนีไป”

ทุกคนพากันสนใจเรื่องนี้  เซี่ยชิงกัดฟันกำหมัดแน่นเนื่องจากเซี่ยซินอู่ก็คือบรรพบุรุษของเขา

“บิดาของเซี่ยซินอู่ก็คือเซี่ยสวงเป็นสหายกับหวีเกอ  เขามักติดตามอยู่ใกล้ๆ หวีเกอ แต่เซี่ยซินอู่และหวีชิงเติบโตมาด้วยกันและมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น  หวีเกอก็รู้สึกได้เหมือนกันดังนั้นเขาจึงสอนวิชาทุกอย่างที่เขารู้ให้เซี่ยซินอู่  เซี่ยซินอู่เป็นบุรุษที่เข้มแข็งอดทน  เขาต่อสู้เบิกทางออกไปเมื่อเขากลับมาตามหาหวีชิง ก็ไม่สามารถหาพบได้เขาพกกระบี่ผนึกปีศาจตามหาหวีชิงตลอดอยู่อย่างนั้นนานถึงสี่สิบปีก็ไม่ได้วี่แวว พออายุมากเซี่ยซินอู่หลีกเร้นไปอยู่ในที่ไกลและเรียกชื่อตัวเองว่าองครักษ์พิทักษ์กระบี่”

สายตาทุกคนรวมทั้งถังเทียนหันไปมองเซี่ยชิง นี่คือสาเหตุที่ตระกูลเซี่ยเป็นที่รู้จักกันในนามว่าองครักษ์พิทักษ์กระบี่

เซี่ยชิงก้มหน้าในดวงตาของเขาเริ่มแดงระเรื่อ “ลูกหลานของหวีชิงยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?”

“ข้าไม่รู้ พวกเขาไม่เคยปรากฏตัวเลยสักครั้ง” สตรีชุดดำส่ายศีรษะขณะที่นางกล่าว “ข้าติดตามข่าวมาเป็นเวลานาน  แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวของลูกหลานเขาเลย”

“กระบี่ผนึกปีศาจอยู่บนยอดเขาหินนั่นหรือ?”  เซี่ยชิงถามอย่างหดหู่ใจ

“ใช่” สตรีชุดดำพยักหน้า “จุดแข็งที่สุดเกี่ยวกับกระบี่ผนึกปาจก็คือมันสามารถผนึกสมบัติดวงดาวได้ทั้งหมด  แม้ว่าเซียนกระบี่ลับจะทำตัวเองไม่โดดเด่น  แต่เขามีศัตรูอยู่มากมาย  ในกระบี่นี้มีสมบัติอยู่มากมาย  ที่สำคัญที่สุด มันถูกผนึกไว้เป็นมรดก  ปัจจุบันนี้เป็นกระบี่ที่มีรหัสลับอย่างแท้จริง ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่ศิษย์ของเซียนกระบี่ลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชิงกระบี่นี้ให้ได้”

“แต่ว่า ตั้งแต่ข้ายังเด็กข้าเดินตรวจดูยอดเขาหินทุกซอกทุกมุมแล้ว ไม่มีกระบี่ผนึกปีศาจเลย” เซี่ยชิงจ้องมองสตรีชุดดำ

“นั่นเป็นเพราะกระบี่ผนึกปีศาจยังคงมีผนึกของเซียนกระบี่ลับ”  สตรีชุดดำตอบ “หลังจากเซียนกระบี่ลับตายไม่มีใครสามารถใช้กระบี่ผนึกปีศาจได้อีกต่อไปรวมทั้งบุตรชายของเขาหวีชิงด้วย บรรพบุรุษของเจ้า เซี่ยซินอู่บางทีก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน  แต่หลายปีผ่านไปผนึกอาจจะอ่อนลงมากแล้วก็ได้ ข้ามีวิธีทำลายผนึก!”

ทุกคนตื่นต้น  กระบี่ศักดิ์สิทธิ์สมบัติศักดิ์สิทธิ์ของสมบัติทั้งปวงต้องเป็นระดับทอง  เมื่อคิดถึงสมบัติทั้งหมดที่ถูกกระบี่นี้ผนึกไว้ใครจะไม่ตื่นเต้นกันเล่า?

พวกเขาแต่ละคนมีข้อสงสัย

“ทำไมผนึกจึงต้องถูกทำลาย?”  ถังเทียนถามด้วยความสงสัย

สตรีชุดดำตกใจ“เจ้าไม่ต้องการกระบี่ผนึกปีศาจหรือ? เจ้าไม่ต้องการสมบัติทั้งหมดที่อยู่ในกระบี่ผนึกปีศาจหรือ?”

ถังเทียนกลับตอบด้วยข้อความที่น่าทึ่ง “เพราะสมบัตินี้เป็นสิ่งที่ตระกูลเซี่ยปกป้อง  ในฐานะสหาย เราควรช่วยเขาไม่ใช่หรือ?  นอกจากนี้ เพราะศรัทธาที่มั่นคงมาเป็นเวลาหลายร้อยปีนั่นสมควรให้ความเคารพพวกเขา”

เซี่ยชิงเงยหน้าขึ้นเหม่อมองถังเทียนด้วยนัยน์ว่างปล่า

**

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด