ตอนที่แล้วตอนที่ 18 เติบโตขึ้น (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 ราชาของข้า (อ่านฟรี)

ตอนที่ 19 เด็กชายเจริญวัย (อ่านฟรี)


เนื่องจากทักษะการเจรจาต่อรองที่น่าทึ่งของแม็กนัส ซึ่งเกี่ยวข้องกับการไม่ตอบกลับ เขาได้เสนอข้อตกลงว่าหาก บ๊อบบี้สามารถสอบผ่าน เขาก็สามารถข้ามชั้นได้เช่นกัน

ครูใหญ่ไม่ต้องการให้ทำเช่นนี้ จนถึงกับขอร้องแม่ของแม็กนัส แต่เกรซก็ปัดความรับผิดชอบทันที เพราะเธอไม่ต้องการกลายเป็นวายร้ายในชีวิตของแม็กนัส เธอรู้ว่าทำไมแม็กนัสถึงทำแบบนี้

ดังนั้น อาจารย์ใหญ่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอนุญาต แต่เขาแอบวางแผนที่จะทำการทดสอบอย่างหนักเพื่อให้มีเพียงแม็กนัสเท่านั้นที่จะสามารถผ่านได้ และเขาจะจับตาดูอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการโกงเกิดขึ้น

หลังจากนั้น แม็กนัสก็ไปคุยกับบ๊อบบี้

ไงนะ? ฉะ-ฉันเนี่ยนะ? ข้ามชั้น? แม็กนายบ้าแล้ว ฉันอาจจะเรียนเก่งแต่ไม่ได้เทพเหมือนนายนะ ฉันจะทำได้ไงเล่า? ทุกคนรุมหัวเราะเยาะฉันแน่ถ้าฉันสอบตก” บ๊อบบี้พูดเหวอย่างหดหู่

แม็กนัสตบหน้าเพื่อนที่ตอนนี้ตัวไม่จ้ำม่ำของเขา “ฮ่าฮ่า ฉันจะสอนนายเอง บ๊อบบี้ เราทั้งคู่จะโดดข้ามชั้นเรียนไม่งั้นแล้วใครทำเล่า อีกอย่างนี่เดือนธันวาคม เรามีเวลาเพียงพอนา กว่าจะถึงเทอมหน้าก็ปาเข้าไปเดือนกันยาโน่น”

"เพื่อน นายนี่มันแหล่งรวมปัญหาจริงๆ เล้ย ดูสิว่าฉันผอมลงขนาดนี้เพราะความเครียดลงกระเพราะเนี่ย” บ๊อบบี้ตบท้องตัวเอง โชว์ให้ดูว่าตอนนี้เขาผอมมากแล้ว

แม็กนัสหัวเราะเบาๆ พลางตอบกลับ “ไม่ใช่แล้วบ๊อบบี้ นั่นเรียกว่าสุขภาพดี อย่ามาโทษมั่วๆ แล้วทุกวันนี้แม่นายก็คอยจ้ำจี้จ้ำไชไม่ให้นายกินอาหารไขมันสูงต่างหาก”

*เห่อ*

"นายมีเวลาจะทำทั้งหมดนั้นงั้นหรอ? ไม่ใช่ว่านายกำลังยุ่งกับเรื่องวุ่นๆ ในชีวิตของนายอยู่หรือไง?” บ๊อบบี้ถาม

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันจะไปนอนที่บ้านนายสัปดาห์ละสองครั้ง และนายก็ต้องทำเหมือนกัน เราต้องใช้ช่วงเวลากลางคืนด้วย หากเราต้องการจะยิ่งใหญ่ในสักวันหนึ่ง ลองนึกภาพดูสิ สักวันหนึ่ง ผู้คนจะพูดถึงนายตามท้องถนน พวกเขาอาจเรียกนายว่า 'บ็อบบี้ ผู้ยิ่งใหญ่ หรืออะไรทำนองนั้นดูสิ” แม็กนัสป้อนอาหารให้เขา

“อิอิ รู้สึกเหมือนมีผีเสื้อมาบินอยู่ในท้อง แต่ฉันไม่อยากให้พวกเขาเรียกฉันว่าบ๊อบบี้ ไม่งั้นก็..ชื่อแบรนดอนฟังดูยิ่งใหญ่กว่า” บ๊อบบี้เถียง

"บ๊อบบี้ แม็กนัส... เรากำลังเรียนแล้ว นั่งลง" อาจารย์เข้ามา

แม็กนัสทันได้ยินก็หัวเราะ ขนาดครูยังเรียกเขาว่าบ็อบบี้เลย "ไม่ล่ะน้องชาย ชื่อนี้ติดอยู่กับนายไปตลอดชีวิตแล้ว"

บ๊อบบี้บ่นพึมพำพลางนั่งลง

...

ตามที่แม็กนัสสัญญาไว้ เขาจดจ่ออยู่กับความรู้ในสมองของบ็อบบี้ ในขณะเดียวกัน ตัวแม็กนัสเองก็มุ่งความสนใจไปที่การศึกษาระดับอุดมศึกษา เขารู้สึกว่าคงจะดีกว่าถ้าเขาเรียนจบมัธยมปลายก่อนจะไปฮอกวอตส์ เหตุผลก็เพราะเขาไม่พบหนังสือใดๆ ในหลักสูตรของฮอกวอตส์ที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์

"แม็ก นายจะแก้โจทย์นี้ยังไง พวก ฉันเกลียดวิชาตรีโกณมิติ แล้ว Sin, Cos, Tan นี่มันอะไรกัน? บ๊อบบี้บ่นพลางกุมหัวด้วยความหงุดหงิด

"ง่ายจะตายบ๊อบบี้ นายแค่ต้องจำส่วนของ’ซาย’ ลองดู แล้ว ’คอส’คือส่วนกลับของ’ซาย’ และ’แทน’คือ’ซาย’ที่หารด้วย’คอส’" แม็กนัสสอนเขา

ส่วนแมกนัสกำลังเรียนวิชาฟิสิกส์และเคมี เขารู้สึกทึ่งในวิชาเคมีมากเพราะฟิสิกส์ให้ความรู้สึกเหมือนคณิตศาสตร์มากกว่าสำหรับเขา แถมเขาก็เก่งวิชานั้นด้วย แต่เคมีเป็นเรื่องใหม่ทั้งหมด โลกนี้ประกอบขึ้นด้วยสิ่งดีๆ ต่างๆ ที่หากจะศึกษาให้หมดคงต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคน

พวกเขาใช้เวลาเช่นนี้หลายสัปดาห์ผ่านไปอย่างช้าๆ แม็กนัสพยายามพัฒนาความสามารถพลังไฟให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ช้าซะเหลือเกิน เขาหวังว่ามันจะดีขึ้น

เขายังคงเรียนวิชาดาบจากอาเธอร์ ชายผู้นี้กระตือรือร้นมากเกินไปในการทำให้เขาเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกด้วยเหตุผลบางอย่าง

ไม่นานก็ถึงวันคริสต์มาส เนื่องจากมิตรภาพของ แม็กนัสและบ๊อบบี้ ครอบครัวของพวกเขาจึงกลายเป็นเพื่อนกัน การไปมาหาสู่งกันก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา แม่ของแม็กนัสชอบคุยกับคนที่ไม่ใช่พยาบาลหรือหมอ อดัมก็ชอบคุยกับคนที่ไม่ใช่ทหารเช่นกัน

เกรซเคยแนะนำแม่ของบ๊อบบี้ให้ทำงานในโรงเรียนประถมที่รัฐบาลและกองทัพเป็นเจ้าของร่วมกันเพื่อสอนพวกลูกๆ ของบุคลากรทางทหาร เธอก็ได้งานและเงินเดือนดีกว่าเดิม

หลังจากนั้นครอบครัวของพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นเรื่องดีสำหรับแม็กนัสกับบ็อบบี้ที่พวกเขาได้อยู่บ้านของกันและกันมากขึ้น

ดังนั้นสำหรับอาหารค่ำวันคริสต์มาส ครอบครัวของบ๊อบบี้จึงมาที่บ้านของพวกเขา แม็กนัสเองก็อยู่ที่บ้านของบ๊อบบี้ เพราะอย่างนั้นพวกเขาจึงมาด้วยกัน

“วันนี้นายดูสนใจชีววิทยาเป็นพิเศษนะ เรียนถึงบทไหนล่ะ?” แม็กนัสถามบ็อบบี้ ทั้งสองคนนั่งอยู่เบาะหลัง

บ๊อบบี้ไอตอบกลับ “การสืบพันธุ์ของมนุษย์”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม็กนัสก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ "ฮ่าฮ่าฮ่า... เพื่อนเอ๋ย เจ้าได้เติบโตขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว"

“แล้วนายเข้าใจทุกอย่างหรือยัง?” แม็กนัสถาม พยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดของบ๊อบบี้

“มันก็ไม่ยาก แต่น่าขยะแขยง แต่ก็น่าสนใจด้วยเหตุผลบางอย่าง อา ฉันช่างโง่เขลาเหลือเกินที่เชื่อว่าเด็กทารกมาจากต้นพีช” บ๊อบบี้ตอบ

แม็กนัสเกาหัว "อะไรนะ? ไหงนายสรุปได้แบบนั้นล่ะ?"

“ก็เพราะพ่อกับแม่นั่นแหละ ตอนฉันถามว่าเด็กๆ เกิดมาได้ยังไง? พวกเขาบอกฉันว่าเมื่อคู่รักต้องการมีลูก พวกเขาจะไปที่ต้นพีชและจูบลูกพีชหนึ่งลูก จากนั้นใน 9 เดือน ลูกพีชก็โตขึ้นและมีลูกออกมา” บ๊อบบี้อธิบาย

"ฮ่าฮ่าฮ่า...ก็ลูกพีชมันก็ดูเหมือนก้นอยู่นะ พ่อฉันเล่นหนักกว่าอีก เขาว่านกกระสามอบทารกให้กับผู้คน นายไม่รู้หรอกว่าฉันต้องใช้เวลาในสวนหลังบ้านตั้งกี่วัน เพื่อรอดูนกกระสาคาบเด็กๆ ไปนั่นนี่" แม็กนัสเปิดเผยเรื่องราวของเขา

“ทำไมพวกเขาต้องปิดบังเรื่องนี้จากเราด้วยล่ะ? แถมยังสร้างเหตุผลที่ไร้สาระแบบนั้น” บ๊อบบี้สงสัย

“ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะคิดว่าเราโง่เกินไปก็ได้ เอาเถอะ เด็กส่วนใหญ่ในห้องเราก็คิดว่าซานตาคลอสมีจริง เพราะพวกเขาพบของขวัญที่พ่อแม่แอบเอามาให้” แม็กนัสกล่าวนำ

“ฉันก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่นายเป็นคนเปิดเผยความจริงหลังจากที่จับได้ว่าพ่อของนายแอบเอาของขวัญมาวางไว้” บ๊อบบี้จำเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีที่แล้วได้

แม็กนัสหัวเราะเบาๆ “ฮิฮิ ใช่ จริงๆ แล้วฉันคิดว่าเป็นขโมยที่พยายามขโมยของขวัญของฉัน เพราะพ่อไม่ได้สวมชุดซานต้า ฉันพยายามทุบตีเขาจนแม่จ๋าต้องมาช่วยเขาไว้”

“ช่าย มันต้องฮามากแน่ๆ”

ไม่นานพวกเขาก็ถึงบ้านของแม็กนัส บ๊อบบี้กับแม็กนัสลงจากรถแล้วพุ่งไปที่ประตูใหญ่

"เหมียว..."

แม็กนัสกับบ๊อบบี้เงี่ยหูฟัง พอเดินไปเดินมาหาที่มาของเสียงก็มาถึงพุ่มไม้ที่กั้นระหว่างบ้าน ที่นั่นพวกเขาเห็นแมวดำตาโตนั่งอยู่ในกล่อง

"เมี้ยวววว...ครื่ออ..." เจ้าแมวทำเสียงดุเมื่อเห็นพวกมัน

แม็กนัสเดินไปข้างหน้าแล้วลูบมัน "แมวขนยาวน่ารักจัง"

บ๊อบบี้รู้สึกสับสน “แม็ก เขา... ตัวหนาเกินไปหรือเปล่า?”

แม็กนัสมองไปที่แมวขนยาวตัวเต็มวัย “อืม นายพูดถูก เขาตัวใหญ่ ฉันจะเก็บเขาไว้”

“อะไรนะ? ทำไมคุณทำงั้นล่ะ? เขาไม่ใช่ลูกแมวด้วยซ้ำ” บ๊อบบี้เถียง

"ดูสิ เขาอยู่ในกล่อง หมายความว่าเขาถูกทิ้ง" แม็กนัสชี้

“กล่องอะไรล่ะ เขาใหญ่เกินไปสำหรับมัน มันดูเหมือนมีคนบังคับให้แมวนั่งลงในนั้น” บ๊อบบี้กล่าวเถียง

“ไม่หรอก แมวชอบนั่งในที่แคบๆ ต่างหาก มาดูกันว่ามีจดหมายไหม” แม็กนัสอุ้มแมวขึ้นมาเพื่อดูของในกล่อง มีกระดาษแผ่นเล็กๆ

"เขาชื่อ แชด จิ๊กเกิลส์ ที่ 3 ช่างเป็นชื่อที่แปลกจริงๆ" แม็กนัสอ่านมัน

"เอาเลย แชด เข้าไปข้างในกันเถอะ" แม็กนัสมุ่งหน้ากลับบ้าน

น่าแปลกที่แมวลูบขาตัวเองแล้วเดินตามหลังไป มันดูใหญ่เกินไปสำหรับขาเล็กๆ แต่นั่นก็เป็นเพราะขนที่ฟูมากเกินไป

"เหมียววว..."

"เขาชอบนาย" บ๊อบบี้กล่าว

“แน่นอน ฉันรักแมว ตอนนี้ฉันแค่ต้องทำให้พ่อแม่ยินยอมให้ฉันเลี้ยงมัน แชด เป็นเด็กดีนะ” แม็กนัสสอนแมว แม้ว่าจะรู้ว่ามันไม่สามารถเข้าใจเขาได้

ในไม่ช้า เขาก็อุ้มแชดเข้าบ้านไป ทุกคนหันตามมามองสิ่งแรกที่เกรซเห็นคือแชด

"แม่จ๋า ผมเจอแมวที่ถูกทิ้งในกล่องนอกบ้าน เราเลี้ยงมันได้ไหมฮะ" แม็กนัสถาม

เกรซเดินไปข้างหน้า เธอไม่มีอาการแพ้หรืออะไรเลย เธอตรวจสอบและพบว่าแชดไม่มีปลอกคอ

“ดูจากขนนุ่มๆ ของมัน ดูเหมือนว่ามันมาจากสายพันธุ์ที่ดีนะจ๊ะ ลูกแน่ใจหรือว่าจะดูแลมันได้” เธอถามขณะที่มองตาเขาอย่างพิจารณา

"ฮะ... ผมจะดูแลเขาเอง" แม็กนัสตกลงอย่างรวดเร็ว

"ได้จ่ะ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวน้า" เกรซเกาศีรษะของแชดในขณะที่เขาไถศีรษะบนฝ่ามือของเธอ

"เขาชื่ออะไรหรอ?" เกรซถาม

"แชด จิ๊กเกิลส์ ที่ 3 ฮะ" แม็กนัสแสดงโน้ตเล็กๆ ให้เธอดู มันทำให้ดวงตาของเกรซกระตุก

“ฮ่าๆ อืม.. แช้ดก็ดีนะจ๊ะ พาเขาขึ้นไปอาบน้ำระหว่างที่เราทำอาหารเถอะจ่ะ” เธอสั่งเขา

แม็กนัสอุ้มแชด ไว้ในอ้อมแขนข้างเดียว และจับแมวทำความเคารพด้วยอุ้งเท้าของเขาพลางเลียนเสียงแมวออกมาเป็นคำว่า “เข้าใจแล้วฮับแม่”

พูดจบแม็กนัสกับบ็อบบี้ก็เผ่นแนบขึ้นชั้นบนไปที่ห้องของเขา

ทันทีที่พวกเขาเข้ามา อาเธอร์ก็พูดขึ้น "โอ้ เราเจออะไรกันเนี่ย ก้อนขนอ้วนๆ"

แม็กนัสหันไปมองภาพอาเทอร์ บ๊อบบี้ไม่ได้ยินหรือเห็นดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่อง

"เขาชื่อแชด เป็นสมาชิกคนใหม่ของเรา" แม็กนัสตอบกลับ

แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตก็คือทันทีที่อาเธอร์พูด หัวของแมวก็หันไปทางเขาในเสี้ยววินาที จากนั้นมันก็มองไปรอบๆ ห้องทำการสำรวจต่อไป

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

แชด จิ๊กเกิลส์ ที่ 3

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด