ตอนที่แล้วตอนที่ 23 : ทำพ่อค้าตะลึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 25 : ตามหาโรงเตี๊ยม

ตอนที่ 24 : การซื้อขายครั้งใหญ่


เป็นเรื่องจริงที่หลินมู่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขานำมาคืออะไร และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่ามันแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่เขาไม่คิดว่าเขาจะได้ 6 เหรียญทองจากการขายพวกมันทั้งสอง อีกเรื่องก็คือหลินมู่ได้รู้ถึงความอันตรายสุดขั้วที่เขาต้องเผชิญมาโดยตลอดในตอนที่เจอกับพวกมัน

สิ่งเดียวที่เขาไม่ต้องกังวลอีกต่อไปก็คือเงินสำหรับจ่ายค่าโรงเตี๊ยม ด้วย 6 เหรียญทองที่เขามี เขาสามารถจ่ายค่าห้องพักได้ทั้งฤดูหนาวอย่างไม่ยากเย็น เพราะแค่เหรียญทองเดียวก็จองโรงเตี๊ยมชั้นดีได้ทั้งเดือนแล้ว

‘ทีแรกข้าแค่หวังว่าให้กล่องไม้หอมขายได้แพงพอสำหรับอยู่รอดในหน้าหนาว แต่ไม่คิดเลยว่าเจ้าสองตัวนี้จะเกินพอ’

หลินมู่คิด

พ่อค้าจ้องมองหลินมู่ที่ตกใจ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบ พ่อค้าจึงถามซ้ำ

“เจ้ายินดีหรือไม่?”

ย่อมได้ ข้าขาย”

หลินมู่รีบพูดหลังจากได้ยินคำถามของพ่อค้า

พ่อค้าบอกให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รับซากสัตว์ไปและหยิบ 6 เหรียญทองออกมาส่งให้หลินมู่ที่รับเงินด้วยมือที่กำลังสั่น พ่อค้ายิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นมือที่สั่นไหวของหลินมู่

หลินมู่แสร้งเป็นเก็บเงินในกระเป๋าแต่แท้จริงแล้วเก็บในแหวน หลินมู่ไม่เคยได้รับเงินมากมายขนาดนี้มาก่นอ เขาอยากจะเก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่สุดซึ่งก็ต้องเป็นแหวน

หลินมู่รู้สึกขอบคุณกับพ่อค้าที่มาสลายฝูงชนไปก่อนที่จะให้เงินเขา เพราะเหตุการณ์เมื่อครั้งกระต่ายม่านหิมะอาจจะเกิดขึ้นซ้ำในวันนี้ได้

แม้ว่าหลินมู่จะแข็งแกร่งกว่าเดิมแล้วเมื่อมีร่างกายในขั้น 6 เขาก็ยังคงมิอาจปกป้องตัวเองต่อคนจำนวนมากได้

หลังจากซื้อขายสำเร็จ หลินมู่หันหลังเตรียมเดินจากไป ตอนนี้เขาต้องการเพียงแค่พ่อค้าที่จะซื้อกล่องไม้หอมของเขา หลินมู่ค้นหาทั่วกลางเมืองจนกระทั่งได้เจอพ่อค้าที่ดูร่ำรวยที่น่าจะซื้อกล่องได้

พ่อค้าที่ดูร่ำรวยผู้นี้เป็นชายวัยกลางคนสวมชุดสีเหลืองยาวและเก็บผมไว้ในหมวก มีสินค้ามากมายที่วางขายในร้านชั่วคราวของเขา ซึ่งคนส่วนใหญ่ทำได้แค่มองโดยมิอาจซื้อมันได้

สินค้ามีหลากหลายประเภท ทั้งสร้อย กำไล ต่างหู มีดฝังเพชร ดาบ แจกัน และหม้อคุณภาพสูงดูหรูหราและของหรูหราอีกมากมายหลายชนิด

หลินมู่ไปที่ร้านและมองรอบ ๆ เมื่อเห็นของทั้งหมดแล้วรู้สึกว่าพ่อค้าน่าจะยอมรับซื้อกล่องไม้หอม

หลินมู่หันไปมองพ่อค้าที่กำลังนั่งจิบชาอย่างเงียบเชียบ

“ท่านพ่อค้า ท่านรับซื้อของหรือไม่?”

หลินมู่ถามด้วยความเคารถ

พ่อค้าที่กำลังรื่นรมย์กับน้ำชาอยู่นั้นลืมตาเหลือบมองหลินมู่

“ขึ้นอยู่กับของที่เอามาขาย ข้าอาจจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แต่รู้ไว้ด้วยว่าข้าซื้อแค่ของระดับสูงสุดและของหายากเท่านั้น”

พ่อค้าวัยกลางคนกล่าวอย่างไร้อารมณ์

หลินมู่หยิบกล่องไม้หอมออกมาจากถุงซึ่งเขาเรียกออกมาจากแหวนไว้ล่วงหน้า จากนั้นจึงยื่นให้พ่อค้าวัยกลางคน

พ่อค้าวัยกลางคนหรี่ตามองเมื่อได้เห็นกล่องไม้หอม

“กล่องกฤษณาแล้วก็อืม นี่มันอะไรกัน?”

ชายวัยกลางคนพึมพำเมื่อเห็นลวดลายบนกล่อง

พ่อค้าดูเหมือนจะรู้ว่ากล่องคืออะไร และความสนใจของเขาก็เพิ่มมากขึ้น

“เจ้าได้กล่องเก็บโอสถจากนิกายสามหม้อโบตั๋นมาได้อย่างไร?”

พ่อค้าถาม

หลินมู่ตกใจเล็กน้อยที่พ่อค้าเดาการใช้งานของกล่องได้จากการมองเพียงครั้งเดียว และหลินมู่ก็ยืนยันข้อสงสัยของตัวเองได้ด้วยว่าโอสถฟื้นฟูสี่สายโลหิตนั้นมาจากนิกายสามหม้อโบตั๋นจริง

“มีคนมาจำนำให้พ่อค้าเพื่อแลกกับเงิน”

หลินมู่ตอบ

เขาคิดอยู่นานว่าจะใช้ข้ออ้างเช่นใด เพื่อว่ามีคนถาม

พ่อค้าวัยกลางคนสับสนเล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำตอบจากหลินมู่ แต่จากนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปราวกับคิดอะไรบางอย่างได้

“โอ้ เจ้าจะต้องได้มันมาหลังจากโรคระบาดปีที่แล้วแน่ ใช่แล้ว นิกายสามหม้อโบตั๋นเป็นคนแจกจ่ายยารักษาโรคระบาดนี่นะ”

พ่อค้ากล่าวราวกับมั่นใจ

นี่เองก็เป็นข่าวใหม่สำหรับหลินมู่ เพราะเขาไม่รู้ว่านิกายสามหม้อโบตั๋นนั้นเป็นผู้ผลิตยารักษาโรคระบาด

โรคระบายในปีที่แล้วบ่อนทำลายเมืองเหนือและเมืองตะวันออก ประชากรราวสามในสิบส่วนเสียชีวิตเพราะโรคระบาดนี้ โรคระบาดในเวลาไม่ถึงเดือนเดียว และเจ้าเมืองอู๋หลิมก็ขอให้นิกายช่วยเหลือ ยามาถึงในสองวันถัดมาแต่ก็ช้าไปสำหรับบิดามารดาหลินมู่เพราะได้สิ้นบุญไปพร้อมกับโรคร้ายเสียแล้ว

หลินมู่หยุดความคิดและพูดออกมา

“ท่านจะซื้อหรือไม่?”

“ขอข้าทดสอบเสียก่อน”

พ่อค้าพูดและรับกล่องจากมือหลินมู่

พ่อค้าเคาะนิ้วบนลวดลาย และจู่ ๆ มันก็เปล่งแสงออกมา มีอักษรโบราณมากมายปรากฏขึ้นมาลอยบนลวดลายกล่อง หลินมู่เบิกตากว้างเมือ่ได้เห็น

พ่อค้าเห็นท่าทางตกใจของหลินมู่และพูด

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่รู้ว่ามีค่ายกลเก็บรักษาในกล่องนะ”

หลินมู่พยักหน้ารับคำพ่อค้า

“แน่นอนเพราะเจ้าไม่ใช่ผู้บ่มเพาะพลัง ไม่มีทางที่เจ้าจะรู้หรอก”

พ่อค้าพูดกับตัวเอง

“ช้าก่อน หมายความว่าท่านเป็นผู้บ่มเพาะพลังรึ?”

หลินมู่ถามด้วยความสงสัย

“ถูกต้อง ข้าเป็นผู้บ่มเพาะพลัง”

พ่อค้าวัยกลางคนตอบกลับ

พ่อค้าสลับสายตาไปที่กล่องและนิ่งเงียบราวกับว่ากำลังใช้ความคิด เขาเอามือจับคงและพูด

“กล่องเก็บโอสถกฤษณจากนิกายสามหม้อโบตั๋นที่มีค่ายกลเก็บรักษาวางเอาไว้ ราคาของชิ้นนี้ ข้าจะให้ราคาเจ้า…อืมม…”

“100 ทอง”

หลินมู่ตกตะลึงเกินกว่าจะปลดปล่อยความรู้สึกออกมาได้ เขาถึงกับแอบหยิกตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าานี่ไม่ใช่ความฝัน สวรรค์ล่วงรู้ดีว่าเขาไม่ได้ฝันมาาหลายวันแล้ว แต่เขาเพิ่งจะได้ฝันกลางวันโดยไม่รู้ตัว

หลินมู่มิใช่เพียงคนเดียวที่ตกตะลึงหลังจากได้ฟังราคา แม้จะไม่มีใครอื่นอยู่ที่ร้าน แต่ก็มีสองคนที่ยืนอยู่ไกลเพียงเล็กน้อยได้ยินเข้า ชายทั้งสองยืนอยู่ที่ด้านหลังหลินมู่ พวกเขามิได้หันมามองในทันที พวกเขากาลับเดินไปให้ไกลจากร้านมากกว่าเดิมอีกเล็กน้อยและค่อยหันมามอง

วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับหลินมู่ เขารู้สึกโชคดีอยู่แล้วที่ได้รับ 6 เหรียญทองจากการขายซากสัตว์ แต่ตอนนี้เขายังได้ 100 เหรียญทองในการขายกล่องไม้หอมมาอีก ตอนนี้เขารู้สึกร่ำรวยราวกับชายที่รวยที่สุดในโลก

เมื่อเห็นท่าทางยอมรับของหลินมู่ พ่อค้าวัยกลางคนก็พลิกมือซ้ายและกระเป๋าเงินใบเล็กก็ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า หลินมู่ดูมือพ่อค้าใกล้ ๆ และเห็นว่ามีแหวนที่นิ้วกลางของพ่อค้า พ่อค้าคนนี้เองก็สวมแหวนเก็บของเหมือนกันกับเขา

นี่เป็นแหวนเก็บของวงแรกที่หลินมู่เคยเห็นถ้าไม่นับวงที่เขามี แหวนที่พ่อค้าสวมอยู่นั้นแตกต่างจากของหลินมู่อย่างมาก ขณะที่แหวนของหลินมู่เป็นสีเทาหม่นและมีติ่งเล็ก ๆ ห้าตำแหน่งบนแหวน แหวนพ่อค้าคนนี้มีสีทองและมีอัญมณีสีน้ำเงินขนาดาเล็กฝังอยู่

เมื่อกระเป๋าเงินใบเล็กปรากฏในมือพ่อค้า เขาก็เปิดออกและนับเงิน 100 เหรียญทองก่อนจะวาางไว้บนโต๊ะขาย หลินมู่รีบรับมันมาเก็บไว้ในกระเป๋าเงินของเขาเอง

เขามิอาจเก็บมันไว้ในแหวนได้ในทันทีเพราะปริมาณเงินนั้นมากเกินไปที่จะซ่อน และพ่อค้าตรงหน้าเขาก็เป็นผู้บ่มเพาะพลังที่อาจจะรู้สึกได้

ขณะที่ทุกอย่างเกิดขึ้นนั้น ชายสองคนกำลังจับตาดูการซื้อขายอย่างใกล้ชิด ความโลภถูกจุดประกายในแววตาของพวกเขาทั้งสอง พวกเขาดูเหมือนจะพูดคุยบางอย่างกันก่อนจะหายตัวไปในฝูงชน

แม้หลินมู่จะต้องการไม่ให้เรื่องแบบเดียวกันเกิดขึ้นซ้ำโดยการซื้อขายให้ลับตาคนที่สุด แต่เรื่องที่เขากลัวที่สุดก็ยังคงเกิดขึ้น และตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย

เมื่อขายของเสร็จ หลินมู่เดินออกมาจากพ่อค้าและมุ่งหน้าไปทางซอยเปลี่ยวที่มีร้านจิงเหว่ยตั้งอยู่ เพราะเขายังมีของอย่างอื่นที่จะขาย ขณะที่เดินอยู่นั้นเอง เขาไม่รู้ตัวเลยว่ามีชายสองคนกำลังตามเขามาจากที่ไกล ๆ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด