ตอนที่แล้วตอนที่ 217 ข้าจะไม่เศร้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 219 ความเข้าใจของหนุ่มชาวฟ้า

ตอนที่ 218 กระบี่ผนึกปีศาจแห่งหมู่ดาวถ้วย


“เชิญเข้ามา,นายท่านรอเวลานี้มานานมากแล้ว!” ยามเฝ้าประตูผลักประตูบรอนซ์หนักและหนาออก  เสียงดังสะเทือนสะท้อนก้องไกล

กัวตงที่หน้าซีดแบกกัวอวี่ที่หมดสติเข้ามา

กัวตงในตอนนี้ไม่มีเค้าของเพชฌฆาตกาเพลิงในตำนานเหลืออยู่เลย  หน้าของเขาซีดเซียว เครายุ่งเหยิง  ดวงตามีประกายหมอง  หลังจากผ่านไปคืนเดียว เขาเหมือนแก่ขึ้นสิบปี

เขาค่อยๆเข้าไปในห้องโถงใหญ่

มีร่างหนึ่งปรากฏอยู่ในท่ามกลางห้องโถงใหญ่  เงาหลังสูงตระหง่านทำให้กัวตงใจสั่นสะท้าน  ร่างที่อยู่ต่อหน้าเขามีขนนกดำนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในอากาศโดยรอบ

คนผู้นั้นหันหน้ากลับมาและเมื่อเห็นสภาพของกัวตง  เขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ  “เกิดอะไรขึ้น, พี่กัว?”

เขามีคิ้วที่ดกหนาและหน้าเหลี่ยม  แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้พบเซี่ยอวี่  แต่หัวใจของกัวตงอดเต้นแรงไม่ได้ ขนนกที่ดกหนาคลุมเต็มอกของเขาทำให้เขาดูเหมือนกับมนุษย์วิหค  ขนนกทั้งหมดจับแน่นเป็นกลุ่มอยู่ที่หน้าอกเขาและที่ลอยอยู่ในอากาศก็มี

เซี่ยอวี่เป็นสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีลำดับที่9915 เขายังสูงกว่ากัวตงสิบสามอันดับ

กัวตงเข้าใจพลังของเซี่ยอวี่เป็นอย่างดีและพลังของเขาแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาด เซี่ยอวี่มักปิดประตูฝึกฝนและโลกภายนอกมีคนรู้จักพลังเขาเล็กหน้อย

“ครั้งนี้เราพบกับคนที่สร้างความลำบากให้เราคนหนึ่ง”  เสียงของกัวตงดังเหมือนกับเสียงแห้ง  และเขาฝืนยิ้มกล่าว

“ฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร?”  เซี่ยอวี่หน้าแข็งสามารถทำให้กัวตงตกอยู่ในสภาพอย่างนั้น คงต้องเป็นนักสู้ที่มีระดับฝีมือเหนือกว่ากัวตงแน่นอน

นักสู้ผู้แกร่งกล้าคนไหนมาเยือนหมู่ดาวกากันแน่?

“พี่เซี่ยไม่ได้ดูข่าวนักสู้อมตะฉบับสัปดาห์นี้หรือ?”  กัวตงมีใบหน้าขมขื่น

เซี่ยอวี่ส่ายหน้า“ข้าไม่ได้ติดตามข่าวมานานมากแล้ว อย่าบอกข้านะว่ามีคนใหม่ที่แข็งแกร่งเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้”

“ถังเทียน” กัวตงหัวเราะเยาะตนเอง “เป็นคนที่ใหม่มากไม่มีใหม่กว่านี้แล้ว เขาไม่มีชื่ออยู่ในทำเนียบนักสู้ด้วยซ้ำ ข้าไม่รู้ว่าเขาโผล่ออกมาจากไหน”

“เขามาจากไหนกัน?”  เซี่ยอวี่ไม่กล้าดูแคลนคนที่เขาไม่รู้จัก

“ข้าไม่รู้ วิทยายุทธของเขาดูเหมือนจะเป็นกรงเล็บเพลิงภูตพรายจากสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่พลังที่ปลดปล่อยออกมาแข็งแกร่งกว่ามาก  เขาคงมาจากตระกูลร่ำรวย  นอกจากนี้เขายังมีอาวุธสมบัติดวงดาวแล้วยังมีเกราะสมบัติอีกด้วย”  กัวตงถอนหายใจ

“พี่กัวชะล่าใจเกินไปแล้ว”  เซี่ยอวี่พูดเบาๆ

สมาพันธ์ชาวยุทธ,อาวุธสมบัติ, เกราะ สามจุดนี้กล่าวได้ว่าคนใหม่ที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมานี้ไม่ธรรมดาเลยสามจุดเชื่อมโยงอยู่ในบุคคลเดียวกัน เขาย่อมเป็นตัวปัญหาใหญ่แน่นอนโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย

“มนุษย์จะทำทุกอย่างเพื่อความร่ำรวยก็เหมือนกับนกหาอาหารนั่นแหละ” กัวตงหัวเราะอย่างขมขื่น “ข้าไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ปรากฏตัว แม้แต่เฒ่าบอดซอกำศรวลก็ยังปรากฏตัวออกมาด้วย”

“เฒ่าบอดซอกำศรวล!”  ม่านตาของเซี่ยอวี่หรี่แคบ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น  เซี่ยอวี่รู้ว่าเรื่องราวไม่ง่ายแล้ว

“ข้ามาหาครั้งนี้มีเรื่องขอร้องพี่เซี่ยเพื่อขอเลือดขนนกดำของท่านสักหยด”  กัวตงพูดจริงจัง

เซี่ยอวี่อึ้ง  “ข้ายินดีจะให้เลือดขนนกดำนี้แก่ท่านและข้ารู้ว่าพี่กัวตั้งใจจะให้เด็กหนุ่มคนนี้ใช้ แต่ท่านต้องคิดให้ดีก่อน ถ้าไม่อย่างนั้น เขาจะหมือนกับข้า และยากจะออกไปต่อได้ในอนาคต

เซี่ยอวี่ชี้ที่ขนนกดำหนาที่หน้าอกเขาและมองดูกัวตงเงียบๆ

กัวตงขบริมฝีปากแววเจ็บปวดปรากฏอยู่ในดวงตาเขา “ข้าทนเห็นเขาตายไม่ได้”

“ดี!”  เซี่ยอวี่เห็นด้วยอย่างจริงใจ  เขาตรงไปที่กัวอวี่ เลือดหยดหนึ่งออกมาจากปลายนิ้วเขาทันทีภายในหยดเลือดมีขนนกบางๆ ลอยอยู่ในนั้น

เลือดหยดลงไปในปากของกัวอวี่และทันใดนั้นมีชั้นหมอกสีดำบางๆปรากฏออกมาครอบคลุมตัวของกัวอวี่

“เขาคงจะต้องใช้เวลายี่สิบวันก่อนจะฟื้นจากอาการบาดเจ็บหนัก” เซี่ยอวี่กล่าว

“ขอบคุณพี่เซี่ย!”  กัวตงประสานมือขอบคุณ

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่,  อย่าใส่ใจไปเลย”  เซี่ยอวี่โบกมือแล้วขยับตัว

“ข้าไม่มีของอะไรตอบแทนในตอนนี้  พี่เซี่ยโปรดรับทราบความลับกระบี่ผนึกปีศาจก็แล้วกัน”  กัวตงกล่าว

“กระบี่ผนึกปีศาจ!”  ดวงตาที่สงบและสงวนท่าทีของเซี่ยอวี่เบิกกว้าง“ท่านหมายถึงกระบี่ผนึกปีศาจแห่งหมู่ดาวถ้วยน่ะหรือ?”

“แน่นอน พี่เซี่ยช่างมีความรู้จริงๆ” กัวตงพยักหน้า “หมู่ดาวถ้วยเป็นหมู่ดาวที่มืดทึมที่สุด  ไม่มีคนรู้จักมันมากทั้งไม่รู้ว่มันคือสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุด กระบี่ผนึกปีศาจเป็นสมบัติระดับทองและเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของหมู่ดาวถ้วย

เซี่ยอวี่กลับคืนสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว “พี่กัวเข้าไปคลุกคลีเรื่องนี้ก็เพราะกระบี่นี้?”

“ถูกแล้ว” กัวตงพยักหน้า  “ใกล้กับหมู่บ้าน  จะมีหมู่บ้านกระบี่เล็กๆ แห่งหนึ่งนามว่าหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ย  กระบี่นี้ถูกปกป้องไว้โดยตระกูลเซี่ย  ข้าได้รู้เรื่องนี้มาโดยบังเอิญ กระบี่ผนึกปีศาจตั้งอยู่ที่ด้านหลังหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ยที่ยอดเขากระบี่ศิลา  ข้าไปที่นั่นมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ ข้าไม่ต้องการจะเคลื่อนไหวอะไร แต่ข้าไม่รู้ว่าเฒ่าบอดซอกำศรวลไปได้ข่าวมาจากที่ใด  เขาก็มาด้วยเช่นกันเป็นช่วงเวลาที่โง่เขลาที่ข้าแสดงตัวออกไป นึกไม่ถึงเลยว่าข้าได้พบกับถังเทียนและกลุ่มของเขาและทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้”

เซี่ยอวี่สงบอารมณ์ได้แล้ว “ไม่มีใครที่ไม่ลุ่มหลงอยากได้สมบัติศักดิ์สิทธิ์  แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ข้ารับมือได้  ไม่ว่าหมู่ดาวถ้วยจะเล็กขนาดไหนก็ตาม  แต่ก็ยังเป็นหมู่ดาวหมู่หนึ่ง มันอาจไม่ใช่เรื่องดีก็ได้ที่มีสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของหมู่ดาวไว้ครอบครอง”

เซี่ยอวี่พูดถูก สวรรค์วิถีมีดวงดาวมากมายนับไม่ถ้วน  แต่มีเพียง 88ของดวงดาวเหล่านั้นที่ถูกเรียกว่าหมู่ดาว หมู่ดาวแต่ละแห่งจะมีสมบัติศักดิ์สิทธิ์ พลังของสมบัติศักดิ์สิทธิ์อาจจะมิได้แข็งแกร่งกว่าสมบัติของหมู่ดาวอื่น ตัวอย่างเช่นมงกุฏแห่งหมู่ดาวเพอร์ซูสที่เชียนฮุ่ยมีก็ยังเป็นแค่สมบัติชั้นเงิน

แต่ในชุดสมบัติหมู่ดาวเพอร์ซูสมันอาจจะแข็งแกร่งที่สุดสมบัติชิ้นนี้ลดระดับจากสมบัติชั้นทองเป็นสมบัติชั้นเงิน ความจริงสมบัติทั้งหมดของหมู่ดาวเพอร์ซูสล้วนมีระดับที่ตกลงไปทั้งนั้น

พลังของสมบัติศักดิ์สิทธิ์เป็นการบ่งชี้ว่าหมู่ดาวนั้นเข้มแข็งเพียงไหน

แต่ในฐานะที่เป็นสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดของหมู่ดาว  สมบัติศักดิ์สิทธิ์มักจะมีจุดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร  ดังนั้น เมื่อสมบัติศักดิ์สิทธิ์ปรากฏ  จะมีการนองเลือดตามมา

เพราะสมบัติศักดิ์สิทธิ์หาได้ยากมาก

ในบรรดาสมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั้ง88 มีกี่ชิ้นที่ถูกฝังอยู่กันแน่ ไม่มีใครรู้ว่าสมบัติศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่เท่าใด

สำหรับเซี่ยอวี่ สมบัติศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เรื่องของโชคลาง  มันเป็นความสุขความพอใจที่พวกเขาไม่กล้าคิดหวัง

“หมู่ดาวถ้วยในตอนนี้อิ่มตัวแล้วดูปราศจากชีวิตชีวา มันยากจะพูดได้ว่ามีพลังเหลืออยู่ในกระบี่ผนึกปีศาจนี้อยู่เท่าไหร่”  กัวตงกล่าวต่อ “เนื่องจากพี่เซี่ยรู้บางอย่างเกี่ยวกับกระบี่ผนึกปีศาจ อย่างนั้นท่านควรจะรู้ว่ามีสมบัตินับไม่ถ้วนถูกผนึกไว้โดยกระบี่ผนึกปีศาจซึ่งสมบัติเหล่านี้ได้หายไปพร้อมกับกระบี่ผนึกปีศาจ  พี่เซี่ยอาจจะรู้สึกว่ากระบี่ผนึกปีศาจยากจะได้รับจริงๆ  แต่ท่านอาจจะได้ทองก็ได้  ถ้าท่านได้สมบัติเหล่านี้มาสักชิ้นสองชิ้น”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเซี่ยอวี่ตื่นเต้น  เขามองดูกัวตง  “เพราะพี่กัวมาหาในเวลานี้ ดูเหมือนจะมีเหตุผลทางการเมืองแฝงมาด้วยสินะ”

“ข้ามาตามความต้องการของข้าเอง”  กัวตงพูดอย่างสงบ  “ถังเทียนเป็นคนน่ากลัว และด้วยความช่วยเหลือของตระกูลเซี่ยเขาย่อมหวังยิ่งใหญ่เป็นธรรมดา ส่วนเฒ่าบอดซอกำศรวลก็เตรียมการในครั้งนี้อย่างดี  คนใช้ใบ้ของเขาก็ยังเป็นกำลังสำรองได้  ข้ากับเสี่ยวอวี่บาดเจ็บแล้ว  ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือของพี่เซี่ย  เราก็เหมือนนกไร้ปีกธรรมดา  นั่นคือเรื่องจริง  ความพ่ายแพ้ศัตรูครั้งนี้  ข้าไม่อาจยอมรับได้เลย และเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ข้ากล้ำกลืนฝืนทนความโกรธครั้งนี้อยู่ได้  ดังนั้นข้าจึงมาหาพี่เซี่ย  เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับที่เซี่ย ข้าคิดว่าหากพี่เซี่ยไม่ถือสาที่จะรับสมบัติดวงดาวชิ้นหรือสองชิ้น..”

เซี่ยอวี่ไตร่ตรองชั่วขณะ  “การต่อสู้ของเจ้ากับพวกเขา  ข้าขอมีอิสระว่าจะเลือกช่วยหรือยืนดูอยู่ข้างๆ”

“ไม่มีปัญหา” กัวตงมีความสุขมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เมื่อคิดถึงถังเทียนทีไร รังสีฆ่าฟันจะต้องปรากฏอยู่ในดวงตาเขาทันที  เขากล่าว “แค้นครั้งนี้  ข้าจะชำระมันด้วยตัวเอง”

เซี่ยอวี่ทำใจและยิ้มให้โดยตรง“อย่างนั้น ข้าจะรับคำแนะนำของพี่กัวเอาไว้”

กัวตงหัวเราะ  “เรามาร่วมมือกันเล่นงานเฒ่าบอดซอกำสรวลกันเถอะ!”

ทั้งสองคนมองหน้ากันและยิ้มให้กัน

※※※

เช้าวันต่อมาถังเทียนออกมาตามหาอาเฮ่อและถามเขาเกี่ยวกับเรื่องลูกปัดแสงกระเรียนฟ้า

อาเฮ่อพึมพำ“ลูกปัดแสงจากหมู่ดาวกระเรียนฟ้า เป็นของมีประโยชน์ สามารถใช้เปิดพลังบางอย่างเช่นพลังจากตันเถียน เจ้าสามารถเรียกมันได้ว่าตันเถียนกระเรียน  เจ้าน่าจะรู้สึกถึงความคงอยู่ของมันได้  แต่วิธีใช้มันแตกต่างจากตันเถียนธรรมดา

“แตกต่างยังไง?”

“มันก็เหมือนกับตันเถียน  และประโยชน์ของมันไม่ต่างจากตันเถียนมาก  แต่มันไม่สามารถขยายขนาดได้นอกจากนั้นหลังจากใช้ปราณเที่ยงแท้ในตันเถียนกระเรียนจนหมดไปมันจะฟื้นคืนพลังได้ช้ามาก ไม่สามารถเต็มได้โดยถ่ายพลังจากเส้นเดินปราณมันเพียงแต่เติมเต็มด้วยตัวเอง และกระบวนการนี้ต้องใช้เวลานาน”  อาเฮ่ออธิบาย

“นานเท่าไหร่?” ถังเทียนถามทันที

“นานสิบห้าวัน”อาเฮ่อพยายามนึกอยางดีที่สุด “ถ้าข้าจำไม่ผิด เมื่อเป็นอย่างนี้ก็หมายความว่า เจ้าสามารถใช้ได้แค่สิบห้าวันต่อครั้ง  แม้ว่ามันจะดูเหมือนตันเถียน  แต่ความจริงมันคือสมบัติดวงดาว”

“ครั้งสิบห้าวัน?”  ถังเทียนผิดหวังเล็กน้อย  แต่เมื่อคิดดูแล้วเขาพอใจ

เนื่องจากเขามีตันเถียนมากกว่าหนึ่งและตันเถียนกระเรียนก็ใหญ่กว่าแอ่งตันเถียนระดับหกของเขามาก ประมาณสามเท่า

นี่หมายความว่าปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนขยายมากถึงสี่เท่าจากปราณเที่ยงแท้เดิม

นี่เทียบได้กับนักสู้ระดับเจ็ดธรรมดาแล้ว

แม้ว่าจะฟื้นตัวช้ามากแต่เมื่อคิดถึงคลื่นพลังปราณเที่ยงแท้แล้ว ถังเทียนลอบตื่นเต้น

“เป็นอย่างนี้นี่เอง!”  ถังเทียนมีท่าทางเข้าใจ และเขาถามทันที“อย่างนั้นไม่มีข้อห้ามอื่นหรือส่วนสำคัญอะไรๆ อื่นอีกไหม?”

อาเฮ่อคิดอย่างระมัดระวังและส่ายศีรษะ“ไม่มี”

“จริงเหรอ?” ถังเทียนอดกลั้นไว้

“ไม่มี!” อาเฮ่อผงกศีรษะ

“ก็ดี” ถังเทียนเงยหน้าด้วยความพึงพอใจ   เขาหดมือ “เอาละ, เจ้าสามารถเริ่มงานของเจ้าได้แล้ว!”

อาเฮ่อไม่เคยคิดเลยว่าหน้าของถังเทียนจะสามารถเปลี่ยนไปได้เร็วนัก  ขณะที่ยืนงง เขาถามต่อ “เริ่มงาน??”

“ใช่, เจ้าจะทำงานแลกวิชาไม่ใช่หรือ?  จากวันนี้ไป เจ้าจะต้องรับผิดชอบเรื่องสุขอนามัย,สวัสดิภาพ อาหาร และยานที่เราจำเป็นต้องใช้ในการเดินทาง นอกจากนี้เจ้าจะต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย”  ถังเทียนพูดจริงจัง  “จำไว้ว่า ยิ่งเจ้ามีพลังอำนาจมากเท่าไหร่  ความรับผิดชอบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!  อย่าขี้เกียจเสียล่ะ!”

อาเฮ่อตะลึงงัน  หลังจากนั้นชั่วขณะ เขากล่าวในที่สุด“ข้าไม่รู้วิธีขับยาน”

“อย่างนั้นก็ต้องเรียนรู้”  ถังเทียนพูดต่อไม่หยุด  “เรามีสารถี เจ้าจำเป็นต้องเรียนรู้จากเขา! พ่อหนุ่มข้าจะไม่มีการต่อรองราคาวิชาร่างกระเรียนที่จะสอนให้เจ้า  ดังนั้นอย่าเกียจคร้านเมื่อเวลาเจ้าทำงาน”

อาเฮ่อผู้อ่อนโยนอยู่ในอาการมึนงง  ในสำนักของเขา เขามักเป็นฝ่ายถูกปรนนิบัติและผู้อื่นจะเป็นผู้แต่งตัวให้เขา แต่วันนี้...

ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ว่าชีวิตต่อไปอีกสามปีคงหม่นหมองเป็นแน่

ถังเทียนชูกำปั้นและให้กำลังใจเขา“พยายามเข้านะ หนุ่มน้อยอาเฮ่อ!

หลังจากนั้นเขาเดินจากไปก่อนที่เขาจะเดินออกไปที่ลานบ้าน  เซี่ยชิงรีบเข้ามามองดูหวาดกลัว  เมื่อเห็นถังเทียนแล้ว  เขาตะโกน “จอมยุทธ! ข่าวร้าย,  ข่าวร้าย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด