ตอนที่แล้วตอนที่ 214 กรงเล็บเพลิงจ้าวปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 216 คำแนะนำของปิง

ตอนที่ 215 อาเฮ่อปรากฎตัว!


ชายชรานักสีซอตาบอดฟังอย่างตั้งใจจนกระทั่งเสียงเพลงขาดหายไป

เขาถอนหายใจเบาๆ “เป็นบรรเลงขลุ่ยที่ไพเราะอย่างแท้จริงทำให้ข้านึกถึงผู้อาวุโสขลุ่ยวิเศษ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้ฟังบทเพลงที่ไพเราะขนาดนั้น  สำเนียงฟังเป็นธรรมชาตินับได้ว่าข้ามาครั้งนี้ไม่สูญเปล่าแล้ว”

สตรีชุดดำกระวนกระวาย “ผู้อาวุโส...”

ถ้าชายชราบอดเปลี่ยนใจกะทันหัน อย่างนั้นเป้าหมายของนางในรอบนี้ก็คงพลาดหวังไปด้วยเช่นกัน

ชายชราบอดยกมือห้ามไม่ให้สตรีชุดกล่าวต่อ และกล่าวเอง“เสียงขลุ่ยนี้ต่างจากบทเพลงโศกเศร้า เป็นเหมือนพรจากดวงอาทิตย์ ยังคงมีเวลา แต่ใครจะรู้กันว่านานเพียงไหน?  ร่องรอยจากหลายปีที่ผ่านมา นี่คือยอดฝีมือสายสำเนียงเพลงที่มีชีวิตผ่านมาหลายชั่วคนแล้ว  ข้าไม่อาจเทียบกับเขาได้”

“เราไปกันเถอะ”  ชายชราตาบอดไม่ใส่ใจ  “การต่อต้านเพลงขลุ่ยนี้จะทำให้ไม่มีอาวุธใดสามารถขยับเคลื่อนไหวได้”

สตรีชุดดำมีหน้ากากปิดหน้าแสดงท่าทางกระสับกระส่าย  แต่นางได้แต่ขบริมฝีปากแน่นโดยไม่ได้ส่งเสียงแต่อย่างใด  เป็นความจริงทีเดียวนางก็รู้ว่านางไม่มีพลังพอจะต่อต้านเพลงนั้นได้

ขณะที่พวกเขาเตรียมหมุนตัวเดินจากไป  จู่ๆ เส้นแสงสีทองปรากฏขึ้นในท้องฟ้าทันที

เส้นสีทองขยายตัวกลายเป็นรูปประตูดวงดาว

“นี่คือ....”  สตรีชุดดำตกตะลึง  ริมฝีปากนางสั่น ไม่มีคำพูดใดๆ ลอดออกมา

ทุกคนสั่นสะเทือนไปด้วยขณะที่จู่ๆ ประตูดวงดาวก็ปรากฏขึ้น

สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ จู่ๆประตูดวงดาวก็ปรากฏอยู่ในกลางท้องฟ้า?

ทุกคนจ้องมองประตูดวงดาวที่จู่ๆปรากฏออกมาไม่มีใครพูดอะไรออกมาได้  ทันทีที่ประตูดวงดาวเปิดปราณประหลาดก็ไหลครอบคลุมพื้นที่

ประตูดวงดาว!

ทุกคนตะลึงค้าง ขณะเดียวกันก็สงสัยว่าขณะที่พวกเขาจ้องดูประตู จะมีอะไรเกิดขึ้น?

ขาข้างหนึ่งก้าวออกมาจากประตูในท้องฟ้า

เป็นคนผู้หนึ่ง!

ทุกคนตกใจ แม้แต่ชายชราตาบอดคนสีซอที่มองไม่เห็นก็เอียงศีรษะเพื่อฟังหูทั้งสองข้าจับแรงสั่นสะเทือนทั้งหมด ขณะที่เขาฟังอย่างตั้งใจ

※※※

อาเฮ่อข้ามผ่านประตูด้วงดาวด้วยขาข้างหนึ่งของเขา

เขาตื่นเต้นมาก  ในที่สุด เขากำลังพบเป้าหมายของเขา!  หลังจากถามหาอยู่เป็นเวลานาน  เขารู้สึกว่าไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทร ในที่สุดเขาก็ไม่พบอะไร

แต่อาเฮ่อไม่เคยคิดว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะได้ลูกปัดกระเรียนฟ้า

นั่นคือหนึ่งในสามสมบัติชั้นเงินของหมู่ดาวกระเรียน  สมบัติแต่ละอย่างของหมู่ดาวมีกันเป็นชุด  และแบ่งเป็นระดับบรอนซ์ เงิน และทอง

แต่บรรดาสมบัติเหล่านี้ มีบางชุดที่เป็นสมบัติพิเศษ เช่น อาวุธสมบัติและเกราะ

อาวุธสมบัติคือสมบัติที่ประณีตสวยงามที่สุดในแต่ละระดับของสมบัติ สมบัติที่ประณีตเหล่านี้จะแข็งแกร่งกว่าสมบัติธรรมดามาก

สำหรับเกราะ เป็นสมบัติที่มีเอกลักษณ์มากเนื่องจากเกราะสมบัติครอบคลุมไปทั้งตัวการสร้างเกราะทำได้ยากกว่าสมบัติอื่นทั้งหมด พลังของมันยังคงแข็งแกร่งมากกว่าสมบัติธรรมดามาก

ลูกปัดแสงกระเรียนฟ้าคือสมบัติดวงดาวชั้นเงินของหมู่ดาวกระเรียนฟ้าและเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ดาวกระเรียนฟ้า  แม้ว่าหมู่ดาวกระเรียนฟ้าจะเป็นหมู่ดาวที่เล็กมีสมบัติชั้นทองแค่ชิ้นเดียว ซึ่งก็คือกระบี่กระเรียน  อาวุธสมบัติดวงดาวชั้นเงินทั้งสามเป็นสมบัติชั้นสุดยอดในบรรดาสมบัติในหมู่ดาวกระเรียนฟ้า

ถ้าไม่ใช่เพราะลูกปัดแสงกระเรียนฟ้า กระบี่กระเรียนคงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับที่รุนแรงเป็นแน่

เพื่อกระตุ้นการใช้งานลูกปัดแสงกระเรียนฟ้าจำเป็นต้องได้คนที่มีพลังปราณกระเรียนในระดับลึกซึ้งจึงจะทำได้ และนั่นเป็นสาเหตุให้อาเฮ่อไม่ลังเลใจใช้พลังของกระบี่กระเรียนเพื่อเปิดประตูดวงดาว

เมื่ออาเฮ่อก้าวออกมาจากประตู  สีหน้าของเขาชะงักค้าง

มีบางอย่างผิดปกติกับภาพที่เห็น  ดูเหมือนว่าจะสูงเกินไปแล้ว...

เดี๋ยวก่อน!

เขาตอบสนองได้รวดเร็ว ขณะที่สีหน้าเขาเปลี่ยน เขาอยู่ในท้องฟ้าที่สูง  มันสูงมาก!

เหมือนกับหินที่ร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว  ลมพัดปะทะเขาอย่างแรงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น

แต่เขาไม่ตื่นเต้น เขาสงบจิตใจได้อย่างรวดเร็ว  เมื่อเขาใกล้จะถึงพื้น  เขาจับกระบี่กระเรียนที่เอวเขาและตะโกน“ปีกกระเรียนขาว”

ปีกกระเรียนสีขาวดุจหิมะคู่หนึ่งปรากฏอยู่ที่หลังของเขาขณะที่เขาลงสู่พื้น

ปัง!

เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น ตอนที่ขาทั้งสองสัมผัสพื้นทันทีที่ลงสู่พื้น ร่างของเขาแข็งค้าง ขณะที่คลื่นปราณกวาดไปทั่ว

ในใจกลางคลื่นปราณ อาเฮ่ออยู่ในชุดสีขาวไม่ได้เปรอะเปื้อนเลยแม้แต่น้อย

รอบๆ พื้นที่ๆ อาเฮ่อกวาดตามองเงียบสงัด

ในที่สุด เขาก็จ้องมองดูถังเทียน

※※※

ถังเทียนไม่ได้สนใจมองดูอาเฮ่อผู้ร่วงลงมาจากเบื้องบน เขายังคงจมอยู่กับความเสียใจที่ต้องสูญเสียกรงเล็บภูตพรายและกำลังนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นพื้น น้ำมูกน้ำตาหยดลงพื้น

หลังจากร้องไห้เสร็จแล้วถังเทียนเริ่มฟื้นคืนความกล้ากลับมา

“กรงเล็บภูตพราย,ฮือ ฮือ ฮือ..”

“ข้าจะต้องทำให้ดีที่สุดแน่นอน!”

“หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้จะต้องทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน

ถังเทียนพึมพำกับตนเอง เสียงของเขาดังขึ้นทุกที ในที่สุดน้ำเสียงของเขาก็กลายเป็นเด็ดเดี่ยว

หยุดร้องได้แล้ว หนุ่มชาวฟ้าปล่อยให้น้ำตาหยดไหลได้ยังไง น่าขายหน้าชะมัด!

ถังเทียนปาดน้ำตา ทันทีที่สติกลับคืนมาปรากฏในดวงตาเขา ขณะที่เขาเตรียมจะลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นร่างสีขาวปรากฏอยู่ในสายตาของเขา

ถังเทียนตะลึง เขาขยี้ตาอีกครั้งทันที ร่างที่อยู่ข้างหน้าของเขายิ่งชัดขึ้น

ถังเทียนตะลึง และอ้าปากค้าง  “ซิ่วซิ่วน้อย!  มาดูนี่เร็ว, พี่น้องฝาแฝดของเจ้า!”

พยัคฆ์ฟ้าเร่งมาสมทบ และปิงที่อยู่ภายในอุทานเสียงดัง“โอว..พระเจ้า ... เขาดูคล้ายกันจริงๆ”

ตั้กๆ ตั้กๆ เสียงฝีเท้าดังขึ้นเบื้องหลังเป็นนกฟลามิงโกนำหลิงซิ่วที่หมดสติเข้ามา

ถังเทียนตกใจและรู้สึกตัวจนได้  “ซิ่วซิ่วน้อย!”

หลิงซิ่วหลับตาสนิท เขาขดตัวกลมและสั่นสะท้าน

ขลุ่ยวิเศษกล่าว “เขากำลังทรมานกับความทรงจำเลวร้าย”

“ความทรงจำเลวร้าย?”  ถังเทียนเงยหน้า

“อืม..”ขลุ่ยวิเศษพูดอย่างจริงจัง “เป็นหนึ่งในวิธีที่พวกนักสู้สายเสียงเพลงชอบนำมาใช้กัน  โดยพื้นฐาน มันจะใช้ปลุกความชั่วร้ายในตัวพวกเขา ตามธรรมดาเพลงจะมีความสามารถสร้างอิทธิพลต่ออารมณ์ของคนได้และจิตใจก็เช่นกัน เป็นสำเนียงที่นักสู้ได้เพิ่มเข้าไปเพื่อความได้เปรียบ พวกเขาสามารถปลุกปีศาจที่ซ่อนอยู่ในตัวบุคคลได้  ทุกคนมีปีศาจอยู่ในตัว บางคนก็เป็นความมุ่งมั่นบางคนก็เป็นอารมณ์จะมีมาได้ทุกรูปแบบ ตามปกติคนเราจะข่มปีศาจไว้ได้ภายใต้ความสงบใจเย็นและควบคุมสถานการณ์ได้  แต่การข่มเอาไว้ไม่ได้หมายความว่ามันจะถูกทำลายความทรงจำเลวร้ายยากที่จะทำลายได้ ทันทีที่ปีศาจตื่นขึ้น ถ้าเขาไม่สามารถทำลายดิ้นรนจนเป็นอิสระ  อย่างนั้นพวกเขาก็จะตกอยู่ในอันตราย”

ทันใดนั้นถังเทียนจำได้ครั้งล่าสุดที่เขาสู้กับขลุ่ยวิเศษ “อย่าบอกนะว่า นี่คือความทรงจำเลวร้ายที่ท่านใช้กับข้า?”

“ถูกแล้ว”  ขลุ่ยวิเศษรู้สึกประหลาดใจ  เขาพยักหน้า “แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลอะไรต่อเจ้าเลย”

ขลุ่ยวิเศษยังพูดไม่ทันจบประโยคไม่ใช่ว่าความทรงจำเลวร้ายไม่มีผลต่อถังเทียน แต่ถังเทียนอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งไปแล้วขลุ่ยวิเศษไม่เคยคิดว่าปีศาจในตัวถังเทียนจะต่างไปจากคนอื่น

ปีศาจทุกคนคือความหม่นหมอง โหดร้ายและรุนแรง  ซึ่งอธิบายถึงเหตุผลที่ความทรงจำที่เลวร้ายนั้นน่ากลัวมาก

แต่ปีศาจในตัวถังเทียนแปลกประหลาด  ปีศาจของเขายังคงเศร้าและเดียวดายแต่มันก็เหมือนกับเขา เต็มไปด้วยแสงสว่างและความอบอุ่น

ถังเทียนยังไม่เป็นอิสระจากปีศาจด้วยตัวเอง  แต่ปีศาจยังอยู่ในตัวของเขา  เขายังคงกำจัดอารมณ์ด้านลบของเขาอย่างต่อเนื่อง

ความทรงจำฝันร้ายที่ประหลาด  เด็กที่ประหลาด!

ขลุ่ยวิเศษกำลังคิด

ถ้าเป็นวันธรรมดาถังเทียนคงจะมีความสุขสรรเสริญตนเองจนถึงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า  แต่เวลานี้ ใบหน้ามีความกังวล  “อย่างนั้นเราจะช่วยซิ่วซิ่วน้อยได้ยังไง?”

“ไม่มีทาง!”ขลุ่ยวิเศษส่ายหน้าทันที “ความชั่วร้ายในหัวใจทุกคน พวกเขาเองจะต้องดิ้นรนต่อสู้กับมัน”

“ตาแก่สีซอที่น่าชังนัก!”  ถังเทียนโกรธแค้น  “เจอกันครั้งต่อไปข้าจะทุบให้ฟันร่วงเลยคอยดู!”

แต่ ที่หน้าผาห่างไกลออกไป ไม่มีใคร เฒ่าตาบอดจากไปแล้ว

ทันใดนั้นเขาควงกำปั้นอยู่หน้าหลิงซิ่วที่ยังคงหมดสติและตะโกน “ซิ่วซิ่วน้อย, เจ้าต้องกล้าเข้าไว้!  ไม่ว่าปีศาจในตัวเจ้าจะเป็นยังไงก็ล้วนแต่ไร้สาระ  คว่ำพวกมันให้หมด! ใช้หอกผดุงความยุติธรรมของเจ้า...”

ทันใดนั้น มีเสียงสุภาพดังตัดบทขึ้น “สวัสดี,ข้าขอถามหน่อยได้ไหม เจ้าฝึกฝนพลังปราณกระเรียนมาใช่ไหม?”

“อ๋า!”  ถังเทียนมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเขา  เขาหันหน้ามามองอาเฮ่อและถามด้วยความสงสัย  “เจ้าเป็นพี่หรือน้องของซิ่วซิ่วน้อยหรือเปล่า?”

สำหรับเขาแล้ว ทั้งสองดูคล้ายกันมาก

ทั้งสองคนมีผมสีเงินยาวประบ่า สวมชุดขาวดุจหิมะเหมือนกันและดูสะโอดสะองเหมือนกัน

ในพจนานุกรมของถังเทียน ไม่มีคำว่าหล่อเหลา  ถึงจะมีก็ต้องหมายถึงเขาเท่านั้น

มีแต่เพียงหนุ่มชาวฟ้าเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอจะถูกเรียกว่าหล่อและอ่อนโยน  ส่วนคนอื่นๆ นั้นล้วนแต่เป็นผู้ชายอ้อนแอ้น

อาเฮ่อจ้องมองหลิงซิ่วโดยไม่รู้ตัวและมีท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนที่แต่งตัวคล้ายกับเขา

แต่ทันใดนั้น เขายังคงจับตาจ้องมองถังเทียน เขาส่ายศีรษะตอบ “ข้าขอโทษด้วยข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา  แต่ข้าขอถามท่านฝึกฝนปราณร่างกระเรียนมาใช่ไหม?”

“เอ,เจ้าต้องการอะไร?” ถังเทียนมองดูอาเฮ่อด้วยความระมัดระวัง

“ข้าเป็นศิษย์ของสำนักกระเรียน  ท่านเรียกข้าว่า เฮ่อ ก็ได้”อาเฮ่อยิ้มเล็กน้อย เขาสุภาพมาก

“อา,เจ้าเป็นศิษย์ของสำนักกระเรียน!” ถังเทียนตกใจแต่ตาของเขาเป็นประกายเช่นกัน “เจ้ามีการ์ดขุนพลวิญญาณฝึกปราณกระเรียนระดับหกบ้างไหม?หรือระดับเจ็ดก็ได้?”

อาเฮ่อส่ายศีรษะขอโทษ “ข้าขออภัยด้วย, สำนักของข้าตกต่ำ ปราณกระเรียนที่เหนือกว่าระดับหกสูญหายไปทั้งหมด”

ถังเทียนอารมณ์หดหู่ทันที “อย่างนั้นเจ้ามีอะไรให้ใช้บ้าง?”

จะให้ข้าใช้อะไร...

อาเฮ่อหน้าหม่นหมอง

ถังเทียนโบกมือและตะโกน “เอาล่ะๆทำไมเจ้าถึงได้มาหาข้าที่นี่?”

อาเฮ่อรู้สึกตัวทันทีและรีบคำนับ  เขาพูดด้วยความจริงใจ “ปราณร่างกระเรียนได้สูญหายมานานปี  ข้าอยากจะขอรับสิ่งที่เป็นของสำนักข้ากลับคืน!  โปรดช่วยให้ข้าสมหวังด้วยเถอะ”

“พวกเจ้าไม่รู้กระทั่งพลังลมปราณร่างกระเรียน?”  ถังเทียนตกใจ ตอนนี้เขายิ่งรู้สึกผิดหวังมากขึ้น  เป็นเวลานานแล้วตั้งแต่เขาเข้าใจพลังปราณร่างกระเรียนและเขาไม่เคยพบความน่าอัศจรรย์ในระดับสูงเลย แต่เขาไม่เคยคิดว่าสำนักกระเรียนจะไม่รู้จักพลังปราณร่างกระเรียน  ถังเทียนสูญเสียความสนใจเขาโดยสิ้นเชิง

สำนักกระเรียนไม่มีแม้แต่ปราณร่างกระเรียน  นี่มันสำนักระดับสูงบ้าอะไรกัน?

พวกศิษย์จากสำนักกระเรียนนี้ช่างน่าผิดหวังนัก

ถังเทียนจ้องมองอาเฮ่ออย่างไม่พอใจ  ไม่ว่าจะมองยังไงเจ้าผู้นี้ก็สะโอดสะองพอๆกับหลิงซิ่ว ดูยังไงก็ไม่มีเสน่ห์

ถังเทียนสบถในใจ สีหน้าไม่พอใจ“ข้าสามารถสอนลมปราณกระเรียนให้เจ้าได้  แต่ข้าพยายามจนสำเร็จวิชานี้ด้วยตนเอง แล้วเจ้าจะให้อะไรข้าเป็นการตอบแทน?”

“โปรดบอกข้าเถอะ”  อาเฮ่อยืนยันและเคร่งขรึม  “ตราบใดที่อาเฮ่อมี ไม่ว่าอะไรข้าก็ทำได้  คงจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

ดูเหมือนว่าเขาเป็นแกะอ้วนพี!  ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย

“ดูเหมือนเขาจะเป็นเด็กใหม่ไร้ประสบการณ์นะ”ปิงปรากฏออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย สีหน้าไพ่ของเขาดูผ่อนคลาย

“หึหึ”

“หึหึ!

ถังเทียนที่สามารถพูดคุยทางจิตกับปิงได้หัวเราะอย่างบริสุทธิ์ใจโดยพร้อมเพรียงกัน

*********************************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด