ตอนที่แล้วตอนที่ 6 ทัศนศึกษาที่บ้านราชินี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 โลดโผน

ตอนที่ 7 เด็กน้อยแห่งเพลิง


หลังจากเหตุการณ์ประหลาดนั้น แม็กนัสมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตั้งแต่เขานอนใต้ต้นไม้นั้น สิ่งแปลกประหลาดเหล่านี้ก็เกิดขึ้น แต่เขามีความคิดเกี่ยวกับวิธีการได้รับคำตอบของเขา

แม้ว่าตอนนี้เขากำลังเยี่ยมชมบ้านของราชินี แต่ก็น่าแปลกที่พระราชินีเสด็จมาที่นั่นด้วย น่าจะเป็นงานประชาสัมพันธ์ แต่สำหรับเด็กๆ เธอมาพบพวกเขาก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้น

อย่างไรก็ตาม แม็กนัสไม่ชอบเธอหลังนักจากมองแวบแรก เธอดูเป็นคนเจ้าความคิดและเป็นผู้หญิงเย็นชาที่ไม่สนใจอะไรนอกจากตัวเอง

ดังนั้นเขาจึงรักษาระยะห่างไว้ ราชินียังสังเกตเห็นเด็กคนหนึ่งที่พยายามอยู่ห่างจากพระองค์ แต่พระองค์ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พระองค์มีสิ่งที่สำคัญกว่าอยู่ในหัวตอนนี้

~ ตรวจสอบทะเบียนราษฏ์ประจำประเทศแล้ว ไม่มีทารกแรกเกิดที่มีนามสกุลเพ็นดราก้อนอยู่ในประเทศนี้เลย สิ่งที่เรียกว่าราชานี้ไปอยู่ที่ไหนได้~ พระองค์สงสัย

"ที่นี่..."

พระองค์ชนเข้ากับบางอย่างในทันใด เธอหมกมุ่นอยู่กับความคิดมากเกินไปจนลืมสิ่งรอบข้างและทำผ้าเช็ดหน้าหล่น

ด้วยความประหลาดใจ เด็กที่ยืนอยู่ห่างออกไปก็เข้ามาช่วยพระองค์อย่างสุภาพบุรุษ พระองค์ลูบหัวแม็กนัสด้วยรอยยิ้ม

"ขอบใจจ้ะที่รัก" พูดจบพระองค์ก็จากไป

“เธอคงอารมณ์ไม่ดีแน่เลย” บ๊อบบี้แสดงความคิดเห็นจากด้านหลังเขา

“เธอแก่แล้ว จะหวังอะไรจากคนแก่ได้อีก ดูอย่างครูของเราสิ” แม็กนัสตอบกลับ

"ฮ่าฮ่า..." บ๊อบบี้ขำกลิ้งพลางมองไปที่คุณนายโจนส์

จากนั้นพวกเขาก็ไปกับแถวของห้อง

เขาไม่สนใจวังหรือสมบัติอีกต่อไป สิ่งที่เขาต้องการก็คือคุยกับภาพวาดนั้น

หลังจากนั้นเป็นเวลาอาหารกลางวัน แน่นอนว่าแม็กนัสได้แพนเค้ก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอามาโรงเรียน เพราะงั้นเขาเลยเพิ่งเห็นปัญหา แพนเค้กพวกนั้นเย็นเกินไป

~อืม พวกนั้นบอกว่าฉันอุ่นมากไม่ใช่เหรอ~ เขาคิด

ดังนั้น เขาจึงปิดกล่องอาหารกลางวันโลหะของเขา วางไว้ระหว่างฝ่ามือ ~จงอุ่นขึ้น...จงอุ่นขึ้น...ได้โปรด...~

เขารอเกือบ 5 นาทีและเมื่อเขาเปิดกล่องอาหารกลางวันอีกครั้ง มันไม่เพียงแค่อุ่น แต่ร้อนราวกับเพิ่งออกจากเตาอบ

~ว้าว ฉันอุ่นจริงๆ~ เขาบ่นพึมพำและเริ่มกิน

“เฮ้ แม็กนัส นายเอาอะไรมาทานมื้อเที่ยงน่ะ?” บ๊อบบี้กลับมาหาเขาหลังจากล้างมือแล้วและนั่งลงข้างๆ

"แพนเค้กน่ะ" แม็กนัสกินเสียงแจ๊บๆ อย่างมีความสุข

“มันดู... น่าอร่อยจัง...” บ็อบบี้น้ำลายไหลขณะจ้องมองกล่องอาหารกลางวันของแม็กนัส

แม็กนัสมองไปที่กล่องข้าวของเขาแล้วมองไปที่บ็อบบี้ พิจารณาว่าหมอนี่เป็นเพื่อนของเขา เขาเลยชวน

“เอาดิ นายจะกินด้วยกันป่าว ยังไงฉันก็เอามามากเกินไปอยู่ดี” เขาโกหก ความอยากอาหารของเขากลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้วสำหรับเด็กอายุ 9 ขวบ

แล้วบ๊อบบี้ก็กินมันอย่างมีความสุข จากนั้นเขาก็ยื่นแซนวิชจากกล่องให้แมกนัส "มา…แลกกัน"

รับประทานอาหารกลางวันแล้วเตรียมเดินทางกลับโรงเรียน ขณะที่ขากลับข้อจำกัดก็ลดน้อยลง ดังนั้นแม็กนัสจึงไม่ต้องนั่งระหว่างสองสาวอีก แต่เขากลับนั่งที่ด้านหลังซึ่งเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

เขาอยากจะเข้าไปข้างในพระราชวังอีกรอบเพื่อชมภาพวาดแต่ต้องใช้ตั๋ว อีกอย่างพวกเขาไม่ได้ขายในเวลานั้น เขาเลยตัดสินใจว่าจะกลับมาพร้อมกับครอบครัว ตอนนี้เขาลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว

เขาสนุกกับการเดินทางกลับบ้าน เล่นกับเพื่อนและพูดคุยกันเรื่องทั่วไป ใช้เวลาขับรถกลับไปโรงเรียนประมาณหนึ่งชั่วโมง เด็กหลายคนจึงหลับคาที่นั่งไปแล้ว

ในทางกลับกัน เขาที่ตื่นอยู่มองไปที่มือของเขา เขาพยายามที่จะเข้าใจว่าความร้อนในร่างกายของเขาทำงานอย่างไร เพราะเขาเข้าใจดีว่าไข้ธรรมดาไม่สามารถให้ความร้อนแก่แพนเค้กได้มากขนาดนั้น ต้องมีเคล็ดลับบางอย่าง

ขณะที่เขากำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิด เสียงยางไถลก็ดังขึ้น เขารีบจับที่นั่งของเขา ในไม่ช้าเขาก็ถูกเหวี่ยงออกจากที่นั่ง

*บูมมม*

หัวของแม็กนัสกระแทกกับพนักพิงศีรษะข้างหน้าเขา โชคดีที่มันเป็นเบาะรองนั่งเขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

เป็นอุบัติเหตุใหญ่ เขามองไปที่ด้านหน้าและเห็นเพื่อนร่วมชั้นหลายคนล้มลงกับพื้นรถบัส หลายคนมีเลือดออกจากสถานที่ พวกที่กำลังหลับอยู่ไม่มีโอกาสจับอะไรได้จึงถูกเหวี่ยงอย่างแรง

เสียงร้องก็ดังตามมา จากนั้นแม็กนัสก็มองไปที่เบาะคนขับ จิตใจของเขาสับสน รถบัสเสียหลักชนท้ายรถบรรทุกดิน ไม่เพียงเท่านั้น โครงสร้างของรถบัสไม่ได้แข็งแรงนัก ดังนั้นคนขับจึงถูกอัดบี้สลบคาที่นั่ง และน่าจะเสียชีวิตแล้ว แต่แม็กนัสไม่สามารถคิดเรื่องดังกล่าวได้ในขณะนี้ ใจของเขากำลังบอกให้เขาลงจากรถบัส ดังนั้นเขาจึงหาทางออก

ครูของพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เธออายุ 50 แล้วดูไม่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนัก แต่เนื่องจากอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่าน เธอจึงลุกขึ้นและมองดูเด็กๆ ทุกคน หัวใจของเธอตื่นตระหนกเมื่อเห็นหลายคนได้รับบาดเจ็บ

"ทุกคน มากับฉัน เราต้องออกจากรถบัส" เธอตะโกน

แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นเด็กอายุ 9 ขวบ ร่างกายของพวกเขาแข็งทื่อด้วยความกลัวกับความเจ็บปวด

ครูมองไปที่คนขับ เขาตายแล้ว แต่แล้วเธอก็สังเกตเห็นว่าประตูหลักก็เสียหายเช่นกัน มันไม่สามารถเปิดได้อีกต่อไป

*พรึบบบ*

ทันใดนั้น มีเสียงแรงดันรั่ว เครื่องยนต์เกิดไฟลุกไหม้ ไฟได้ลุกลามไปด้านหน้าและไหม้แผงหน้าปัดพร้อมกับร่างคนขับ

ทุกคนตื่นตระหนก เธอรีบวิ่งไปที่หลังรถบัสซึ่งมีประตูฉุกเฉินอยู่

*เปรี้ยง* *เปรี้ยง*

เธอพยายามเปิดมัน แต่มันไม่ขยับ มันติดอยู่ตรงนั้น เธอพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร

รถบัสค่อยๆ เต็มไปด้วยควัน ทำให้หายใจลำบากขึ้น

*แค็ก แค็ก*(เสียงไอ)

แม็กนัสมองไปรอบๆ เพื่อหาทางออก มีเพียงหน้าต่างเท่านั้นที่สามารถออกไปได้ แต่ปัญหาคือ มีท่อนเหล็กเรียวยาวขวางอยู่กลางหน้าต่าง ทำให้เล็กเกินไปสำหรับทุกคนที่จะออกไปได้ ท่อนเหล่านี้ถูกวางไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กโผล่หัวออกมา

เขาจึงลุกขึ้นเพื่อพยายามทำลายมัน แต่ก่อนอื่นเขามองดูเพื่อนร่วมชั้นทุกคนต่างร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ครั้นแล้วเห็นอาจารย์ยืนอยู่ในที่แห่งหนึ่ง

"คุณนายโจนส์... พาทุกคนไปด้านหลัง ห่างจากกองไฟ" แม็กนัสตะโกน

คุณนายโจนส์ซึ่งจิตใจมึนงงอยู่จึงรีบดำเนินการ เธอเริ่มดึงเด็กทั้งหมดไปทางด้านหลัง พวกที่ได้รับบาดเจ็บมากเกินไป เธอค่อยๆ อุ้มพวกเขาไปด้านหลัง

ในขณะเดียวกันแม็กนัส ก็เตะกระจกออกจากหน้าต่าง จากนั้นเขาก็เริ่มเตะแท่งเหล็ก

*เปรี้ยง*

*เปรี้ยง*

"เร็วเข้า..."

ไฟยังลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง ที่นั่งโดยสารด้านหน้าบางส่วนถูกไฟไหม้แล้ว

แม็กนัสทำให้เหล็กงอแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอ เขาหยุดเตะและพยายามงอเหล็กมากขึ้นเพื่อให้มีช่องเปิดที่ใหญ่พอ

เขาจับเหล็กแน่น กัดฟัน และพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีในร่างกายเล็กๆ ของเขา โดยที่เขาไม่รู้ตัว มือของเขาเริ่มร้อนขึ้นกว่าเดิมมาก แท่งโลหะเริ่มร้อนขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีแดงภายใต้มือของเขา เขาค่อยๆ พบว่ามันง่ายกว่าเดิมที่ทำให้งอเป็นคันเบ็ด

"ย๊ากกกกกกก...." มันเริ่มงอขึ้นช้าๆ ห่างจากกรอบหน้าต่าง ในไม่ช้าก็มีที่ว่างเพียงพอ

"คุณนายโจนส์... มาที่นี่ฮะ ใช้หน้าต่างนี้" เขาตะโกน เธอเพิ่งรวบรวมเด็ก ๆ ที่ด้านหลังเสร็จ

ตอนนี้ทุกคนกำลังตื่นตระหนก ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นช่องเปิด พวกเขาทั้งหมดจึงรีบวิ่งไปอย่างบ้าคลั่ง แม็กนัสถูกกดทับระหว่างพวกเขาทำให้ไม่มีใครสามารถออกไปได้

ความโกรธพุ่งขึ้นในหัวของแม็กนัส เขาทำงานอย่างหนักเพื่อเปิดเส้นทางนี้ และถ้าพวกนั้นมาทำอย่างนี้ พวกเขาทั้งหมดก็คงตาย

"ทุกคน…ใจเย็นๆ" เขาตะโกน

เสียงของเขามีผลบางอย่างเมื่อทุกคนได้ยินเขา ความคิดของเด็กทุกคนบอกให้พวกเขาอยู่ห่างจากเสียงนี้

“ทุกคน ออกไปทีละคน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครได้ออกไป” เขาสั่งพวกนั้น

คราวนี้พวกนั้นได้ยินเขาและเริ่มกระโดดออกไป ไม่นานก็มีคนวิ่งเข้ามาช่วยจับเด็กที่กระโดดออกมา

แต่ไฟแรงเกินไป เขาตระหนักว่ามันจะสายเกินไปก่อนที่ทุกคนจะออกไปได้ ดังนั้นแม็กนัสจึงวิ่งไปอีกด้านเพื่อเปิดหน้าต่างที่นั่นด้วย

คราวนี้เขาแค่เตะให้กระจกแตกแล้วใช้มือ

“ย๊ากกกกก… เปิดเด้….” เขาใช้แรงทั้งหมดในร่างกายเพื่องอโลหะ ครั้งนี้เด็กและครูบางคนเห็นเขาแสดงโดยที่พวกเขาไม่ได้คลั่งเหมือนตอนแรก

บ๊อบบี้ซึ่งเคยนั่งข้างแม็กนัสมาก่อนก็ยังไม่ได้ออกไปเช่นกัน เขาเห็นแม็กนัสเลยวิ่งเข้าไปช่วย

แต่แม็กนัสไม่ต้องการมัน เขากำลังจะดัดเหล็กเสร็จแล้ว แต่คราวนี้เขาสังเกตเห็นโลหะสีแดงที่อยู่ใต้มือของเขา อย่างไรก็ตาม เขาซ่อนมันไว้และงอมันจนสุด

“เร็ว บ๊อบบี้ ออกไปเลย” แม็กนัสออกคำสั่ง

"แล้วนายล่ะ?" บ๊อบบี้ถามกลับด้วยความเป็นห่วง เขาสามารถรับสถานการณ์ทั้งหมดนี้ได้ดีสำหรับเด็กวัย 9 ขวบ บ๊อบบี้ไม่ตื่นตระหนกเหมือนเด็กคนอื่นๆ

“ฉันจะตามนายไป ไปเดี๋ยวนี้” แม็กนัสตอบ

บ๊อบบี้พยักหน้าและกระโดดออกไป แม็กนัสมองกลับไปและเห็นเด็กๆ กระโดดออกไปทีละคน คุณนายโจนส์กำลังช่วยเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บออกไปก่อน

ในไม่ช้าเด็กบางคนก็เริ่มกระโดดออกจากหน้าต่างที่เปิดใหม่ด้วย

*แคก แคก*

ควันมันมากเกินไปแล้ว ทุกคนกำลังไอ คุณนายโจนส์เป็นคนที่ไอหนักที่สุด เพราะเธอสูงกว่าเด็กๆ แล้วควันทั้งหมดก็ติดกับหลังคาเพราะหน้าต่างที่เปิดอยู่ตอนนี้

แม็กนัสยังช่วยเด็กบางคนให้ออกจากฝั่งของเขา คนที่ได้รับบาดเจ็บหนักที่สุดคือเด็กผู้หญิงที่แขนหัก เธอพยายามหยุดการตกด้วยมือของเธอ แต่สุดท้ายก็หัก

เธอเป็นคนสุดท้าย แม็กนัสจึงตัดสินใจลงจากรถพร้อมกับเธอ ตัวเขาเองก็ตกตะลึงกับความสามารถของเขาที่สามารถยกหญิงสาวคนนี้ได้โดยไม่มีปัญหามากนัก

เขาส่งเธอให้ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างนอกเพื่อช่วยอพยพ แล้วตัวเองก็เดินออกไป

ผ่านไปเพียง 3 นาทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุและไฟไหม้ แต่สำหรับเขา มันรู้สึกเหมือนผ่านไปเป็นชั่วโมงเพราะความตึงเครียดทั้งหมดที่เจอ

ทันทีที่หัวของเขาโผล่ออกไป เขาก็หายใจยาวอย่างพึงพอใจ ไฟได้ลามมาถึงด้านหลังของรถบัสแล้ว และเขาก็น่าจะออกไปได้ทันเวลาพอดี

*แคก แคก*

หูของแม็กนัสตั้งขึ้น ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงไอออกมาจากภายในรถบัส เขากำลังจะกระโดดแต่หันกลับไปมอง มันเป็นเพียงไฟและควัน เขามองไม่เห็นใครเลย

*แคก แคก*

จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าเสียงมาจากไหน มันคือคุณนายโจนส์ เธอล้มลงอยู่บนพื้น ไม่น่าแปลกใจที่แม็กนัสไม่เห็นเธอมาก่อน เขาคิดว่าเธอกระโดดออกไป

เขายกเลิกการหลบหนีและกลับเข้าไปข้างในโดยที่ใจของเขาบอกให้เพิกเฉย แต่อีกเสียงหนึ่งจากที่ไหนสักแห่งในตัวเขากำลังบอกเขาว่าไม่ต้องกังวลเพราะเขาสามารถทำได้ ไฟกำลังโหมกระหน่ำและใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่มันจะลุกท่วมรถบัสทั้งคัน

เขารีบพยายามพยุงเธอขึ้น แต่เธอกลับไม่ให้ความร่วมมือกลับพยายามยื่นมือคว้าอะไรซักอย่าง

แม็กนัสมองดูสิ่งที่เธอพยายามจะหยิบและพบว่าเป็นกระเป๋าเงินของเธอ ที่พ่นยาทรงกระบอกเล็กๆ หลุดออกมา

เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาเคยเห็นคนใช้มัน เขาจึงจับมันใส่ปากคุณนายโจนส์แล้วกดเข้าไป มันพ่นอะไรบางอย่างที่คล้ายไอเข้าไปในปากของเธอ ทำให้เธอสงบลงและให้ความร่วมมือ แต่เธอสูดควันเข้าไปมาก และกำลังจะหมดสติไป

มันต้องใช้กำลังของเขามาก การอุ้มเด็กสักคนเป็นเรื่องง่าย แต่การยกของผู้ใหญ่ก็ยังมากเกินไปสำหรับร่างกายวัย 9 ขวบของเขา

“อ๊าาาาาาาา...เจ๊ตัวหนักมาก...” แม็กนัสสูดลมหายใจ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง

ไฟก็ติดขึ้นด้วย เขาลากคุณนายโจนส์ไปที่หน้าต่างและเหวี่ยงร่างครึ่งหนึ่งของเธอออกไปเพื่อให้คนอื่นคว้าตัวเธอ

แม็กนัสไม่รู้ว่าไฟได้ลุกท่วมตัวเขาแล้ว และหลังของเขาก็ติดไฟแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกอะไร มันรู้สึกเหมือนเป็นความร้อนธรรมดาสำหรับเขา

ทันทีที่คุณนายโจนส์ออกไป เขาก็กระโจนออกไปทางหน้าต่างเช่นกัน

เขาร่อนลงบนพื้นและวิ่งไปหาผู้คนเพื่อความปลอดภัย ไม่กี่อึดใจต่อมา รถบัสก็ถูกไฟลุกท่วมทั้งคันพร้อมกับรถบรรทุกที่ถูกชน

*ถอนหายใจ*

"ฮะ....ฮะ...ฮะ...อากาศบริสุทธิ์แจ่มที่สุ๊ดด" แม็กนัสหายใจเร็ว

*ปี๊ ป่อๆๆ หว๊ออออๆๆ* รถพยาบาลและรถดับเพลิงไซเรน

บริการฉุกเฉินก็เริ่มมาถึงหลังจากนั้นไม่นาน ช่างน่าประหลาดใจยิ่งแม็กนัสไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย เด็กทุกคนปลอดภัย ครูปลอดภัยแล้ว มีเพียงคนขับเท่านั้นที่เสียชีวิต

เขาตบเสื้อผ้าเพื่อทำความสะอาด แต่สังเกตเห็นกางเกงขาดตั้งแต่หัวเข่า

~โอ้ไม่นะ แม่จ๋าจะโกรธฉันแน่~ เขาคิดอย่างสั่นเทา

“แม็กนัส...” ทันใดนั้น เสียงของบ็อบบี้ก็ดังมาจากข้างหลังเขา

แม็กนัสหันกลับมา ใบหน้าของบ๊อบบี้ดูกังวลและหวาดกลัว “อะไรน่ะ? โอ้ นายได้ผ้าพันหัวเหรอ ดูดีนี่”

"แม็กนัส... ห-หลังนาย มะ-ไม่มีเสื้อผ้าและก็ดำไปหมด..." บ๊อบบี้อุทานเสียงดัง

เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินบางคนสังเกตเห็นพวกเขาและวิ่งเข้าไปช่วย พวกเขาเห็นแผ่นหลังของแม็กนัสที่ดำคล้ำไปหมด เสื้อผ้าถูกไฟไหม้ด้วย แม้แต่ก้นของเขาก็ยังมองเห็นได้และมันก็เป็นสีดำด้วย

"อะไรนะ?" แม็กนัสตกใจมาก เขาไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งนี้เกิดขึ้น

พยาบาลรีบอุ้มเขาขึ้น พาเขาขึ้นรถพยาบาล

“ผมสบายดีฮะ ผมไม่ได้ถูกไฟคลอกจริงๆ นะ” เขาพยายามเถียงแต่ไม่มีใครฟัง เขาถูกส่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที

เขาไม่มีอาการเจ็บเลย ดังนั้นเมื่อเขาไปถึงโรงพยาบาลและถูกนำตัวขึ้นเปลหาม เขาเห็นชื่อโรงพยาบาล มันคือ 'โรงพยาบาลทหารควีนอเล็กซานดรา'

แม็กนัสเห็นชื่อก็ตกใจ ใบหน้าของเขาเริ่มมีเหงื่อออก

“โอ้โน้วว ไม่ใช่ที่นี่” เขาคร่ำครวญด้วยความกลัว

_____________________________

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด