ตอนที่แล้วตอนที่ 15 : ไล่ล่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 : ดาบเล่มแรก

ตอนที่ 16 : ซื้อข้าวของ


หลินมู่เงยหน้ามองและเห็นป้าย ‘ร้านจิงเหว่ย’ ที่เขียนบนป้ายร้านอันคุ้นตา หลินมู่อยากจะทรุดตัวลงไปนอนบนพื้นด้วยขาที่ล้าจากการวิ่งมาตลอดทาง แต่เขาไม่คิดจะทำเช่นนั้น เขาเรียกหนังกระต่ายเขาดำและหนูหางหนามออกมาก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน

ทุกอย่างยังคงเป็นเช่นเดิมเหมือนเมื่อวาน ฝุ่นเกาะเต็มไปหมดและไม่มีผู้ใดที่โต๊ะขายเลย หลินมู่ที่อยากจะพักได้เห็นเก้าอี้เก่าอยู่ที่หัวมุมและนั่งลงโดยไม่สนใจฝุ่นที่เกาะเก้าอี้ เขาพักขาจนกระทั่งไม่รู้สึกเจ็บเท่าทีแรกและเดินได้อีกครั้งตามปกติ

หลินมู่พักนานเกิน 30 นาทีแล้วแต่ก็ไม่มีใครออกมาดูเขา ไม่มีวี่แววของสตรีคนก่อนที่เขาเจอเลย

‘นานขนาดนี้แล้วแต่ก็ไม่มีใครคิดจะมาดูร้าน ไม่กลัวของโดนขโมยรึไง?’

‘ข้าว่าคงเพราะซอยนี้ไม่มีใครเข้ามาด้วย ร้านนี้ก็เลยไม่มีใครสนใจ แม้กระทั่งเจ้าของร้าน’

หลินมู่สงสัยว่าเจ้าของร้านอยู่รอดจากร้านเช่นนี้ได้อย่างไร เขาเดินไปที่โต๊ะขายและสั่นกระดิ่งเล็ก แต่ไม่เหมือนคราวที่แล้ว ครั้งนี้เขาไม่ต้องรอถึง 10 วินาทีด้วยซ้ำก่อนที่สตรีนางเดิมจะเดินออกมาจากประตูหลังโต๊ะขาย

“วันนี้เจ้ามาทำอะไรรึ?”

นางถามด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

“ข้าเอาหนังสัตว์มาขาย”

หลินมู่พูดด้วยความกล้าเล็ก ๆ

นางรับหนังสัตว์ไปดู เมื่อไม่เห็นสิ่งใดผิดปกตินางก็วางและหยิบกระเป๋าเงินใต้โต๊ะออกมา

“ข้าซื้อเจ้าราคาเดิมนะ… 30 ทองแดง”

นางกล่าว

“ไม่เป็นไร แต่ข้าอยากได้ของน่ะ”

หลินมู่ตอบ ทีแรกเขาคิดที่จะซื้ออาวุธและของอื่นจากร้านอื่น แต่เขาจะลองเสี่ยงดวงที่นี่แทนเผื่อว่าจะได้ของที่ดีกว่า

“เจ้าอยากได้อะไรอีก?”

“ข้าอยากได้กระเป๋าสองใบ ถุงใหญ่อีกใบ แล้วก็อาวุธ”

นางเลิกคิ้วสงสัยแต่ก็ไม่พูดอะไร นางเดินออกมาจากหลังโต๊ะขายไปทางชั้นวางของทางซ้าย นางกวักมือให้หลินมู่ตามนางไป หลินมู่เดินตาม

“อยากได้กระเป๋าขนาดไหนก็เลือกเอาแล้วกัน”

หลินมู่มองเหล่ากระเป๋าที่วางไว้อย่างส่งเดชบนชั้น พวกมันผสมกันจนยากที่จะหาขนาดที่เขาต้องการ หลินมู่มองหารอบ ๆ และเจอกระเป๋าสองใบ เขาถามราคา

“สองใบนี้เท่าไหร่รึ?”

“ใบเล็ก 10 ทองแดง ใบใหญ่ 15 ทองแดง”

นางตอบอย่างเรียบเฉย หลินมู่พยักหน้า จากนั้นนางจึงเดินไปยังมุมที่มีกองถุงใหญ่และชี้ให้หลินมู่เลือก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านางไม่อยากจะแตะของที่เต็มไปด้วยฝุ่นด้วยตัวเอง หลินมู่เลือกถุงที่ใหญ่เท่าเขาครึ่งตัวถ้าคลี่มันออก

“เจ้านี่ 25 ทองแดง”

“ข้าซื้อ”

หลินมู่ตอบ

นางมองหลินมู่และพูดเสียงแข็ง

“เจ้าอยากได้อาวุธแบบไหนแล้วมีงบเท่าไหร่?”

นางดูเหมือนจะถามว่าหลินมู่จะมีเงินพอจ่ายค่าอาวุธหรือไม่หลังจากซื้อกระเป๋าและถุงไปแล้ว หลินมู่เข้าใจน้ำเสียงนางและล้วงมือขวาไปในชุดและดึง 15 เหรียญเงินออกมาโดยแสร้งว่าเขามีเงินมาโดยตลอด

‘เจ้าเด็กนี่ไม่ได้พกเงินมาชัด ๆ สัมผัสข้าบอกได้แน่นอน ดูเหมือนจะมีอะไรมากกว่าที่ข้าคิด’

นางคิดในใจโดยปกปิดความตกใจเอาไว้

“ข้าอยากได้ดาบที่เหมาะกับการล่าสัตว์”

หลินมู่บอกโดยไม่รู้เลยว่านางคิดสิ่งใดอยู่

นางเดินกลับไปที่โต๊ะขายซึ่งหลินมู่ก็เดินตามไป

“เจ้าไม่รู้เลยรึว่าอยากได้ดาบแบบไหน?”

นางถาม

“บอกตรง ๆ ข้าไม่เคยจับดาบมาก่อนเลย ข้าถึงให้ท่านแนะนำให้ข้า”

หลิบมู่ตอบด้วยใบหน้าเขินอาย

นางไม่สนใจความเขินอายของเด็กหนุ่มและพูดตอบ

“เจ้ามีร่างกายขั้นไหน?”

“ข้าเพิ่งจะมีร่างขั้นสี่เมื่อไม่นานมานี้”

หลินมู่ตอบ

นางยืนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเปิดประตูที่หลังโต๊ะขายเดินไปข้างใน นางอยู่ในนั้น 10 นาทีขณะที่หลินมู่รออย่างอดทน เขาคลึงเหรียญในมือเล่น

ประตูเดินและสตรีนางเดิมเดินออกมาพร้อมกับชายชรา ชายคนนี้ดูแก่เฒ่าราวกับว่าอีกไม่นานจะต้องลงโลง เขามีผมขาวยาวประบ่าและหนวดยาวยุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยแต่ดวงตานั้นยังเต็มไปด้วยพละกำลัง เขาสวมชุดขาวไร้ที่ติและสวมกำไลลูกปัดสีดำที่แขนซ้าย

สายตาของชายแก่ทำให้หลินมู่เสียวสันหลังจนเขาหายใจไม่ออก เวลาเพียงไม่กี่วินาทีนั้นไม่ต่างกับตลอดกาลสำหรับหลินมู่ หลินมู่รู้สึกจิตใจสั่นไหวในตอนที่เขากำลังจะเป็นลม เขารู้สึกว่าราวกับมีพระหลายพันรูปท่องมนต์พร้อมกัน เสียงของพระเหล่านั้นกลายเป็นพลังที่ไม่จำยอมในใจหลินมู่ เมื่อบทสวดส่งเสียงดังสูงสุด คลื่นพลังก็ได้แผ่ออกมาจากแหวนที่มือขวาและกระจายไปทั่วร่างหลินมู่

สิ่งที่บรรยายทั้งหมดราวกับว่ากินเวลาไปนาน แต่มันเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเท่านั้น จากนั้นต่อมาทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ สายตาของชายชรามิได้ดูคุกคามเหมือนแต่ก่อนกับหลินมู่อีกแล้ว เขาหายใจเข้าลึกและกำลังจะพูดแต่ชายชราก็พูดขึ้นมาก่อน

“ข้าชื่อจิงเหว่ย เจ้าของร้านนี้ เรียกว่าผู้เฒ่าจิงก็ได้”

เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า

“เจ้าบอกว่าอยากได้ดาบที่เหมาะสมกับเจ้าสินะ”

เขาพูดต่อเมื่อเด็กชายตรงหน้ายังคงเงียบ

“ใช่ ข้าอยากได้ดาบที่ใช้ไม่ยาก”

หลินมู่พูดด้วยความยากลำบากเล็กน้อย ชายแก่พยักหน้า

“เจ้าถนัดมือข้างไหน?”

จิงเหว่ยถาม

“ข้างขวา”

“อืม แล้วเจ้าก็มีร่างกายขั้นสี่สินะ?”

ชายชราลูบเคราขณะที่พูด

“ใช่”

หลินมู่ผู้ที่ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจที่ได้เจอกับชายชราตอบกลับไป

จิงเหว่ยหันไปมองสตรีคนเดิม นางทำหน้าเข้าใจและเดินกลับไปข้างใน ไม่นานนางก็กลับมาพร้อมกับดาบเจ็ดเล่มในมือที่แตกต่างกัน นางวางดาบเหล่านั้นบนโต๊ะขายและยืนหลบไปด้านข้าง นางไม่พูดออกมาเลยแม้แต่คำเดียว

“ถือดาบเล่มแรกสิ”

ชายชราพูดและชี้ดาบเล่มแรก

หลินมู่เดินไปที่โต๊ะและหยิบดาบขึ้นมาอย่างง่ายดาย ดาบเล่มนี้ธรรมดามาก มันไม่มีความพิเศษบนตัวดาบเลย ดาบแบบนี้จะหาที่ใดก็ได้บนโลก หลินมู่จับด้ามดาบและรู้สึกไม่คล่องตัวเล็กน้อย ชายชราเองก็สังเกตเห็น

“ลองอีกเล่ม”

หลินมู่หยิบดาบเล่มถัดไปและสัมผัสน้ำหนักของดาบว่ามันไม่สมดุล ดูเหมือนว่าน้ำหนักมันจะเอียงไปทางด้านซ้ายมากกว่า และมันก็ไม่รอดพ้นสายตาชายชราเช่นกัน เขาจึงให้หลินมู่ลองดาบเล่มอื่นต่อไป หลินมู่ลองดาบทุกเล่มแต่ก็ไม่รู้สึกสะดวกในการใช้งานเลยสักเล่มเดียว

ขณะที่หลินมู่ลองดาบไปเรื่อย ๆ นั้นเอง ความสนใจของชายชราเอก็เพิ่มขึ้นด้วย จนสุดท้ายเขาก็ขอให้หลินมู่หยุดและกระซิบกับสตรี นางเสียความเยือกเย็นและแทนที่ด้วยความแปลกใจบนใบหน้าซังกะตายนั้นเมื่อได้ฟังเสียงกระซิบ หลินมู่ไม่ได้เห็นสิ่งนี้เลยเพราะกำลังง่วนอยู่กับการจับดาบในมือ

นางเดินเข้าไปยังชั้นวางของที่ไกลออกไปทางด้านขวาและดึงผ้าคลุมชั้นวาง นี่คือชั้นเดียวที่มีผ้าคลุมเอาไว้จากทั้งร้านแห่งนี้ จากนั้นนางจึงหยิบดาบที่มีผ้าพันเอาไว้ทั้งเล่มออกมา นางนำดาบเล่มนั้นมาให้ชายชรา

ชายชราคลายผ้าที่พันรอบดาบ เผยให้เห็นดาบสั้นสีเงินหม่นที่ยาวเท่าแขนครึ่งท่อน ด้ามจับดูเรียบง่ายทำจากไม้ ขณะที่คมดาบนั้นตรงและมีสองคม มีร่องเล็กทั้งสองด้านของดาบ หลินมู่ตาลุกวาวเมื่อได้เห็นดาบที่เรียบง่ายแต่สง่างาม แต่ทันทีที่ชายแก่จับดาบ หลินมู่รู้สึกถึงความคุกคามที่แผ่ออกมาจากชายชราอีกครั้ง

เป็นเวลาชั่วขณะนั้นเองที่หลินมู่เห็นยักษ์ยืนอยู่ด้านหลังชายแก่ ยักษ์ถือคมมีดที่ราวกับผ่านร้อนผ่านหนาวในการฆ่าฟันมาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี มันแผ่รังสีที่อธิบายได้เพียงคำว่าความตาย สตรีที่อยู่ใกล้ตื่นตกใจเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและวางมือแตะบ่าชายแก่ จิงเหว่ยรับรู้และถอนหายใจ จากนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้หายไป

หลินมู่แทบไม่เชื่อสายตาจากสิ่งที่ได้เห็นและคิดว่ามันเป็นภาพหลอนจากความเหนื่อยล้าที่เขาวิ่งเป็นเวลานานในวันนี้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด