ตอนที่แล้วตอนที่ 12 การสัมภาษณ์ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 ภารกิจแรก (อ่านฟรี)

ตอนที่ 13 การมาเยือน (อ่านฟรี)


วันเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ไม่มีอะไรที่น่าสนใจมากมายนักในชีวิตของแม็กนัส เวทมนตร์ของเขายังคงอยู่ในระดับเดียวกับตอนที่เขาเรียนรู้ที่จะสร้างควันจากฝ่ามือของเขา เป็นเวลา 6 เดือนนับจากนั้น

แม็กนัสตัวน้อยไม่ได้รู้เลยว่าการบรรลุถึงวัยวุฒิภาวะทางเวทมนตร์เบื้องต้นคือตอน 11 ขวบ เขาพยายามอย่างหนักที่จะจุดไฟจากฝ่ามือของเขา แต่สิ่งที่เขาได้รับคือเสียงตด ในตอนนี้พลังของเขามีเพียงความแข็งแรง, พลังคลื่นไมโครเวฟและชาญฉลาด และเขาก็รักมันมาก ตอนนี้อาหารของเขาไม่เคยเย็นเลยไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

นอกจากนั้น ช่วงนี้เขาไม่เคยเหนื่อยเลย ดังนั้นเขาจึงเต็มไปด้วยพลังตลอดเวลา ตอนนี้เขากำลังเรียนคาราเต้ เรียนหลักสูตรชั้น ม.1 จากพ่อของเขาในตอนเย็น จากนั้นเขาจะอ่านหนังสือหรือพยายามสร้างไฟแล้วเข้านอน

เนื้อหาที่โรงเรียนก็ค่อนข้างง่ายสำหรับเขา เขาเลยไม่พบความท้าทายใดๆ เลย พิธีมอบเหรียญกล้าหาญจอร์จครอส จะมีขึ้นในอีก 3 วัน เนื่องจากการกำหนดการไปพระราชวังบักกิงแฮมได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เขาจึงไม่สามารถขอให้พ่อกับแม่พาเขาไปที่นั่นก่อนหน้านั้นได้

ชีวิตของเขาก็ดำเนินต่อไป จนกระทั่งมีเด็กชายสองคนมาที่บ้านของเขา ทั้งคู่มีผมสีดำเข้มและมีส่วนสูงเกือบเท่ากัน วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ครอบครัวของเขาเลยอยู่ที่บ้านกันหมด

"แม็กนัส... เพื่อนลูกมาหาจ้า รออยู่ข้างล่าง" เสียงของเกรซดังมาจากชั้นล่าง

“เพื่อนหรอ? บ๊อบบี้พาใครมาด้วยหรือไง?” เขาถามกับตัวเองระหว่างเดินลงบันได

พอเขาลงมาถึงชั้นล่าง เขาก็เห็นเด็กชายคนเดียวกับที่เขาพบหน้าตึกสีดำเมื่อหลายเดือนก่อนตอนเขาขี่จักรยานที่สวนสาธารณะ

“นี่ แม็กนัส” เด็กชายผมหยักโศกตัวสูงกว่าผายมือมาทางเขา คนที่เตี้ยกว่าซึ่งน่าจะเป็นน้องชายของเขาดูสับสน

“แม็ก เชิญพวกเขาเข้ามาก่อนจ่ะ แม่เพิ่งอบคุกกี้ให้ลูก เอาไปกินข้างบนห้องก็ได้นะจ๊ะ แม่จะเอาไปให้” เกรซต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น

แม็กนัสพยักหน้าให้เด็กชายทั้งสอง บอกให้พวกนั้นตามเขาไป สองพี่น้องเดินตามเขาไปเงียบๆ ในไม่ช้าพวกเขาก็เข้ามาและเขาก็ปิดประตู แต่เขาไม่ได้ล็อค

“นายหาที่อยู่ของฉันเจอได้ยังไงน่ะ?” แม็กนัสถาม

สองพี่น้องมองหน้ากัน เหมือนเขาถามอะไรไร้สาระ

“เพื่อน หน้านายถูกแปะบนหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อสองสามวันก่อน การหาตัวไม่ได้ยากเล้ย” ร่างสูงเอ่ยขึ้น

แม็กนัสพยักหน้า ไม่มีอะไรต้องกังวลอยู่แล้ว “ฉันไปบ้านนายมาเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ไม่เจอนาย”

"ใช่ มักเกิ้ลไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้แต่พ่อมดก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เว้นแต่จะได้รับอนุญาต" เด็กชายตัวสูงตอบ

แม็กนัสไม่สามารถเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้ได้ทั้งหมด "เดี๋ยวนะ... มักเกิ้ล? มันคืออะไรน่ะ อีกอย่าง ฉันยังไม่รู้ชื่อนายด้วยซ้ำ"

เด็กชายตัวสูงทุบหัวตัวเองเพราะลืมสิ่งนี้ "ฮ่าฮ่า ฉันก็ลืมไป ฉันชื่อซิเรียส แบล็ค และนี่คือเรกูลัส อาร์คทูรัส แบล็ค น้องชายของฉันเอง เรามาจากตระกูลที่เรียกว่าตระกูลแบล็ค ตระกูลชนชั้นสูงและเก่าแก่ที่สุด อ่ะ และก็ พวกมักเกิ้ล คือพวกที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ และมักถูกกีดกันไม่ให้รู้ว่าเวทมนตร์มีอยู่จริงในโลกของเรา"

จิตใจของแม็กนัสระเบิดกับสิ่งนั้น “เหมือนเวทมนตร์ที่ทำให้ มือฉันร้อน? หรือทำแก้วที่กำลังล่วงลอยกลางอากาศ?”

"เดี๋ยวนะ... นายก็เป็นมักเกิ้ลเหมือนกันเหรอ? นั่นสินะ ตอนนี้มันอธิบายทุกอย่างแล้ว พวกเขารู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ของนายนหรือเปล่าหน่ะ?" ซิเรียสถาม

“ไม่ พวกเขาไม่รู้ และฉันไม่คิดจะบอกพวกเขาในเร็วๆ นี้ด้วย” แม็กนัสกล่าวอย่างหนักแน่น เขาไม่อยากให้พ่อแม่กังวลเพราะความสามารถของเขาลึกลับเกินไป และเมื่อพวกเขาไม่สามารถหาคำตอบได้ พวกเขาก็จะกังวลและเครียดเกินไป

“ไม่มีปัญหาหรอก นายจะได้รับจดหมายจากฮอกวอตส์ตอนนายอายุ 11 ขวบ นายคงไม่รู้ ฮอกวอตส์เป็นโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ เด็กทุกคนที่มีเวทมนตร์ส่วนใหญ่เมื่ออายุ 11 ขวบมักจะไปที่นั่น มีโลกเวทมนตร์ที่ซ่อนอยู่อย่างลับๆ ในที่แห่งนั้น แม็กนัส มันมีทั้งมังกร ก็อบลิน สัตว์วิเศษ

เวทมนตร์เป็นสิ่งที่วิเศษมากนะ แม้ว่าตอนนี้ฉันจะทำอะไรไม่ได้มากก็ตามเถอะ ก่อนอายุ 11 พลังเวทย์มนตร์ของเรายังคงอยู่ในวัยเด็ก” ซิเรียสอธิบาย

ยิ่งแม็กนัสได้ยินมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตื่นเต้นกับอนาคตมากขึ้นเท่านั้น เวทมนตร์มีจริง โรงเรียนเวทมนตร์มีจริง และอื่นๆ อีกมากมาย

ซิเรียสพูดต่อ “ตอนนี้ฉันเป็นแฟนตัวยงของนายแล้ว แม็กนัส วิธีที่คุณช่วยชีวิตเด็กๆ และคุณครูของนายบนรถบัสคันนั้น นายคือเด็กของกริฟฟินดอร์ร้อยเปอร์เซ็นต์”

"กริฟฟินดอร์? อะไรล่ะนั่น?" แม็กนัสถาม

"มันเป็นหนึ่งในบ้านสี่หลังที่สามารถเข้าได้ กริฟฟินดอร์ขึ้นชื่อเรื่องความกล้าหาญ ความห้าวหาญ และความมุ่งมั่น สลิธีรินเป็นศัตรูตัวฉกาจของกริฟฟินดอร์ เนื่องจากพวกเขาขึ้นชื่อในเรื่องความทะเยอทะยาน เฉลียวฉลาด เจ้าเล่ห์ และเป็นคนไม่ดี พวกเขาส่วนใหญ่เป็นคนไม่ดี แล้วก็มีเรเวนคลอ พวกเขาเป็นแค่หนอนหนังสือ แล้วก็เป็นฮัฟเฟิลพัฟที่ขึ้นชื่อเรื่องความภักดี แต่พวกเขาก็มีความลับมาก” ซิเรียสมอบหลักสูตรเร่งรัดของฮอกวอตส์ให้เขา

*ก๊อก ก๊อก*

เกรซเข้ามาพร้อมคุกกี้เต็มถาด เธอมอบให้พวกเขาและจากไปแม้ว่าเธอจะไม่เคยเห็นเด็กทั้งสองมาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ถามลูกชายเกี่ยวกับพวกเขา

เมื่อเธอไปออกไป ซีเรียสร้องขออะไรบางอย่าง “นี่ ฉันพาน้องชายมาที่นี่เพราะเขาไม่เชื่อ ว่านายจะสร้างไฟได้ โชว์ให้เขาดูหน่อยได้เปล่า? หมอนี่จะได้หุบปากซะที”

“พี่ลากผมมาที่นี่นะซิเรียส” เรกูลัสโต้เถียงอย่างอ่อนโยน มีเหตุผลจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณครอบครัวที่ไม่เหมาะสมที่ทำให้พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน

ครั้งหนึ่งพวกเขานำนกที่บาดเจ็บมาที่บ้านโดยหวังว่าจะบำรุงรักษาให้มันกลับมาแข็งแรง แต่เมื่อมันดีขึ้น โอไรออนพ่อของพวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของมัน

โอไรออนตัดสินใจใช้โอกาสนี้สอนบทเรียนสำคัญแก่ลูกชายของเขาว่าอารมณ์บางอย่างทำให้คนอ่อนแอได้อย่างไร ในฐานะคนตระกูลแบล็ค พวกเขาถูกกำหนดว่าห้ามอ่อนแออย่างเด็ดขาด ดังนั้น โอไรออนจึงหักปีกของนกทีละข้างเพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาของเด็กชาย

ซิเรียสมองดูพ่อของเขาทำร้ายนก เขามองพ่ออย่างเย็นชาตลอดเหตุการณ์ ค่อยๆ เกลียดพ่อและแม่ของเขาจนถึงจุดที่เขารู้สึกขยะแขยง แต่เรกูลัสซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 6 ขวบ เริ่มส่งเสียงร้องเมื่อนกร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด โอไรออนตะโกนใส่เรกูลัสเพื่อควบคุมอารมณ์ก่อนที่จะหักคอนกจนตายในท้ายที่สุด

เรกูลัสพยายามกลืนเสียงร้องเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษเพิ่ม ขณะที่นกนอนแหลกเหลวไร้ชีวิตอยู่บนโต๊ะ แล้วโอไรออนก็หันไปหาซีเรียสด้วยความโกรธ โอไรออนตบหน้าเขาด้วยมือที่เปื้อนเลือด ตำหนิเขาที่พาสัตว์สกปรกเข้ามาในบ้านพร้อมกับสั่งสอนเรกูลัส นั่นคือจุดที่ทำให้ซิเรียสเกลียดครอบครัวของเขาและเรกูลัสก็กลัวพวกเขา

แม็กนัสไม่รู้เรื่องนี้ ถ้าเขารู้ เขาจะพยายามทำให้ทั้งสองมีความสุข “ฉันอยากสร้างไฟนะแต่ทำไม่ได้ มันมีแต่ควันออกมาจากตัวฉัน”

เขาแสดงให้พวกเขาเห็น และในไม่ช้า ฝ่ามือของเขาก็ปล่อยเสียงปู้ดออกมาเป็นควัน

“ไม่ ไม่ วันนั้นนายพ่นไฟออกจากปากนายนะ” ซิเรียสย้ำ

“งั้นก็อาจจะบังเอิญมั้ง?” แม็กนัสยักไหล่และกินคุกกี้ต่อ

“ว่าแต่ซิเรียส ฉันควรทำอย่างไรเพื่อเตรียมตัวไปฮอกวอตส์” แม็กนัสถาม

"อืมม... พวกเราเด็กเกินไปเราเลยใช้เวทมนตร์แท้ๆ ไม่ได้ แต่เราสามารถเรียนรู้คาถาและจังหวะมือที่ถูกต้องก่อนไปโรงเรียนได้นะ เราก็จะได้เปรียบหน่อย

โอเคงั้นฉันจะเอาหนังสือเก่ามาให้นาย แม็กนัส เพราะครอบครัวของฉันชอบทำตัวเหมือนเป็นราชา พวกเขาไม่เคยให้เราใช้หนังสือมือสอง พวกนั้นเพิ่งถูกโยนลงห้องใต้ดิน พี่สาวสองคนของฉันกำลังจะจบจากฮอกวอตส์ ไว้เดี๋ยวฉันเอาหนังสือมาให้นายเอง" ซิเรียสแนะนำ

“นั่นแจ่มไปเลยซิเรียส ฉันมีความจำที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันว่าฉันสามารถจดจำเรื่องทั่วๆ ไปส่วนใหญ่ก่อนไปโรงเรียนได้” แม็กนัสรู้สึกตื่นเต้น

"โว้...นี่มันอะไรกัน" ทันใดนั้นเรกูลัสอุทานออกมาเสียงดัง

แม็กนัสหันไปมองเห็นเขาเล่นวิทยุอยู่ "นั่นคือวิทยุ นายสามารถฟังเพลงได้"

"มันทำงานได้ยังไงน่ะ" เขาถาม

แม็กนัสหันไปหันไปหาเขาและเปิดเครื่องให้ "มันทำงานบนคลื่นวิทยุ เรามองไม่เห็น แต่อยู่รอบตัวเรา"

เพลงเริ่มเล่นทันที มันคือ Honky Tonk Women ของ Rolling Stones

เรกูลัสมองดูด้วยความตกใจราวกับว่านี่คือเวทมนตร์ต้องห้าม "นี่...มัน...วิเศษมาก..."

แม็กนัสหัวเราะ “ฮ่าๆ ไม่หรอก เรกูลัส นี่คือเทคโนโลยี มันจะดีขึ้นในทุกๆ ปี มนุษย์ไม่เคยหยุดพัฒนาตนเอง”

“ถ้าพวกพ่อมดคิดได้แบบนั้นก็คงดี” ซิเรียสพูดพร้อมกับถอนหายใจ จากนั้นเขาก็หยิบคุกกี้ขึ้นมาแต่ตอนนี้มันเย็นและกินไม่อร่อยเท่าไหร่

“เดี๋ยวฉันอุ่นให้นะ” แม็กนัสเสนอ

เขาใช้มือของเขาเพื่ออุ่นขนมให้แก่พวกเขา ไม่นานพวกเขาก็ได้คุกกี้เหมือนเพิ่งออกจากเตาอีกครั้ง

"มันสะดวกมากเลยนะเนี่ย" ซิเรียสอุทานเมื่อเห็นความสามารถของเขา

"ทำไม? นายทำไม่ได้เหรอ?" แม็กนัสถาม

เรกูลัสพูดอย่างรวดเร็ว “ไม่ แหงล่ะ เรายังควบคุมเวทมนตร์ของเราไม่ได้ด้วยซ้ำ”

“น้องฉันพูดถูก ตอนนี้เราอ่อนแอพอๆ กับเด็กธรรมดาอายุ 9 ขวบ นายอาจหักคอเราได้ง่ายๆ จะว่าไป เพราะนายงอเหล็กบนรถบัส” ซิเรียสกล่าวสำทับ

แม็กนัสไม่ถามอะไรต่อ เขาไม่อยากพูดมากเกินไป หลังจากคุยกันอีกเล็กน้อย ทั้งสองก็ลุกจากไป

“แม่ฆ่าเราแน่ถ้ารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ เราต้องกลับเดี๋ยวนี้ แล้วเจอกัน แม็กนัส คราวหน้าฉันจะเอาหนังสือมาให้” ซิเรียสและเรกูลัสโบกมือแล้วจากไป

ทันทีที่สองพี่น้องตระกูลแบล็คออกจากบ้านไปแล้ว แม็กนัสก็หันไปหาแม่ของเขา เขารู้ว่าเธอต้องการจะถามอะไร "พวกเขาเป็นเพื่อนของผม เราเจอกันที่สวนสาธารณะฮะ"

“ลูกน่าจะบอกแม่ให้เร็วกว่านี้ ไงก็เถอะ เดี๋ยวลูกเตรียมตัวไปที่สถานีตำรวจวันนี้นะจ๊ะ พวกเขาบอกว่าหัวหน้าตำรวจและนายกเทศมนตรีต้องการให้รางวัลลูกน่ะจ่ะ” เกรซบอกเขา

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เขาได้ให้สัมภาษณ์ทำเงินไปได้เกือบ 1,151 ปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบันประมาณเกือบ 700,000 บาท)

“แม่จ๋า แน่ใจเหรอว่าพวกเขาไม่ได้แค่ใช้ผมเลือกตั้ง” แม็กนัสถามอย่างฉลาด

“แม็ก...แต่นั่นไม่สำคัญ ลูกควรได้รับรางวัลเหล่านี้ เมื่อลูกโตขึ้นแล้วไปสัมภาษณ์งาน แค่ใบรับรองรางวัลพวกนี้ก็มีน้ำหนักมากแล้ว พวกเขาจะจ้างลูกแม้ว่าลูกจะไม่มีคุณสมบัติก็ตาม เพราะพวกเขาจะคาดหวังจรรยาบรรณในการทำงานที่ดีจากลูกไงล่ะจ๊ะ” เกรซแนะนำเขาขณะหวีผม

“ผมมั่นใจว่ามันจะน่าเบื่อมาก พวกเขาจะกล่าวสุนทรพจน์ยาวๆ

ผมไม่อยากไปฮะ" แม็กนัสแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวแบบเด็กๆ

เกรซมองเขาอย่างจริงจัง “แน่ใจเหรอจ๊ะ งั้นแม่ควรจะบอกให้เขายกเช็ครางวัลให้คนอื่นไหม?”

ดวงตาของแม็กนัสเบิกกว้าง แล้วการต่อต้านทั้งหมดของเขาก็หายไปในทันใด รอยยิ้มของนักธุรกิจที่แท้จริงปรากฏขึ้น เขาวิ่งไปที่ประตูใหญ่และสวมรองเท้า

"แม่จ๋า แม่จ๋าทำอะไรอยู่ เราจะไปสายนะฮะ ผมไม่สามารถปฏิเสธพวกเขาที่ให้เกียรติผมได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้พวกเขาเสียใจนะฮะ" เขากลับตัวเสียรวดเร็ว

เกรซหัวเราะ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า จ้า จ้า ไปกันเถอะ”

ในงานพิธี แมกนัสได้รับเหรียญทองปลอม ใบรับรองที่เรียกเขาว่าวีรบุรุษบวกกับเช็คก้อนโตมูลค่า 750 ปอนด์ (451,272 บาท) มีเพียงในเมืองใหญ่ๆ เท่านั้นที่สามารถให้เงินจำนวนมากขนาดนี้ได้

แม็กนัสขอบคุณทุกคนในฐานะลูกที่มีความสุขและกลับบ้านกับแม่ของเขา พวกเขากำลังจะขึ้นเงินตามเช็คในวันถัดไป ตอนนี้เขามีทั้งหมด 1,901 ปอนด์ (1,143,877 บาท)

“ในที่สุดฉันก็ช่วยบ๊อบบี้ได้แล้ว” แม็กนัสคิดอย่างมีความสุข แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาเศร้า

~ บ๊อบบี้ไม่มีเวทมนตร์ เราจะแยกจากกันในไม่ช้า ฉันต้องสอนให้เขายืนหยัดเพื่อตัวเองให้ได้~ เขาตัดสินใจ

[ความซวยมาเยือนแล้วบ๊อบบี้]

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด