ตอนที่แล้วตอนที่ 11 เสียงที่เป็นประโยชน์ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 การมาเยือน (อ่านฟรี)

ตอนที่ 12 การสัมภาษณ์ (อ่านฟรี)


แม็กนัสใช้เวลาส่วนใหญ่พยายามคุยกับล็อกเก็ตหลังจากที่มันกระพริบแสงวิ๊บวั๊บ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าความลับของพลังของเขาถูกซ่อนอยู่ในนี้ และเชื่อด้วยว่าความฝันที่เขาเห็นในคืนที่เขานอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ประหลาดในสวนสาธารณะนั้นเป็นเรื่องจริง

นอกจากนี้เขารู้สึกว่าตัวเขาเปลี่ยนไปมากเกินไป แม้จะช้าแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเขา ความจำของเขาก็ดีขึ้นมากเช่นกัน นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าความต้องการโดยธรรมชาติในการหาทองคำและอยากสะสมไว้ให้มากที่สุด แต่มันเป็นเพียงแค่ความคิดเล็กๆ น้อยๆ เพราะงั้นเขาก็แค่ยักไหล่ทำชิลๆ ไป

นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าเขาฉลาดขึ้นในโรงเรียน มากกว่าเด็กทุกคนในชั้นของเขา เขาได้เรียนรู้ทุกอย่างในชั้นป. 5 แล้ว แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นอัจฉริยะอะไร เขาลองอ่านหนังสือสำหรับม. 1 แล้ว และพบว่ามันยากมาก วิชาในชั้นมัธยมต้นแตกต่างจากชั้นประถมปีสุดท้าย ถึงกระนั้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา

3 วันผ่านไปนับตั้งแต่มีการประกาศเรื่องเหรียญกล้าหารจอร์จครอส กลายเป็นข่าวใหญ่เพราะเขากำลังจะเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลนี้ ก่อนหน้านี้ จอห์น แบมฟอร์ด วัย 15 ปี เคยช่วยชีวิตพี่น้องของเขาจากเหตุไฟไหม้บ้านในปี 1952

แม็กนัสยังอยากให้ตัวเองอยู่ใน “กินเนสบุ๊ค” ด้วย เนื่องจากมันค่อนข้างเป็นที่นิยม และเขาเดาว่าสถิติของเขาจะไม่ถูกทำลายไปอีกสักพักหนึ่ง เพราะถึงยังไง มันจะมีเด็กอายุ 9 ขวบสักกี่คนที่ช่วยเหลือผู้คน?

เหมือนจะเป็นวันอาทิตย์ หมายความว่าเป็นวันถ่ายการสัมภาษณ์ของเขากับช่อง BBC เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไปแล้ว 6 ฉบับ รวมเป็นเงิน 460 ปอนด์ (6,533 ปอนด์ในปัจจุบัน ประมาณ 276,745 บาท) โดยเฉลี่ยแล้ว หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งให้เงินเขาประมาณ 80 ปอนด์ (เกือบ 1,000 ปอนด์ ซัก 42,000-43,000 บาท) พ่อของเขาบอกเขาว่ายังมีหนังสือพิมพ์อีก 5 ฉบับจากประเทศอื่น นอกจากนี้ BBC1 ควรจะให้อะไร(ตังค์)ได้มากกว่าหนังสือพิมพ์

นอกจากนี้เขายังคาดหวังว่าคนเหล่านี้จะกลับมาหลังจากที่เขาได้รับเหรียญกล้าหาญและกินเนสบุ๊ค ก็เผยแพร่ชื่อของเขา

"แม็กนัส ไปกันเถอะลูก" อดัมกำลังพาเขาไปที่สตูดิโออัดรายการของ BBC

“มาแล้วฮะพ่อ” เขาตะโกนออกมาจากห้องของเขา เขาสวมเสื้อผ้าดูเป็นทางการที่สะอาดและสวยงาม ในตู้เสื้อผ้าของเขาก็ไม่มีอะไรมากนอกจากเสื้อยืด กางเกงนิกเกอร์ เขาไม่ต้องการแสดงขาของเขาในโทรทัศน์แห่งชาติดังนั้นเขาจึงสวมกางเกงขายาว พลางหวีผมของเขาและออกไป

"บ๊าย บายฮะ แม่จ๋า" เขาโบกมือ

“ทำให้ดีที่สุดนะจ๊ะแม็กนัส แม่จะบอกคุณตาคุณยายของลูกให้คอยดูลูกออกทีวีในวันพรุ่งนี้นะจ๊ะ” เธอให้กำลังใจเขาและลูบผมของเขาเพื่อทำให้ดีขึ้น

หลังจากนั้นเขาก็ออกไป

ในรถ อดัมบอกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ควรพูดผ่านไมค์ เขาควรจะยึดมั่นกับเหตุการณ์จริงและสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่พวกเขาจะถามเขาเกี่ยวกับงานอดิเรกหรืออะไรที่เขาชอบ

หลังจากนั่งรถไปได้ 30 นาที พวกเขาก็มาถึงด้านนอกอาคารของสตูดิโอ มันเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีชื่อของบริษัทเป็นตัวหนา

มันจะเป็นรายการที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย พวกเขาถูกพาไปที่ห้องบันทึกเสียงในสตูดิโอในไม่ช้า อดัมนั่งอยู่ข้างๆ บอกให้เงียบและคอยสังเกต ในขณะเดียวกัน แม็กนัสก็นั่งลงที่ปลายด้านหนึ่งของโต๊ะเล็กๆ มีไมค์สองตัวอยู่บนนั้น ตัวหนึ่งหันหน้าเข้าหาเขา และอีกตัวหนึ่งหันไปทางที่นั่งว่างที่ผู้สัมภาษณ์จะนั่ง นอกจากนี้ยังมีกล้องยักษ์ 3 ตัวที่ดูเว่อร์เกินจริง

ไม่นาน ชายในชุดสูทก็เดินเข้ามา เขามีส่วนสูงพอประมาณและดูสบายๆ ทำให้ดูเป็นผู้ชายที่เป็นมิตร สตูดิโอข่าวได้เลือกเขาเป็นพิเศษในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เพราะเขามีใบหน้าที่ดูไม่ซีเรียสที่สุด เขาเป็นผู้ช่วยคนที่ 2 ของผู้ประกาศข่าวหลัก นอกจากนี้เขายังใฝ่ฝันที่จะได้ออกรายการโทรทัศน์ในสักวันหนึ่ง แต่มันเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก เขาเป็นตัวสำรองคนที่สองด้วยซ้ำ แต่ใครจะคิดว่าการกระทำของแม็กนัสจะเปลี่ยนโชคชะตาของใครบางคนด้วยล่ะ?

ชื่อของเขาคือ เรย์มอนด์ แบร์รี่ อายุ 25 ปี เกิดในลอนดอน เขามาหาแม็กนัสที่แม้จะดูไม่ประหม่า แต่จริงๆ ก็ประหม่า แหงล่ะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้อยู่หน้ากล้องวิดีโอขนาดใหญ่กับไมค์จ่อหน้านะ การให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เป็นเรื่องง่ายเพราะพวกเขามักจะเขียนหรือบันทึกเสียงทุกอย่าง

เรย์มอนด์สัมผัสได้ เขาจึงยื่นมือออกไป “สวัสดีนะครับ แม็กนัส ลุงเป็นแฟนตัวยงของเธอนะ ในที่สุดก็ได้เจอเธอสักที ไม่ใช่ทุกวันนะครับที่คุณจะได้พบกับฮีโร่หนุ่มน้อยคนนี้นะครับ”

แมกนัสรู้สึกสบายใจเมื่อรู้สึกถึงท่าทีที่ผ่อนคลายของเรย์มอนด์ เขายิ้มกลับและจับมือ "ขอบคุณครับคุณลุง"

“เรียกลุงว่าลุงแบร์รี่ได้เลย อย่าคิดมากกับแสงและก็พวกกล้องเหล่านี้ แค่มองมาที่ลุงแล้วตอบคำถามในสิ่งที่อยู่ในใจเธอนะ คิดซะว่า เราไม่ได้ให้เธอมาสอบที่นี่ เราแค่อยากฟังเรื่องราวของเธอ และความรู้สึกของเธอเกี่ยวกับการได้รับเหรียญกล้าหาญจอร์จ ครอส” เรย์มอนด์กล่าว จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือพิมพ์ออกมาจากกระเป๋าสูท

"ดูสิ เธอได้อ่านนี่ไหม ฮ่าๆ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ทำแบบสำรวจ ตอนนี้เธอเป็นนักเรียนและลูกชายที่ต้องการตัวมากที่สุดสำหรับครูรวมถึงผู้ปกครองจำนวนมากทั่วประเทศ" เขาพูดเย้าแหย่เล็กน้อย แม็กนัสหัวเราะเบาๆ หลังจากเห็นบทความ จริงๆ แล้ว รามอนด์ตกใจนิดหน่อยที่แมกนัสพูดเก่ง

“ไม่อ่ะครับ พ่อกับแม่ผมดีกว่า” แม็กนัสตอบอย่างเคร่งขรึม

"จะเริ่มบันทึกใน 1 นาที" ผู้กำกับการแสดงกล่าว

“แม็กนัส เราจะเริ่มกันในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ดื่มน้ำก่อนนะถ้าเธอหิวน้ำ” เขาแนะนำ

แม็กนัสไม่กระหายน้ำ เขาแค่ต้องการให้การสัมภาษณ์เริ่มต้นขึ้นสักที

"อีก 5... 4... 3... 2... 1..." กล้องเริ่มหมุน

เรย์มอนด์เริ่มพูดในขณะที่มองกล้อง แม็กนัสไม่ควรทำตามแบบนั้น เขาควรจะมองไปที่ใบหน้าของเรย์มอนด์ ด้วยวิธีนี้ บทสัมภาษณ์ของเขาจะดูสมจริงมากขึ้น

“วันนี้เรามีแขกรับเชิญพิเศษในรายการของเราครับผม ฮีโร่ที่คนทั้งประเทศพูดถึงในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและตกตะลึง เด็กชายวัยเพียง 9 ขวบที่เพิ่งช่วยคนรถบัสที่เต็มไปด้วยเหล่าเด็กๆ และครูของเขา ใช่ครับ ชื่อของเขาคือ แม็กนัส แกรนท์ ซึ่งกำลังจะเป็นผู้ถือเหรียญกล้าหาญจอร์จ ครอส ในไม่ช้า”

“เราจะคุยกับเขาและพยายามเข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่ตอนอยู่ในที่เกิดเหตุ แล้วตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรกันนะครับ”

เปลี่ยนกล้อง ตอนนี้ใบหน้าของแม็กนัสถูกซูมอยู่ในระยะใกล้ เห็นตั้งแต่ไหล่ของเรย์มอนด์ เรย์มอนด์หันไปหาแม็กนัสพลางเอ่ยถามคำถามแรกของเขา

“แม็กนัส ลุงดีใจที่ได้พบเธอนะ เธอทำให้ประเทศของเราภาคภูมิใจด้วยการกระทำที่กล้าหาญนี้ แต่หลายคนงงว่าเด็กตัวเล็กๆ อายุแค่ 9 ขวบจะกล้าแสดงกล้าในสถานการณ์ตึงเครียดแบบนี้ได้อย่างไร

เธอสนใจที่จะแบ่งปันประสบการณ์ของเธอและสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของเธอในตอนนั้นไหมครับ?" เรย์มอนด์ถามอย่างเป็นทางการแต่ดูใจดี

แม็กนัสดูน่ารักและไร้เดียงสาเกินไปกับใบหน้าที่หล่อเหลาแต่ท้วมของเขา เขาพยักหน้า "ขอบคุณฮะ ผม...เอ่อ เรากำลังเดินทางกลับโรงเรียนจากทัวร์บ้านราชินี หลายคนนอนหลับตอนที่เกิดอุบัติเหตุเพราะเป็นการเดินทางที่ยาวนานมากครับ แต่ผมไม่ได้หลับ”

“ตอนเกิดอุบัติเหตุ หัวผมกระแทกกับพนักพิงเบาะนุ่มข้างหน้าผม โชคดีที่ผมไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ผมเห็นเพื่อนของผมได้รับบาดเจ็บ แล้วผมก็เห็นลุงคนขับ… เขาถูกไฟไหม้” ใบหน้าของแม็กนัสเศร้าหมอง เรย์มอนด์กังวลใจ นี่ไม่ใช่แผนที่วางไว้ พวกเขาไม่ต้องการให้แม็กนัสจำคนตายได้

“เธอช่วยชีวิตเพื่อนๆ ของเธอได้อย่างไรครับ แม็กนัส”

เขาเปลี่ยนคำถาม ทำให้เรื่องราวไม่ไปไกลกว่านั้นมาก

“ผะ...ผมกลัวมากฮะ แต่ผมกลัวว่าที่จะไม่ได้เห็นแม่จ๋ากับพ่อจ๋าอีกต่อไปมากกว่า คุณนายโจนส์พยายามเปิดประตูหลัง แต่ประตูไม่ขยับ ดังนั้นผมจึงพยายามทุบหน้าต่าง ผมใช้กำลังทั้งหมดของผมสุดท้ายก็สามารถเปิดมันได้ จากนั้นผมก็เปิดอีกอันหนึ่ง

แต่ก่อนที่ผมจะกระโดดออกไปในตอนท้าย ผมเห็นคุณนายโจนส์นอนอยู่บนพื้นรถบัส ฉันใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อพาเธอออกมาให้ทันเวลา เธอเคยเป็นโรค หะ...หอบ..."

“หอบหืด?” เรย์มอนด์ช่วยเขา

“ใช่ครับ โรคหอบหืด” แม็กนัสพูดจบ จริงๆ แล้วเขาเขียนสุนทรพจน์ทั้งหมดนี้ตั้งแต่ 3 คืนที่ก่อนแล้ว แต่เขาตัดสินใจพูดติดอ่างบ้างเพื่อให้ตัวเองดูเหมือนเด็กปกติ

"เธออยากฝากอะไรถึงเพื่อนร่วมโลกไหม" เรย์มอนด์ถาม

“ช่างโง่เขลาสิ้นดี ผมทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายและอะไรก็เกิดขึ้นได้กับผม แต่ผมไม่มีทางเลือกอื่น ถ้าผมไม่ทำหน้าต่างแตก บางทีเราอาจจะ…”

“ผมไม่แนะนำให้คุณวิ่งเข้าไปในกองไฟ แต่ถ้าคุณพบว่าตัวเองติดอยู่ในกองไฟ คุณต้องลุกขึ้นและหาทางออก” นั่นเป็นข้อความที่แข็งแกร่งมากที่เขาส่งมา ที่ต้องยืนหยัดเพื่อตัวเองในยามลำบากแทนที่จะหวังให้ใครมาช่วย

เรย์มอนด์มีความสุขมากกับคำตอบนี้ ตอนนี้ส่วนที่มืดมนและหม่นหมองจบแล้ว

“บอกฉันมาสิ แม็กนัส เธอรู้สึกอย่างไรที่จะได้พบกับราชินี และพระองค์จะให้เหรียญตรากล้าหาญด้วยพระองค์เอง” เรย์มอนด์ถาม

“วันนั้นผมก็เจอเธอเหมือนกันฮะ เธอทำผ้าเช็ดหน้าตก ดังนั้นผมจึงช่วยเธอ เธอลูบหัวผมด้วยซ้ำ” แม็กนัสพูดอย่างภาคภูมิใจ

“ว้าว ลุงอิจฉาแม็กนัสจริงๆ งั้นบอกลุงซิ เธอมีงานอดิเรกอะไรหรือเปล่า?”

เรย์มอนด์ถามอย่างร่าเริง

"อืม ผมชอบปั่นจักรยานกับกินแพนเค้กฮะ แม่จ๋าของผมทำแพนเค้กได้ดีที่สุดฮะ" แม็กนัสกล่าว นี่เป็นด้านที่ไร้เดียงสาอย่างแท้จริงของเขา

"ฮ่าฮ่าฮ่า ลุงพนันได้เลย สักวันเธอจะชวนลุงไปกินแพนเค้กไหม?" เรย์มอนด์ถามติดตลก

“แน่นอน คุณลุง ราชินี เพื่อนรักของฉัน บ๊อบบี้ ทุกคนได้รับเชิญฮะ” แม็กนัสตอบกลับ

“ขอบคุณนะ แม็กนัส ทีนี้ ทำไมเธอไม่บอกเราเกี่ยวกับโรงเรียนของเธอบ้าง คุณชอบอะไรในโรงเรียนหรอ” เรย์มอนด์ถาม

แม็กนัสพยักหน้า “ใช่ คุณนายโจนส์เคยอารมณ์บูด แต่ตอนนี้เธอเป็นคนดีมากฮะ โรบินยังคงเป็นพวกอันตพาล แต่ผมหยุดเขาได้ทุกครั้ง บ๊อบบี้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม เขากินเยอะมาก ครูพละของผมก็เป็นคนดีมาก เขาให้เราเล่นเกมสนุกๆ แต่เขาชอบครูสอนภาษาฝรั่งเศสของเรา ดังนั้นเขาจึงเรียนภาษาฝรั่งเศสไปด้วยในขณะที่ปล่อยให้เราเล่นกันเอง…”

*แค๊กๆ*

“แล้วการเรียนของเธอล่ะ?” เรย์มอนด์เปลี่ยนหัวข้อก่อนที่ แม็กนัสจะเปิดเผยแผนลอบสังหารอาจารย์ใหญ่โรงเรียนของเขา

“โอ้ นั่นง่ายมาก เมื่อวานผมเพิ่งเรียนจบหลักสูตรป. 6 ฮะ แต่ของม. 1 นั้นยากมาก ผมไปหาพี่ใหญ่จากชั้นม.1 เพื่อถามคำถาม แต่เขาไล่ผมไปหลังจากอ่านจบ ผมว่าเขาก็คงไม่รู้วิธีแก้ปัญหาเหมือนกันมั้งฮะ... อืมม...” แม็กนัสครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

"เดี๋ยวนะ ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ป. 5 หรอ? ใช่ไหม? แล้วคำถามเกี่ยวกับอะไร?" เรย์มอนด์ถามขณะกลั้นหัวเราะ ตอนนี้เขาสนใจชีวิตของเด็กหนุ่มคนนี้อย่างจริงจัง มันดูตลกเกินไป

“โอ้ว คุณลุงแก้ได้ใช่ไหมครับ?” แม็กนัสถามกลับอย่างตื่นเต้น

"แน่นอน ลุงทำได้" เรย์มอนด์ตอบรับ

แม็กนัสเปิดเผยโจทย์ "มันเกี่ยวกับพีชคณิตนิพจน์ฮะ ผมจะหาค่าของ xyz + z1/2 + x3y + (x +y)2 ได้ยังไง เมื่อ x = 3, Y = 7 และ z = 9?”

รอยยิ้มจากใบหน้าของเรย์มอนด์หายไปในทันใด

"-_-"

มีความเงียบชั่วขณะหนึ่ง พ่อของแม็กนัสซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ส่ายหน้า ~ ทำไมเขาไม่มาหาฉันหรือเกรซ? ฉันเป็นวิศวกรเครื่องกลเห็นแก่พระเจ้าเถอะ~

เรย์มอนด์ยิ้มอย่างรวดเร็ว พยายามกลับมาคุมเกม ~ว่าไงนะ? นี่เขาฉลาดเกินไปหรือฉันโง่เกินไปเนี่ย?~

“แน่นอน แม็กนัส เราจะไขข้อสงสัยนี้หลังจากการสัมภาษณ์จบลง อย่างไรก็ตาม คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้เหรียญกล้าหาญจอร์จ ครอส” เขาเบี่ยงคำถาม

แม็กนัสเกาหัว นึกขึ้นได้ว่าไม่ควรถามแบบนั้น "ผม... แม่จ๋าบอกว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ดังนั้นผมจึงรู้สึกเป็นเกียรติ ใช่ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง"

จากนั้นเขาใช้คำศัพท์ที่เพิ่งเรียนรู้ในโรงเรียน เขาให้ความสำคัญกับมันเป็นพิเศษ "ผมรู้สึกเบิกบานใจฮะ"

อดัมพยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นหัวเราะจากด้านข้าง หวังว่าจะไม่ทำให้การอัดรายการเสียหาย

เรย์มอนด์ตกตะลึงกับคำศัพท์ของเขาแต่รวบรวมสติได้ เขาได้รับสัญญาณจากผู้กำกับให้ยุติ แม้แต่หน้าของผู้กำกับก็ยังแดงเพราะเขาพยายามกลั้นหัวเราะอยู่หลังกล้อง แม้แต่ตากล้องก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่ถึงกระนั้น เสียงคิกคักเล็กๆ ของพวกเขาก็ถูกบันทึกไว้ และมันมีแต่จะเพิ่มประสบการณ์ทั้งหมดเท่านั้น

"ฮ่า เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้พบเธอ แม็กนัส เราชอบที่จะพูดคุยกับเธอนะ และฉันแน่ใจว่าหลายคนในประเทศนี้ต้องการทราบข่าวจากเธอ" เขาพูดแล้วมองไปที่กล้อง "งั้นพวกเราก็ลากันแล้วนะครับ ขอบคุณที่รับชมครับ..."

กล้องยังไม่ทันจะตัดแต่แม็กนัสก็พูดขึ้น “เราจะแก้โจทย์กันตอนนี้เลยไหมฮะ?”

แล้วกล้องก็ตัดไป ทันใดนั้น เสียงหัวเราะก็ดังก้องไปทั้งสตูดิโอ

ผู้กำกับหัวเราะมาหาแม็กนัสเพื่อจับมือ "ฮ่าฮ่าฮ่า... เป็นบทสัมภาษณ์ที่น่าทึ่งมาก แม็กนัส งานดีมาก แล้วได้โปรดไว้ชีวิตเรย์มอนด์เถอะ ปล่อยเขาไป”

อดัมก็ออกมาพูดว่า "ใช่แล้วลูก แม็กนัส กลับบ้านกันเถอะ"

แม็กนัสพยักหน้า มีเพียงเขาเท่านั้นที่ไม่หัวเราะ ในไม่ช้า พวกเขาได้รับเช็ค 150 ปอนด์ (ค่าเงินปัจจุบันประมาณ 90,300 บาท)

จากนั้นพวกเขาก็จากไป แม็กนัสนั่งเงียบๆ ส่วนอดัมก็ขับรถไป เขามีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา แล้วจู่ๆ เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

"บว้าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..."

แม็กนัสถาม “อะไรหรอฮะ? ผมรู้ว่าผมไม่ควรถามคำถามนี้”

“อ๊าาา... ไม่ ไม่... ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด แม็กนัส พ่อแน่ใจว่าผู้คนจะชื่นชอบการสัมภาษณ์ของลูกแน่ๆ แค่.. ไม่ค่อยมีโอกาส แล้วทำไมลูกไม่มาหาพ่อหรือแม่ของลูกเพื่อถามความสงสัยเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ล่ะ? แล้วลูกเริ่มเรียนคณิตศาสตร์ม. 1 ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เขาถาม

“ก็ ผมแค่อยากเซอร์ไพรส์พ่อกะแม่สองคน... แต่..มันไม่สำคัญแล้วฮะ” แม็กนัสกล่าวอย่างสลดใจ

อดัมลูบหัวของเขา “อย่าเศร้าไปเลยลูก อย่ารู้สึกแย่ที่ตัวเองฉลาดกว่าคนอื่น แต่อย่ามั่นใจมากเกินไปเช่นกัน”

แม็กนัสพยักหน้า หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ถึงบ้าน อดัมเล่าทุกอย่างให้เกรซฟังอย่างรวดเร็ว และเธอก็หัวเราะลั่นเมื่อเห็นหน้าอายๆ ของแม็กนัส แม็กนัสมีความสุขเพราะอย่างน้อยก็ทำให้พวกเขามีความสุข

จากนั้นเกรซก็ไปหาเขาและลูบผมของเขาด้วยความรัก “แม็กนัสของแม่ฉลาดมาก เขากำลังจะเป็นหมอ”

อดัมรีบคัดค้าน "ไม่! เขาจะเป็นวิศวกรหรือไม่ก็นักแสดงเพราะเขามียีนที่หล่อเหลาของพ่ออย่างชัดเจน"

“หุบปากซะ ลูกฉันจะต้องกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขามีสมองที่ฉลาดล้ำ” เกรซแย้ง

แม็กนัสยืนอยู่ที่นั่นและยิ้มอย่างมีเลศนัย ~ฉันมีความรู้สึกว่าฉันจะกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเป็นได้~

_____________________________

กล้องที่ให้สัมภาษณ์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด