ตอนที่แล้วบทที่ 838 คนจริงเขาไม่พูดอวดกันหรอก! 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 840 ถึงวาระ

บทที่ 839 การโจมตีกำลังจะเริ่ม(ตอนฟรี)


บทที่ 839 การโจมตีกำลังจะเริ่ม

หลังจากสรุปรายละเอียดความร่วมมือกันซูยาหยุน จี้เฟิงและโจวเฟยเฟยก็รีบกลับไปที่วิลล่าที่อยู่ชานเมืองทางตอนเหนือของหางโจว ซึ่งซาซากิ ทาโร่และคนอื่นๆยังคงถูกขังอยู่ที่นั่น ส่วนซูหยวนและจี้ยูเหวินก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน ระหว่างทางจี้เฟิงได้ขอให้โจวเฟยเฟยคืนห้องพักของโรงแรมที่พวกเขาจองไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นพวกเขาทุกคนก็เลยอาศัยอยู่ที่วิลล่าเดียวกันทั้งหมด

อันที่จริง นี่ก็เพิ่งจะวันที่สองหลังจากที่จี้เฟิงมาถึงหางโจวแห่งมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง นับไปนับมาในช่วง 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ที่เขามาถึงหางโจว มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายหลายอย่าง วันเวลาจึงดูยาวนานเป็นพิเศษ

ทันทีที่กลับมาถึงวิลล่า จี้เฟิงนั่งลงบนโซฟา เขาเปิดทีวีและนั่งดู แต่ถ้าหากสังเกตดีๆจะเห็นว่าจี้เฟิงไม่ได้มีสมาธิกับหน้าจอเลย จิตใจของเขาไม่ได้อยู่กับสิ่งที่ทีวีกำลังฉาย แต่กำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่

ครั้งที่สุดท้ายที่ซาซากิ ทาโร่ถูกสอบปากคำเพียงลำพัง จี้เฟิงได้รู้อะไรเกี่ยวกับหวางฉาวมากขึ้น และในขณะเดียวกันเขาก็พบว่าเขานั้นรู้เรื่องของหวางฉาวน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ผู้คนของหวางฉาวได้เข้าร่วมการโจมตีจี้ยูเหวิน นอกจากนั้นยังแทรกซึมเข้าไปในยามากุจิ-กุมิ ซึ่งทำให้จี้เฟิงรู้สึกหวั่นวิตกและเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าแท้จริงแล้วพลังขององค์กรหวางฉาวที่ยังหลบซ่อนอยู่ในความมืดนั้นน่ากลัวเพียงใด!

ตามข้อมูลที่ได้จากซาซากิ ทาโร่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้เรื่องของหวางฉาวมากนัก เขารู้เพียงแค่ว่าองค์กรหวางฉาวมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกับยามากุจิ-กุมิ และหวางฉาวกำลังช่วยยามากุจิ-กุมิฝึกฝนกำลังพลที่ถูกเรียกว่า ‘ซุปเปอร์โซเจอร์’ กล่าวกันว่านักสู้เหล่านี้ทรงพลังและน่ากลัวมาก

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงมีข้อบกพร่อง กล่าวคือหลังจากการเปลี่ยนแปลงเสร็จสิ้นแล้ว ซุปเปอร์โซเจอร์จะต้องใช้วิธีพิเศษในการบำรุงรักษา ตัวอย่างเช่น การฉีดสารละลายธาตุอาหารอยู่เป็นประจำ และยังมีเรื่องทำนองนี้ในรูปแบบอื่นๆอีก

นอกจากนี้ เมื่อบุคคลกลายเป็นซุปเปอร์โซเจอร์ เขาจะมีอุปนิสัยหลายอย่างที่แตกต่างจากคนทั่วไป และที่ซาซากิ ทาโร่ไม่เข้าร่วมโครงการนี้ก็เนื่องจากเขารู้สึกกลัว แม้จะมีการกล่าวกันว่า คนของยามากุจิ-กุมิที่มีสิทธิ์ได้เข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงเป็นซุปเปอร์โซเจอร์นี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากก็ตาม

แต่สองพี่น้องตระกูลคาวากิ ทั้งไยโกะและชิซุโกะต่างก็เข้าร่วมในโครงการ ‘ซุปเปอร์โซเจอร์’ และออกมาประสบความสำเร็จ อันที่จริงต้องบอกว่าพวกเธอประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดามนุษย์ดัดแปลงจำนวนมากเลยก็ว่าได้

นอกเหนือจากข้อมูลเหล่านี้ ซาซากิ ทาโร่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากนัก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความร่วมมือระหว่างหวางฉาวและยามากุจิ-กุมิไปถึงไหนแล้ว และมีโครงการความร่วมมืออื่นๆอีกหรือไม่

ตามคำบอกเล่าของซาซากิ ทาโร่ แม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายคนโตของตระกูลซาซากิ แต่ความจริงแล้วเขาเป็นเพียงยากูซ่าระดับสูงเท่านั้น และตระกูลซาซากิก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขาขนาดนั้น

นอกจากนี้ คนตัวเล็กๆไม่คุณสมบัติที่จะเข้าร่วมในแผนการเหล่านี้

ดังนั้นหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม จี้เฟิงจะต้องสอบถามจากสองพี่น้องคาวากิชิซุโกะ และคาวากิ ไยโกะ แต่ในความคิดของจี้เฟิง เขายังไม่มีความสามารถในการพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลข่าวสารที่จะได้รับจากผู้หญิงสองคนนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่

อย่างไรก็ตาม จี้เฟิงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด เพราะเขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะส่งผู้หญิงสองคนนี้ไปยังหน่วยงานที่สูงกว่า จากนั้นการพิจารณาคดีจะดำเนินการอย่างไร จะใช้วิธีไหนและผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไรจี้เฟิงจะไม่ถามอีก... อำนาจของประเทศต้องแข็งแกร่งกว่าอำนาจของปัจเจกบุคคลอย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งที่ต้องทำจะได้รับการตัดสินใจที่ชาญฉลาดจากเบื้องบนอย่างแน่นอน และความกังวลของเขาก็เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ จี้เฟิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดหมายเลขอย่างรวดเร็ว “เหล่าอี้ คุณอยู่ไหนแล้ว?”

“เราจะถึงหางโจวในอีกครึ่งชั่วโมงครับบอส ตำแหน่งที่แน่นอนของคุณอยู่ที่ไหน?” เสียงของอี้ซิงเฉินดังมาจากโทรศัพท์

จี้เฟิงยิ้มทันที “ฉันอยู่ชานเมืองทางตอนเหนือของหางโจว เป็นวิลล่า...”

“โอเค! ผมกำลังรีบไป!” อี้ซิงเฉินพูดทันที

หลังจากวางสาย จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ตั้งแต่วินาทีที่อี้ซิงเฉินและคนอื่นๆมาถึงหางโจว การดำเนินการต่อต้านหวางฉาวและแก๊งมังกรก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ และสิ่งที่จี้เฟิงกำลังรอคอยในวันนี้ก็คือการมาถึงของอี้ซิงเฉินและคนอื่นๆ

ในความเป็นจริง นับตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจแบ่งกลุ่มของซาซากิทาโร่ คาวากิ ชิซุโกะและคนอื่นๆออกเป็นสามกลุ่ม และกำหนดแผนการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว จี้เฟิงได้โทรหาอารองจี้เจิ้นกั๋ว และฝ่ายหลังก็ไฟเขียวแล้วกับแผนการนี้ นอกจากนี้จี้เจิ้นกั๋วตั้งใจที่จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีฝีมือมาด้วยทันที และในขณะเดียวกันก็ประสานงานกับเขตทหารเจียงโจวเพื่อระดมหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาที่หางโจวและเตรียมพาคนกลุ่มหนึ่งออกไป

เพื่อความปลอดภัย จี้เฟิงได้โทรหาอี้ซิงเฉินและขอให้เขาคุ้มกันซาซากิ ทาโร่และคนอื่นๆพร้อมกับสมาชิกหน่วยปฏิบัติการพิเศษเหล่านั้น

นับตั้งแต่การต่อสู้กับหวางฉาวไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่ายามากุจิ-กุมิมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งท้องถิ่นในจีน จี้เฟิงต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีใครรู้ว่าจู่ๆ หวางฉาวและยามากุจิ-กุมิจะปรากฏตัวขึ้นเพื่อที่จะมาดักฆ่าพวกเขากลางทางเหมือนอย่างครั้งนี้อีกหรือไม่

ดังนั้นความปลอดภัยของซาซากิ ทาโร่และคนอื่นๆจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้

................

ในเวลาเดียวกัน โจวเฟยเฟยที่อยู่ชั้นบนกำลังโทรหาที่บ้าน

“พ่อคะ การโอนเงินเป็นยังไงบ้าง” ตอนนี้แผนการใกล้จะเริ่มแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเตรียมเงินให้พร้อม เพราะถ้าจะปราบแก๊งพยัคฆ์มังกรให้อยู่หมัด ไม่ใช่แค่ต่อสู้เพื่อเอาชนะอันธพาลของแก๊งพยัคฆ์มังกรเท่านั้นแต่ต้องทำลายบ่อน้ำเลี้ยงของพวกมันด้วย และที่สำคัญต้องทำให้คนภายนอกได้เห็นด้วย

สำหรับเรื่องเงิน ตระกูลโจวมีพลังที่จะทำลายแก๊งพยัคฆ์มังกรได้อย่างง่ายดาย!

ที่สำคัญกว่านั้น จะต้องทำให้ทุกคนได้รับรู้ว่าตระกูลโจวไม่ใช่อะไรที่ใครจะมายั่วยุได้ง่ายๆ หากต้องการจะมาแหย็มกับตระกูลโจว พวกเขาจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนว่าพวกเขาจะสามารถต้านทานการแก้แค้นที่รุนแรงของตระกูลโจวได้หรือไม่!

“ไม่ต้องกังวล เงินทุนทั้งหมดได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว นอกจากนั้นพ่อได้ติดต่อพันธมิตรของเราไว้หลายราย คราวนี้ต่อให้เฟยหลงกรุ๊ปมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแค่ไหน ก็ไม่สามารถต้านทานพวกเราได้อย่างแน่นอน!” เสียงของโจวเหยียนหมินดังมาจากโทรศัพท์ “อันที่จริง ถ้าเฟยหลงกรุ๊ปไม่ได้เข้ามาอยู่ในตลาดหุ้น บางทีอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะจัดการกับพวกเขา แต่ตอนนี้...”

“ได้ยินแบบนี้หนูก็โล่งใจ!” โจวเฟยเฟยยิ้ม

“ไม่ต้องห่วง พ่ออยู่ที่นี่ทั้งคน ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!” โจวเหยียนหมินหัวเราะ ตั้งแต่ผู้อาวุโสโจวอธิบายความนัยที่แฝงอยู่ในแผนการนี้ โจวเหยียนหมินก็พอใจกับลูกสาวคนนี้ของเขามากขึ้นเรื่อยๆ ลูกหลานฉลาดหลักแหลม ถือว่าเป็นโชคดีของตระกูลโจว

หลังจากวางสาย โจวเฟยเฟยก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อยและพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ “ซูหลงเอ๊ยซูหลง เล่นกับใครไม่เล่นดันไปเล่นกับคุณชายจี้! แถมตอนนี้เวรกรรมที่นายก่อไว้เมื่อสิบปีก่อนก็กำลังมาเอาคืน ตอนนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต!”

“ซูหลงผู้น่าสงสาร คุณทำกับซูหยวนไว้แบบนั้น แล้วจี้เฟิงจะมีความเมตตาต่อนายได้ยังไง?” โจวเฟยเฟยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ แต่หัวใจของเธอกับรู้สึกจี๊ดขึ้นมาเล็กน้อย จี้เฟิงเหมือนจะดีและอ่อนโยนกับซูหยวนมากจริงๆ....

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ โจวเฟยเฟยก็ยืนขึ้นและเดินช้าๆไปที่ประตูห้องของซูหยวน หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ยกมือขึ้นแล้วเคาะประตู  “ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”

“เข้ามา”

เสียงของซูหยวนดังออกมาจากในห้อง

โจวเฟยเฟยเปิดประตูและเดินเข้าไป และพบว่าซูหยวนที่อยู่ในชุดนอนกำลังนั่งพิงหัวเตียงอยู่บนที่นอน ในมือถือนิตยสารกำลังพลิกดู

เมื่อเห็นว่าผู้ที่เข้ามาเป็นโจวเฟยเฟย ซูหยวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆและพูดขึ้นทันที “คุณเฟยเฟยนี่เอง นั่งลงก่อนค่ะ”

“ซูหยวน คุณกำลังดูอะไรอยู่” โจวเฟยเฟยถามเบาๆด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง

“ไม่ได้ดูอะไรเป็นพิเศษหรอก ฉันแค่เบื่อๆนิดหน่อยก็เลยหยิบหนังสือมาอ่านเพื่อผ่อนคลาย” ซูหยวนส่ายหัวแล้วพูด

โจวเฟยเฟยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ “ซูหยวน เรื่องมันได้จบลงแล้ว คุณอย่าคิดมากไปเลย และอีกไม่ช้า คุณจะได้เห็นศัตรูของคุณล้มลงอย่างสมบูรณ์ ฉันเชื่อว่าวิญญาณของคุณป้าที่อยู่บนสรวงสวรรค์จะหวังว่าคุณจะได้มีชีวิตที่ดีและมีความสุข”

“ขอบคุณนะ” รอยยิ้มของซูหยวนดูฝืนเล็กน้อย “แต่ฉันเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจมาสิบปี เฝ้าแต่คิดถึงการแก้แค้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ถ้าซูหลงและลูกชายของมันไม่ตาย ฉันคงปล่อยวางไม่ได้จริงๆ”

“ลืมมันไปเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องที่ทำให้เราต้องเป็นทุกข์เลย” โจวเฟยเฟยรู้ว่าหัวข้อนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าพูดคุย แม้ว่าทั้งสองคนจะคุ้นเคยกันในระดับหนึ่ง แต่มิตรภาพของพวกเธอก็ไม่ได้ลึกซึ้งมากนัก และมันก็ไม่เหมาะสมที่จะพูดอะไรมากไปกว่านี้ โดยเฉพาะการพูดในตอนนี้ซูหยวนกำลังอารมณ์ไม่คงที่แบบนี้

ดังนั้นโจวเฟยเฟยจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว เธอหัวเราะและกล่าวว่า “จริงด้วยสิ ฉันว่าจะมาแสดงความยินดีกับคุณ”

“แสดงความยินดี?” ซูหยวนชะงัก และถามด้วยความงุนงง “เฟยเฟย คุณแสดงความยินดีกับฉันเรื่องอะไร? ฉันจำได้ว่าฉันยังไม่ได้ซื้อลอตเตอรี่ของงวดนี้เลย จะเป็นเรื่องถูกลอตเตอรี่ก็คงไม่ใช่ และวันนี้ฉันก็ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้มีเงินเข้ามือเลยสักหยวน แล้วมีอะไรให้ต้องยินดีกัน?”

“ทำไมถึงจะไม่มีล่ะ? การได้พบสามีในอนาคตไม่ใช่เรื่องน่ายินดีหรือ?” โจวเฟยเฟยถามด้วยรอยยิ้มหยอกล้อ

“ห๊า?”

ซูหยวนตกใจ จากนั้นใบหน้าของเธอก็แดงไปจนถึงหู “เฟยเฟย คุณอย่าพูดไร้สาระ มันไม่มีอะไรเลย และมันก็ไม่ดีที่จะพูดอะไรแบบนี้ด้วย!”

“ไม่มีอะไรเลยงั้นเหรอ?” โจวเฟยเฟยเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม “สงสัยเมื่อคืนนี้ฉันคงจะตาฝาดไปเองสินะ? หรือคนที่กอดกับคุณชายจี้เมื่อคืนนี้จะเป็นฉัน? หรือฉันแค่ฝันไป?”

“พอเลยๆ!”

ซูหยวนพูดอย่างเขินอาย “เฟยเฟย เรื่องตลกของคุณทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ที่จี้เฟิงกอดฉันในตอนนั้น บางทีเขาอาจจะแค่ปลอบฉัน ไม่มีความหมายอย่างอื่นแอบแฝงหรอก อย่าพูดอะไรที่ไร้สาระเลย เพราะท้ายที่สุดเขาก็มีแฟนแล้ว นอกเหนือจากนั้นเขายังเป็นเจ้านายของฉันด้วย...”

“จริงเหรอ?” โจวเฟยเฟยถามด้วยรอยยิ้มมุมปาก

“แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง!” ซูหยวนพูดด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว “อีกอย่าง ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าคิดถึงเรื่องนี้... เฟยเฟย คุณอย่าแซวฉันเรื่องนี้เลย ฉันรู้สึกละอายใจจริงๆ!”

ในใจของซูหยวน เธอเองก็ไม่แน่ใจจริงๆว่าจี้เฟิงกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะสถานการณ์เมื่อคืนนี้มันพิเศษมาก คำพูดเหล่านั้นคือคำพูดที่แท้จริงของเขาหรือเขาแค่ต้องการจะพูดเพื่อปลอบใจเธอ... ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ หัวใจของซูหยวนยังคงไม่มั่นคง บวกกับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงทำให้อารมณ์ของเธอไม่ปกติด้วยเช่นกัน

“โอเค โอเค!” โจวเฟยเฟยยิ้มและพูดว่า “อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย ยังไงก็ตาม ถึงจะเป็นเรื่องของคุณกับจี้เฟิง แต่บางทีคนนอกที่ยืนดูอาจจะเห็นได้ชัดเจนกว่า... อ้อ! ฉันมีข่าวดีจะบอก ปฏิบัติการของเราที่จะโจมตีแก๊งพยัคฆ์มังกรกำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการหลังจากตลาดหุ้นเปิดในพรุ่งนี้เช้า!”

“จริงเหรอ?!”

ดวงตาที่สวยงามของซูหยวนเป็นประกายในทันที เธอกัดฟันสีขาวของเธอแน่นและพูดด้วยน้ำเสียงที่เกลียดชัง “ไอ้สารเลวซูหลง ในที่สุดก็ถึงคราวเคราะห์ของแกจนได้!”

........จบบทที่ 839 ~

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด