ตอนที่แล้วตอนที่ 8-27 ความลับศาสนจักร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8-29 สืบสวน

ตอนที่ 8-28 พี่น้องสองสาว


ยามเช้าอากาศกระจ่างและสดชื่น

รัสกินกำลังนำบริวารทั้งสองคนเดินทางอย่างรวดเร็วมุ่งสู่คฤหาสน์ที่แลมพ์สันและคนอื่นๆพักค้างในคืนก่อนนั้น

“ข้าต้องแน่ใจว่าเราดูแลใต้เท้าแลมพ์สันและคนอื่นอย่างดีเยี่ยมแลมพ์สันพูดคำเดียวก็อาจทำให้พวกเราทุกคนมีแนวโน้มจะได้เลื่อนตำแหน่ง”รัสกินรู้สึกค่อนข้างผิดหวังคิดว่า “โชคไม่ดี ดูเหมือนใต้เท้าแลมพ์สันระมัดระวังตัวมาก พวกเขาไม่ยอมให้มีผู้รับใช้เข้าไปในคฤหาสน์แม้แต่คนเดียว”

ขณะที่เขากำลัคิดเรื่องหลายอย่าง  รัสกินเดินไปที่ประตู

“เกิดอะไรขึ้น? ประตูไม่ได้ปิดหรือ?”  รัสกินขมวดคิ้ว  เขารู้ว่าแลมพ์สันและใต้เท้าท่านอื่นมีเรื่องสำคัญมาก  พวกเขาจะไม่เปิดประตูทิ้งไว้อย่างแน่นอน

เขาเข้าไปในลานบ้าน  ขณะที่เข้าไปเขารู้สึกว่าลานบ้านเงียบเกินไป

“ใต้เท้า” รัสกินร้องเรียก

แต่เสียงของเขาก้องอยู่ในสวนไม่มีใครตอบรับ

“พวกเจ้าสองคน ไปดูรอบๆ ให้ข้าด้วย  ข้าจะขึ้นไปชั้นบนดูว่าจะพบอะไรบ้าง”  รัสกินรู้สึกแย่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาดิ่งตรงไปยังชั้นสองซึ่งเป็นห้องพักของแลมพ์สันและคนอื่นทันที

ประตูในชั้นสองทุกห้องเปิดอ้าหมด  ไม่มีบานไหนปิด

เมื่อเข้าไปในห้องของแลมพ์สันรัสกินขมวดคิ้วทันที เตียงอยู่ในสภาพใช้งานและยังไม่ชัดเจนนัก  ขณะเดียวกันที่หัวเตียงยังมีกระเป๋าสัมภาระอยู่

“ไม่ถูกต้องแล้ว”

รัสกินเข้าไปในห้องอื่นทันที  เตียงอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงเช่นกันและกระเป๋าสัมภาระอยู่บนโต๊ะ นอกจากนี้แล้วรัสกินไม่เห็นปัญหาอะไรอื่น... แต่เขารู้สึกว่าไม่ถูกต้อง

“ใต้เท้าแลมพ์สันไม่มีเวลาจะหยิบกระเป๋าสัมภาระและความจริงใต้เท้าอื่นก็เป็นเหมือนกัน เป็นไปได้ไหมว่าเกิดเรื่องสำคัญที่บังคับให้ใต้เท้าแลมพ์สันและคนอื่นๆแยกจากไปทันที?”  รัสกินหงุดหงิด

“ใต้เท้า!”เสียงเรียกแตกตื่นดังมาจากชั้นล่าง

รัสกินสีหน้าเปลี่ยนและวิ่งลงไปตามทางเดิน  จากนั้นกระโดดลงจากระเบียงไปที่ลานบ้าน

“อะไรกัน?” รัสกินมองดูบริวารทั้งสองคน

“ใต้เท้า, ตรงนี้มีคราบเลือด”  ทั้งสองคนชี้ไปที่ผนัง

เดิมทีซาสเลอร์สั่งให้สมุนภูตผีทำลายร่องรอยของคนตายทั้งหมดร่องรอยเกือบทั้งหมดรวมทั้งคราบเลือดถูกกำจัด แต่เมื่อเสือดำเมฆาแฮรุใช้อุ้งเท้าตบกะโหลกของมือปราบพิเศษคนหนึ่งเลือดกระเซ็นไปทั่วทุกที่แม้ว่าสมุนภูตผีเหล่านั้นจะจัดการด้วยความขยันและระมัดระวังแล้วแต่ยังมีร่องรอยเล็กน้อยเหลืออยู่สองสามรอย

“คราบเลือด และใต้เท้าหายไปหมดทุกคน?”

ขณะจ้องมองมองลานบ้านที่เงียบสงบรัสกินรู้สึกราวกับว่ามีหินก้อนใหญ่กดทับอกของเขา  “เกิดการต่อสู้กันที่นี่ สำหรับใต้เท้าทั้งหลายเป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากำลังอยู่ในการไล่ล่า?”

รัสกินรู้ว่าใต้เท้าทั้งหกคนนี้มีพลังมากขนาดไหนเขาไม่เชื่อว่าจะมีคนสามารถฆ่าใต้เท้าทั้งหกได้

รัสกินสั่งบริวารทั้งสองคนของเขา  “พวกเจ้าทั้งสองคนจงไปที่เบซิลเมืองหลวงมณฑลทันที  รายงานข่าวนี้กลับไป”

“ขอรับ!”

แต่ก่อนที่บริวารทั้งสองคนจะไปถึงเมืองหลวงมณฑลเบซิลกลุ่มของลินลี่ย์ก็เผชิญหน้ากับหน่วยที่สองในระหว่างทาง

“ใช่พวกเขาหรือเปล่า?”  ลินลี่ย์ บีบีซาสเลอร์และแฮรุอยู่ในพงหญ้าสูงริมถนน

ซาสเลอร์มองดูอัศวินสี่คนที่ล้อมรถม้าโดยสาร  เขาพยักหน้าและกล่าว  “ใช่แล้ว เป็นพวกเขานั่นแหละ เด็กสาวสองคนน่าจะอยู่ในรถม้า”

“ภายในรถม้า?”

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว  จากนั้นมองดูบีบี  “บีบี ข้าคาดว่ารถม้าคันนั้นจะมีคนมากกว่าเด็กสาวสองคน  น่าจะมีคนคุ้มกันเด็กสาวด้วยเช่นกัน  บีบีเจ้ามีร่างกายที่เล็ก งานของเจ้าคือต้องเข้าไปในรถม้าด้วยความเร็วสูงและฆ่าทหารผู้คุ้มกันเหล่านั้น”

ซาสเลอร์พยักหน้า  “หน่วยนี้น่าจะมีคนหกคน  เป็นบุรุษทั้งหมดคงจะมีสองคนอยู่ในรถม้าคันนี้”

“ได้ยินแล้วใช่ไหม บีบี?ฆ่าบุรุษสองคนในรถซะ” ลินลี่ย์หัวเราะขณะลูบศีรษะบีบี

บีบีกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของลินลี่ย์เชิดหัวน้อยๆ ร้องรับคำลินลี่ย์ด้วยความมั่นใจ “เจ้านาย, ข้า, บีบี เคยทำให้ท่านผิดหวังหรือ?”

ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเอ็นดู

“ตกลงตามนี้” ลินลี่ย์พูดกับเขาในใจ

บีบีเคร่งขรึมทันทีขณะที่มันจ้องมองดูรถม้าด้วยตาน้อยๆของมัน และจากนั้น มันแอบเล็ดลอดผ่านหญ้าสูงเข้าไปใกล้รถม้า...

ภายในรถม้าโดยสารมีเด็กสาวฝาแฝดสองพี่น้องผู้งดงาม ผมเขียวดุจหยก ตาทั้งสองของนางบวมแดงและพวกนางจ้องมองบุรุษทั้งสองที่นั่งอยู่ด้านตรงข้ามด้วยความชิงชัง

“คนเลว” หนึ่งในสองพี่น้องซึ่งมีนัยน์ตาโตกว่าเล็กน้อยสาปแช่งเบาๆ

บุรุษทั้งสองคนเพียงแต่ยิ้มให้พวกนางไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

“รีเบ็คกา อย่าสาปแช่งอีกต่อไปเลย  สาปแช่งเศษสวะเหล่านี้ไปก็เปลืองพลังงานเปล่าๆ  คิดดูสิเรานับถือศาสนจักรเจิดจรัสมาตลอดหลายปีสวดอ้อนวอนให้เทพเจ้านำความสุขมาให้พวกเรา  ใครจะคิดกันว่าพวกเขาเลวทรามอย่างนี้” ดวงตาของเด็กสาวอีกคนยังคงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“พี่” รีเบ็คกาฉวยมือพี่สาวไว้ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

รีเบ็คกาและลีนาได้รับการยกย่องจาก48 แคว้นอิสระ พวกนางศรัทธามหาเทพเจิดจรัสตามบิดาของพวกนางแต่ใครจะคิดกันว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะฆ่าบิดามารดาของพวกนางและลักพาตัวพวกนางมา

เมื่อบิดามารดาตายรีเบ็คกาและลีนาจึงกลายเป็นกำพร้าไม่มีครอบครัว

และตอนนี้อนาคตของพวกนางสูญสลายพวกนางมองไม่เห็นความหวังใดๆ ทั้งสิ้น

“ท่านพ่อ ท่านแม่”  รีเบ็คกาและลีนาเริ่มตัวสั่นเนื่องจากพวกนางคิดถึงบิดามารดา  ตลอดหลายปีมานี้ บิดามารดาคอยปกป้องพวกนางไม่ว่าจะมีเรื่องวุ่นวายหรือสงครามในแผ่นดินอนารยชนก็ตาม

แต่ครั้งนี้

“ลีนา พาน้องของเจ้าหนีไปซะ” บิดาของพวกนางกอดนักสู้ระดับเจ็ดคนหนึ่งไว้แน่นในช่วงสุดท้ายของชีวิตเขา  แม้ว่าจะเป็นเพียงนักรบระดับห้าก็ตามแต่บิดาของพวกนางก็ยังพยายามถ่วงเวลาสองสามวินาที

แต่โชคร้ายกองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสแข็งแกร่งมาก

“พระเจ้า ได้โปรดช่วยเราด้วย”  ลีนาคร่ำครวญในใจ “ตราบใดที่ท่านช่วยเราและให้เรามีโอกาสแก้แค้นได้  ข้ายินดีเสียสละทุกอย่างรวมทั้งวิญญาณของข้าด้วย”

นางมองดูบิดามารดาของนางตาย  นางต้องการล้างแค้น

น่าเสียดายพระเจ้าอยู่ไกลจากพวกนางเกินไป พระองค์จะรู้ถึงความปรารถนาของวิญญาณธรรมดาสองดวงนี้ได้อย่างไร?

“แครก” ทันใดนั้น มีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้น

ลีนากับรีเบ็คกาหันมาด้วยความประหลาดใจทั้งคู่  พวกนางเห็นประกายดำวูบหนึ่ง “ฉัวะ”เสียงดังขึ้นในวินาทีเดียว โลหิตฉีดกระจายไปทั่ว

รีเบ็คกาและลีนาจ้องมองตกตะลึง

ศีรษะของบุรุษทั้งสองที่เฝ้าระวังพวกนางห้อยลงทันที  คอครึ่งหนึ่งถูกตัด  พวกเขาตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“ใครกัน?” พี่น้องฝาแฝดจ้องมองอย่างตกตะลึง  จากนั้นดีใจทันที  พวกนางรู้ว่ามีคนมาช่วยพวกนาง  พวกนางกวาดมองไปทั่วแต่ไม่เห็นผู้ที่ช่วยนาง

“ควีค.. ควีค” เสียงดังขึ้นมาจากข้างล่างพวกนาง

รีเบ็คกาและลีนาทั้งสองคนก้มหัวดู เห็นแต่เพียงหนูเงาน้อยน่ารักตัวหนึ่งอยู่ตรงนั้น มันเชิดหัวด้วยความหยิ่งทำท่าทางเหมือนมนุษย์ใช้กรงเล็บลูบหนวดของมัน

“หนู?” ทั้งรีเบ็คกาและลีนาสับสนงงงวย

บีบีโกรธทันทีและมันกระโดดเหยงๆ โบกอุ้งเท้าน้อยๆ ไปมามันกลายร่างเป็นภาพเลือนรางพุ่งวาบเข้าหาทั้งสองนาง

“หนูหรือนี่?” รีเบ็คกาและลีนาเริ่มเข้าใจ

บีบีไม่ส่งเสียงแม้แต่น้อยเมื่อมันฆ่าคนไปสองคนแล้ว  ยิ่งกว่านั้นล้อรถม้าโดยสารยังคงสั่นสะเทือนวิ่งไปตามถนน  อัศวินข้างนอกทั้งสี่คนไม่ทันสังเกตอะไร

“อ๊า!”

ทันใดนั้นเสียงร้องโหยหวนน่าสยดสยองดังขึ้นจากข้างนอก

“โฮกกกก!” เสียงคำรามดุร้ายจากสัตว์ป่า

รีเบ็คกาและลีนามองหน้ากันจากนั้นผลักเปิดประตูรถทันที นายสารถีล้มลงไปแล้ว โลหิตเปรอะเปี้อนรถโดยสาร

รีเบ็คกาและลีนาหันไปมองอัศวินทั้งสี่คนทันที

แต่ภาพที่พวกนางเห็น...

ประกายแสงม่วงสี่สายวาบขึ้น  อัศวินทั้งสามไม่มีโอกาสตั้งตัวทันก่อนที่ศีรษะพวกเขาจะปลิวกระเด็น ขณะที่ลินลี่ย์นักรบผู้สวมเกราะดำลงมายืนข้างหน้ารถม้าโดยสาร  ดาบหนักอดาแมนเทียมสะพายอยู่บนหลังของเขา

“หวัดดี พวกเจ้าเป็นอิสระแล้ว” ลินลี่ย์กล่าวพลางยิ้ม

เมื่อเห็นบุรุษหนุ่มที่แข็งแกร่งทรงพลังที่อยู่ต่อหน้าพวกนาง  รีเบ็คกาและลีนาตะลึงทั้งคู่  ในสายตาพวกนาง อัศวินพวกนั้นแข็งแกร่งมาก  แต่ดูเหมือนว่าด้วยฝีมือบุรุษหนุ่มผู้นี้อัศวินเหล่านั้นไม่สามารถต้านทานได้แม้สักครู่

“รีเบ็คกา, ลีนา, หวัดดี”  เสียงชราดังขึ้น  ถึงตอนนี้ซาสเลอร์ยืนอยู่ในท่ามกลางทุ่งหญ้า

เมื่อเห็นร่างผอมของซาสเลอร์  คิ้วขาวยาวของเขา รีเบ็คกาและลีนาเรียกเขาอย่างตื่นเต้น“ปู่ซาสเลอร์!”

พวกนางเดินทางร่วมกับซาสเลอร์ภายใต้การคุ้มกันทั่วไปช่วงเวลาหนึ่ง  ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักกัน

“ปู่ซาสเลอร์ ท่านผู้นี้เป็นใครกัน?”  รีเบ็คกาและลีนามองลินลี่ย์ด้วยความสงสัย ทันใดนั้นสองพี่น้องสังเกตเห็นเสือดำตัวมหึมาเข้ามาใกล้พวกเขา  นัยน์ตาที่เยือกเย็น น่ากลัวของเสือดำทำให้รีเบ็คกาและลีนาหวาดกลัว

“อย่ากลัวไปเลย แฮรุอย่าทำให้พวกนางกลัว” ลินลี่ย์ทำเสียงดุ

“อูววว” แฮรุคำรามเบาๆ รับคำลินลี่ย์จากนั้นก้มหน้าและเดินไปอยู่ด้านข้าง ไม่กล้าทำให้สองฝาแฝดกลัวอีกต่อไป

“รีเบ็คกา ลีนา นี่คือท่านลินลี่ย์  เขาไม่ได้อ่อนแอกว่าข้านะ”  ซาสเลอร์หัวเราะ

“จริงเหรอ?” รีเบ็คกาและลีนาจ้องมองลินลี่ย์อย่างตกใจ

ไม่ใช่ว่าพวกนางไม่เชื่อว่าลินลี่ย์จะทรงพลัง  เป็นแต่พวกนางเห็นว่าตอนที่ซาสเลอร์ถูกควบคุมแสดงว่าศาสนจักรเจิดจรัสให้ความสำคัญเขามากมายเพียงไหน  การควบคุมเขายังต้องมีกระทั่งคาร์ดินัลร่วมด้วยซาสเลอร์เคยโอ้อวดกับสองพี่น้องเรื่องก่อนนั้นที่เขาสามารถทำลายกองทัพเป็นล้านได้ แต่เพียงเพราะเขาถูกล้อมโจมตีโดยนักสู้ระดับเก้าเกินกว่าสิบคนเขาจึงถูกจับในที่สุด

“ปู่ซาสเลอร์ เป็นหนูน่ารักตัวนี้ช่วยพวกเราไว้” รีเบ็คกาและลีนาหันไปมองบีบีทันที

ตอนนี้บีบีกำลังยืนอยู่บนรถม้า  มันยิ้มให้นางและจากนั้นในพริบตามันกระโจนไปอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์

“เจ้าพูดถึงบีบีน่ะหรือ?  นี่คืออสูรเวทที่ลินลี่ย์ฝึกขึ้นมา”  ซาสเลอร์หัวเราะขณะที่เขาแนะนำบีบี  จากนั้นเขามองลินลี่ย์  “ลินลี่ย์ให้ข้าแนะนำเจ้าเอง  คนน้องสาวชื่อรีเบ็คกาจะมีตาโตกว่าเล็กน้อย  ส่วนคนนี้คือคนพี่ ชื่อลีนา”

ลินลีย์ยิ้มและผงกศีรษะ

“ซาสเลอร์,เราควรส่งเด็กสาวทั้งสองคนกลับหรือเปล่า..?”

ในความเห็นของลินลี่ย์  เด็กสาวทั้งสองคนไม่มีประโยชน์สำหรับเขา  ที่สำคัญไม่ว่าวิญญาณจะบริสุทธิ์เพียงไหน  ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกนางจะแข็งแกร่ง

“ปู่ซาสเลอร์ เราไม่มีที่ให้กลับไป”  ลีนาคนพี่สาวแตกตื่นทันที  นางกล่าวขอร้อง  “ปู่ซาสเลอร์ ให้เราไปกับปู่นะ  เรารู้ว่าปู่จะต้องฆ่าคนของศาสนจักรเจิดจรัส  เราจะแก้แค้นให้บิดามารดาของเราด้วย”

“ปู่ซาสเลอร์ เราขอวิงวอนท่าน”  รีเบ็คกาอ้อนวอนเขา

ซาสเลอร์ตั้งใจจะพาเด็กสาวทั้งสองไปกับเขาด้วย ด้วยความตั้งใจจะให้แฝดสองพี่น้องเข้าสู่ศาสตร์มืดเวทพ่อมด  แต่เขาต้องให้ลินลี่ย์เห็นชอบด้วย

“ลินลี่ย์ ก็แค่พาพวกนางไปกับเรา  ลีนาและรีเบ็คกาปรุงอาหารให้เราทั้งสองได้  เราไม่ค่อยได้กินเนื้อย่างในหุบเขาเลยจริงไหม?”  ซาสเลอร์หัวเราะ

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา  รีเบ็คกาและลีนารีบกล่าว  “ให้เราทำอะไรก็ได้  เราสามารถก่อไฟ ปรุงอาหาร และทำความสะอาดได้”

ทั้งสองคนรู้ว่าไม่มีใครให้พึ่งพิงอาศัย  หญิงสาวงดงามทั้งสองมีชะตาอาภัพ เมื่อเห็นซาสเลอร์ให้ความสำคัญกับความเห็นของลินลี่ย์ พวกนางรู้ว่าลินลี่ย์เป็นยอดฝีมืออย่างมิต้องสงสัย  นี่จะทำให้พวกนางมีโอกาสมากที่จะได้ล้างแค้นด้วย

ลินลี่ย์มองดูสองพี่น้อง  เห็นสายตาที่วิงวอนของพวกนาง  เขาพยักหน้า “ก็ได้”

รีเบ็คกาและลีนามีนัยน์เป็นประกายยินดีทันที

“ไปกันเถอะ เราจะกลับกัน”  ลินลี่ย์สั่ง

กลุ่มของลินลี่ย์กลับมายังหุบเขาอีกครั้งหนึ่ง  แต่ครั้งนี้เพิ่มหญิงสาวสองพี่น้อง  ทั้งสี่คนมีจุดหมายร่วมกันอย่างหนึ่งคือพวกเขาเต็มไปด้วยความชิงชังต่อศาสนจักรเจิดจรัส

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด