ตอนที่แล้วตอนที่ 8-22 โลกกว้างใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8-23 คาร์ดินัล

ตอนที่ 8-24 ซาสเลอร์


ท้องฟ้าค่อยๆมีความมืดปกคลุม ลินลี่ย์ยังคงซ่อนตัวอยู่นอกกำแพงของบ้านพักแห่งนี้ตลอดเวลา  แต่จนถึงเดี๋ยวนี้ เขายังไม่สบโอกาสหรือวิธีลอบเข้าไปใกล้ชายชราลึกลับนั้นได้

“เรื่องที่พวกเขาสนทนากันในโรงแรม  ดูเหมือนศาสนจักรเจิดจรัสต้องเสียสละยอดฝีมือที่แข็งแกร่งไปหลายคนเพื่อจับคนผู้นี้”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะที่เขาไตร่ตรองถึงข้อสงสัย “ชายชราผู้นี้อย่างน้อยต้องมีพลังระดับเก้า”

“แต่เขาไม่น่าจะเป็นระดับเซียน แม้ว่ากลุ่มยอดฝีมือระดับเก้าจะทรงพลังและเป็นกลุ่มใหญ่ก็อาจจะคุกคามให้นักสู้ระดับเซียนหนีไปได้    มีแนวโน้มสูงว่าพวกเขาต้องการจับเป็นเขาให้ได้”

ถึงแม้ว่าลินลี่ย์ไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนักว่าชายชราลึกลับจะมีพลังมากแค่ไหน  แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายชราลึกลับนั้นมีความสามารถในการจัดการกับยอดฝีมือระดับเก้าได้หลายคน

"ชายชราคนนี้ต้องมีความสำคัญมากสำหรับศาสนจักรเจิดจรัสถึงได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการจับตัวเขา ข้าจะต้องขัดขวางแผนการพวกเขาให้ได้“ ตาของลินลี่ย์เปล่งประกายเยือกเย็น ”แต่การฆ่ายอดฝีมือระดับเก้าทั้งหกนี้และป้องกันไม่ให้พวกเขาหลบหนีไปจากเมืองเซียร์ได้แม้แต่คนเดียวนั้นเป็นงานที่ยากมาก”

ตัวลินลี่ย์เองอยู่อาศัยติดกับเมืองเซียร์จึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่ต้องการเคลื่อนไหวและทำให้การปรากฏตัวของเขาถูกเปิดเผย

ถ้าเขาต้องลงมือ  เขาจะต้องฆ่าคนทั้งหกให้หมด

“ตัวเรา, บีบี แฮรุ  เราอาจจัดการกับนักสู้ระดับเก้าได้สักสามคนรวมกัน  แต่กับหกคน... ถ้าเราใช้กลยุทธ  ก็ยังไม่ใกล้เคียงพอจะเป็นไปได้  อย่างไรก็ตามจะดีที่สุดถ้าเราปล่อยชายชราให้ได้ก่อนและให้เขาร่วมมือกับเรา  นั่นจะทำให้เรามีโอกาสสำเร็จมากขึ้น”

ลินลี่ย์รู้วิธีจัดการกับกุญแจมือต้านเวท

พลังและคุณค่าของกุญแจมือต้านเวทขึ้นอยู่วงเวทอักษรรูนที่ซับซ้อนซึ่งได้สร้างไว้บนกุญแจ แต่วัสดุซึ่งใช้สร้างกุญแจกันเวทไม่ได้ทนทานขนาดนั้น  ถึงแม้ว่ากุญแจต้านเวทใช้ป้องกันนักโทษไม่ใช่ใช้พลังเวทใดๆได้และยังแข็งแรงพอสมควร แต่ลินลี่ย์มั่นใจว่าเขาสามารถทำลายมันได้

ลินลี่ย์ไม่รีบร้อน ในเวลาอย่างนี้เขาสั่งแฮรุให้กลับเข้ามาในเมืองจากที่อยู่ในหุบเขา

มนุษย์และอสูรเวทที่เป็นสหายกันแล้วพวกเขาเชื่อใจผูกพันผ่านพลังจิตวิญญาณ ยิ่งพลังจิตของทั้งสองมาก ต่อให้ระยะทางไกล ทั้งสองก็ยังสนทนทางจิตได้

ตัวอย่างเช่นลินลี่ย์และบีบีสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากระยะไกลหลายร้อยกิโลเมตรได้  แต่ถ้าพวกเขาแยกจากกันมิใช่ว่าจะเป็นไปได้

สำหรับสมาชิกตระกูลขุนนางบางคนที่อ่อนแอซึ่งใช้ม้วนเวทผูกวิญญาณที่ทำให้อสูรเวทเชื่องในตอนแรก พวกมันที่เป็นอสูรระดับสองหรือสามอาจจะไม่สามารถติดต่อกันได้ทั้งที่ระยะแค่สองสามร้อยเมตรเท่านั้น

ปัญหาหลักก็คือพลังจิต

ลินลี่ย์กับแฮรุก็เช่นกันสามารถติดต่อกันทางใจได้จากระยะหลายร้อยกิโลเมตร แต่เมื่อระยะเพิ่มขึ้นพวกเขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงตำแหน่งของกันอย่างเลือนรางและไม่สามารถสื่อสารถึงกันได้ต่อไป

เมื่อความมืดครอบคลุมยามนี้เวลาราว 21.00 น.

ลินลี่ย์อยู่ในชุดนักรบสีดำซ่อนตัวอยู่ด้านนอกกำแพงที่พักพร้อมกับหนูเงาบีบีที่คุ้นเคย เสือดำเมฆาแฮรุก็เหมือนกันพวกเขารอคอยโอกาสอยู่เงียบๆ

“บีบี, แฮรุ เจ้าทั้งสองรออยู่ที่นี่ พวกเจ้าจะเคลื่อนไหวได้ต่อเมื่อข้าสั่งทางใจให้พวกเจ้าลงมือ”  ลินลี่ย์กำชับ

แฮรุและลินลี่ย์พยักหน้าทั้งคู่

ลินลี่ย์ถอดชุดนักรบดำของเขาออกจากนั้นใช้เกล็ดสีดำคลุมผิวชั้นนอกทั้งหมดมีเขาแหลมงอกออกมาจากหน้าผากและหนามแหลมงอกออกมาตามแนวสันหลัง

หางมังกรค่อยแทงทะลุกางเกงขายาวออกมา

ดวงตาของลินลี่ย์สีทองเข้มเย็นชาและไร้ความปราณี

“จำไว้ รอคำสั่งข้า”  ลินลี่ย์กำชับบีบีกับแฮรุอีกครั้งและจากนั้นเขาเป็นเหมือนปีศาจในความมืด ลินลี่ย์ไถลตามลานบ้าน

หลังจากเชี่ยวชาญระดับ‘กำหนด’ตอนนี้ลินลี่ย์เคลื่อนไหวได้โดยไม่ทำให้อากาศรอบตัวปั่นป่วน

อาคารหลักมีสองชั้น  ด้านข้างมีห้องสามห้อง ห้องกลางเห็นชัดว่าเป็นที่ใช้ขังชายชราไว้ข้างใน  เพราะข้างนอกห้องนี้ มีบุรุษชุดดำสองคนเฝ้าอยู่

ลินลี่ย์คืบคลานไปด้านหลังเขาจำลองและไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อยรอโอกาสอย่างเงียบๆ

“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะไม่ผ่อนคลายแม้แต่วินาทีเดียว”  ลินลี่ย์อดทนอย่างมาก

ตอนนี้บุรุษชุดทำทั้งสองคนกำลังสนทนากันอย่างเบื่อหน่าย

“พี่, หลังจากเสร็จภารกิจนี้แล้ว  เราทั้งสองคนคงได้พักกันยาวเสียทีสองปีที่ผ่านมานี้ทำเอาเราเหนื่อย ข้ากังวลมาตลอดจนบัดนี้ ไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย”  หนึ่งในคนผมดำกล่าว

“ใช่แล้ว ภารกิจครั้งโยคีระดับเก้าของเราสองคนตายไปและมือปราบพิเศษระดับเก้าก็ตายไปเช่นกัน  พวกเราสิบเอ็ดคนทำงานด้วยกัน ถูกพิษตายไปห้าคน  ตาแก่นี่สัตว์ประหลาดชัดๆ”

ตอนนี้บุรุษชุดดำทั้งสองคนกำลังผ่อนคลาย

เพื่อกดดันตามไล่จับชายชราผู้นี้  กลุ่มของพวกเขาที่ศาสนจักรเจิดจรัสส่งไปทันทีที่ได้ข่าวที่อยู่ของเขา  พวกเขาต้องเดินทางผ่านจักรวรรดิโอเบรียนผ่านแคว้นอิสระอีก 48 แห่งและเข้าไปในทุ่งราบใหญ่ในตะวันออกไกล  พวกเขาต้องสู้กับชายชราลึกลับเป็นเวลาหลายเดือนในที่สุดก็จับเขาได้ในดินแดนแคว้นอิสระแห่งหนึ่ง

แต่ตราบใดที่พวกเขาควบคุมจับกุมชายชราผู้นี้ได้  ความเสียสละของพวกเขาทั้งปวงนับว่าคุ้มค่า

พวกเขาระมัดระวังตามเส้นทางที่พวกเขาเดินทางกลับด้วยเช่นกัน พวกเขากลัวว่ายอดฝีมือของจักรวรรดิโอเบรียนจะตรวจพบพวกเขา  แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาได้ครึ่งทางแล้วและเมืองที่พวกเขาจะผ่านไปในอนาคตจะมีแต่เมืองเล็กทั้งนั้นซึ่งไม่ค่อยมียอดฝีมือ  พวกเขาไม่น่าจะมีอันตรายมาก

เป็นธรรมดาที่แลมพ์สันและคนอื่นจะรู้สึกผ่อนคลายลงบ้างในตอนนี้

“พี่, ข้าจะไปเข้าห้องน้ำก่อน  เจ้ายืนเฝ้าอยู่ที่นี่ข้าจะกลับมาภายในหนึ่งนาที” บุรุษชุดดำคนหนึ่งกล่าว

บุรุษชุดดำอีกคนหัวเราะ “ข้าไม่เป็นไรก่อนที่เจ้าจะพูดอะไรออกมาเสียอีก  แต่ตอนนี้เจ้าบอกว่าเจ้าจะไปห้องน้ำ ข้าก็อยากไปเหมือนกัน  ก็ได้ เจ้าไปก่อน และข้าจะไปทีหลัง”  แม้ว่าพวกเขาจะผ่อนคลายลงบ้าง  แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าทิ้งหน้าที่ยืนยามพร้อมกัน

ที่สำคัญถ้าพวกเขาปล่อยให้ชายชราหนีไปได้  พวกเขาจะต้องรับบาปอย่างร้ายแรง

ลินลี่ย์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาจำลองเห็นว่าบุรุษชุดดำจากไปคนหนึ่ง  เขารู้สึกประหลาดใจมาก  “จากไปแค่คนเดียว  ฆ่าเขาไปก็ไม่มีปัญหา...ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาได้ส่งเสียง”

ลินลี่ย์หรี่ตาขณะที่เขาเริ่มร่ายเวทความเร็วเสียง

…..

เวลานี้ คอแซ็ตยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำของเขาและกวาดตามองรอบๆตามปกติ ในเมืองเขตปกครองนี้ คอแซ็ตยอดฝีมือระดับเก้ายังคงมั่นใจในตัวเองดี

แต่ในทันใดนั้นคอแซ็ตเหลือบไปเห็นประกายสีดำ

“อะไรกันนั่น?” คอแซ็ตหันหน้าไปมอง

ดาบสีดำน้ำเงินขนาดใหญ่ปรากฏในสายตาของเขาทันที สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือดาบยักษ์สีดำเคลือบน้ำเงินนี้ดูเหมือนสร้างแรงกดรอบพื้นที่และบังคับเขาให้ติดอยู่กับที่

อากาศรอบด้านถูกตรึงไว้

คอแซ็ตต้องการร้องเตือน  แต่เขาไม่สามารถส่งเสียงได้  ความจริง แม้ว่าเขาพยายามตะโกนแต่เสียงไม่ก็เล็ดรอดผ่านออกมาจากพื้นที่แช่แข็ง

ตาของคอแซ็ตกลอกถลึงไปมาทันใดนั้นเขากระแทกฝ่ามือที่มีปราณยุทธเรืองแสงใส่ที่ตำแหน่งดาบ

“ปัง!”

เมื่อดาบยักษ์กระทบกับมือของคอแซ็ต  คอแซ็ตรู้สึกเหมือนกับว่าเขากระแทกใส่แรงที่ทับโถมลงมาไม่มีที่สุดเขาไม่สามารถข่มมันได้เลย

“บึ้ม” มือและแขนของเขาสลายแหลกเหลว กระดูกแหลก

และจากนั้นดาบหนักอดาแมนเทียมค่อยๆกระทบใส่อกของเขา คอแซ็ตรู้สึกแต่เพียงว่าอกสั่น รู้สึกว่าบางอย่างแหลกสลายและจากนั้นเขาไม่รู้สึกอะไรอีก

ในพริบตาเดียวศัตรูก็ถูกฆ่า

เขาไม่มีโอกาสหลังจากอยู่ในร่างมังกรแปลง ลินลี่ย์เป็นนักรบระดับเก้าชั้นสูงและมีดาบหนักอดาแมนเทียมเป็นอาวุธคู่มือ ขณะเดียวกันเขาบรรลุถึงระดับเข้าใจและเชี่ยวชาญพลัง ‘กำหนด’ทั้งสองจึงมีระดับที่ห่างกันสิ้นเชิง

“เร็วเข้า” ลินลี่ย์ผลักเปิดประตู  ขณะที่เขาเปิดประตูเขาเห็นชายชราร่างผอมผมยาวคิ้วยาวนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น  เมื่อได้ยินเสียงลินลี่ย์เข้ามาชายชราลืมตาขณะกล่าวตามปกติ  “ทำไมเจ้าถึงมา.....”

แต่เมื่อเห็นลินลี่ย์คำพูดของชายชราชะงักค้างทันที

เมื่อเห็นลินลี่ย์ในร่างมังกรแปลงชายชราจ้องลินลี่ย์ เขาลดเสียงขณะกล่าว “เจ้ามีแผนการอะไร เจ้ามาจากเผ่ามนุษย์มังกรใช่ไหม?”

“มนุษย์มังกร?” ลินลี่ย์สะดุ้ง

เป็นไปได้ว่าในสถานที่อื่นยังมีเผ่าพันธุ์หนึ่งเรียกว่ามนุษย์มังกรซึ่งดูคล้ายกับเขากระมัง?

“ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?”  ชายชราพูดเบาๆ อีกครั้ง

“ช่วยท่าน”

ลินลี่ย์ควงดาบหนักอดาแมนเทียมของเขา  “ยื่นแขนท่านออกมา  ข้าจะทำลายกุญแจต้านเวทให้ท่าน”

แม้ว่าชายชรายังสงสัยว่าลินลี่ย์เป็นใครแต่เขายอมยื่นแขนออกมาแต่โดยดี  ขณะจ้องดูกุญแจต้านเวทสีดำสนิทลินลี่ย์ใช้ดาบหนักอดาแมนเทียมฟันลงตรงๆ

กวัดแกว่งอาวุธหนักเหมือนเป็นอาวุธเบา– สายฟ้าฟาด

ดาบหนักอดาแมนเทียมเลื่อนระดับลงมาช้าแต่สง่าเหมือนกับใบไม้ร่วง รอยแตกปรากฏอยู่ในกุญแจต้านเวท ชิ้นส่วนของมันกระเด็นไปทั่วทั้งห้อง

ชายชราเพียงแต่สลัดมือตามปกติกุญแจที่ถูกทำลายอีกครึ่งหนึ่งกระเด็นไปยังทิศตรงข้าม

“ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าช่วยข้า  ดังนั้นถือว่าข้าไม่ได้เป็นหนี้เจ้า”  ชายชราร่างผอมหน้าซีดยืนอยู่ที่เดิมจ้องมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา

ลินลี่ย์ก็จ้องมองเขา แต่ดวงตาสีทองเข้มของลินลี่ย์ดูเหมือนไม่มีความกลัวในชายชราผู้นี้แม้แต่น้อย

“ท่านเป็นศัตรูกับศาสนจักรเจิดจรัสใช่ไหม?”  ลินลี่ย์ถามเบาๆ

ทั้งสองพูดกันเบามากและคณะของแลมพ์สันอยู่ในอาคารสองชั้นไม่สามารถได้ยินคำสนทนาของพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย

“เป็นศัตรูน่ะหรือ? ข้าจะไม่หยุดจนกว่าพวกเราฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะพังกันไปข้างหนึ่ง”  ชายชราพูดอย่างมีโมโห

“นั่นแหละที่ข้าต้องการ”  ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น  “แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร  ข้าต้องบอกท่านไว้ก่อนว่า คืนนี้ต้องไม่มีคนของศาสนจักรเจิดจรัสรอดชีวิตออกไปจากที่นี่  ข้าไม่ต้องการเปิดเผยตัวข้าเองต่อพวกเขา”

“เปิดเผยตัวเจ้าเอง?”  ชายชราสงสัย “เจ้ามาจากเผ่าพันธุ์มังกรแถบไหนกันแน่? หรือว่าเจ้าเป็นมนุษย์มังกรจากหนึ่งในแผ่นดินชั้นสูง? แดนนรกหรือเปล่า?”

ลินลี่ย์จ้องเขา  “ไม่”

ชายชราเริ่มหัวเราอย่างชั่วร้าย  “งั้นข้าจะบอกให้เจ้าทราบไว้ก่อนว่าข้าเป็นใคร  ข้าชื่อซาสเลอร์  ข้าเป็นผู้นำจอมเวท พ่อมดระดับเก้าแล้วเจ้าล่ะ?”

ลินลี่ย์ตกใจอย่างแท้จริง

ในฐานะจอมเวทลินลี่ย์รู้ดีว่ามีเวทอยู่สามรูปแบบซึ่งอยู่เหนือเวทธาตุดิน ไฟ ลม น้ำ สายฟ้าแสงสว่างและความมืด  เดลิน โคเวิร์ทก็ได้คุยเรื่องนี้ให้เขาฟังมาก่อนเช่นกัน

เวทสามรูปแบบนี้ก็คือเวทพยากรณ์ซึ่งศาสนจักรเจิดจรัสชำนาญ เวทแห่งชีวิตซึ่งถูกใช้โดยนักพรตระดับสูงในตำนานของจักรวรรดิยูลานและเวทภูตผีซึ่งหาได้ยากมาก

เวททั้งสามแบบนี้หาได้ยากมากในทวีปยูลาน

เมื่อลินลี่ย์ตระหนักได้ว่าโฮลเมอร์ลอบทำร้ายเขา  เพราะโฮลเมอร์ใช้แก๊สพิษ  ลินลี่ย์จึงถามเขาว่าใช่พ่อมดหรือไม่ ถ้าเขาเป็น  บางทีลินลี่ย์คงไม่หักใจฆ่าเขาก็เป็นได้

ที่สำคัญ!

สี่ดินแดนชั้นสูงถูกสร้างขึ้นมาโดยจอมเทพ  จอมเทพทั้งสี่ได้แก่ จอมเทพแห่งชะตา, จอมเทพแห่งชีวิตจอมเทพแห่งความตาย และจอมเทพแห่งการทำลายล้าง

จอมเทพแห่งชะตาได้ตกทอดเวทพยากรณ์

จอมเทพแห่งชีวิตได้ตกทอดเวทแห่งชีวิต

จอมเทพแห่งความตายตกทอดเวทแห่งพ่อมดหมอผี

เวททั้งสามแขนงนี้มีพลังอย่างน่าทึ่ง  เพราะเดิมเกิดมาจากจอมเทพทั้งสี่  สำหรับจอมเทพทำลายล้าง  เขาไม่ได้ตกทอดเวทแต่อย่างใด  บริวารของจอมเทพทำลายล้างถือพลังไว้กับตนเองและได้รับความเคารพ

ตัวอย่างเช่นเทพสงครามโอเบรียนก็เป็นหนึ่งในผู้ติดตามของจอมเทพทำลายล้าง

“หัวหน้าพ่อมดจอมเวท?”  อาการตกใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของลินลี่ย์

“และเจ้าล่ะ?” พ่อมดซาสเลอร์จ้องมองลินลี่ย์

“ทำไมข้าต้องบอกเรื่องของข้าด้วย? ข้าไม่ได้ขอให้ท่านบอกเรื่องตัวท่านสักหน่อย”  ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น  หัวหน้าพ่อมดจอมเวทตะลึงทันทีไม่รู้จะพูดอะไรดี

ในตอนนี้ บุรุษชุดดำอีกคนกลับมาจากห้องพัก

“พี่ใหญ่.. เจ้าหายหัวไปไหนกัน?”  เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอกหน้าของบุรุษชุดดำเปลี่ยนทันที เขาตะโกนด้วยความโกรธ

งานของพวกเขาคือเฝ้าดูพ่อมดจอมเวทซึ่งเป็นบุคคลสำคัญมากแล้วจะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไรเมื่อเขาเห็นว่าพี่ใหญ่ของเขาหายไปโดยไม่บอกอะไรสักคำ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด