ตอนที่แล้วตอนที่ 8-24 ซาสเลอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8-25 เมื่อยอดฝีมือผนึกพลังกัน

ตอนที่ 8-23 คาร์ดินัล


บุรุษอ้วนพูดอย่างสงสัย  “เฮ้ ตามคำที่พวกเจ้าทั้งสองคนพูด  คนอย่างวอร์ตันผู้นี้ควรเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมานานแล้วไม่ใช่หรือ  ทำไมไม่มีใครได้ยินชื่อของเขาจนบัดนี้เล่า?”

บุรุษโล้นพยักหน้า  “ข้าก็สังสัยคำถามนี้เหมือนกัน  ดังนั้นข้าก็เลยสืบเรื่องราวบางอย่างได้ วอร์ตันผู้นี้ตลอดเวลาที่อยู่ในจักรวรรดิโอเบรียนไม่เคยเข้าร่วมแข่งขันประจำปีเลย  ทั้งไม่เคยประลองฝีมือกับยอดฝีมือคนใดนั่นคือเหตุผลที่เขาไม่มีชื่อเสียงมาโดยตลอด”

“มีพลังแต่ไม่อวดฝีมือ”  บุรุษผมเขียวและบุรุษอ้วนถอนหายใจด้วยความเลื่อมใส

“อย่าว่าแต่ในอดีตเลย”  บุรุษโล้นมั่นใจมาก“หลังจากการแข่งขันนักเรียนปีเจ็ดที่สถาบันโอเบรียน  วอร์ตันผู้นี้กลายเป็นจุดสนใจทันที”

ภายในโรงแรมเล็กที่เงียบสงบนั้น  ลินลี่ย์ยังคงนั่งจิบไวน์ต่อไป  มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเขา

“วอร์ตันน้อยสูงถึงสองเมตรเชียวหรือนั่น?  นั่นสูงกว่าข้าเล็กน้อย”

เมื่อวอร์ตันออกจากเมืองอู่ซัน  เขาอายุเพียงหกขวบ ตอนนั้นเขายังเป็นเด็กนี่น่ารักมากยังมีฟันน้ำนมเต็มปาก  ในพริบตาเดียว ผ่านไปสิบเอ็ดปีแล้ว

“น้องวอร์ตัน!”

ความรู้สึกอบอุ่นผุดขึ้นในหัวใจของลินลี่ย์  นี่เป็นความรักความผูกพันระหว่างพี่น้อง

“น้องวอร์ตันมีเลือดมังกรที่เข้มข้นอยู่ในสายเลือดสูงยิ่งกว่าเราเสียอีก  พรสวรรค์ตามธรรมชาติของเขาในฐานะเป็นนักรบก็คงสูงมากกว่าเช่นกัน เขาเอาชนะนักรบระดับแปดตอนอายุสิบเจ็ดปีได้เชียวหรือนี่? อืมม...ข้าคาดว่าวอร์ตันน่าจะถึงระดับเจ็ดอย่างน้อยเมื่อสองหรือสามปีที่แล้ว”

ลินลี่ย์คาดเดาได้ถูกต้อง

ปีนั้นตอนอายุหกขวบวอร์ตันติดตามพ่อบ้านแอชลี่ย์ไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวมุ่งหน้าสู่จักรวรรดิโอเบรียนวอร์ตันมีพรสวรรค์โดยธรรมชาติอยู่แล้ว การเข้าสถาบันโอเบรียนจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา

แต่พ่อบ้านแอชลี่ย์เข้าใจว่าตระกูลบาลุคยังเป็นคนของสหภาพศักดิ์สิทธิ์  ดังนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาต้องตอกย้ำวอร์ตันไม่ให้เปิดเผยพลังที่แท้จริงและปกปิดเอาไว้  ถ้าวอร์ตันเปล่งประกายมากเกินไป  หลังจากจบการศึกษาสถาบันโอเบรียนจะไม่ยอมปล่อยให้เขากลับสหภาพศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายๆ

ดังนั้นตามคำแนะนำของพ่อบ้านแอชลี่ย์ในช่วงตลอดเวลาที่ผ่านมานี้วอร์ตันปกปิดพลังของเขาเอาไว้  แม้ว่าเขาจะเปิดเผยออกมาบ้างเมื่อตอนเขายังเด็กตอนนั้นเขายังเด็กเกินไปและไม่ทันระวังตัว เมื่อเขาโตขึ้นและรู้ความ เขาจึงเข้าใจความสำคัญของการปกปิดตนเองโดยธรรมชาติ

หลายปีฝึกฝนอย่างยากลำบาก

ที่สถาบันโอเบรียนสถาบันนักรบชั้นยอดของจักรวรรดิที่ทรงอำนาจทางทหารที่สุดในโลก  ระดับความก้าวหน้าของวอร์ตันรวดเร็วมาก

เมื่อวอร์ตันอายุสิบสี่ปีฮิลแมนรับคำสั่งจากลินลี่ย์เดินทางมาถึงสถาบันโอเบรียน

ความจริงช่วงเวลาที่ฮิลแมนเดินทางมาถึงสถาบันโอเบรียนวันมหาวิบัติได้เกิดขึ้นนานแล้วพวกราชวงศ์และตระกูลขุนนางใหญ่ของจักรวรรดิโอเบรียนทั้งหมดจะมีระบบการสื่อสารของตนเองโดยเฉพาะได้รู้เรื่องนี้นานแล้วขณะที่สถาบันทหารชั้นสูงของจักรวรรดิโอเบรียน สถาบันโอเบรียนย่อมรู้ข่าวนี้เช่นกันเป็นธรรมดา

เมื่อฮิลแมนไปถึงจักรวรรดิ  วอร์ตันก็รู้เรื่องวันมหาวิบัติเกิดขึ้นแล้ว

ฮิลแมนแจ้งข่าวการเสียชีวิตของฮ็อกให้วอร์ตันทราบและการตัดสินใจแก้แค้นของลินลี่ย์ วอร์ตันได้แต่ตะลึง เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะทำยังไง

มีฮิลแมนและแอชลี่ย์อยู่ข้างๆและด้วยดาบศึกประหารปรปักษ์ในมือของเขาที่ลินลี่ย์ยกให้เขา วอร์ตันตั้งใจอย่างเต็มที่ว่าเขาจะรับผิดชอบตระกูล  แต่ในใจของเขาวอร์ตันยังคงห่วงใยลินลี่ย์พี่ชายของเขา วอร์ตันไม่รู้ว่าสถานการณ์ของลินลี่ย์เป็นเช่นไร

ระยะทางจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์ไปจักรวรรดิโอเบรียนนั้นห่างไกลกันมากเดินทางเที่ยวหนึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี

โชคดีที่หลังจากนั้นหอการค้าดอว์สันติดต่อวอร์ตันและส่งจดหมายลับให้เขา

จดหมายลับนั้นเขียนโดยเยลอธิบายถึงความเป็นปรปักษ์ระหว่างลินลี่ย์กับเคลย์ รวมทั้งศาสนจักรเจิดจรัสด้วยทั้งยังแจ้งวอร์ตันให้ทราบว่าลินลี่ย์ไม่เป็นไรแล้ว  แต่เขาตะลุยเดี่ยวฝึกฝีมือระยะยาว

หลังจากได้ทราบข่าวนี้วอร์ตันรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นบ้าง

วอร์ตันรู้สึกภูมิใจพี่ชายของเขาและทำให้เขามุ่งมั่นพากเพียร เพื่อที่ว่าในอนาคต เขาจะได้ยืนต่อสู้เคียงข้างกับพี่ชาย  ในอดีตวอร์ตันก็ฝึกหนักมากอยู่แล้ว  แต่สามปีหลังจากนั้น  วอร์ตันฝึกหนักยิ่งขึ้น  เมื่อเขาอายุสิบห้าปี วอร์ตันก็เป็นนักรบระดับเจ็ดแล้ว

เมื่อวอร์ตันกลายเป็นนักรบระดับเจ็ด  เขาเชื่อว่าเขามีระดับสูงพอจะใช้ดาบศึกประหารปรปักษ์ได้  ในเวลานั้น เขาตั้งใจจะร่วมแข่งขันประจำปี  ผลของการแข่งขันวอร์ตันสร้างความตื่นตะลึงทั่วทั้งจักรวรรดิและกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในเมืองหลวง  จักรพรรดิเองพระราชทานศักดินาตำแหน่งเคานท์ให้กับเขา

………

ลินลี่ย์นั่งอยู่ในมุมหนึ่งของโรงแรม  เขามีความสุขมากกว่าที่เคยมีมานานแล้ว

“เจ้านาย, วอร์ตัน?นั่นคือน้องชายของเจ้านายใช่ไหม?” บีบีขดตัวอยู่บนเก้าอี้จ้องมองลินลี่ย์ด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

ลินลี่ย์หัวเราะพยักหน้า

“เจ้าหนูน้อยนั่นเอาชนะนักรบระดับแปดได้จริงหรือนั่น?”บีบีถอนหายใจอย่างประหลาดใจ  “เจ้านายน้องชายของเจ้านายน่าจะแปลงร่างเป็นนักรบเลือดมังกรได้ใช่ไหม?”

“เรื่องธรรมดา”

ลินลี่ย์ภูมิใจในวอร์ตันน้องชายของเขามาก  “บีบี,ข้าแปลงเป็นนักรับเลือดมังกรได้ด้วยการดื่มเลือดของมังกรเกราะหนามและปลุกเลือดมังกรในสายเลือดของข้า ส่วนน้องชายข้ามีเลือดมังกรความเข้มข้นอยู่ในสายเลือดสูงอยู่แล้ว  เขาสามารถเป็นนักรบเลือดมังกรได้โดยตรง  แต่ร่างแปลงมังกรของเขาไม่เหมือนกับข้า”

ลินลี่ย์จำได้ชัดถึงคำอธิบายร่างมังกรแปลงในบันทึกของตระกูลของเขา

เมื่อเลือดมังกรที่เข้มข้นในสายเลือดของคนผู้นั้นมีเพียงพอ  หลังจากฝึกฝนไปตามคัมภีร์ลับเลือดมังกร  เขาสามารถแปลงเป็นนักรบเลือดมังกรได้   ปกติร่างกายของนักรบเลือดมังกรจะปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกรสีฟ้าและมีเขามังกรเดี่ยวงอกออกมาจากหน้าผาก

อย่างไรก็ตามร่างแปลงมังกรของลินลี่ย์ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำและมีเขาแหลมงอกออกมาจากหน้าผากมีหนามสีดำที่ศอก และเข่าและหางสีดำด้วยเช่นกัน

“ขอหยกเขียวขวดหนึ่งให้อีกคน”  เสียงซึ่งลินลี่ย์คุ้นเคยดังออกมาจากในโรงแรม

“นี่คือ....”

ดูเหมือนลินลี่ย์สะดุ้งเหมือนถูกฟ้าผ่า ทั่วทั้งตัวของเขาเกร็งและจากนั้นเขาพูดในใจกับบีบีทันที  “บีบี, มาหาข้า, อย่าเผยตัวให้ใครเห็น”  ลินลี่ย์วางบีบีบนเก้าอี้ในมุมหนึ่งของรองเท้าเขา

นี่คือโรงแรมที่มืดสลัวมาก

ยิ่งกว่านั้น ทุกๆโต๊ะจะมีฉากไม้กั้นไว้ ร่างของลินลี่ย์แทบถูกฉากไม้กันไว้ทั้งหมดเพื่อที่ว่าคนที่คุ้นเคยกันจะได้มองไม่เห็นลินลี่ย์

ลินลี่ย์หันศีรษะชะเง้อขึ้นเล็กน้อย

ร่างอ้วนเตี้ยนั่นนัยน์ตาของเขาที่สลัวเปลี่ยนเป็นมีประกายเจิดจ้าทันที

“เขานั่นเอง”

ลินลี่ย์หดหัวกลับ  “คาร์ดินัลแลมพ์สัน  ทำไมเขามาอยู่ในจักรวรรดิโอเบรียน?  และพวกที่นั่งอยู่ข้างเขาก็ไม่อ่อนแอแต่อย่างใด  ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในพวกนี้เป็นโยคีที่เคยปรากฏตัวที่ชั้นบนสุดของวิหารเจิดจรัสในปีนั้น”

ความจริงโยคีนั้นคือหนึ่งในคนที่ทำงานให้กับไฮเดนส์ในการสร้างวงเวท  เขาเป็นนักสู้ที่ทรงพลังคนหนึ่ง

ที่นี่มีนักสู้ระดับเก้าอย่างน้อยสองคน  แลมพ์สันกับโยคี

“ข้าจำคนอื่นๆ ไม่ได้  แต่ตัดสินจากกลิ่นอายพลังของพวกเขา  พวกเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าแลมพ์สันมากนัก  บางทีพวกเขาอาจเป็นยอดฝีมือระดับเก้า”

ลินลี่ย์เริ่มใจสั่น

“ในที่อย่างเมืองปกครองเซียร์ ทำไมถึงมียอดฝีมือของศาสนจักรเจิดจรัสปรากฏตัวอย่างมากมาย?เป็นไปได้ไหมว่า  เป็นไปได้ไหมว่า....”จิตใจของลินลี่ย์ตึงเครียด  “เป็นไปได้ไหมว่าสถานะของเราถูกเปิดเผย?”

ลินลี่ย์รู้ว่าองค์กรขนาดใหญ่อย่างสหภาพศักดิ์สิทธิ์มีเครือข่ายข่าวกรองอยู่ในอาณาจักรและจักรวรรดิอื่นๆมากมาย แต่เครือข่ายข่าวกรองของพวกเขาจะมีการเจาะลึกแม้แต่ในหัวเมืองเซียร์ด้วยหรือไม่?

“เจ้านาย เกิดอะไรขึ้น?”  บีบียังคงสงสัย  หลังจากได้รับคำสั่งจากลินลี่ย์ให้หลบมุม  บีบีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ลินลี่ย์มองดูบีบีและยิ้มให้  “บีบียอดฝีมือจากศาสนจักรเจิดจรัสมาถึงแล้ว น่าจะมีนักสู้ระดับเก้าอยู่หลายคน”

“ศาสนจักรเจิดจรัส?”  ตาของบีบีมีแววอำมหิต

“ถ้าพวกเขาวางแผนลงมือกับข้า ข้าจะต้องแน่ใจว่าไม่มีใครในพวกเขาหนีไปจากเมืองเซียร์ได้” ใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันด้วยเช่นกัน   ระดับพลังของลินลี่ย์ในปัจจุบันนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีในอดีต

เมื่ออยู่ในร่างมังกรแปลง  พลังของเขาเทียบเท่านักรบระดับเก้าขั้นสูง  และยิ่งกว่านั้นเกี่ยวกับการใช้ดาบหนักอดาแมนเทียมลินลี่ย์บรรลุถึงระดับสูงสุดขั้น ‘กำหนด’ แล้วและอีกเพียงเล็กน้อยก็จะเริ่มเข้าสู่การบรรลุระดับสูงกว่านั้น

ลินลี่ย์ฟังอย่างระมัดระวัง

พวกที่มาจากศาสนจักรเจิดจรัสยังไม่พบการปรากฏตัวของลินลี่ย์

“เพื่อให้ได้คนผู้นี้มา เราใช้เวลาสองปี  ในที่สุดอีกสิบวันหรือราวๆครึ่งเดือนเราจะได้กลับกันเสียที” เสียงของแลมพ์สันเบามาก

แลมพ์สันระมัดระวังมากเมื่อเขาพูดไม่ยอมให้ร่องรอยอะไรที่เป็นการระบุถึงสถานะของคนผู้นี้ปรากฏ

“สองปี”บุรุษชุดดำอีกคนซึ่งหันหลังให้ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “เพื่อจัดการกับเจ้าแก่นั่น สหายที่ดีของข้าต้องตายไปหลายคน”

“ตราบใดที่เราจับเขาได้  ทั้งหมดก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว”  แลมพ์สันกล่าว

…..

ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะฟังคำสนทนาของพวกเขา

“พวกเขาหมายความว่ายังไง?”

เขาได้ฆ่ามือปราบพิเศษทั้งหกของศาลศาสนจักร  แต่เขาไม่ใช่เจ้าแก่แน่นอน

“คนแก่? และพวกเขาจะกลับไปในไม่ช้า?” ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจแล้วว่าคนพวกนี้อยู่ที่นี่  มีแนวโน้มว่ามุ่งจัดการกับคนผู้นั้น

ลินลี่ย์เริ่มสงสัยมากขึ้น  ใครกันถึงมีค่าคู่ควรให้ศาสนจักรเจิดจรัสต้องทุ่มเทความพยายามมากขนาดนี้?

“เจ้าแก่, เจ้ากำลังจ้องอะไร?”  หนึ่งในบุรุษชุดดำตะคอกเบาๆ

“ทำไมต้องโอหังด้วยเล่า?”  เสียงชราภาพเสียงหนึ่งดังขึ้น  “ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงว่าพวกเจ้าถือดีที่จำนวนคนมากกว่าข้าและยังใช้กลอุบาย  ข้าจะตกไปอยู่ในมือของพวกเจ้าได้ยังไง?  ตลกชัดๆ”

ลินลี่ย์หนังตากระตุก

ดูเหมือนว่าเจ้าของเสียงชรานี้เองเป็นคนที่ศาสนจักรเจิดจรัสต้องการตัว

“ศาสนจักรเจิดจรัสไม่ส่งยอดฝีมือจำนวนมากขนาดนั้นไปยังประเทศอื่นเพื่อไล่ล่าและฆ่าข้า  แต่พวกเขาทำเพื่อชายชราผู้นี้...เขาเป็นใครกันแน่?”

ลินลี่ย์สงสัย

“อะไรก็ช่างและไม่ว่าผู้เฒ่านี้จะเป็นใครก็ตามข้าจะช่วยเขาแน่นอน” ลินลี่ย์หัวเราะกับตัวเองอย่างเยือกเย็น “สามารถขัดขวางแผนการสำคัญของศาสนจักรเจิดจรัสได้ทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น”

การทำลายศาสนจักรเจิดจรัสให้สิ้นซากแบบถอนรากถอนโคนเป็นเรื่องที่ยากมาก

ตอนนี้เขาสามารถทำได้เพียงดำเนินไปทีละขั้น

หลังจากรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง  แลมพ์สันและคนกลุ่มนี้ก็ออกจากโรงแรมในที่สุดและพาชายชราผู้นี้ไปกับพวกเขาด้วย ตั้งแต่เริ่มจนจบ แลมพ์สันและคนที่มากับเขาไม่ชำเลืองมองมาที่ลินลี่ย์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังฉากไม้แม้แต่น้อย

ลินลี่ย์เดินออกมาจากซุ้มของเขา

“บีบีไปกันเถอะ”  ลินลี่ย์โยนเหรียญทองสองสามเหรียญไว้และพาบีบีออกจากโรงแรมทันที ติดตามกลุ่มของแลมพ์สันไปข้างหลัง

ความเข้าใจของลินลี่ย์ในเรื่องระดับ‘กำหนด’ถึงระดับสุดยอดฝีมือแล้ว  แค่ใช้ความรู้เรื่องระดับ‘กำหนด’ ของเขา ลินลี่ย์สามารถยืนอยู่บนผิวน้ำโดยไม่จมลง บางอย่างที่นักสู้ระดับเก้าส่วนใหญ่ทำไม่ได้  นี่คือความเข้าใจระดับสูงกว่าซึ่งไม่สามารถทำได้โดยใช้พลังภายนอก หรือพลังปราณภายใน

ลินลี่ย์ติดตามไปข้างหลังกลุ่มของแลมพ์สันในที่สุดก็เห็นว่าคนเหล่านี้มีใครบ้าง

“ศาสนจักรเจิดจรัสมีคนหกคน  กับทั้งชายชราลึกลับที่พวกเขาอารักขาอยู่” ลินลี่ย์รู้สึกได้ว่าคนทั้งหกเหล่านี้เป็นนักสู้ระดับเก้ากันทั้งหมด

ยอดฝีมือระดับเก้าหกคนคุ้มกันชายชราคนเดียว  และมีคาร์ดินัลแลมพ์สันนำทีมด้วยตัวเอง

เมื่อได้ยินคำสนทนาของเขาพวกเขา ดูเหมือนว่าหน่วยของคาร์ดินัลแลมพ์สันใช้เวลาสองปีกับการจับกุมครั้งนี้และสูญเสียคนไปสองสามคนเช่นกัน

“ชายชราผู้นี้เป็นใคร?”  จากด้านหลังลินลี่ย์พยายามหาทางชำเลืองมองชายชรานั้นเช่นกัน

เขาตัวผอมมากและคิ้วสีขาวของเขายาวห้อยลงมาถึงอก  ที่สำคัญที่สุด ชายชราผู้นี้ถูกพันธนาการที่มือมีผ้าอยู่ชิ้นเดียวที่พันรอบกุญแจมือ คนส่วนใหญ่ก็จะไม่สังเกตมันจนกว่าพวกเขาจะได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบแม้แต่ลินลี่ย์ก็เพียงแต่สังเกตเห็นหลังจากติดตามมานานและเพราะแค่เพียงลมกระโชกมาชั่วคราวพัดผ้าที่บังนั้นเปิดครู่หนึ่ง

“หืม? นั่นมัน...” นี่เป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์ได้เห็นเครื่องมือในตำนาน  “กุญแจต้านเวท?”

ตามบันทึกใครก็ตามที่ถูกสวมกุญแจต้านเวทจะไม่สามารถใช้พลังเวทในร่างได้เลย ต่อให้เป็นนักเวทที่ทรงพลังก็ตามจะกลายเป็นเหมือนกับคนธรรมดา  แต่กุญแจต้านเวทราคาแพงมาก  นี่เป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์ได้เห็นของอย่างนั้น

ลินลี่ย์ไถลเข้าไปในกลุ่มผู้คนในท้องถนน  บางครั้งก็หลบ บางครั้งก็ซ่อนตัว  ความเคลื่อนไหวของเขาทำได้ยอดเยี่ยม แลมพ์สันและคนของเขาไม่คิดว่าเขาจะสร้างปัญหาอะไรได้

หลังจากนั้นไม่นานแลมพ์สันและคนของเขาก็มาถึงตรอกแห่งหนึ่ง พวกเขาหยุดข้างหน้าที่พักสองชั้น หนึ่งในคนชุดดำเคาะประตู

“ใต้เท้า” ประตูที่พักเปิดออก และบุรุษวัยกลางคนออกมาคำนับ  “ทุกอย่างเตรียมไว้แล้ว  ใต้เท้า เชิญเข้ามาพักเถิด”

แลมพ์สันและคนอื่นพยักหน้า

“คอแซ็ท!  เจ้ากับพี่ของเจ้ายืนเฝ้าเจ้าแก่นี่ไว้  เราจะมาช่วยเจ้าทีหลัง”  แลมพ์สันสั่ง

ลินลี่ย์ลอบสะดุ้ง  “แม้พันธนาการด้วยกุญแจต้านเวท พวกเขาก็ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดอีกหรือ?  ชายชราคนนี้มีความพิเศษจริงๆ” นี่ทำให้ลินลี่ย์ต้องการจะทำลายแผนของศาสนจักรเจิดจรัสมากยิ่งขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด