ตอนที่แล้วตอนที่ 196 พยัคฆ์ฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 198 หวีชิง

ตอนที่ 197 งานที่ผลาญเงิน


วิธีการควบคุมอาวุธจักรกลของปิงผิดจริงๆ หรือ?

ถังเทียนได้ยินและคิดว่าเขากำลังฝันไป ปิงเป็นยอดฝีมือผู้ชำนาญการใช้อาวุธจักรกลอย่างแท้จริง  ถังเทียนสงสัย ไม่มีใครอื่นในโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมอาวุธจักรกลได้  เว้นแต่กองทัพดาวกางเขนใต้ยังมีผู้รอดที่โชคดีคนอื่นอีก

ปิงก็ตะลึงเช่นกัน และเขาก็ค่อยๆ สงบสติอารมณ์

วิธีการใช้ของเขาผิดหรือ?

“เจ้าอย่าใช้วิธีเดิมของเจ้าเพื่อควบคุมพยัคฆ์ฟ้า”  น้ำเสียงของเซรีนไม่มีการลดราวาศอก“มันไม่ใช่อาวุธจักรกลเหมือนที่เจ้าเคยใช้ในอดีต เพราะมันมีจิตวิญญาณพลังยุทธอยู่ด้วย”

“จิตวิญญาณพลังยุทธ?”  ปิงยิ่งตะลึงหนักกว่าเดิม

“ใช่แล้ว!”เซรีนพูดจริงจัง  “เจ้ายังจำลูกปัดวิญญาณนั้นได้ใช่ไหม มันกลายเป็นจิตวิญญาณพลังยุทธของพยัคฆ์ฟ้าไปแล้ว  มันมีความคุ้นเคยกับเกราะนี้มากกว่าเจ้า  ดังนั้นเจ้าลองพยายามสื่อสารกับมันดูเพื่อควบคุมอาวุธจักรกลนี้  แล้วเจ้าจะรู้ว่ามันแข็งแกร่งกว่าที่คิด

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปิงตกใจ  “เจ้าทำสำเร็จแล้วหรือ?”

“ใช่แล้ว,ข้าทำสำเร็จแล้ว!”  เซรีนพูดด้วยความภูมิใจ  “เจ้านึกว่าข้าแยกชิ้นส่วนอาวุธจักรกลเหล่านั้นไปอย่างสูญเปล่าอย่างนั้นหรือ?  คุณภาพของลูกปัดวิญญาณนี้ดีมาก มันไม่ได้สร้างความเสียหายให้อาวุธจักรกลแต่อย่างใด ตอนนี้จิตวิญญาณพลังยุทธและอาวุธจักรกลรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วแล้วอีกอย่างมันได้กลายเป็นสิ่งของที่เหมือนกับอาวุธสมบัติไปแล้ว”

“ข้าจะสื่อสารกับจิตวิญญาณพลังยุทธได้อย่างไร?”  ปิงสับสน

“ข้าสร้างชุดฝึกฝนพิเศษให้กับเจ้าแล้ว”  เซรีนเตรียมไว้อย่างพอเพียง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หน้าของปิงหมองทันที ประโยคนั้นเขามักเป็นฝ่ายพูดกับคนอื่นไม่ใช่หรือ?  ตอนนี้เซรีนกลับเอามาใช้กับเขา...

“อย่าคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของพยัคฆ์ฟ้าได้ เจ้าจำเป็นต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับวิธีการต่อสู้แบบใหม่”  เซรีนอธิบาย “พยัคฆ์ฟ้าจะเปลี่ยนสถานะไปเป็นนักสู้จักรกลอย่างมิต้องสงสัย และยุคของนักสู้จักรกลจะต้องมาถึงอย่างมิต้องสงสัย  แต่ยุคของเจ้าจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง จิตวิญญาณพลังยุทธจะทำให้อาวุธจักรกลแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ถังเทียนมองดูปิง เขารู้สึกว่าปิงคงไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เขาเป็นคนที่ดื้อรั้น คนที่ยึดมั่นในคำสอนของกองทัพดาวกางเขนใต้ แล้วเขาจะยอมเห็นด้วยได้ยังไง?

แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่า ปิงตอบรับอย่างไม่ลังเล  “ตกลง”

ตาของถังเทียนเบิกกว้างขึ้น  เขาไม่กล้าจะเชื่อเรื่องนั้น

“เลือกได้ดี!”  เซรีนลูบคางอย่างมีความสุข  จ้องมองถังเทียน  “หนุ่มน้อย ต่อให้เจ้าอิจฉา แต่เจ้าไม่มีโอกาส มีวัสดุเพียงพอจะสร้างได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น  ค่าใช้จ่ายของมัน บางทีอาจมีราคามากกว่าอาวุธจักรกลบรอนซ์เหล่านั้นทั้งหมด”

ถังเทียนเถียง “ข้าคิดว่าข้าควรเอาจริงเอาจังกับวิทยายุทธของข้าเสียที  ถ้าเจ้าไม่เป็นไรแล้วอย่างนั้นข้าจะกลับไปฝึกต่อ”

“เฮ้,  อย่าเพิ่งไปสิ”  เซรีนรีบตะโกนเรียกถังเทียน

หน้าของถังเทียนเขียวคล้ำ ขณะมองดูเซรีน  “มีอะไรอีกเล่า?”

เซรีนขึ้นเสียง  “มีแน่นอนแล้วก็หลายอย่างเสียด้วย!  ของดีๆทั้งหมดในค่ายถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว อาวุธจักรกลถูกนำมาแยกชิ้นส่วนทั้งหมด แม้แต่ชิ้นส่วนต่างๆก็ถูกจับแยกออกมานับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นนอกจากที่นี่เป็นคลังเก็บของแล้ว ก็ไม่มีคุณค่าอะไรอีกต่อไปแล้ว

ถังเทียนกับปิงมองหน้านางด้วยความสับสน

เซรีนมองดูสีหน้างงงวยของพวกเขา  แต่นางอดโกรธไม่ได้  ดังนั้นนางรีบขึ้นเสียงทันที “ได้โปรด,อาวุธจักรกลเป็นงานที่ล้างผลาญเงินได้มหาศาล คำว่าเราเงินหมดแล้วนั้น หมายความถึงเราจะต้องหาเงินเพิ่ม ขอเพียงมีเงินเราก็สามารถทำการค้นคว้าต่อได้  และสร้างอาวุธจักรกลดีๆ เพิ่มมากขึ้น!”

“เจ้าต้องการเงินมากน้อยเท่าใด?”  ปิงถามอย่างระมัดระวัง

“ไม่ใช่ข้าที่เป็นฝ่ายต้องการเงินนะจริงไหม?”   นางเบิกตากว้างสีหน้าไม่พอใจ  “เฮ้,ข้าให้อาวุธจักรกลที่ข้าสร้างไปแล้วกับพวกเจ้าไม่ใช่หรือ?”

ปิงตระหนักได้ทันทีถึงความเข้าใจผิดของเขา  เขารีบเปลี่ยนคำพูดโดยเร็ว  “เราจำเป็นต้องใช้เงินมากเท่าไหร่?”

เซรีนแค่นเสียง  “ราคาก่อสร้างพยัคฆ์ฟ้าแค่วัสดุอย่างเดียวก็ราคาเกินสามสิบล้านเหรียญดาวแล้วและนั่นยังไม่รวมค่าฝีมือของข้า”

ถังเทียนกับปิงรู้สึกเหมือนกับถูกเซรีนยิง  พวกเขายืนตะลึงงันอยู่กับที่

หลังจากผ่านไปชั่วขณะ ถังเทียนก็รู้สึกตัวและพูดติดอ่าง “สะ สาม..สิบล้านเหรียญดาวเหรอ?”

เหตุผลก็คือว่า ตอนนี้ถังเทียนนับว่ารวยแล้ว  หินดวงดาวพันก้อนที่จู่ๆเขาก็ได้มาสร้างความมั่งคั่งให้เขาด้วยมูลค่าราวยี่สิบล้านเหรียญดาวนี่เป็นสถานะที่รวยที่สุดในชีวิตของเขา

แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่สามารถจ่ายเพื่อซื้อพยัคฆ์ฟ้าได้

“ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าฐานทัพแห่งนี้เหลือวัสดุดีๆไว้มาก บอกตามตรงเลยนะ วันนี้พวกเจ้าอาจจะยังไม่ได้เห็นพยัคฆ์ฟ้าก็ได้”  เซรีนโบกมือของนาง  “ดังนั้น ข้ารู้สึกว่าเราจำเป็นต้องปรึกษากันเรื่องเงิน”

ถังเทียนพูด  “สำหรับข้าข้ามีประมาณยี่สิบล้านเหรียญดาว เป็นมูลค่าของหินดวงดาว”

เซรีนตกใจกระโดดตัวลอย “ว้าว, เจ้ามีเงินมากขนาดนั้นเมื่อไหร่? ยี่สิบล้านเหรียญดาว!”

“มีคนให้ข้า”

เซรีนประหลาดใจเพิ่มขึ้น, นางจ้องหน้าถังเทียนอย่างสงสัย  “ข้าว่า,เจ้าขายตัวมาใช่ไหม  ไม่นะ... กล้ามเล็กๆ อย่างนั้นข้าว่าเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะทำเงินได้มาก”

ถังเทียนไม่รู้จะตอบนางยังไง, บอกตามตรงเขาเองก็ไม่ทราบเช่นกันถึงเหตุผลที่ผู้คนพากันให้เงินเขามากมาย

เซรีนกอดมือตนเองใบหน้ามีแววตื่นเต้น  “นั่นเยี่ยมเลย!  เนื่องจากเรามียี่สิบล้านเหรียญดาว  นั่นนับเป็นข่าวดี!”

ถังเทียนเตือนนาง “ยี่สิบล้านยังไม่พอสร้างพยัคฆ์ฟ้าไม่ใช่หรือ!”

เซรีนมองเขาอย่างดูแคลน “แน่อยู่แล้วว่ามันไม่พอ แต่สำหรับเอาไว้ให้เราลงทุน นั่นก็เพียงพอแล้ว”

ถังเทียนสับสน  “ลงทุนอะไร?”

แต่ปิงรู้ตัวก่อน  “เจ้าต้องการขายอาวุธจักรกลใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว” เห็นได้ชัดว่าเซรีนวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว  “ข้าวางแผนจะสร้างอาวุธจักรกลระดับคุณภาพต่ำ  ในด้านหนึ่ง ข้าจะได้ฝึกฝีมือเพิ่มเติม อีกทางหนึ่งเราสามารถหาเงินไว้สำหรับการค้นคว้า  ตราบใดที่เราสามารถสร้างอาวุธจักรกลได้สักสองสามชิ้นตราบใดที่ของเหล่านั้นไม่ด้อยไปกว่าสมบัติชั้นบรอนซ์ตามปกติ  อย่างนั้นนักสู้จักรกลจะให้ความสนใจอย่างแน่นอน”

“นั่นเป็นแผนที่ไม่เลวเลยทีเดียว”  ปิงถาม “เจ้าตั้งใจจะเปิดร้านที่ไหน?”

“เมืองสามวิญญาณ”สีหน้าเซรีนบ่งบอกว่า “เจ้าไม่ต้องคัดค้าน” แค่เปลี่ยนชื่อร้านเดิมของข้าเท่านั้น”

ปิงขมวดคิ้ว  “เมืองสามวิญญาณยังไม่คึกคักมากพอ”

“นั่นเป็นเพราะเมืองสามวิญญาณไม่มีผลิตภัณฑ์ดีๆหรือสินค้าพิเศษ ดังนั้นจึงไม่มีไฟที่จะเริ่มต้น” เซรีนอธิบาย  แต่ว่ามันมีประตูทางเข้าที่เชื่อมกับหมู่ดาวหลายแห่ง  และสิ่งที่สำคัญมากกว่าก็คือ มีชิ้นส่วนจิตวิญญาณพลังยุทธโบราณที่แตกหักอยู่มากมาย  แก่นพลังวิญญาณทั้งหมดเหล่านี้  มีความบริสุทธิ์ไม่เพียงพอ  ราคาของมันต่ำมาก แต่ถ้าเพื่อสร้างอาวุธจักรกลแก่นพลังวิญญาณเหล่านี้ทั้งหมดใช้งานได้ ดังนั้น ข้ารู้สึกว่า จะมีผลที่ไม่คาดคิดตามมา  โอวพระเจ้า นี่ทำให้ข้าคาดหวังเสียเหลือเกิน”

“อืม..ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ฟังดูดีจริงๆ” ปิงพยักหน้า

ถังเทียนรู้สึกว่าเซรีนพูดถูกดังนั้นเขาเอาหินดวงดาวของเขาเองออกมาและมอบให้เซรีน “นี่,หินดวงดาวเหล่านี้สำหรับเจ้า”

เซรีนไม่ได้เถียงอะไร หลังจากรับไว้แล้วดูเหมือนนางจะกระตือรือร้นจริงๆ  “ก่อนนั้นข้าได้เตรียมออกแบบอาวุธระดับต่ำไว้สองสามแบบแล้ว  โอว,ใครจะรู้ว่าสามารถสร้างช่วยให้สร้างได้ดีขึ้นกว่าเดิมบ้าง”

ถังเทียนมีนัยน์ตาเป็นประกายทันที  “ข้ามีความคิดดีๆ อย่างหนึ่ง!”

“ความคิดอะไร?”  เซรีนยังไม่ค่อยเชื่อเขา

“เจ้าสร้างสักสี่ชุดก่อน  จากนั้นข้าจะได้เอาไปให้ผู้เฒ่าหลิน,ผู้เฒ่าหวิน, อู่โหวและหมิงโหว คนละหนึ่งชุด” ถังเทียนตื่นเต้น  “ตอนนี้ข้ากังวลอยู่ว่าข้าจะไม่มีอะไรให้พวกเขาบ้าง  ดีล่ะ ข้ายังสามารถเอาไปขายให้สมาพันธ์ชาวยุทธได้  พวกเขามีเงินมาก”

เซรีนเองก็รู้สึกว่าความคิดของถังเทียนเข้าท่า  นางใช้นิ้วนับดู  “สี่คนสี่ชุด, สำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธ  งั้นอย่างน้อยที่สุดก็ต้องออกแบบอย่างละหนึ่ง”

ถังเทียนพูดต่อ  “สี่ชุดแรกด่วนมากกว่า  ข้าต้องการไปจากพวกเขาให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้

“อย่างนั้นเราไปเมืองสามวิญญาณเอาวัสดุเพิ่มสองสามอย่าง เราจะได้สร้างทันในวันนี้เลย”  เซรีนรีบดำเนินการดุจสายลม

แผนทำเงินมหาศาล ทำให้ทั้งสามไม่กล้าชักช้าแม้แต่น้อย พวกเขาใช้พลังและวิ่งตรงกลับไปที่เมืองสามวิญญาณทันที

แต่สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือสามสหายจากก๊กโจรแพนด้ายังคงอยู่ที่นั่นตามปกติดูแลร้านการ์ดให้อย่างดีทำให้เซรีนตื่นเต้นมาก  นางเริ่มใช้ประโยชน์จากพวกเขา

ตอนนี้หมดปัญหาเรื่องกำลังคน

การจัดซื้อวัสดุ การเริ่มต้นผลิต ตอนนี้เซรีนเข้าสู่สภาวะคลั่งงานทันที

ถังเทียนและปิงคอยอยู่เงียบๆ อีกมุมหนึ่ง

“ข้าจะอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง”ปิงเตือนถังเทียน  “แต่เพราะข้าไม่อยู่ใกล้ๆด้วย เจ้าอย่าขี้เกียจจะดีกว่า”

ถังเทียนเหลือกตา “เฮ้ลุง!  อย่ายกความสำคัญของตัวเองจะดีกว่าเห็นกันอยู่แล้วว่าผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายควบคุมได้เป็นอย่างดี”

ปิงหน้าแดงทันที “กรงเล็บภูตพรายกับพลังบ้านนอกของเขาถ้าไม่มีข้าคอยดูแล เขาจะรักษาควบคุมพลังไว้ได้อย่างไร?ข้าเองก็คิดว่าแม้แต่จิตใจของเขาเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน”

ถังเทียนมองดูเขาอย่างเยาะเย้ย  “ถ้าลุงเป็นลูกผู้ชายตัวจริงก็พูดต่อหน้าเขาเลย”

ปิงคำราม  “ข้าไม่มีทางทะเลาะคนบ้านนอกแน่”

“ลุงไม่กล้าก็บอกมาเถอะ!”  ถังเทียนหัวเราะเย็นชา

“ก็เพราะช่วงนี้ข้าจะต้องศึกษาและค้นคว้าก่อน”สีหน้าปิงกลายเป็นจริงจัง “ข้ามีความรู้สึกว่าเซรีนพูดถูกยุคใหม่ของอาวุธจักรกลเริ่มจากตรงนี้ เมื่อข้าได้ขัดเกลาทักษะของข้าเองแล้วจากนั้นข้าจึงค่อยมาสอนให้เจ้า สบายใจได้น่า, ในฐานะเจ้ากรมศึกษาของกองทัพ  ปล่อยเรื่องกลยุทธการรบให้ข้าดูแลเอง  ไม่ว่ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง  ข้าจะใช้เวลาสั้นๆเพื่อเข้าใจแก่นสาระของมันให้ได้”

พูดจบปิงเริ่มยกตัวเองอย่างพอใจด้วยท่าทางสีหน้าที่หยิ่งผยอง

“ดี”ถังเทียนยกย่อง  “ม้าแก่ที่ก้าวเข้ามาในคอกยังคงมุ่งมั่นที่จะควบให้ได้พันไมล์”

“เจ้ายังฝึกฝนมาไม่มากก็น่ากลัวมากแล้ว!  ถึงเป็นม้าแก่ในคอกก็ยังมุ่งมั่นควบให้ได้พันไมล์!”  ปิงทวนคำควั่บทันที  “ฮึ.. เจ้าว่าใครแก่”

ถังเทียนทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินเขาและเปลี่ยนหัวข้อสนทนา  “ลุงคิดว่าเราจำเป็นต้องให้ของขวัญซิ่วซิ่วน้อยสักชุดไหม?”

“ไม่”  ปิงเปลี่ยนหัวข้อพูดตามคาด  “หัวใจของหลิงซิ่วมักจดจ่ออยู่ที่หอกและคุณธรรมของเขา  เจ้าเด็กนั่นหัวแข็งมาก”

“นั่นก็จริง”  ถังเทียนเห็นด้วย  “แต่เขาเป็นอย่างนั้น ก็ดีเหมือนกัน”

“อืม” ปิงผงกศีรษะ

พอตกเย็น เซรีนก็ผลิตชุดอาวุธจักรกลสี่ชุดเสร็จ  ชุดทั้งสี่ดูน่ากลัวมากในสายตาถังเทียน  เนื่องจากเขาเคยเห็นพยัคฆ์ฟ้ามาแล้ว มีความแตกต่างกันในเรื่องของระดับคุณภาพของทั้งสองอย่างใหญ่หลวง

“นี่เรียกว่า ‘ทหารระห่ำ’ หน้าของเซรีนเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย แต่นางอดทนแนะนำมันจนได้ ”ระบบทำงานของมันปกติมาก และสามารถเข้ากันได้ดีกับนักสู้ระดับสี่  เจ้าสามารถใส่การ์ดวิทยายุทธระดับสี่ได้สามใบในนั้นระบบการทำงานอื่นๆ พวกเขาจะรู้เมื่อพวกเขาได้ใช้งานมัน

ถังเทียนเก็บทหารระห่ำทั้งสี่ชุดไว้ในตู้อาวุธอควาเรียสของเขาเองจากนั้นกลับไปที่ตำหนักจิตวิญญาณพลังยุทธ

แต่ถึงจะดึกมากแล้วแต่ถังเทียนยืนยันจะให้ชุดทหารระห่ำทั้งสี่ชุดกับคนทั้งสี่คน

เมื่อเขากลับเข้าไปหลังประตูดวงดาว  หน้าของกรงเล็บภูตพรายดูน่ากลัวมาก

ถังเทียนแลบลิ้นและรีบไปฝึกต่อทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด