ตอนที่แล้วตอนที่ 8-16 แม่น้ำยูลาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8-18 เมืองเซียร์

ตอนที่ 8-17 แพร่พิษในสายลม


เมืองเรดแซนด์เป็นเมืองเล็กและมีพลเมืองเพียงสองสามหมื่นคนอาศัยอยู่

เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์ลงจากเรือ  พวกเขามุ่งหน้าตรงสู่เมืองเซียร์หัวเมืองปกครองระหว่างทางนั้นพวกเขาแวะเมืองเรดแซนด์เตรียมกินอาหารเช้าอย่างเร่งด่วน

ในห้องส่วนตัวชั้นสองของโรงแรม  เจนน์และคีนสองพี่น้องมีรอยยิ้มตื่นเต้นเต็มใบหน้า

“ฮะฮะ คืนนี้เราจะไปถึงเมืองเซียร์แล้วถึงตอนนี้เราจะมีปัญหาน้อยลง” คีนหัวเราะ

เจนน์พยักหน้าเช่นกัน  “เมื่อเราไปถึงเมืองเซียร์ท่านป้าของเราคงไม่เคลื่อนไหวต่อต้านเราอย่างเปิดเผยใช่ไหม?”

“เจนน์, คีน,หลายเรื่องไม่ง่ายอย่างที่พวกเจ้าคิด” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น “ทันทีที่เราถึงเมืองเซียร์ ความจริงจะมีอันตรายมากขึ้นป้าของพวกเจ้าดูเหมือนนางจะเป็นคนไร้ยางอายและน่ากลัวไม่ใช่หรือ?”

เมื่อสตรีตั้งใจเป็นเหมือนอสรพิษพวกนางสามารถทำเรื่องน่ากลัวได้

ระหว่างช่วงเวลาสามปีในเทือกเขาอสูรวิเศษลินลี่ย์เผชิญกับคนโหดร้ายอำมหิตมาทุกรูปแบบป้าของเจนน์สามารถทำให้คีนถูกฆ่าตายในเมืองเซียร์ในลักษณะที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับนางเลย

“จริงเหรอ?” ตอนนี้คีนชักกลัวขึ้นมาบ้าง  ที่สำคัญ เขาเป็นแค่เด็กอายุสิบสี่ปี

ลินลี่ย์หัวเราะ  “แต่ไม่ต้องกังวลมากไป เรายังไม่จำเป็นต้องเร่งเข้าเมืองเซียร์ในตอนบ่ายนี้  พักให้เต็มที่ในเมืองเรดแซนด์ก่อนพรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทาง”

“พรุ่งนี้เช้า?”เจนน์กับคีนมองหน้าลินลี่ย์ทั้งสองคน

“ถ้าข้าคาดเดาได้ถูก คนของป้าเจ้าคงไปเฝ้าอยู่ที่แม่น้ำอย่างมิต้องสงสัยและคงรู้แล้วว่าเราขึ้นฝั่งไปก่อน  พวกเขาน่าจะคาดการณ์ได้ว่าเราจะไปถึงเมืองเซียร์ยามราตรี  ดังนั้น... มีโอกาส 80-90%ที่พวกเขาจะไปดักรอเราอยู่ที่นั่นในคืนนี้”

ลินลี่ย์สามารถอนุมานแผนง่ายๆได้อย่างนั้น

ตราบเท่าที่ใครก็ตามคิดผ่านมุมมองของอีกฝ่ายเขาย่อมจูงจมูกพวกนั้นได้โดยง่าย

“พักเอาแรงกันเถอะ  พรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทาง”  ลินลี่ย์หัวเราะลั่น “ตอนนี้ไม่ต้องเร่งกินอาหารกลางวันให้หนำใจกันเถอะ”

เจนน์กับคีนยิ้มเต็มใบหน้า

….

แน่นอนว่าเนื่องจากลินลี่ย์คาดการณ์ได้ถูก  เภสัชกรโฮลเมอร์และกลุ่มของเขาตรงกลับไปที่เมืองเซียร์ คนของท่านหญิงเว็ดในเมืองเซียร์ก็ได้รับข้อมูลนี้เช่นกัน

บนกำแพงเมืองเซียร์

ท่านหญิงเว็ดเอนตัวพิงเชิงเทินจ้องมองนอกเมือง ด้านหลังนางมีพี่ชายสองคนของนางและโฮลเมอร์  ขณะที่ทหารประจำเมืองแยกย้ายกันไปตามคำสั่งนาง

“ท่านโฮลเมอร์,ข้าคงต้องรบกวนให้ท่านรออยู่ที่นี่สักคืน” ท่านหญิงเว็ดหันหน้ามายิ้มให้โฮลเมอร์

เภสัชกรโฮลเมอร์รู้ขีดจำกัดของตนเองดี

โดยตัวเองแล้วเขาไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งทรงพลัง อาวุธที่ทรงพลังที่เขาสามารถใช้ได้ก็คือพิษโดยธรรมดาแล้วเขาคงไม่ต้องการทำร้ายคนร้ายกาจที่อยู่ต่อหน้าเขานางคือผู้กุมอำนาจแท้จริงในเมืองเซียร์

“ท่านหญิงเว็ดไม่ต้องเป็นห่วงสองพี่น้องนั่นจะต้องไม่รอดชีวิตมาถึงเมืองเซียร์แน่นอน”

โฮลเมอร์มั่นใจมาก  “ต่อให้พวกเขามีนักสู้ระดับเก้าอยู่ด้วยก็ตามฮึ่ม.. ตราบใดที่เขายังไม่ถึงระดับเซียนข้ามั่นใจความสามารถของตนเองว่ารับมือเขาได้ แต่แน่นอน.. เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าข้าคือใคร”

ถ้านักสู้ระดับเก้ารู้จักเขาและใช้ปราณยุทธของเขาแค่ปราณยุทธอย่างเดียวก็สามารถขับพิษออกมาได้อย่างง่ายดาย

“ท่านโฮลเมอร์ ตลอดหลายปีมานี้ท่านพักอาศัยอยู่ในเมืองเซียร์แห่งนี้ ท่านไม่ใช่คนที่ชอบปรากฏตัวทั่วไป  จะมีสักกี่คนที่เคยเห็นท่าน? นอกจากนี้ข้ายังได้ยินว่าท่านโฮลเมอร์มีความสามารถในการปลอมตัวได้ใช่ไหม?”  ท่านหญิงเว็ดหัวเราะพลางจ้องดูโฮลเมอร์

โฮลเมอร์หัวเราะอย่างมีความสุขพลางลูบเคราและกล่าว “ฮ่าฮ่า ท่านหญิงเว็ด ปลอมตัวน่ะหรือ?ท่านยกย่องข้ามากเกินไปแล้ว ทั้งหมดที่ข้าใช้ ก็แค่ยาบางชนิดที่ปรุงขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนสีผิวและผมของข้าและจากนั้นก็แต่งหน้าแต่งตัวเล็กน้อย  แม้แต่คนที่รู้จักข้าตราบใดที่พวกเขาไม่พินิจพิเคราะห์ข้าอย่างละเอียด ก็ไม่มีทางจำข้าได้”

ท่านหญิงเว็ดยิ้มและพยักหน้า  “อย่างนั้นข้าขอมอบให้ท่านจัดการทุกอย่าง  ท่านโฮลเมอร์ คืนนี้ข้าจะพักค้างในโรงแรมใกล้ๆแถวนี้และรอฟังข่าวดีจากท่าน”

โฮลเมอร์หัวเราะอย่างมั่นใจ

….

แต่เมื่อถึงเวลาท่านหญิงเว็ดซึ่งอยู่ในโรงแรมที่ใกล้กำแพงเมืองที่สุดก็เริ่มสับสนมากขึ้น เพราะในไม่ช้าประตูเมืองจะปิดในยามราตรีอยู่แล้ว

ตามกฎของเมืองเซียร์ก็คือเวลาสิบนาฬิกายามราตรีประตูเมืองจะถูกปิด

แต่กลุ่มของเจนน์และคีนกำลังมา  เกี่ยวกับข้อมูลที่ท่านหญิงเว็ดได้รับกลุ่มของเจนน์มาถึงเมืองเรดแซนด์ตอนเวลาอาหารกลางวันแม้ว่าพวกเขาจะเดินทางกันช้าตอนนี้ก็สมควรมาถึงกันแล้ว

เวลาสิบนาฬิกา

ประตูเมืองส่วนใหญ่เริ่มปิดช้าๆขณะที่ทหารรักษาเมืองจำนวนมากเริ่มดันปิดประตูเมือง เภสัชกรโฮลเมอร์เตรียมการต่อสู้ครั้งนี้มาอย่างพิถีพิถัน เขาลงมาจากกำแพงเมืองพร้อมกับอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเต็มที่  ท่านหญิงเว็ดเดินออกมาจากโรงแรม

“ท่านหญิงเว็ด นี่มันอะไรกัน?”  ตอนนี้โฮลเมอร์หงุดหงิดจริงๆ

หลังจากได้รับข่าวเขายกโขยงเดินทางจากท่าเรือมาที่กำแพงเมืองการขับขี่เดินทางผ่านทางขรุขระสร้างความทรมานให้กับโฮลเมอร์ชายชราอายุ 300 ปี

และจากนั้นเขายังต้องมายืนแกร่วรออยู่ที่กำแพงเมืองถึงครึ่งคืนถูกลมหนาวเหน็บโกรกใส่ตลอดเวลา

และในตอนนี้ประตูเมืองกำลังปิด  แต่ไม่มีใครมาสักคน

“ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มคนพวกนั้น ข้าเกรงว่าพวกเขาอาจจะพักอยู่ที่เมืองเรดแซนด์ก็ได้  ท่านโฮลเมอร์ทำไมท่านไม่พักอยู่ที่โรงแรมนี้ในคืนนี้เล่า? มาดูกันว่าพรุ่งนี้จะได้อะไรอีก”  ท่านหญิงเว็ดก็อารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน

“นั่นเป็นทางเลือกเดียวของเราในตอนนี้”โฮลเมอร์ไม่พอใจอย่างมาก

….

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นพอประตูเมืองเปิด โฮลเมอร์ก็เริ่มไปรอการมาถึงของพวกเขาเงียบๆเวลาเก้านาฬิกาตอนเช้า โฮลเมอร์โกรธหงุดหงิดจริงๆ

โฮลเมอร์วิ่งลงมาจากกำแพงเมืองและดิ่งตรงไปที่ชั้นสองของโรงแรม

“ท่านหญิงเว็ด, ถ้าพวกมันไม่มาหาเรา ข้าก็จะไปหาพวกมันเอง” โฮลเมอร์พูดตรงๆ “ขอคนให้ข้าจำนวนหนึ่งต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่รู้จักสองพี่น้องนั่น”

ท่านหญิงเว็ดยอมตามแนวความคิดนั้น  “ก็ได้ อย่างนั้นข้าคงต้องรบกวนท่านแล้วท่านโฮลเมอร์คงต้องเดินทางในครั้งนี้”

“ครั้งนี้ข้าจะต้องให้คนพวกนี้ได้ลิ้มรสพลังของข้าจริงๆบ้าง”  โฮลเมอร์พูดเบาๆตาของเขาเต็มไปด้วยแววอำมหิต

หลังจากซื้อรถม้าในเมืองเรดแซนด์เจนน์กับคีนเข้าไปนั่งในรถโดยมีแลมเบิร์ตบ่าวชราเป็นสารถี ส่วนลินลี่ย์เขาขึ้นขี่หลังเสือดำเมฆาแฮรุ

แฮรุมีขนาดตัวสูงมากกว่าสองเมตรและมีหลังบึกบึน  ขนของมันนุ่มสลวยเงางาม

เมื่อได้ขับขี่อยู่บนหลังเสือดำเมฆาลินลี่ย์ไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกกระทั้นตามถนนเลยยิ่งขี่ไกลก็ยิ่งรู้สึกว่าสะดวกสบายมากกว่าขี่ม้าหรือรถม้านักที่ยิ่งกว่านั้นก็คือเสือดำเมฆาวิ่งอยู่บนภูเขาได้ง่ายพอๆ กับวิ่งอยู่ในทุ่งหญ้า

“พี่ลีย์ ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้ว?”  คีนโผล่หัวออกมานอกรถและถามลินลี่ย์

ลินลี่ย์ชำเลืองมองเขา  “อย่าใจร้อน เพิ่งจะสิบนาฬิกาเองเราจะถึงเมืองเซียร์ในเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา”

เสือดำเมฆาที่ลินลี่ย์กำลังขับขี่นั้นมีความสง่างามน่าเกรงขาม ทุกคนที่มองเห็นลินลี่ย์พากันหลีกทางให้ก่อนเปิดทางให้ลินลี่ย์

“ไฮ่ย่า, ไฮ่ย่าห์!”

ในที่ไกลออกไป ได้ยินเสียงกีบเท้าม้าชัดเจน  ในไม่ช้าก็มองเห็นอัศวินขี่ม้าสามคนจากระยะไกล  แต่ทันทีเมื่อพวกเขาเห็นลินลี่ย์  ทั้งสามคนต่างหวาดกลัวและหยุดชะงักกันหมด

“เสือดำตัวใหญ่เหลือเกิน” หนึ่งในอัศวินถอนหายใจจ้องมองดูเสือดำที่ลินลี่ย์กำลังขับขี่

“หยุดจ้องได้แล้ว  ไปกันเถอะ” อัศวินอีกคนหนึ่งกล่าว

ในเวลานั้นเองมีม้าแกลบอีกตัวหนึ่งวิ่งเหยาะๆ ผ่านมาทางพวกเขาคนที่ขับขี่ม้าแกลบตัวนี้คือชายที่ดูแก่หง่อมหลังโกงผมขาวโพลนความเร็วของม้าที่ชายชราขี่นั้นค่อนข้างช้า และมันวิ่งเหยาะไปข้างหน้า

“ฮ่าฮ่า ดูเขาสิ แก่หง่อมเชียวแต่ยังอุตส่าห์ขี่ม้า ฮ่าฮ่า...” หนึ่งในอัศวินหัวเราะลั่น

“ไปเถอะ เรามีธุระต้องไปจัดการ”

อัศวินทั้งสามคนหัวเราะอย่างใจเย็นและเดินทางต่อ เวลานี้ชายชราหลังโกงนั้นเงยหน้ามองกลุ่มของลินลี่ย์  ชายชราหลังโกงผู้นี้ก็เข้าใจได้ทันที

ตามแผนที่พวกเขาได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า  ถ้าพวกเขาเผชิญพบกับเป้าหมาย อัศวินจะพูดว่า “ฮ่าฮ่า,ดูเขาสิ แก่หง่อมขนาดนั้น แต่ยังอุตส่าห์ขี่ม้าอีก”  นอกจากนี้โฮลเมอร์ยังรู้ว่ายอดฝีมือลึกลับนั้นมีเสือดำเป็นสัตว์เลี้ยง

….

“อัศวินทั้งสามพวกนี้ไม่มีความกล้าหาญสมเป็นอัศวินเอาเสียเลย”  คีนที่มองเห็นเหตุการณ์ทางหน้าต่างทั้งหมดพูดอย่างไม่สบายใจเมื่ออัศวินทั้งสามจากไป

แต่ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะจ้องมองชายชราหลังโกง

ชายชราหลังโกงขี่ม้าในลักษณะที่ดูน่าห่วงจริงๆจากที่มองเห็น ใครๆ ก็บอกได้ว่าเขาแก่มากแล้ว แม้ว่าม้าจะไม่ได้เคลื่อนที่เร็วนัก แต่ชายชราหลังโกงก็ยังโงนเงนอยู่บนหลังม้าเหมือนกับว่าจะร่วงลงมาได้ทุกเมื่อ ขาของเขาดูเหมือนจะยึดไม่มั่นคงขณะอยู่บนหลังม้า

ตอนนี้เองรถม้าคันหนึ่งปรากฏอยู่ด้านหลังชายชราหลังโกงพอดี

“โธ่เอ๊ย, ไอ้แก่” หนึ่งในอัศวินสบถด่าดังลั่นชายชราหลังโกงหันเหม้าของเขาทันทีหลบหลีกไปที่ข้างถนน

“อ๊า..”

เมื่อม้าอยู่ห่างจากกลุ่มของลินลี่ย์ราวๆสิบเมตร ชายชราก็ตัวโงนเงนอีกครั้งและร่วงจากหลังม้า

“ปู่คนนั้นร่วงแล้ว”คีนเห็นเหตุการณ์นี้จากทางหน้าต่าง จึงผลักเปิดประตูเตรียมออกมาช่วย

แต่ขณะที่ชายชราร่วงลงกลุ่มแก๊สสีฟ้าไหลออกมาจากร่างของเขา แก๊สสีฟ้าอ่อนนั้นบางและเบามากจนถ้าใครบางคนไม่ตั้งใจมองก็ยากจะพบเห็นได้

ลมพัดมาจากทิศตะวันออกและพัดพาแก๊สเข้าหาลินลี่ย์โดยตรง  แต่แน่นอน คนแรกที่ได้รับผลกระทบจากแก๊สพิษก็คือคนในรถที่เพิ่งขับขี่ผ่านไป

“โครม”

อัศวินคนหนึ่งร่วงตกจากม้าลงมาบนพื้นเลือดฉีดพุ่งออกทางจมูก

“หืม?”ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติบางอย่างในร่างกายเขา และเขารู้สึกมึนศีรษะ

“แย่แล้ว พิษ”ลินลี่ย์ปรับตัวตามทิศทางลมก็สามารถรู้สึกได้ว่าแก๊สพิษสีฟ้าอ่อนกำลังแพร่มาทางตำแหน่งเขาตอนนี้ลินลี่ย์สูดหายใจรับพิษไปสองอึดใจแล้ว

ปราณยุทธเลือดมังกรในร่างกายลินลี่ย์ถูกกระตุ้นขึ้นทันทีและดูดซับแก๊สพิษในร่างลินลี่ย์ ไม่มีพิษอะไรทำอันตรายเขาได้แม้แต่น้อย

แก๊สพิษนี้คือพิษที่โฮลเมอร์ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับมนุษย์และกายพื้นฐานของมนุษย์

แต่โฮลเมอร์ไม่เคยคาดคิดเลยว่าลินลี่ย์จะมีความแตกต่างออกไปอย่างมาก สภาพร่างกายของลินลี่ย์ต้องบอกว่าแตกต่างจากคนธรรมดาภายในสายเลือดของเขาคือสายเลือดนักรบเลือดมังกร และสายเลือดบรรพบุรุษซึ่งได้รับการยกย่องว่าสูงส่งกว่าสายเลือดของอสูรเวท และในอดีตแม้แต่แก่นเวทของมังกรเกราะหนามที่ลินลี่ย์กลืนกินและดื่มเลือดมังกรไปในปริมาณน้อยก็ยังมีอยู่ในเลือดของลินลี่ย์ในเวลานั้น

คนธรรมดาไม่สามารถนึกภาพหรือเข้าใจความสามารถและคุณลักษณะพิเศษของสี่สุดยอดนักรบในตำนานได้

แก๊สพิษชนิดนี้ไม่สามารถทำร้ายนักรบเลือดมังกรได้แม้แต่น้อย

“สายลม”

ด้วยความเชี่ยวชาญในธาตุลมเนื่องจากเขาเป็นจอมเวทสายธาตุลมลินลี่ย์ควบคุมอากาศรอบตัวเขาบังคับให้ลมหวนทันที แก๊สพิษถูกพัดกลับไปทางทิศตะวันออก ตอนนี้หน่วยอัศวินที่อยู่ระหว่างโฮลเมอร์ชายชราหลังค่อมและลินลี่ย์ตายกันทั้งหมด

แก๊สพิษพัดกลับไปหาโฮลเมอร์  แต่เขาไม่หลบ เขาไม่กลัวพิษของตนเอง  แต่สิ่งที่ทำให้เขากลัวก็คือ ลินลี่ย์

“ไฮ่ย่าห์ ไฮ่ย่าห์”โฮลเมอร์กลับกลายเป็นคนคล่องแคล่วทันทีกระโจนขึ้นบนหลังม้าและควบม้าไปทางทิศตะวันออกอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

“แฮรุ” ลินลี่ย์พูดเสียงเย็นชา

“ควับ”

ความเร็วของเสือดำเมฆามีระดับที่น่ากลัว  ไวกว่าม้าแกลบธรรมดาหลายเท่า

ในพริบตามันพุ่งไปได้หลายร้อยเมตรและแซงโฮลเมอร์ไปดักอยู่ด้านหน้าของเขา ทั้งหมดที่เห็นได้ระหว่างที่มันเคลื่อนไหวก็คือภาพเงาร่างเลือนรางสีดำ

เมื่อเห็นลินลี่ย์ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาทันที  โฮลเมอร์ยิ่งตื่นตระหนกทันที

“สหาย,ข้าจะชดใช้ให้สำหรับการกระทำครั้งนี้ ถ้าเจ้ายินดีจะไว้ชีวิตข้า ข้าจะให้ทองเท่าที่เจ้าต้องการ” แม้ว่าโฮลเมอร์จะมีอายุถึงสามร้อยปี แต่เขายังไม่อยากตาย

เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นลินลี่ย์ยังคงรู้สึกกลัวอยู่

โชคดีที่เขาตั้งตัวได้ทันเวลาและเป่าแก๊สพิษกลับไปก่อนที่มันจะเข้าไปในรถโดยสาร

“แก๊สพิษ? เจ้าเป็นพ่อมดหรือ?”ลินลี่ย์มองดูโฮลเมอร์

“พ่อมด?” โฮลเมอร์สะดุ้ง จากนั้นสั่นศีรษะ “ไม่,ข้าเป็นเภสัชกร สหาย ข้าร่ำรวยมาก หมื่นเหรียญทองเป็นยังไง?  สองหมื่นเหรียญทอง? หรือว่า แสนเหรียญทองก็ได้?”  ในเวลาอย่างนี้ โฮลเมอร์ยังพยายามประหยัดเงิน

แต่ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจคำพูดของเขา

“แฮรุ จัดการมัน”

ลินลี่ย์กระโดดลงจากหลังเสือดำหันหน้ากลับไปยังรถม้า   ขณะที่เสือดำเมฆาแยกเขี้ยวและกระโจนเข้าใส่โฮลเมอร์

“อ๊า! ล้านหนึ่ง! สิบล้าน! อ๊า!!!”ก่อนที่โฮลเมอร์จะร้องออกมา เขาถูกอุ้งเท้ายักษ์ของเสือดำเมฆาตบบี้แบนในครั้งเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด