ตอนที่แล้วตอนที่ 186 ทำนองสังหารที่สอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 188 ราชันย์ถวิลรัก

ตอนที่ 187 สำเนียงเฉื่อยชา


ถังเทียนโต้เถียงทันทีและชี้ไปที่คุณชายขลุ่ยวิเศษและคำรามด้วยโทสะ “เจ้าคิดว่าข้าจะมึนชาและคิดประมาทด้วยเรื่องแค่นั้นหรือ?  ขอบอกอะไรสักอย่าง  เล่ห์กลเหล่านั้นใช้อะไรกับข้าไม่ได้  ข้าจะไม่ตกลงไปในกับดักของเจ้าแน่”

“พูดดี!” ลุงปิงเห็นด้วยเสียงดังก้องอยู่ในหัวใจของถังเทียนและเกือบปรบมือให้เขาแล้ว

“ฮ่าฮ่า!” ขลุ่ยวิเศษหัวเราะ  เขาไม่ได้โกรธและยังจับตามองถังเทียนด้วยความสนใจมากขึ้น “คุณสมบัติของเจ้าดูเหมือนจะธรรมดา ถ้าตัดสินจากการดูเพียงอย่างเดียว”

“เฮ่ย..มันบอกว่าเอ็งโง่ว่ะ”  ลุงปิงพยายามปลุกปั่น

“เงียบไปเลย!”  ถังเทียนตะโกนใส่ปิง

ลุงปิงขยับหน้าเหมือนไพ่ของเขาด้วยท่าทางเหมือนไร้เดียงสา

ถังเทียนมองดูขลุ่ยวิเศษ  ดูถูกมากเกินไป  เขากล้าบอกว่าเขาโง่หรือ....

ขลุ่ยวิเศษไม่ได้รู้สึกถึงความคิดของถังเทียนเลยแม้แต่น้อยยังคงถอนหายใจ “พรสวรรค์อย่างนั้นฝึกจนถึงขั้นนี้ได้  หาได้ยากจริงๆ”

ยังจะบอกว่าข้าโง่อีกหรือ....

ถังเทียนจ้องมองด้วยความโกรธ  นัยน์ตาแทบมีเปลวไฟพวยพุ่ง

“แน่นอน!  เขาเป็นแบบนี้ได้ไงมักจะเผยจุดอ่อนให้คนอื่นเสมอ!”  ปิงประสมโรงด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ไสหัวไปเลย” ถังเทียนด่าปิงในใจ

“แต่นี่ทำให้มันน่าสนใจขึ้น”ขลุ่ยวิเศษหัวเราะเบาๆ ตาของเขาลึกและดูน่ารัก “หลังจากผ่านมาหลายปี ถ้าผู้สืบทอดเป็นคนน่าสนใจ ก็ยังดีกว่าไม่น่าสนใจอยู่มาก”

น่าสนใจ....นั่นความจริงเป็นการบอกอ้อมๆว่าข้าโง่

ถังเทียนกัดฟันแน่น

※※※※

“ทำไมอาจารย์มีสีหน้าอย่างนั้นล่ะ?”  องค์หญิงน้อยไม่เข้าใจเธอพูดขึ้นด้วยความสงสัยจริงๆ “ข้าว่าขลุ่ยวิเศษเป็นคนดีจริงๆ เขาฝึกมารยาทมาดีและไม่ได้หยิ่งหรือจองหองอะไรเลย เป็นแบบอย่างที่ดีจริงๆ”

“อาใช่แล้ว, ข้าก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน!” ชิงหลวนดูเหมือนสะดุ้งตื่นตัวเช่นกัน”

หลิงซิ่วแค่น“พวกผู้หญิงจะรู้เรื่องอะไรของบุรุษ”

ควั่บ!

สายตาสามคู่คมเหมือนมีดกรีดเหมือนกับจะแทงร่างหลิงซิ่วเป็นรู

กู้เสวี่ยจ้องหลิงซิ่วและพูดแก้ต่างให้ถังเทียน “อาเทียนต้องสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายอาจไม่มีเจตนาดีก็ได้”

“เขาต้องอิจฉาเรื่องหน้าตาที่ดูดีของอีกฝ่ายก็ได้”  นัยน์ตาของเด็กหญิงเป็นประกายระยิบระยับ  “ขลุ่ยวิเศษหน้าตาหล่อเหลาขนาดนั้น!  จะดีแค่ไหนถ้าเขายังมีชีวิตอยู่  ข้าคงขอให้เขาเป็นอาจารย์ของข้าแน่ๆ”

“ใช่แล้วคุณหนูพูดถูก” ชิงหลวนก็นัยน์ตาเป็นประกายเช่นกัน “เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นบุรุษที่เข้มแข็งขนาดนี้”

คนอื่นๆ ไม่อาจกวนใจกับสองคนนี้

※※※※

“เจ้าพร้อมหรือยัง?”  หน้าของขลุ่ยวิเศษกลับมาจริงจังอีกครา “แม้ว่าข้าจะรู้สึกว่าเจ้าเป็นผู้มีคุณสมบัติไม่เลว,แต่เจ้าต้องผ่านการทดสอบก่อน ถึงจะมีโอกาสได้รับเอาไว้”

“มาเลย!เจ้ามีอะไรก็ใส่มาให้หมด!” ถังเทียนเทียนถลึงตามองอย่างขุ่นเคือง

สายเกินไปแล้วสำหรับสิ่งงดงามทั้งหมด  หลังจากที่เจ้าด่าข้าเป็นเจ้าโง่ซ้ำซาก!

ขลุ่ยวิเศษค่อยยกขลุ่ยบรอนซ์ของเขาจ่อกับริมฝีปากนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเหมือนกับโลกค่อยๆ ปิดลงช้าๆ ขนตายาวงอนพลิ้วอยู่ในสายลม ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้เปล่งประกายเคร่งขรึมอยู่ในบรรยากาศ

“โปรดฟังสำเนียงเฉื่อยชาให้ดี”

เสียงที่ฟังแล้วชุ่มชื่นล่องลอยอยู่ในสายลม  เสียงขลุ่ยแผ่วพริ้วเหมือนสายน้ำไหล

สภาพรอบๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไปหมด เป็นความสบายจนสุดจะพรรณนา รังสีฆ่าฟันและความโกรธของถังเทียนคลายไปโดยไม่รู้ตัว

เสียงไพเราะดีจริงๆ

ถังเทียนจ้องมองด้วยนัยน์เบิกกว้าง  เขาไม่เข้าใจดนตรี  แต่เสียงขลุ่ยนี้ดูเหมือนเป่าเข้าถึงจิตใจของเขาดึงเอาความทรงจำภายในออกมาโดยไม่รู้ตัว

※※※※

“เมื่อไหร่จะจบ?”

ในราตรีมืดมิด บนภูเขา เด็กชายคนหนึ่งกำลังลูบคลำป้ายบรอนซ์และบ่นรำพันกับตัวเอง

หลังจากใช้เวลาไปนานมาก แล้วจะคุ้มค่ากันไหม? ถ้าเขาใช้เวลาในหนึ่งปีนี้เพื่อเรียนรู้วิทยายุทธเหมือนกับคนอื่นทั่วไป  เขาอาจได้ผลเรียนที่ดีก็ได้....

ความลังเลใจและความไม่แน่ใจปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาชัดเจน

เด็กหนุ่มกางแขนฟุบหน้านอนลงด้วยความรู้สึกจิตตก

“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป  ข้าคงห่างจากเชียนฮุ่ยไปทุกทีๆ....”

“ทุกอย่างจะจบลงสูญสลายเป็นหมอกควันกระนั้นหรือ?”

“หลังจากฝึกฝนมาหนึ่งปีเต็ม  ยังไม่มีความก้าวหน้าอะไรมาก  ป้ายบรอนซ์นี้คงจะไม่หลอกเราเป็นแน่....”

“เราควรจะอดทนต่อไปดีไหม?”

“ถ้าปีต่อมายังไม่มีผลตอบสนอง เราควรจะยกเลิกดีไหม?”

….

ถังเทียนเป็นเหมือนผู้ชมมองดูเด็กที่หดหู่กดดัน  เขากังวลใจต้องการจะตะโกนบอกเขาในตอนนี้ ว่าเขาจะต้องอดทนต่อไป!

แต่ไม่ว่าเขาจะอ้าปากยังไงก็ตาม  ก็ไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมา

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขาได้อดทนพยายามแล้วก็ตาม  แต่เด็กที่มีอารมณ์ร่วมกับเขานอนทอดตัวอยู่บนเนินเขาตอนนี้ทำให้เขารู้สึกเกี่ยวโยงกันอย่างแข็งแกร่ง ความมืด ความหมดหวังในสายตา ความหดหู่กำลังใจตกต่ำมองไม่เห็นอนาคต  อารมณ์แบบนี้สำหรับเด็กอายุ 12-13ปีหนักหน่วงจนแทบหายใจไม่ออก

อนาคตจะอยู่ตรงไหน?  ไม่มีใครรู้

มีอยู่เพียงเบาะแสเดียวอยู่ในมือของเขา เขาไม่รู้ว่าจะมีเบาะแสเงื่อนงำอื่นใดหลังจากนี้ไป

เขายังต้องทุ่มเทเวลา และทุ่มเสี่ยงอนาคตของเขา

ต่อให้ถังเทียนในเวลานี้เมื่อเผชิญกับทางเลือกดังกล่าวเผชิญกับอารมณ์เช่นนั้น  เขาก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดี

อดทนอยู่อย่างนั้น! หนุ่มน้อย!

เขาลืมไปว่านี่คือความทรงจำของเขา  เขาลืมอดีตที่เกิดขึ้น เขามองดูเด็กชายที่กำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าจ้องมองดวงดาวในท้องฟ้า

เขาเห็นเด็กคนนั้นเช็ดน้ำตาอย่างช่วยไม่ได้

เขาเห็นเด็กชายเหนื่อยจากการร้องไห้ ร้องเรียกเพ้อหามารดาของเขาในความฝัน

เขาเห็นเด็กชายขดตัวกลมเหมือนลูกบอลในสนามหญ้า

ถังเทียนมองดูภาพทั้งหมดเหล่านี้  มองดูเขาในเวลานั้น และตะโกนเงียบๆ ในใจเจ้าหนู, อดทนอย่างนั้นต่อไป! ไม่ว่ายังไงก็ตาม เจ้าต้องไม่ยอมแพ้

เวลาผ่านไปช้าๆ  ดวงดาวลับฟ้าไปแล้วและดวงตะวันเริ่มฉายแสง  แสงอาทิตย์ที่ร้อนแรงผุดขึ้นจากขอบฟ้าย้อมโลกเป็นสีแดงเพลิง

แสงอาทิตย์ฉายต้องใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเด็กชายใบหน้าที่สงบ มีความรู้สึกอบอุ่นอย่างหนึ่งขึ้นมา

เด็กชายรู้สึกได้ถึงแสงอาทิตย์และลืมตาอย่างยากลำบาก  จากนั้นเขาเห็นไข่แดงใบใหญ่ลอยอยู่ในท้องฟ้า  โลกถูกย้อมด้วยสีส้มอบอุ่น

เด็กน้อย! นี่เป็นวันใหม่แล้ว, กระตือรือร้นหน่อย! ถังเทียนพึมพำในใจเขาเงียบๆ

ควั่บ!

ทันใดนั้น เด็กชายลุกขึ้นกระโดด  หันหน้าหาดวงอาทิตย์และกางแขนของเขา

“ฮ่าอ่าฮ่า! วันใหม่อีกแล้ว!”

“เรื่องที่น่าอายอย่างนั้นทิ้งไปให้หมด  มันเป็นความคิดของข้าได้ยังไง?”

“ถังเทียน!  เจ้าคือลูกผู้ชายตัวจริง!  ไอ้เด็กพวกนั้น, เจ้าไม่ต้องไปใส่ใจพวกมัน”

“เชียนฮุ่ยรักลูกผู้ชายตัวจริง!”

“ว้าว!  ลูกผู้ชายตัวจริง, สู้ต่อไป!”

เด็กชายตะโกนสุดเสียงสุดกำลังของเขา  เขายังคงกลัว กลัวว่าเสียงของเขาจะเบาเกินไป แล้วเขาจะไม่ได้ยิน  กลัวว่าเสียงของเขาอ่อนแอเกินไปแล้วเขาจะไม่เกิดความเชื่อมั่น

เขาตะโกนออกมาดังๆ  และเสียงนั้นดังออกไปไกลมากพร้อมกับมีดวงตะวันเป็นพยาน

ถังเทียนตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัวทันที ไม่มีอะไรดีกว่าการได้เห็นตนเองขยันหมั่นเพียรในตอนนั้นและเขาเข้าใจความละเอียดอ่อนในตอนเริ่มต้นนั้นทันที

เขาผ่านถนนมาหลายสาย พบคนมามากมายได้ทำอะไรหลายอย่าง แต่เสียงก้องสะท้อนกลับมาภายในของเขา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

คู...

เสียงดังต่อเนื่อง ทำลายความนึกคิดของถังเทียน

เด็กชายนอนอยู่บนพื้นลาดกำลังกอดท้อง  ท้องของเขาเสียงดังราวกับฟ้าร้อง  ความรู้สึกเร่าร้อนตอนนี้หมดไปแล้ว  แขนขาของเขาอ่อนแรง  เขาคลานลงเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวด “หิวจริงๆ,  ข้าลืมไปว่ายังไม่ได้กินอะไร, ปล่อยตัวเองมากไปหน่อย....”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”ถังเทียนอดระเบิดเสียงหัวเราะไม่ได้

ท่ามกลางเสียงหัวเราะลั่น  ภาพที่อยู่ต่อหน้าเขา ค่อยกลับคืนสู่ปกติ

สีหน้าของขลุ่ยวิเศษที่อยู่ต่อหน้าเขาดูแปลกประหลาดมาก ดวงตาคู่สีฟ้ามองดูเขาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด

ถังเทียนที่กำลังหัวเราะอยู่ จู่ๆก็มองดูสีหน้าและสายตาประหลาดใจของขลุ่ยวิเศษ เขาชะงักเสียงหัวเราะทันทีด้วยความไม่พอใจ เขาถาม “เฮ้, เกิดอะไรขึ้นกับหน้าของเจ้า?”

“ดูเหมือนข้าจำเป็นต้องทำความรู้จักเจ้าอีกครั้ง”  เสียงของขลุ่ยวิเศษอบอุ่นและไพเราะ

“รู้จัก?”ถังเทียนโบกมือ และพูดยืนยัน  “รีบๆจบเพลงเฉื่อยชาของเจ้าแล้วยกสมบัติให้ข้าได้แล้ว!  ใครจะไปเหลือพลังให้เจ้าได้ทำความรู้จักอีกเล่า”

ขณะเดียวกัน เบื้องหลังประตูแสง  ปิงพูดกับกรงเล็บภูตพรายด้วยท่าทียินดี “โชคดี,โชคดีจริงๆ เพลงขลุ่ยของเจ้าผู้นี้แปลกจริงๆ เขาเกือบจะทำเรื่องลำบากเสียแล้ว  โชคดีที่ถังเทียนน้อยเฉื่อยชาลง”

กรงเล็บภูตพรายไม่พูด  นัยน์ตาเขาฉายประกายรำลึก

ขลุ่ยวิเศษไม่ถือสา และหัวเราะเบาๆกล่าวอย่างเป็นกันเอง “เจ้าเป็นคนที่สามที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงขลุ่ยดูเหมือนว่าข้าจะดูแคลนเจ้าไปหน่อยแล้ว ข้าขอโทษจริงๆ”

ขลุ่ยวิเศษถือขลุ่ยและคำนับขออภัย

ถังเทียนพอใจทันทีแต่ยังเท้าสะเอวหัวเราะอย่างถือดี “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าบอกไว้ก่อนแล้วเจ้าจะต้องตายอย่างสยดสยองหากดูหมิ่นข้า! ตอนนี้เจ้าก็รู้จักพลังของข้าแล้ว! แต่เนื่องจากเจ้ารู้สำนึกตัวเองได้ทันข้าจะยกโทษให้และไม่ถือสาเอาความกับเจ้า”

ทันใดนั้นเขาตื่นตัวทันที “เฮ้,เจ้าพยายามหลอกลวงหว่านล้อมข้าด้วยคำพูดเหล่านี้ แล้วไม่ยอมยกสมบัติให้ข้าใช่ไหม?”

ขลุ่ยวิเศษยิ้มเล็กน้อย  เขาโบกแขนเสื้อเบาๆหีบเหล็กบนพื้นก็ลอยเข้าหาถังเทียน

ถังเทียนรับหีบเหล็กไว้ด้วยสีหน้าตื่นตัว  แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ภารกิจของข้าสำเร็จแล้ว” ขลุ่ยวิเศษถือขลุ่ยและกล่าวคำอำลาด้วยน้ำเสียงดีใจ  “เมื่อของตกถึงมือเจ้า  ข้าก็มีความสุขมากแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถใช้มันได้เป็นอย่างดี  ขอให้มิตรภาพของเรายั่งยืนนานจนกว่าจะได้พบกันครั้งต่อไป.....”

“เดี๋ยวก่อน!”

ทันใดนั้น มีเสียงพูดตัดบทขึ้นมา  ร่างของปิงปรากฏอยู่ข้างตัวถังเทียน

ร่างของขลุ่ยวิเศษสั่น  ลักษณะที่สง่างามของเขาหายไปทันที  “ขะ..ขะ ขุนพลวิญญาณ!”

“แม่นแล้ว!” ปิงยื่นหน้าที่เหมือนไพ่ของเขาออกมาและพูดอย่างแฝงความหมาย“ข้าก็เหมือนกับเจ้านั่นแหละ”

“เป็นไปไม่ได้...”  ขลุ่ยวิเศษพึมพำกับตัวเอง

“อะไรเป็นไปไม่ได้?”  ปิงผายมือของเขา  ทำหน้าเหมือนนักเลง  “ข้าก็ยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าแล้วไง,เขา...สามารถทำให้เราคงอยู่ได้ตลอดไป”

“เป็นไปไม่ได้....”  ขลุ่ยเวทยังคงไม่เชื่อเต็มที่

เขาเพียงแต่รอดอยู่ได้เป็นเวลานานในฐานะที่เป็นขุนพลวิญญาณ และเนื่องจากเขาเป็นวิญญาณปกป้องสมบัติ แต่เขาเสียชีวิตมาหลายปีแล้วและตอนนี้วิญญาณเฝ้าสมบัติได้ส่งมอบสมบัติให้ถังเทียนแล้ว  วิญญาณคุ้มกันสมบัติสูญเสียสิ่งที่เขาป้องกันก็จะสูญสลายไปในไม่ช้า

นี่คือผลที่ตัดสินไว้นานแล้ว

“มากับข้าแล้วเจ้าจะรู้เอง”  ปิงพูดด้วยสีหน้าจริงจังมีเพียงถังเทียนที่เข้าใจ เจ้าผู้นี้ต้องวางแผนอะไรบางอย่างไว้แน่ๆ

เมื่อขลุ่ยวิเศษผ่านเข้าประตูดาวกางเขนใต้  เขาจะถูกตรึงเอาไว้

กองทัพดาวกางเขนใต้คำที่แฝงความหมายรุ่งเรืองจะมีความหมายพอรั้งขลุ่ยวิเศษผู้มีนัยน์สีฟ้าลึกซึ้งและมีเสน่ห์ได้หรือไม่

ปิงพอใจและชูสองนิ้วมาทีถังเทียน ความหมายว่าลงตัวเรียบร้อยแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด