ตอนที่แล้วตอนที่ 181 กระบี่มาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 186 ทำนองสังหารที่สอง

ตอนที่ 185 คุณชายขลุ่ยวิเศษ


พวกเขาคุ้นเคยกับถังเทียนที่ขี้เล่นและไร้เดียงสาเมื่อเห็นถังเทียนแสดงความเด็ดขาดอย่างนั้นทุกคนตะลึงทันที

มีแต่หลิงซิ่วที่กัดฟันกรอดและโกรธยิ่งขึ้น  “บัดซบเอ๊ย!รอให้ข้าฟื้นคืนพลังเสียก่อน  เจ้าตายแน่!”

ชิงหลวนต้องการพูดบางอย่าง  แต่นางตะลึงมากจนนางไม่สามารถพูดออกมาได้  มุมมองด้านหลังของชายหนุ่มในเกราะเงิน  ในสายตานางเผาลนด้วยความปรารถนาจะต่อสู้  นางแทบไม่สามารถทนได้  ทันใดนั้น นางนึกถึงคำแนะนำของไจ๋เหิงจ้านก่อนนั้นว่า ถังเทียนเป็นคนอันตราย

หน้าของกู้เสวี่ยมีแวววิตกกังวล  แต่นางไม่ห้ามปรามเขา  ไจ๋เหิงจ้านและชิงหลวนอาจจะไม่เข้าใจถังเทียน  แต่นางรู้ดี ภายใต้รูปลักษณ์ที่โง่เขลาและท่าทางไร้เดียงสาของถังเทียนเขามีหัวใจของยอดฝีมือที่แท้จริง

ถังเทียนเข้าไปในลานจตุรัสช้าๆ

ขุนพลวิญญาณเหมือนกับกลุ่มก้อนควันลอยออกมาจากกล่องบรอนซ์และก่อตัวเป็นรูปหนึ่ง

นัยน์ตาสีฟ้าชัดใสเหมือนอัญมณีใบหน้างดงามหล่อเหลาประดับรอยยิ้มน้อยๆ เท้าทั้งสองลอยอยู่ในอากาศ  เขามีรูปร่างสูงโปร่งและให้ความรู้สึกแปลกเล็กน้อย

“ข้าคือขลุ่ย”

เสียงของเขาไพเราะ อบอุ่นและน่าหลงใหล

ทุกคนตกใจ ขุนพลวิญญาณสามารถพูดได้จริงๆ!  เด็กหญิงนึกอะไรบางอย่างได้  สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว  และเธอตะโกนลั่น  “อาจารย์ระวังนะ!  เขาคือขลุ่ยวิเศษ”

“ขลุ่ยวิเศษ?”  ถังเทียนตะลึง พูดตามตรง เมื่อขลุ่ยวิเศษพูดตอนแรก เขาตกใจ  เขาไขว้มือเหมือนกับขุนพลวิญญาณหลายๆราย แต่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับขุนพลวิญญาณที่พูดได้จริงๆ แน่นอนปิงเป็นข้อยกเว้น แม้แต่กรงเล็บภูตพรายก็ยังเงียบเป็นปกติ

“นึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากผ่านไปหลายปี  ยังมีคนจำข้าได้อยู่อีก  ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสุดซึ้ง”  ขลุ่ยยิ้ม และโค้งคำนับแสดงความซาบซึ้งต่อเด็กหญิง

เด็กหญิงหน้าซีดขาวทันที ขณะที่คนอื่นดูอย่างมึนงง พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้

เมื่อเห็นการตอบสนองของเด็กหญิง  ถังเทียนรู้ว่าคู่ต่อสู้มีเบื้องหลังที่น่ากลัว  อย่างไรก็ตาม เขาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย  กลับตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น  เขาจ้องมองดูขลุ่ย และคำราม  “เลิกโยกโย้เสียที  มาสู้กันได้แล้ว”

ขลุ่ยโค้งให้เล็กน้อย ท่าทางของเขาดูสง่างาม “ยินดีทำตามคำสั่ง”

เขาโบกมือ เกิดม่านแสงรอบๆ สร้างขึ้นเป็นรูปกรง

ขลุ่ยอธิบาย “อย่าห่วงชั้นม่านแสงนี้เอาไว้กันเสียงขลุ่ยของข้าหลีกเลี่ยงไม่ให้ทำร้ายสหายผู้ทรงคุณค่าของเจ้า”

ถังเทียนประหลาดใจ นี่เป็นขุนพลวิญญาณที่สุภาพที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ  เขาอดสะกิดถามปิงในใจไม่ได้  “เฮ้ลุง!ลุงก็เป็นขุนพลวิญญาณกันทั้งนั้น ทำไมลุงถึงแตกต่างจากเขามากนักเล่า?”

ปิงเผยอตาและพูดเบาๆ “พวกคุณชายจากตระกูลคนชั้นสูงก็เป็นแบบนั้นทุกคนนั่นแหละ  แต่จำนวนของตระกูลชนชั้นสูงที่เรากำจัดเมื่อตอนนั้นอย่างน้อยก็8,000 หรือ 1 ล้าน สำหรับจำนวนคุณชายที่ถูกฆ่า เอ่อ.. นี่ยังคำนวณได้ไม่ชัดเจน...”

ถังเทียน “........”

ตอนนี้เขาไม่มีเวลาทะเลาะกับลุงปิง  สายตาเขาจับจ้องนิ่ง  คุณชายขลุ่ยมีขลุ่ยบรอนซ์ในมือตัวขลุ่ยสะท้อนประกายเหมือนใหม่ สว่างเป็นเงา

ถังเทียนรออย่างตั้งใจ คู่ต่อสู้เรียกตัวเองว่าขลุ่ยวิเศษ นี่หมายความว่าวิธีโจมตีต้องเกี่ยวข้องกันอย่างใดอย่างหนึ่งแน่

ฟังเหมือนเป็นวิทยายุทธ?

ถังเทียนสงสัยและคาดหวัง เขาไม่เคยพบคู่ต่อสู้อย่างนั้นมาก่อน

คุณชายขลุ่ยคำนับ และพูดชัดเจน  “โปรดฟังผลงานเพลงชิ้นเอกของข้า!”

เขาหลับตาเบาๆ ถือขลุ่ยบรอนซ์ในแนวขวางจ่อกับริมฝีปากของเขาและถ่ายลมหายใจเข้าไปขลุ่ยบรอนซ์ในมือของเขาเปล่งเสียงดัง บทเพลงเหมือนกับสายน้ำ และค่อยๆ ไหลออกมาจากขลุ่ยบรอนซ์

ภายในม่านแสง ในไม่ช้าอากาศก็เริ่มเคลื่อนไหวช้า

ดวงตาของถังเทียนกลอกไปมาและแสดงท่าทางประหลาดใจ  ร่างของเขาชาและอ่อนเพลียเล็กน้อย

เสียงขลุ่ยชัดเจนและไพเราะ  เมฆหมอกค่อยๆ ก่อตัวรอบตัวขลุ่ยวิเศษ  เมฆสีขาวลอยรอบตัวของเขา  ตาของขลุ่ยวิเศษพริ้มลงและสีหน้าของเขาเคร่งขรึม

“ฮึ่ม!”  ถังเทียนคำราม ปราณแท้ในร่างของเขาที่รู้สึกอ่อนก็หายไปทันที ขาของเขาที่ถ่ายรับพลังเริ่มเข้าจู่โจมใส่ขลุ่ยวิเศษ

วิทยายุทธของเจ้าผู้นี้ประหลาดแท้

เสียงขลุ่ยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ ถังเทียนรู้สึกว่าสภาพรอบด้านเปลี่ยนไปทันที  อากาศโดยรอบหนาแน่นขึ้นมาก  ถังเทียนดูเหมือนติดอยู่ในโคลน  ในทุกย่างก้าวต้องใช้พลังงานมากมาย

อากาศเป็นเหมือนกำแพงซึ่งเดินได้ยาก

ขลุ่ยวิเศษอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรกำลังทุ่มเทสมาธิเป่าขลุ่ย

ถังเทียนคำรามด้วยความโกรธปล่อยหมัดไปข้างหน้าเสียงดังปังทันที

หมัดถล่มทลายน้อย!

แม้ว่าจะเป็นวิทยายุทธระดับต่ำ  แต่มันช่วยให้ถังเทียนเข้าใจถึงแรงสั่นสะเทือนอากาศหนาแน่นข้างหน้าเขาพังทลายเหมือนกองดิน

ถังเทียนฉวยโอกาสวิ่งไปข้างหน้า!

เขาเพิ่งจะออกไปได้ก้าวเดียว อากาศโดยรอบกลับมาอยู่ในสภาพหนาแน่นภายใต้เสียงขลุ่ยชักนำอีก

ถังเทียนไม่กังวล ตราบเท่าที่ยังมีวิธีจัดการกับมัน

หมัดของเขาเหวี่ยงสลับกัน หนึ่งหมัดต่อหนึ่งก้าวยังคงเข้าหาขลุ่ยวิเศษช้าๆ และต่อเนื่อง ขลุ่ยวิเศษเหมือนกับจะลืมตัวคงเป่าขลุ่ยบรอนซ์ต่อไปเหมือนกับเขาไม่ตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

หลังจากก้าวต่อเนื่องไปเจ็ดหรือแปดก้าว ตอนนี้ถังเทียนอยู่ห่างขลุ่ยวิเศษประมาณเจ็ดเมตร

ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ระยะเจ็ดเมตรสำหรับถังเทียนแล้วก็แทบไม่มีอะไร  แต่ตอนนี้ ถังเทียนไม่ได้ใส่ใจ เพราะจนกระทั่งบัดนี้แม้ว่าเสียงขลุ่ยจะเป็นเอกลักษณ์และแปลก ถังเทียนไม่ได้รู้สึกว่ามันทรงพลังมาก

ตราบเท่าที่เขาสามารถเข้าไปใกล้ในระยะสามเมตร  เขามั่นใจว่าเขาสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ได้

ถังเทียนผู้ไม่รู้เรื่องเพลงไม่ได้สังเกตว่าเสียงของขลุ่ยเปลี่ยนไปเงียบๆ

※※※※

ด้านนอกม่านแสงหน้าของเด็กหญิงซีดขาวเต็มที่

กู้เสวี่ยเห็นหน้าของเด็กหญิงแล้วนางอดถามไม่ได้ “องค์หญิง! ขลุ่ยวิเศษผู้นี้น่ากลัวมากนักหรือ?”

เด็กหญิงขบริมฝีปากเธอแน่นและเสียงของเธอสั่น  “ยุคสมัยของขลุ่ยวิเศษจะมีมาก่อนยุคกระบี่มารราวร้อยปี  เขามาจากตระกูลคนชั้นสูงและเชี่ยวชาญดนตรีการตั้งแต่อายุน้อย  หลังจากฝึกวิทยายุทธสำเร็จแล้วเขาหลอมรวมเพลงเข้ากับวิทยายุทธของเขาและบัญญัติวิทยายุทธเสียงเพลงที่ไม่เหมือนใครเสียงของขลุ่ยเหมือนกับมีพลังวิเศษ เพราะอย่างนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักในนามว่าขลุ่ยวิเศษ  เกิดมาในตระกูลชนชั้นสูงขลุ่ยวิเศษก็มีลักษณะสง่างามและดูมีชีวิตชีวา ดังนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักกันในนามว่าคุณชายขลุ่ยวิเศษ  การต่อสู้ที่สร้างชื่อเสียงให้เขาก็คือเมื่อครั้งดาวไพรมายาพบกับคลื่นโจมตีอสูรดวงดาวขนาดใหญ่  พวกมันบุกทำลายเมืองต่อเนื่องถึงเจ็ดเมืองซากศพกระเด็นกระจายอยู่ทุกที่และไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพวกมันได้  เมื่อคลื่นของอสูรดวงดาวบุกมาถึงเมืองที่แปด  ขลุ่ยวิเศษก็มาปรากฏตัวอยู่บนกำแพงชมดาว  ใช้แค่เพียงขลุ่ยเลาเดียวก็ทำให้คลื่นอสูรดวงดาวเหล่านั้นถอยหนีกลับไป คลื่นอสูรดวงดาวนั้นทุกตัวเป็นอสูรดวงดาวระดับเก้า!”

ไม่ทราบว่าเด็กหญิงตื่นเต้นหรือว่ากลัวกันแน่แต่เมื่อเธอพูดตำนานเรื่องนี้แล้ว เธออดสนใจอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อได้ยินเช่นนั้น  คนอื่นๆ รู้สึกมีอารมณ์ท่วมท้นไปด้วยความกลัวและกังวล

อสูรดวงดาวระดับเก้า  ทำได้ยังไง?

มีเพียงหลิงซิ่วที่ตะลึง ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าคนที่กำลังเป่าขลุยที่ดูเหมือนคร่ำครึงมงายที่อยู่ในม่านแสงนั้น  ความจริงน่ากลัวมาก

“อย่างนั้น เขาก็เป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีใช่ไหม?”  เสียงของไจ๋เหิงจ้านตื่นเต้น

“อืม” เด็กหญิงเม้มริมฝีปากและมองดูจัตุรัสด้วยความกังวลใจอย่างมาก “ระหว่างปีที่คุณชายขลุ่ยวิเศษรุ่งเรืองที่สุด ครั้งหนึ่งเขาเคยเอาชนะนักสู้ระดับสวรรค์วิถีถึงสามคน”

คนอื่นๆลิ้นพันกันและตกใจจนพูดไม่ออก ความขัดแย้งระหว่างนักสู้สวรรค์วิถีและการเอาชนะนักสู้ระดับสวรรค์วิถีได้ถึงสามคน  พวกเขาสามารถเข้าใจได้ตามปกติ

หลิงซิ่วเบิกตากว้างรู้สึกตะลึงในใจ  ยอดเยี่ยมเป็นบ้า

เจ้างี่เง่าถังตกอยู่ในอันตรายแล้ว!

ผิดแล้ว!

“ถ้าเป็นกรณีอย่างนั้น  เจ้างั่งถังคงเหลือแต่เถ้าถ่านไปนานแล้ว”  หลิงซิ่วขมวดคิ้ว

“ข้าคิดว่าฝีมือของเขาตกลงไป”  ไจ๋เหิงจ้านมีประสบการต่อสู้มากที่สุด  เขาสามารถบอกได้เพียงแค่เหลือบมองจุดวิกฤติ “ระดับของขุนพลวิญญาณจะตกลงต่อเนื่องเมื่อผ่านไปหลายปี แน่นอนว่าคงเทียบไม่ได้กับช่วงยุคที่เขารุ่งเรืองที่สุด”

“เจ้างี่เง่านั่นนับว่าได้โอกาสดีจริงๆ”  หลิงซิ่วแค่นเสียง แต่ก็คลายใจลงมาก

เด็กหญิงสั่นศีรษะ  “ระดับอาจตกลงไป  แต่ความเข้าใจในวิทยายุทธจะไม่มีทางตกลงเลย คุณชายขลุ่ยวิเศษมีชื่อเสียงเพราะกระบวนท่าสังหารของเขาคือ เวทผลาญสำเนียง”

“เวทผลาญสำเนียง?” ทุกคนถามขึ้นพร้อมกัน

“อืม” สีหน้าของเด็กหญิงยังเต็มไปด้วยความกังวล “ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ทำนองเจ็ดสังหาร”

“ทำนองเจ็ดสังหาร?”

แค่ชื่อนี้เท่านั้นก็ทำให้ทุกคนกลัวแล้ว

“อืม...” เด็กหญิงกังวลมากขึ้นกว่าเดิม “ข้าไม่รู้เช่นกันว่า เรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้  แต่ข้าได้ยินมาว่ากระบวนท่านี้ของคุณชายขลุ่ยวิเศษไม่เคยล้มเหลวมาก่อน”

ไม่เคยล้มเหลว....

หัวใจทุกคนตกวูบทันที  สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่จตุรัส

ระยะห่างระหว่างถังเทียนกับขลุ่ยวิเศษในลานจัตุรัสไม่เกิน7 เมตร สำหรับถังเทียน แค่ขยับเข้าไปได้อีกเล็กน้อยก็จะเข้าระยะโจมตี

แต่ในช่วงนี้เองมีอาการสะดุดที่คาดไม่ถึง

ภายในม่านแสงมีฟองลูกโป่งลอยผุดออกมาไม่มีปี่มีขลุย ในพริบตาก็มีลูกโป่งลอยปรากฏออกมาอีกทำให้ทุกคนกลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัวอากาศภายในม่านแสงเหมือนกับจะเดือด ฟองอากาศลูกแล้วลูกเล่าผุดออกมาทันที

ฟองอากาศโปร่งแสงเหล่านี้ใหญ่ขนาดกำปั้นปรากฏออกมาลอยอยู่ในอากาศเงียบๆ

ในชั่วพริบตาถังเทียนก็ถูกฟองอากาศกลุ่มใหญ่ลอยล้อมรอบ

นั่น...อะไรกัน?

คนที่อยู่ภายนอกม่านแสงทุกคนถึงกับเบิกตากว้าง

※※※※

บอลสุญญากาศ!

ถังเทียนตื่นตัวเต็มที่ฟองอากาศแต่ละลูกก็คือบอลสุญญากาศ ถังเทียนสามารถสร้างบอลสุญญากาศโดยใช้หมัดสะท้านฟ้าของเขา แต่เมื่อเทียบกับกลุ่มบอลสุญญากาศหนาแน่นนับไม่ถ้วนที่อยู่ต่อหน้าของเขา ถังเทียนรู้สึกว่ากระบวนท่าของเขานั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย

ถ้าถังเทียนไม่สามารถวัดฝีมือของฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนหน้านี้ อย่างนี้ท่านี้ก็จะทำให้ถังเทียนเข้าใจทักษะของขลุ่ยวิเศษได้ทั้งหมด

ดูเหมือนถังเทียนตระหนักได้ว่าเสียงธรรมชาติจากขลุ่ยนี้เป็นพลังสั่นสะเทือนรูปแบบหนึ่ง

เขาเคยฝึกหมัดสะท้านฟ้ามาก่อนและเข้าใจพลังสั่นสะเทือนได้ลึกซึ้งกว่าคนอื่น ถ้านักสู้ต้องการสร้างบอลสุญญากาศ  เขาต้องใช้แรงสั่นสะเทือนที่แข็งแกร่งเพื่อทำลายอากาศ

แต่สร้างบอลสุญญากาศได้มากมายรวดเดียวกันนี่...

ในสายตาของถังเทียนบอลสุญญากาศเป็นเหมือนจุดสั่นสะเทือนที่หนาแน่นเป็นพันๆ จุดกำลังสั่นสะเทือน

ขลุ่ยวิเศษที่น่ากลัว....เขาทำอย่างนั้นได้ยังไง?

ถังเทียนอยากเคาะศีรษะตนเองนัก  เขาไม่สามารถคิดได้ว่าขลุ่ยวิเศษทำแบบนี้สำเร็จได้ยังไง  อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกถึงอันตรายในใจเขาเพิ่มขึ้นสูงอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ห่างออกไปจากฟองอากาศจำนวนมาก หัวของร่างขลุ่ยวิเศษก้มต่ำลงขณะเป่าขลุ่ยของเขา กลายเป็นตัวตนขึ้นมา  รังสีฆ่าฟันเกือบชัดเจน  ขลุ่ยวิเศษมีผมยาวพริ้วไสวอยู่ในสายลมใบหน้าหล่อเหลางามสง่าดูเคร่งขรึม

นิ้วเรียวยาวของเขาขยับพลิ้วไปตามขลุ่ยบรอนซ์  ความเคลื่อนไหวที่แผ่วพริ้วนี้ทำให้ถังเทียนถึงกับผมตั้งทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยบอลสุญญากาศลอยตัวอยู่เงียบๆ  และค่อยๆ ลอยเข้าหาถังเทียนจากทุกทิศ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด