ตอนที่แล้วตอนที่ 8-3 เข่นฆ่าอำมหิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8-5 เสือดำลึกลับ

ตอนที่ 8-4 เงาดำ


หิมะแรกในฤดูหนาวตกอย่างหนัก  หลายๆ พื้นที่ในเทือกเขาอสูรวิเศษปกคลุมไปด้วยหิมะ  รอยเท้าต่างๆ มองเห็นได้ชัดเจน  บางส่วนเป็นร่องรอยมนุษย์ขณะที่บางส่วนก็เป็นของอสูรวิเศษขนาดต่างๆ

“เป็นพายุหิมะที่หนักมาก”

ลินลี่ย์ยังคงสวมกางเกงผ้าปอเปลือยกายท่อนบน แม้ว่าอุณหภูมิจะหนาวเหน็บจนทำให้สายน้ำกลายเป็นน้ำแข็งก็ตาม  แต่ลินลี่ย์ไม่กลัวแม้แต่น้อย

ลินลี่ย์ยังคงเท้าเปล่าเดินมุ่งหน้าต่อไป

“เจ้านาย, น่าจะเกือบถึงเวลาฉลองเทศกาลยูลานแล้วใช่ไหม?”  บีบีคาดเดา

หลังจากอยู่ในเทือกเขาอสูรวิเศษมายาวนาน ลินลี่ย์ไม่รู้เลยว่าเป็นวันอะไร แม้ว่าลินลี่ย์จะมีนาฬิกาพกก็ตาม แต่นาฬิกาใช้แค่ดูเวลาง่ายๆ ไม่มีบอกวันที่ไว้ด้วย

“ก็น่าจะราวๆ นั้น” ลินลี่ย์พยักหน้า

หลังจากอยู่ในเทือกเขาอสูรวิเศษมานานราวสองปี พลังนักรบของลินลี่ย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ตอนนี้เขาเป็นนักรบระดับเจ็ดชั้นสูง  แต่ในเรื่องการใช้ดาบหนักทักษะการใช้ดาบหนักอดาแมนเทียมของเข้าสูงล้ำมากกว่าธรรมดา  ในทำนองเดียวกันหลังจากกลายเป็นจอมเวทสองสายธาตุระดับแปด  เมื่อเขาใช้เวทและทักษะนักรบร่วมกัน  พลังของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอีกมาก

“หืม?” บีบีและลินลี่ย์หันไปมองที่ด้านหลังพร้อมกัน

ในที่ไม่ห่างไกลออกไป นักรบร่างล่ำสันแข็งแรงสองคนสวมชุดเกราะหนักถืออาวุธวิ่งอย่างบ้าคลั่ง  ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหวาดกลัว  เมื่อเห็นว่าเป็นมนุษย์ ลินลี่ย์ไปตามทางของตนเอง เทือกเขาอสูรวิเศษมียอดฝีมือชาวมนุษย์เข้ามาฝึกฝนมากมายและในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ ลินลี่ย์พบกับมนุษย์ไม่กี่คน   ด้วยความให้เกียรติต่อมนุษย์ในเทือกเขาอสูรวิเศษ  ลินลี่ย์มีหลักการอยู่ว่า ไม่รุกรานคนอื่น

ที่สำคัญคือผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาที่นี่ก็ด้วยความตั้งใจจะชิงผลึกเวทในถุงสัมภาระผู้อื่น เพราะลินลี่ย์มีแหวนมิติเก็บสมบัติอยู่แล้ว  เขาจึงไม่มีสัมภาระติดตัว ดังนั้นจึงมีน้อยคนนักที่ต้องการลงมือกับลินลี่ย์

“รอก่อน, รอก่อน!” เสียงตะโกนเร่งร้อนดังขึ้นจากด้านหลัง

แต่ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจพวกเขาแม้แต่น้อย ยังคงเดินหน้าต่อไป คนทั้งสองวิ่งเข้าหาลินลี่ย์เร็วมาก เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ ลินลี่ย์ก็หยุดและหันมาทันที

“พวกท่านต้องการอะไร?” ลินลี่ย์จ้องมองบุรุษทั้งสองอย่างเย็นชา

ลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่าทั้งสองคนนี้ไม่อ่อนแอ  อย่างไรก็ตาม ระดับพลังของมนุษย์ยากจะตัดสินได้จากการมองดู  ลินลี่ย์รับมือทั้งสองคนอย่างระมัดระวัง

“เรา?” บุรุษทั้งสองร่างกายล่ำสันแข็งแรงต่างมองหน้ากัน จากนั้นฝืนยิ้มให้ลินลี่ย์อย่างอึดอัด หนึ่งในนั้นมีศีรษะล้านมีตาข้างเดียวกล่าวอย่างเกรงใจ  “เราไม่มีเจตนาร้ายแต่อย่างใดเลยเพียงแต่พื้นที่ใจกลางเทือกเขาอสูรวิเศษมีอันตรายมากเกินไป  เราสองพี่น้อง...อยากจะขอร่วมเดินทางกับเจ้า,สหาย เราสามารถช่วยเหลือกันได้  จะทำให้ปลอดภัยยิ่งกว่าไม่ใช่หรือ?”

คนศีรษะโล้นอีกคนสะดุ้งจากนั้นก็พยักหน้าโดยเร็ว  “ใช่แล้วใจกลางดินแดนแห่งนี้อันตรายมาก ถ้าเราเที่ยวไปด้วยกันจะได้ช่วยเหลือกันและกัน เอาอย่างนี้เป็นไง? เมื่อเราทุกคนออกจากใจกลางพื้นที่เทือกเขาอสูรวิเศษ  เราจะไปตามทางของเรา”

“ไม่สนใจ”

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว เขาหันหลังกลับและมุ่งหน้าเดินทางต่อ

ลินลี่ย์ไม่ใช่เด็กที่ถูกหลอกง่ายๆ เหมือนในอดีต เขาสามารถบอกได้เลยว่าทั้งสองคนนี้โกหกอย่างเห็นได้ชัดช่วยเหลือกันและกันในเทือกเขาอสูรวิเศษ? ตลกจริงๆ ทั้งสองคนนี้ไม่มีเจตนาที่ดีในการร่วมเดินทางกับเขาแน่นอน  ลินลี่ย์ไม่ต้องการหาเรื่องยุ่งยากและไม่อยากฆ่าทั้งสองคนนี้ด้วย  จึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่ต้องการให้พวกนี้เที่ยวเดินทางกับเขา

เมื่อเห็นชัดว่าลินลี่ย์ปฏิเสธและยังคงเดินทางต่อไป  บุรุษหัวโล้นทั้งสองคนมองหน้ากันเองพวกเขาลังเลใจเล็กน้อยก่อนจะวิ่งทันที

“รอด้วย สหาย ได้โปรดรอก่อน” บุรุษหัวโล้นทั้งสองคนตามมาทันอีกครั้ง

ลินลี่ย์อดหงุดหงิดมิได้ขณะที่เขาหันมาจ้องคนทั้งสองอย่างเย็นชา

บุรุษทั้งสองมองดูลินลี่ย์อย่างขลาดกลัว คนศีรษะโล้นตาเดียวพูดขอโทษ  “ข้าต้องขอโทษจริงๆ แต่เราทั้งสองคนอยากเดินทางร่วมกับเจ้าจริงๆ  ไม่ต้องห่วง เมื่อเราไปจากตรงนี้แล้วเราจะต้องตอบแทนคุณของเจ้าแน่นอน”

ลินลี่ย์เหลือบมองอีกคน

“ถ้าพวกเจ้าต้องการตามมา งั้นก็ตามใจ” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น

หลังจากอยู่ในเทือกเขาอสูรวิเศษมานานมาก ตอนนี้ลินลี่ย์มีประสบการณ์มากมาย ถ้าทั้งสองคนนี้ยืนยันจะเดินทางไปพร้อมกับเขา  อย่างนั้นก็ตามใจพวกเขา  ลินลี่ย์มั่นใจในฝีมือตนเองว่ารับมือพวกเขาได้  ที่สำคัญลินลี่ย์มีบีบีอยู่บนไหล่เขา

“ขอบคุณ, ขอบคุณ” บุรุษศีรษะโล้นทั้งสองคนกล่าวขอบคุณ

ทั้งสองคนนั้นเดินเคียงข้างไปกับลินลี่ย์ทันที  ขณะเดียวกัน พวกเขากวาดตามองพื้นที่รอบๆตัวพวกเขา มีร่องรอยความหวาดกลัวอยู่ในดวงตาของพวกเขา

“สหาย! เรามาจากภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้แห่งจักรวรรดิโอเบรียน  เจ้ามาจากไหนหรือ?”  บุรุษศีรษะโล้นตาเดียวดูเหมือนต้องการแสดงความเป็นมิตรลินลี่ย์มากขึ้น

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

จักรวรรดิโอเบรียน?

ลินลี่ย์รู้ดีว่าถ้าเขาตัดตรงออกจากเทือกเขาอสูรวิเศษ เขาก็สามารถเข้าไปในอาณาเขตดินแดนจักรวรรดิโอเบรียนได้เร็วมาก

“ทำไมต้องเซ้าซี้ถามมากมายนักเล่า?”  ลินลี่ย์ชำเลืองมองบุรุษผู้นั้น  “ถ้าเจ้าต้องการติดตาม ก็ตามมา  อย่าได้ส่งเสียงรบกวน”

“ก็ได้ ก็ได้” บุรุษศีรษะโล้นตาเดียวพยักหน้าซ้ำๆ

พวกเขาสามารถบอกได้ว่าลินลี่ย์ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน  จะไม่แปลกเกินไปหรือสำหรับเขาที่นุ่งกางเกงปอตัวเดียวในฤดูหนาวอย่างนี้  แต่สิ่งที่น่าทึ่งมากก็คือมนุษย์คนหนึ่งอยู่ในใจกลางเทือกเขาอสูรวิเศษได้ ทั้งยังสงบและไม่รีบร้อน

เหมือนกับว่าพื้นที่ดินแดนอันตรายนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าสวนดอกไม้สำหรับเขา

“พี่ใหญ่” บุรุษศีรษะโล้นกอดแขนข้างหนึ่งของบุรุษโล้นตาเดียว  เขากระซิบเบาๆ “พี่ใหญ่ ท่านคิดว่าเราจะเอาชีวิตรอดได้ไหม?”

บุรุษโล้นตาเดียวมองดูรอบๆ อย่างหวาดหวั่นจากนั้นลดเสียง  “อย่าคิดมากเกินไปน่าตอนนี้ให้ติดตามสหายผู้ลึกลับนี้ไปก่อน ถ้าติดตามเขาไปเราอาจมีโอกาส”

“ได้”  บุรุษโล้นคนแรกพยักหน้า  แต่ในใจของเขายังรู้สึกกลัว

เมื่อเงยหน้ามองข้างหน้าเขา ลินลี่ย์กำลังเดินอย่างเป็นปกติ ลินลี่ย์สังเกตว่าบุรุษทั้งสองด้านหลังเขากำลังพูดกระซิบกัน  แต่ลินลี่ย์รู้สึกว่าทั้งสองคนนี้ไม่ได้มีท่าทางลงมือกับเขา

หลังจากนั้นชั่วขณะ  ลินลี่ย์ก็พัก

ในแต่ละวัน ลินลี่ย์จะเดินทางเพียงสิบกิโลเมตร  เวลาพักของเขาก็คือเวลาฝึกฝน บุรุษทั้งสองคนด้านหลังของเขาตื่นกลัวเมื่อลินลี่ย์เตรียมตัวพัก

“ทำไมท่านถึงหยุดเล่า?” บุรุษโล้นเดียวพูดอย่างตื่นกลัว

“หืม?” ลินลี่ย์เหลือบมองทั้งสองอย่างไม่พอใจ

บุรุษโล้นคนน้องหัวเราะกลบเกลื่อน “ใต้เท้า นี่ยังอยู่ในตอนกลางเทือกเขา เราน่าจะรีบออกจากพื้นที่ใจกลางเทือกเขาก่อนแล้วค่อยพักจะดีกว่าไหม?”

ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว  จากนั้นกล่าว  “อย่ารบกวนข้า ข้าพวกเจ้าต้องการตามข้า ก็ตามมา ถ้าต้องการไป ก็เชิญไปได้ สำหรับตัวข้าเอง ถ้าข้าต้องการหยุด  ข้าจะหยุด ถ้าพวกเจ้ายังคอยขัดแข้งขัดขาข้าอยู่อีก อย่างนั้นอย่าได้โทษข้าถ้าข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งสองคน”

บุรุษโล้นทั้งสองคนต่างมองหน้ากันเอง จากนั้นหัวเราะแหยๆ

“ขอโทษ  ขอโทษ”

ทั้งสองคนถอยเล็กน้อยทันที ไม่กล้ารบกวนลินลี่ย์อีกต่อไป

“สองคนนี้ท่าทางแปลกๆ” ลินลี่ย์ชำเลืองมองคนทั้งสอง บุรุษทั้งสองคนนี้บอกว่าพวกเขาต้องการออกจากเทือกเขาอสูรวิเศษ  แต่พวกเขากลับตั้งใจติดตามเขา  ถ้าเขาไม่ออกไป  พวกเขาก็จะไม่ออกไปเช่นกัน

ทำไมพวกเขาถึงได้ยืนยันติดตามตัวเขา?

เขาไม่รู้จักบุรุษทั้งสองคนนี้เลยแม้แต่น้อย

ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิวางดาบหนักอดาแมนเทียมพาดตัก ถึงตอนนี้ ลินลี่ย์รู้สึกถึงความกลัวเลือนรางในใจเขาทันที....

“ควั่บ!”

ลินลี่ย์หันศีรษะมาดูทันที เงาร่างดำปรากฏวาบอยู่ต่อหน้าเขาแล้วหายวับไปในทันที

“อ๊า, อ๊า!”  ในที่ห่างออกไป  เสียงร้องหวาดผวาได้ยินชัด  แต่หลังจากเสียงร้องดังสองสามครั้งแล้วก็เงียบลง  ถึงตอนนี้ลินลี่ย์ถึงได้ตระหนักว่าบุรุษโล้นสองคน  ในตอนนี้เหลืออยู่เพียงคนเดียว  คนที่เหลืออยู่คือบุรุษโล้นตาเดียว  ขณะที่น้องชายของเขาหายไปแล้ว  ข้างๆ ตัวบุรุษผู้นั้นมีกองเลือดอยู่หย่อมหนึ่ง

“อ๊า.. ไม่ ไม่!” บุรุษโล้นตาเดียวดูเหมือนทุกข์ทรมานตกใจจนพูดไม่ออก  จากนั้นเขาเริ่มร้องโหยหวน

ลินลี่ย์พรวดพราดลุกขึ้นยืน และบีบีก็เริ่มเพิ่มความระมัดระวังเช่นกัน

“เจ้านาย, อสูรตัวนั้นไวมาก!” บีบีพูดทางใจอย่างเคร่งเครียด “เราอยู่ในเทือกเขาอสูรวิเศษมานานมากแล้วเจ้าตัวนี้ไวที่สุดเท่าที่เราเคยพบ ข้าเห็นไม่ชัดเลยว่ามันเป็นคนหรือว่าเป็นอสูรเวท”

ลินลี่ย์ก็ไม่สามารถเห็นได้ชัดเช่นกัน

ความเร็วของเจ้าสิ่งมีชีวิตนั่นเร็วมากจริงๆ เมื่อพูดถึงความเร็วในการเคลื่อนไหวมันเร็วกว่าบีบีเล็กน้อย

“มันคืออะไรกันแน่? ตอนนี้บีบีเป็นอสูรเวทระดับเก้าแล้ว ทั้งเรายังใช้เวลาอยู่ในเทือกเขาอสูรวิเศษมานานแล้ว  แต่เมื่อว่าในเรื่องความเร็ว  เราไม่เคยพบอะไรที่เร็วกว่าบีบีเลย”  ลินลี่ย์เริ่มรู้สึกสงสัย

ความเร็วของบีบีนั้น คือพลังที่ยิ่งใหญ่ของมัน

เป็นเรื่องยากจะหาอสูรเวทที่มีความเร็วเหนือกว่าบีบีต่อให้เป็นอสูรระดับเก้าด้วยกันก็ตาม

“สิ่งมีชีวิตประหลาดนั่นคืออะไรกันแน่? หรือว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเซียน?” ลินลี่ย์รู้สึกตกใจเล็กน้อย อสูรเวทระดับเซียนจะไวเป็นปกติ  มีแต่มันทีให้ความรู้สึกว่าไวกว่าลินลี่ย์

ลินลี่ย์หันหน้าไปมองบุรุษโล้นตาเดียวทันที

ตอนนี้ ตาข้างเดียวของบุรุษโล้นตาเดียวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  และปากของเขายังคงพึมพำบางอย่างต่อเนื่อง  แล้วเหลียวมองไปรอบๆด้วยความหวาดกลัวราวกับว่ากลัวจะโดนลอบโจมตีอีกครั้ง

“อ๊า!!”ความรู้สึกเหมือนถูกใครบางคนคว้าจับทำให้บุรุษโล้นตาเดียวร้องโหยหวนหวาดกลัวอย่างช่วยไม่ได้

แต่เมื่อเขารู้สึกตัวและมองดูข้างหลังเขา เขาถึงเห็นว่าเป็นลินลี่ย์ที่คว้าชุดของเขาไว้

“พูดไป, เกิดอะไรขึ้น” ลินลี่ย์จ้องหน้าเขาหาคำตอบ “ไม่อย่างนั้น ข้าจะทิ้งเจ้าไว้ที่นี่และเดินทางตามลำพังตนเอง”

“ไม่ ไม่ ไม่ อย่าทิ้งข้า” บุรุษโล้นตาเดียวคุกเข่าลงทันที “ข้าจะบอก ข้าจะเล่าให้ฟัง”

เมื่อเห็นเช่นนี้ ลินลี่ย์ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

เขาเคยได้ยินมานานแล้ว่าจักรวรรดิโอเบรียนมีพลังทางทหารที่ยิ่งใหญ่  คนของจักรวรรดิโอเบรียนจะเทิดทูนบูชาเทพเจ้าสงครามอย่างลึกซึ้ง  ดังนั้นพลเมืองของจักรวรรดิจึงฝึกฝนเส้นทางการเป็นักรบ นักรบที่แข็งแกร่งทรงพลังจะมีความภูมิใจอย่างมาก  สำหรับบุรุษศีรษะโล้นผู้นี้สามารถเข้ามาในแนวกลางของเทือกเขาอสูรวิเศษได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนอ่อนแอเลย ต่อให้เขาไม่ใช่นักรบระดับเจ็ด แต่เขาต้องเป็นนักรบระดับหกเป็นอย่างน้อย

แต่บุรุษโล้นตาเดียวกลับคุกเข่าต่อหน้าเขา แทบไม่เหลือความแข็งแกร่งให้เห็น

“ใต้เท้า, ท่านไม่รู้ว่าหลายวันที่ผ่านมานี้มันหวาดหวั่นน่ากลัวเพียงไหน  มันน่ากลัว มันเหมือนกับฝันร้าย”  บุรุษโล้นตาเดียวเริ่มหลั่งน้ำตา

ลินลี่ย์เริ่มตั้งใจฟังทันที

“ครั้งนี้ ตัวข้า, น้องชายข้า,ภรรยาข้าและกลุ่มสหายร่วมทีมกันเดินทางเข้ามาในเทือกเขาอสูรวิเสษเพื่อเริ่มฝึกฝนกัน  เราหวังว่าจะหาแก่นเวทของอสูรเวทได้เช่นกัน สำหรับคนอย่างพวกเราที่เข้ามาในเทือกเขาอสูรวิเศษมากกว่าห้าครั้ง  นี่ถือว่าเป็นการเดินทางธรรมดามาก  แต่คาดไม่ถึงเลย...”

ตลอดทั้งตัวบุรุษศีรษะโล้นสั่น “แค่วันที่สามหลังจากที่เราเข้ามาในเทือกเขาอสูรวิเศษทันทีที่เราเข้าไปในพื้นที่ส่วนใน เราก็ตกอยู่ในฝันร้าย”

“ในทีมของข้ามีนักรบระดับเจ็ดหกคนและนักเวทระดับหกสองคนตราบเท่าที่เราอยู่ภายในพื้นที่เทือกเขาอสูรวิเศษชั้นใน  ก็ยังจะไม่มีอันตราย  แต่ใครจะทันคิดกันเล่า..ว่าเราจะเผชิญกับสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว”

“สัตว์ประหลาด?”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

“ครั้งแรกที่เราเผชิญหน้ากับมัน มันลอบทำร้ายเราทันที  ฆ่าหนึ่งในสหายที่ดีที่สุดของเราเหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปนี้”  บุรุษโล้นตาเดียวตัวสั่นอีกครั้ง  “ข้าโกรธ เพราะสัตว์ประหลาดตัวนี้รวดเร็วมากเราไม่สามารถบอกได้ว่ามันเหมือนอะไร แค่หลังจากได้ยินเสียงร้อยโหยหวนของสหายเราถึงได้รู้ว่าถูกโจมตี  และจากนั้นก็เห็นเลือดบนพื้นเราจึงตระหนักได้ว่าสหายของเรามีแนวโน้มว่าจะตายแล้ว”

“ตอนนั้นเราทุกคนเชื่อว่าอสูรเวทแค่โจมตีโดยการลอบทำร้ายและไม่กล้าเผชิญหน้ากับเราโดยตรง  เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้แข็งแกร่ง  ขณะที่เราโกรธเรายังคิดเรื่องฆ่ามันเพื่อล้างแค้น  แต่ในตอนแรกเราหาเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นไม่พบ”

บุรุษโล้นตาเดียวสูดหายใจลึกครั้งหนึ่งสงบจิตใจที่ว้าวุ่นก่อนจะเล่าต่อไป “แต่ในคืนนั้นหลังจากเรากินอาหารค่ำเสร็จไม่นาน  เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นก็มาอีกครั้ง”ขณะที่เขาเล่า ตาข้างเดียวของเขาเบิกกว้าง เห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก

“ครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งก่อน เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นซุ่มทำร้ายและลากเอานักเวทของเราไปคนหนึ่ง  แต่ครั้งนี้มันลากนักเวทออกไปห่างไม่กี่สิบเมตรก่อนจะเริ่มกินเขา มันกินจอมเวทของทีมเราต่อหน้าเรา”

“สัตว์ประหลาดตัวนี้มองดูเหมือนอะไร?” ลินลี่ย์ถามทันที

“มันมองดูเหมือนกับเสือดำ ร่างของมันแทบดำสนิท” บุรุษโล้นตาเดียวกล่าว

“ร่างดำสนิทเหรอ?  อสูรเวทระดับแปด เสือดำลายทางหรือเปล่า?”  แต่เมื่อพูดเช่นนี้ลินลี่ย์ก็พบว่าเขาไม่เชื่อเช่นนั้นอสูรเวทระดับแปดไม่มีทางเข้ามาถึงด้วยความเร็วระดับนั้นได้แม้แต่เสือดำอสูรเวทที่อยู่บนภาคพื้นก็ยังไม่มีความเร็วเหลือเชื่อขนาดนั้น

“มันไม่ใช่เสือดำลายทาง ทีมของเรามีประสบการณ์มามากและเรารู้จักเสือดำลายทางที่ตัวของมันมีลายดำสนิทเป็นเส้นตรง ขณะที่ร่างของสัตว์ประหลาดตัวนี้คลุมไปด้วยลายทางโค้งมองดูเหมือนกับตกแต่งไว้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด