ตอนที่แล้วตอนที่ 178 การตื่นขึ้นของเกราะนกยูง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 180 ภูเขาปู้โจว

ตอนที่ 179 บรรลุระดับใหม่


เมื่อยุติการต่อสู้ในลักษณะดังกล่าวทำให้ทุกคนรู้สึกแปลก ตอนนี้ทุกคนสังเกตเห็นว่าเด็กหญิงอายุเจ็ดแปดขวบดูเป็นผู้ใหญ่มาก การวางตัวมารยาทของเธอและท่าทีที่ชิงหลวนมองดูเธอ  แสดงว่าเธอเป็นคนที่มีอำนาจอิทธิพล พวกที่มีสติปัญญาไวพอจะคาดเดาฐานะของเด็กหญิงได้  แม้ว่าหลายคนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความสงบไว้ แต่แววประหลาดใจในดวงตาพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่ข่มเอาไว้ได้

เดี๋ยวก่อน.....อาจารย์!

พวกเขานึกได้ทันทีว่าเด็กหญิงวางตัวต่อถังเทียนอย่างไร พวกเขาจึงไม่อาจสงบต่อไปได้

กู้เสวี่ยมองถังเทียนนิ่ง แม้ว่านางพอจะคาดเดาภูมิหลังถังเทียนได้ แต่นางไม่เคยคาดเลยว่า ถังเทียนจะเป็นอาจารย์ขององค์หญิงหมิงจูได้จริงๆ

มิน่าเล่า..... อาเทียนถึงได้น่ากลัวนัก

ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ไม่มีใครตั้งตัวเป็นอาจารย์ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นจารีตที่สืบทอดกันมาหรือเป็นสถาบันสอน อาจารย์ต้องมีลักษณะท่าทีเคร่งขรึม

แต่กู้เสวี่ยก็สงสัยสองสามข้อแทบจะทันที เพราะด้วยวัยอย่างอาเทียนยังถือว่าอายุน้อยมาก ทันใดนั้นภาพของถังเทียนกำลังสอนองค์หญิงหมิงจูอย่างคร่ำเคร่งผุดขึ้นในใจของนางทำให้นางอดหัวเราะไม่ได้

เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างไม่ถูกต้อง  อาเทียนบอกว่าเขาไม่ได้มาจากองค์การวิญญาณมืด  กู้เสวี่ยสับสนหนัก  แต่ไม่ช้านางก็ปัดความสงสัยออกไปจากใจ  นางสังเกตรายละเอียดได้อีกอย่างหนึ่งดูเหมือนอาเทียนต้องการเงิน...

นางอดรู้สึกผิดอย่างช่วยไม่ได้  เพราะในช่วงไม่กี่วันมานี้นางไม่เคยถามเรื่องนี้กับอาเทียนเลย

“คุณหนู....”ชิงหลวนน้ำตาคลอ ใบหน้ารู้สึกเหมือนกับไม่ได้รับความเป็นธรรม

เด็กหญิงพูดนุ่มนวล “ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังเป็นอาจารย์ของข้า  ถ้าพวกท่านมีเรื่องกัน ข้าจะลำบากใจมาก”

ชิงหลวนเบะปากและเกือบน้ำตาร่วง  แม้ว่านางกับองค์หญิงจะมีสัมพันธ์ฉันท์นายบ่าวแต่ความจริงพวกนางสนิทกันเหมือนพี่น้อง

ไจ๋เหิงจ้านมองดูถังเทียนเดินห่างออกไปอย่างอารมณ์ดีและพูดเบาๆ ว่า “เขาอันตรายมากเลยนะ”

เมื่อเห็นว่าชิงหลวนยังดูไม่ยินยอมพร้อมใจไจ๋เหิงจ้านถอนหายใจและสงบกว่าเดิม “เขาบังเกิดเพลิงอำมหิตแล้ว  ต้องระวัง อย่ายั่วโมโหเขา”

ชิงหลวนถลึงตา และถามอย่างไม่ค่อยเชื่อ “เขากล้าฆ่าข้าหรือ?”

ไจ๋เหิงจ้านไม่หลบสายตาชิงหลวน  เขาตอบอย่างชัดถ้อยคำว่า “ทำไมจะไม่กล้าเล่า?”

ชิงหลวนถูกขัดใจ แต่นางไม่ได้ดื้อด้านป่าเถื่อนแน่นอน นั่นเป็นเพราะองค์หญิงปฏิบัติต่อนางอย่างไม่ยุติธรรมนางจึงไม่รู้สึกยินยอม ไจ๋เหิงจ้านแตกต่างจากนาง เขามีประสบการณ์ต่อสู้ระดับแนวหน้าและประสบความสำเร็จมามากในหน้าที่ของเขาแล้วไจ๋เหิงจ้านได้รับการยอมรับนับถือ

องค์หญิงน้อยพูดอย่างมีความหมาย “จู่ๆข้าก็รู้สึกขึ้นมาว่าเขาอาจเป็นอาจารย์ฝีมือดีก็ได้”

กู้เสวี่ยพบถังเทียน และถามเขาตามตรง  “อาเทียน เจ้าต้องการเงินหรือ?”

ถังเทียนมีความสุข “ฮ่าฮ่า, ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว! หวาสองร้อยล้านเหรียญดาวเชียวนะ แค่สู้ครั้งเดียวข้าก็ทำรายได้สองร้อยล้านเหรียญดาวแล้วแล้วจะไม่ให้ข้าอยากสู้ได้ยังไง”

กู้เสวี่ยไม่ได้ยกเรื่องเงินมาเป็นหัวข้อสนทนาอีก  นางรู้ชัดว่า ต่อให้นางพูดอีก อาเทียนก็คงไม่ยอมรับ  แม้ว่าอาเทียนจะทำตัวดูเหมือนบ้าๆ บอๆ มาตลอด  แต่เขาเข้าใจทุกอย่างชัดเจน

“จริงสิ  สองร้อยล้านเหรียญดาว  อาเทียน, เจ้าโชคดีจริงๆ”  กู้เสวี่ยปิดปากและหัวเราะ ถึงอาเทียนไม่ยอมรับเงินดวงดาวแต่นางสามารถให้ของขวัญอย่างอื่นแก่เขาได้

ตระกูลกู้กลับคืนสู่ความสงบและประมุขตระกูลทั้งหมดมาประชุมกัน องค์หญิงหมิงจูมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมาก เธอฉวยโอกาสไม่มีประหยัดยั้งออมสักนิด กู้เสวี่ยเปิดใช้พลังสายเลือดรุ้งหิมะได้ ทำให้มีอนาคตสดใสรอนางอยู่ที่สำคัญที่สุด นางมีสหายที่น่าเกรงขามอย่างถังเทียน

องค์หญิงหมิงจูลอบสนับสนุนตระกูลกู้ทำให้อิทธิพลและอำนาจของตระกูลกู้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ประมุขตระกูลทั้งหมดได้รับรู้ตั้งแต่นั้นมาตระกูลกู้กลายเป็นตระกูลหนึ่งที่ทรงอำนาจอิทธิพลมากที่สุดในดาวไพรมายา

ความเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกู้และรัฐบาลอู่โหวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเป็นพิเศษ

นักเลงผู้ทรงอิทธิพลในท้องถิ่นอาจจะมีท่าทีหยิ่งต่อหน้าผู้ว่าการดวงดาวได้ แต่ไม่มีใครกล้าทำตัวหยิ่งวางอำนาจสูงส่งต่อหน้าองค์หญิงหมิงจู  ผู้ว่าการดวงดาวเป็นเจ้าหน้าที่ภายใต้บังคับของรัฐบาลอู่โหว แต่องค์หญิงหมิงจูเป็นแก้วตาดวงใจของอู่โหว  อยู่ต่อหน้าอู่โหวความดำรงคงอยู่ของพวกเขาก็ไม่ต่างกับมดแมลง

เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลกู้  ตระกูลหวีตกเป็นเป้าหมายของการกล่าวโทษการกระทำที่โง่เขลาของผู้เฒ่าหวี ก่อให้เกิดหายนะต่อตระกูลหวี พื้นที่และสมบัติทั้งหมดของตระกูลหวีถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจนหดหายไปอย่างรวดเร็ว ยอดฝีมือของตระกูลหวีพากันหนีไปหมด ขณะที่ศิษย์ของตระกูลหวีมักตกเป็นเป้าหมายการสุ่มโจมตี

บางทีแม้แต่กู้เสวี่ยก็นึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นเช่นนั้นไปได้  สามเดือนต่อมาตระกูลหวีที่ครั้งหนึ่งเคยประสบความสำเร็จรุ่งเรือง กลับหายไปโดยไร้ร่องรอย

พวกหัวหน้าตระกูลที่ยิ้มแย้มเบิกบาน น่าสนิทสนมไม่มีความเมตตาเลยแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตามอาจารย์ผู้ลึกลับขององค์หญิงยังไม่ปรากฏตนเลยสักครั้ง ยอดฝีมือหนุ่มน้อยผู้ครอบครองเกราะชั้นเงิน ทำให้ประมุขตระกูลเหล่านั้นคิดถึงการต่อสู้ครั้งนั้น

แต่ ไม่มีผู้ใดกล้าแสดงความไม่พอใจ

เกราะชั้นเงิน พลังสายเลือดสองชนิดเพียงแค่สองจุดนี้เท่านั้น ก็เพียงพอปกครองดาวไพรมายาแล้ว  นอกจากนี้ถังเทียนยังอายุน้อยอยู่มาก  อนาคตของเขาย่อมสดใสแน่นอน

ผู้เฒ่าที่ถูกถังเทียนสังหารมีพลังสายเลือดงูทองสามารถขายได้ร้อยล้านเหรียญดาวโดยให้ตระกูลกู้ช่วยดำเนินการให้ถังเทียนซื้อหินดวงดาวระดับหกสองร้อยก้อนด้วยทรัพย์สินของเขากู้เสวี่ยได้ยินว่าถังเทียนต้องการหินดวงดาวจึงมอบหินดวงดาวระดับหกให้เขาร้อยก้อนโดยไม่มีความกังวลใจอีกต่อไป

พริบตาเดียวถังเทียนมีหินดวงดาวระดับหกถึงสามร้อยก้อนในมือ

ถังเทียนเริ่มการฝึกที่บ้าคลั่งของเขาต่อ

ที่เหนือหุบเขาหิวโหยอาการโอดครวญของถังเทียนไม่เคยหยุด ทุกวันเป็นเหมือนกับนรก เขาไม่ยอมเสียเวลาแต่อย่างใด และอุทิศตนเองให้กับการฝึกฝน  แม้ว่าปิงจะโหดเคี่ยวเข็ญในการฝึกฝนก็ไม่มีปัญหาอะไรแม้แต่น้อย

การดูดกลืนพลังของตันเถียนและเส้นชีพจรของถังเทียนกำลังเติบโตประสิทธิภาพของการดูดกลืนพลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ปัญหาหินดวงดาวได้รับการแก้ไขแล้วถังเทียนจึงมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ถังเทียนที่ยังมึนงงอยู่แต่ตันเถียนและเส้นชีพจรของเขาเป็นเหมือนน้ำวน ด้วยพลังดึงดูดที่กล้าแข็งและพลังเข้มข้นที่อยู่รอบตัวถูกดูดซึมเข้าร่างของเขาด้วยความเร็วที่น่าตระหนก

และถังเทียนในตอนนี้ยังคงมุ่งมั่นเพื่อผ่านอุปสรรคเข้าสู่ระดับที่หก

พลังสายเลือดภายในเส้นชีพจรของเขากำลังโคจรไปพร้อมกับปราณเที่ยงแท้ที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์  พวกมันเป็นเหมือนทหารและมีถังเทียนเป็นผู้บัญชาการมันโคจรผ่านด่านประตูสวรรค์เข้าเผชิญกับแรงต้านและกระทุ้งใส่อุปสรรคขวางในตันเถียนอย่างต่อเนื่อง

นั่นคือผนังขวางกั้นที่สมบูรณ์

ตอนนี้ถังเทียนไม่ได้ฝึกฝนพลังภายในระดับหก  ดังนั้นเขาจึงต้องใช้อีกวิธีหนึ่ง

อย่างไรก็ตามชั้นของอุปสรรคที่ไม่มีรูปแบบนี้ ทนทานเป็นพิเศษไม่ว่าถังเทียนจะใช้ปราณเที่ยงแท้ยังไงก็ตาม มันก็ไม่ขยับ

พลังยังไม่พอ

ถังเทียนนึกถึงอุบายอย่างหนึ่งเนื่องจากเขาไม่ได้ฝึกฝนพลังภายในระดับหก เขาจึงได้แต่ใช้พลังปราณเที่ยงแท้ระดับห้าเพื่อทลายชั้นอุปสรรคที่ขวาง  การ์ดพลังภายในระดับหก มีราคาสูงมาก  ถังเทียนจนกรอบย่อมไม่มีทางจ่ายได้เป็นธรรมดา และเขารู้ชัดเจนถึงความสำคัญของการฝึกพลังภายใน  อย่างเช่นพลังร่างกระเรียนในคัมภีร์ปราณกระเรียนพลังมังกรฟ้าในวิชาสี่มังกรฟ้าก็เป็นวิธีการโจมตีที่สำคัญของเขา

การผสานพลังสายเลือดและวิทยายุทธของชิงหลวนสร้างแรงบันดาลใจให้เขาเป็นอย่างมาก

หากวิชาพลังภายในและพลังสายเลือดวิทยายุทธและพลังของเกราะสามารถผสานกันได้สมบูรณ์อย่างนั้นพลังก็จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก  ถังเทียนสู้ต่อหรือไม่ก็ไม่ได้อะไร อย่างไรก็ตาม การบรรลุพลังยุทธระดับหกจะช่วยให้เขามีพลังก้าวกระโดด

ความก้าวหน้าในหลายวันมานี้มีมากมายปราณเที่ยงแท้ในร่างของเขามีพลังสูงสุด ทำให้ถังเทียนมีความมั่นใจมาก

เขาสามารถทำลายผ่านอุปสรรคได้แน่นอน

แต่สิ่งที่ถังเทียนพลาดไปก็คือเมื่อปราณเที่ยงแท้ของเขาแข็งแกร่งขึ้น ผนังอุปสรรคก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะพยายามทะลวงผ่านมากขนาดไหน แต่สิ่งที่ขวางอยู่นั้นก็ไม่ขยับหวั่นไหว

พลังยังไม่พอ!

ทันใดนั้นถังเทียนมีความคิดอย่างหนึ่ง  เขานึกถึงพลังร่างกระเรียนของเขา ดูเหมือนเขามักขาดแคลนปราณเที่ยงแท้อยู่เสมอ แต่พลังงานร่างกระเรียนสามารถเพิ่มพลังโจมตีของเขา และทำให้มีพลังงานเพิ่มขึ้น

การควบคุมการใช้พลังร่างกระเรียนของถังเทียนทำได้แทบจะเป็นไปตามธรรมชาติ  เมื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติปราณเที่ยงแท้ของเขาก็ค่อยๆ เลื่อนชั้นขึ้นมาช้าๆ และถูกดันไปข้างหน้าทีละชั้นทีละชั้นปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดในตัวของถังเทียน ซ้อนกองอยู่ต่อหน้าม่านพลังอุปสรรคที่ขวาง

ทันทีที่พลังปราณเที่ยงแท้ที่ดูเหมือนคลายตัวเบาบางได้รับการกระตุ้น  ชั้นของปราณเที่ยงแท้ พลังปราณเที่ยงแท้ที่ดูหลวมพลันแปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างเหมือนจะงอยปากกระเรียนและจิกใส่ม่านอุปสรรคอย่างดุเดือด

ปัง!

ถังเทียนสะดุ้งและม่านพลังที่กีดขวางไม่ขยับเขยื้อนก่อนนั้น กลับสะเทือนทันที

วิธีนี้ใช้ได้!”

ถังเทียนได้รับการยืนยัน ไม่ต้องกังวลต่อไป เขายังคงใช้พลังร่างกระเรียนปลุกพลังปราณเที่ยงแท้ของเขาอย่างต่อเนื่อง

ปัง ปัง ปัง!

การกระแทกใส่แต่ละครั้งทำให้ผนังอุปสรรคสะเทือนรุนแรง

ความถี่ของการกระทุ้งมากขึ้นหนาแน่นขึ้นทุกทีและความถี่ของการกระทบกระเทือนของม่านพลังอุปสรรคก็รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน

ทันใดนั้น เพล้ง, เสียงดังเหมือนแก้วแตก ปราณเที่ยงแท้พุ่งทะลักไปข้างหน้าราวกับกระแสน้ำไหลบ่า

สำเร็จ!

ถังเทียนไม่สามารถยินดีได้ เพราะตลอดทั้งร่างของเขาพลันสั่นสะท้านทันทีและจิตใจของเขาดับวูบ

แทบจะในเวลาเดียวกันปิงที่ให้ความสนใจถังเทียนอยู่ตลอดเวลาบดหินดวงดาวระดับหกยี่สิบก้อนทันทีพลังอัดแน่นจนเต็มห้องฝึก

พลังงานที่หนาแน่นทะลักเข้าไปในร่างของถังเทียนอย่างบ้าคลั่งและโคจรไปตามบันไดสวรรค์ ในร่าง

แอ่งตันเถียนที่ใหญ่กว่ากว้างกว่าเดิมมากเหมือนทะเลสาบแห้งแล้งรอฝนหลั่งรด อาจกล่าวได้ว่าแอ่งตันเถียนระดับห้าเป็นเหมือนสระว่ายน้ำส่วนแอ่งตันเถียนระดับหกเป็นเหมือนทะเลสาบขนาดย่อม

พลังปราณเที่ยงแท้เข้าไปในแอ่งตันเถียนระดับหกอย่างรวดเร็วและหล่อเลี้ยงแอ่งตันเถียนไว้

แอ่งตันเถียนระดับหกถูกเติมเต็มอย่างช้าๆ  พอแอ่งตันเถียนได้รับพลังหล่อเลี้ยงก็เริ่มกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาขึ้น พลังสายเลือดที่เชื่อมแอ่งตันเถียนระดับหกเริ่มถูกอัดฉีดด้วยพลังปราณเที่ยงแท้และความสบายที่มิอาจอธิบายได้ทำให้ถังเทียนครางออกมา

ถังเทียนมีความรู้สึกว่าร่างกายของเขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ร่วงโรยและพอได้รับฝนหล่อเลี้ยงทำให้มีความสุขมาก

นี่เขาบรรลุพลังระดับใหม่หรือนี่?

นี่คือระดับหกใช่ไหม?

โลกดูเหมือนเปลี่ยนไปเล็กน้อย  แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงจะไม่ได้รู้สึกรุนแรงเหมือนกับเมื่อตอนที่ประสบความสำเร็จได้จิตวิญญาณพลังยุทธเงินแต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ชัดเจนน่าหลงใหล

พลัง!

ไม่มีอะไรน่าปลาบปลื้มมากไปกว่าการได้พลังอีกแล้ว

จิตวิญญาณพลังยุทธทำให้เขาเข้าใจโลกได้ลึกซึ้งขึ้น  ขณะที่ปราณเที่ยงแท้ทำให้เขาสามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น ปราณเที่ยงแท้โคจรไปตามเส้นชีพจรและเข้าไปถึงทุกซอกมุมของร่างกาย ซอกมุมในกายที่ขาดพลังหล่อเลี้ยงโดยไม่รู้ก่อนนั้น  ค่อยๆ ถูกกระตุ้นทีละส่วนๆ จนมามีชีวิตชีวา

เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังของเขาก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ  แม้แต่ความแข็งแรงของเขาก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ทันใดนั้น ถังเทียนเกิดความรู้แจ้ง

การฝึกฝนปราณเที่ยงแท้ก็คือกระบวนการพัฒนาและใช้งานอย่างต่อเนื่อง

เมื่อทุกส่วนมุมลับในร่างกายได้รับการกระตุ้นจากปราณเที่ยงแท้อย่างช้าๆ  เลือดเนื้อก็คงสมบูรณ์ในตัวมันเอง

ถังเทียนลืมตา เขาตื่นเต้นอย่างมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด