ตอนที่แล้วตอนที่ 174 เย็นไว้พ่อหนุ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 176 แก้ปัญหา

ตอนที่ 175 ชนะโดยไม่ต้องสู้


หลิงซิ่วลุกขึ้นมาจากถังน้ำยาและเดินมาที่กระจก  ใบหน้ารูปทรงบุรุษในกระจกมีร่องรอยสับสน  สายตาของเขามองดูที่ผมสีเงินแพรวพราวบนศีรษะเขา

ระดับการลุกลามของสีเงินนั้นรวดเร็วมาก

คำสนทนาบางตอนกับอาจารย์เมื่อตอนเขายังเด็กผุดขึ้นมาในใจ

“ซิ่วเอ๊ย! ถ้าถึงวันหนึ่งเมื่อเจ้าฝึกหอกทะเลจุดจนเก่งกล้า จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในตัวเจ้า”

“อาจารย์,  ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นไหม?”

“ไม่, เจ้าจะกลายเป็นเงิน”

“กลายเป็นเงินหรือ? ร่างของข้าจะกลายเป็นเงินจริงหรือ?”

“อืม.. วิชาหอกทะเลจุด ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ฝึกฝนแข็งแกร่งขึ้น แต่จะมีการเปลี่ยนสภาพเป็นเงินจะเริ่มจากผมของเจ้า   จากนั้นจะซึมซับเข้าไปในเลือดเนื้อและกระดูกของเจ้าเมื่อกลายเป็นเงินโดยสมบูรณ์ มันจะดูน่ากลัวมาก!”

“โอ้โห,  อย่างนั้นก็ต้องน่ากลัวน่าเกรงขามมากเลย!  สุดยอด!ข้าอยากเป็นเงินด้วยเหมือนกัน!”

“ไม่ อาซิ่ว เจ้าต้องไม่เป็นเงิน!  เค้าโครงกระดูกของเจ้าถูกจัดเข้าที่แล้วเมื่อเจ้ากลายเป็นเงินจนถึงกระดูก ความทรมานของเจ้าจะเพิ่มทวีคูณ  ไม่มีใครทนทุกข์ทรมานขนาดนั้นได้”

ตอนนี้หลิงซิ่วจำท่าทีห่วงใยของอาจารย์ในตอนนั้นได้

ทันใดนั้นเขาหัวเราะตัวเองในกระจก ผมสีเงินทำให้ใบหน้าลูกผู้ชายของเขาดูหล่อเหลายิ่งขึ้น  ดวงตาสีแดงส้มเหมือนกับบอลเพลิงที่สงบ

“บางทีความทรมานคงเป็นชะตากรรมของเสี่ยวซิ่ว แต่อาจารย์  เสี่ยวซิ่วจะไม่ยอมแพ้”

หลิงซิ่วกระซิบแผ่วเบา

ภาพเบื้องหลังฆาตกรอำมหิตสีเงินปรากฏขึ้นในของเขา  เขาไม่เคยพบคนผู้นี้  แต่รูปร่างเขาปรากฏชัดอยู่ในหัวใจของเขา

เนื่องจากเป้าหมายของเจ้าคือหมู่ดาวกางเขนใต้  อย่างนั้นข้าจะไปหาเจ้าแน่นอน

ข้าต้องจบชีวิตเจ้าด้วยมือของข้าเอง

เจ้าคือ คนทรยศผู้นี้

หลิงซิ่วกำหมัดแน่น สีหน้าของเขาเหี้ยมเกรียม

※※※※

ถังเทียนรู้สึกกลัวหลังจากที่สู้ทนดู แต่ในไม่ช้าเขาก็ผลักความรู้สึกนี้ไว้เบื้องหลังจิตใจ  อาเสวี่ยเป็นสหายที่ดี คิดว่าการทำให้อาเสวี่ยต้องอับอายเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ความรู้สึกตามธรรมชาติของถังเทียนเดิมทีบริสุทธิ์อยู่แล้ว  แม้ว่าเขาจะรู้สึกมากในตอนนั้นก็ตาม

แม้ว่ากู้เสวี่ยจะรู้สึกอายเมื่อเห็นถังเทียน  แต่นางปรับใจให้สงบได้เป็นอย่างดี กู้เสวี่ยผู้กระตุ้นพลังสายเลือดรุ้งหิมะสร้างความโกลาหลให้เกิดขึ้นในตระกูลกู้ทันที  ทั่วทั้งตระกูลเต็มไปด้วยความยินดี  และพวกนักสู้ที่พักอยู่ในตระกูลกู้  พากันมาร่วมยินดีกับพวกเขา

ตระกูลกู้ในวันนี้  จะไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องอีกต่อไป

นักสู้ทุกคนของตระกูลกู้ผู้ได้รับการกระตุ้นสายเลือดรุ้งหิมะจะเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไกล ขณะที่นักสู้ผู้ไม่ได้คัดค้านผู้เฒ่าหวีและข่มเหงตระกูลกู้,  ทั้งหมดมาทำข้อตกลงสงบศึก  ทัศนคติของสวี่ฉางเทียนก็แทบไม่มีอะไร

ความลึกลับทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า

ข่าวว่าผู้ว่าการดวงดาวจะมาเยี่ยมตระกูลกู้ด้วยตนเองกระจายไปเร็วอย่างน่าตกใจ

※※※※

ถังเทียนคร่ำเคร่งกับการฝึกฝนอย่างหนัก  หินดวงดาวในมือของเขาถูกใช้สิ้นเปลืองด้วยอัตราน่าตกใจ  ก็เหมือนกับคนมัธยัสถ์เมื่อพวกเขาเริ่มใช้จ่ายสุลุ่ยสุร่าย พวกเขามักรู้สึกกดดันมากขึ้น แต่หลังจากใช้เงินมากเข้าความตระหนี่ก็หายไปไม่มาก และสิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจก็คือปราณเที่ยงแท้ของเขามีความก้าวหน้าอย่างน่าอัศจรรย์

ปิงบอกว่าเขายังต้องการหินดวงดาวระดับหกร้อยก้อน  จำนวนเท่านั้นถูกคำนวณไว้เป็นอย่างดี

เหรียญดวงดาว!

น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถเข้าตำหนักจิตวิญญาณพลังยุทธได้  มิฉะนั้นถ้าเขาไปพบเซรีนในดินแดนจิตวิญญาณแล้วขายอาวุธจักรกลสองสามชิ้นของนาง เขาจะสามารถหาเงินจำนวนนี้ได้

หลังจากใคร่ครวญอย่างหนักถังเทียนยังหาความคิดดีๆ ไม่ได้ เขาเก็บปัญหานี้ไว้ในใจและฝึกฝนอย่างหนัก

ทันใดนั้นเมอเรย์วิ่งเข้ามาหาด้วยความกังวล และมีสีหน้าแปลกประหลาดปรากฏบนใบหน้า

“ลุงเมอเรย์ เกิดอะไรขึ้น?”  ถังเทียนประหลาดใจ

หน้าตาของเมอเรย์มีสีหน้าฟ้องว่าไม่รู้จะอธิบายยังไงดี  เสียงของเขาเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ  “ผู้ว่าการดวงดาวมาที่นี่  คุณหนูกำลังรับหน้าอยู่ตอนนี้  คุณชายอาเทียน,  นางขอเชิญคุณชาย”

“ผู้ว่าการดวงดาว?” ถังเทียนตะลึง “เขามาทำอะไรที่นี่?”

“ข้าไม่รู้” เมอเรย์มีใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล การมาเยือนกะทันหันของผู้ว่าการดวงดาวทำให้ตระกูลกู้ทั้งหมดกระวนกระวาย

ถังเทียนมองเห็นสีหน้ากังวลของเมอเรย์จึงรีบปลอบใจ  “ข้าจะไปดู อย่าห่วงไปเลยลุงเมอเรย์  ข้าอยู่ที่นี่ทั้งคน!”

ถังเทียนเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ห้องโถงตระกูลกู้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่  ในตอนนี้ห้องใหญ่โตเต็มไปด้วยผู้คนทว่าเงียบผิดปกติ  ถังเทียนลอบหวั่นใจ  ผู้ว่าการดวงดาวผู้นี้มีอิทธิพลขนาดนี้เชียวหรือ  แต่ในไม่ช้าถังเทียนก็สงสัยเล็กน้อย  คนพวกนี้ดูแล้วไม่คุ้นเคย  เขาไม่เคยเห็นคนพวกนี้มาก่อน

กู้เสวี่ยเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นถังเทียน  นัยน์ตานางเป็นประกาย “อาเทียน!”

สายตาทุกคนมองตามไปที่ถังเทียนทันที

บรรดาสายตาเหล่านี้มทั้งประหลาดใจชื่นชม อิจฉา สงสัย สำรวจ ประเมิน และสายตาบางคนก็มองอย่างวางอำนาจเต็มที่

ถังเทียนตอนแรกที่วางตัวสบายๆตอนนี้กลายเป็นจริงจัง นัยน์ตาเป็นประกาย เขาสาวเท้าก้าวยาวทันที

ทุกคนมีอาการเหมือนเห็นภาพลวงตาทันที  ถังเทียนเดินเนิบนาบชัดๆแต่เป็นเหมือนบอลแสงพร่าเลือน ทุกคนหวั่นเกรงทันที

และมีอยู่สองสามคนที่พยามยามข่มความคิดที่จะเข้าต่อสู้

ถังเทียนไม่กลัวแม้แต่น้อยและจ้องกลับสายตาสองสามคู่นั้น

ในคนสองสามคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้ว่าการดวงดาวก็คือสวี่ฉางเทียน,ถังเทียนนึกว่าเป็นสี่หัวหน้าคณะปกครองที่อยู่ใต้บัญชาของผู้ว่าการดวงดาว  อย่างไรก็ตามยังมีสายตาอีกคู่ที่มองถังเทียนด้วยความแค้นลึกและกระตุ้นความสนใจถังเทียน

ถังเทียนหันไปดูอบๆและตระหนักได้ว่าเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งที่มีใบหน้าเรียบเฉย ตาของเขาเรียวแต่ตี่กำลังจ้องถังเทียนด้วยความไม่เป็นมิตร ถังเทียนมองเขาอย่างไม่คุ้นเคยชั่วขณะ ก่อนจะหันไปดูรอบๆ

ทันทีที่ถังเทียนละสายตาเขากลับมองเห็นคนอีกคนหนึ่ง

นอกจากผู้อาวุโสคนนั้นแล้ว  เขาเห็นผู้อาวุโสหวีแล้ว  เขาก็เข้าใจทันที

ถังเทียนฉีกยิ้มและก้าวเท้ายาวตรงไปหาผู้อาวุโสหวีแล้วอุทาน  “เฮ้, ผู้อาวุโสหวี ท่านยังอยู่ที่นี่อีกหรือนี่?    สงสัยว่าข้าคงเล่นงานท่านไม่มากพอ  ท่านก็เลยไม่รู้จักจดจำไว้เป็นบทเรียนสินะ!”

ขณะที่ถังเทียนเดิน  เข้ารวบกำหมัดเสียงกระดูกลั่นได้ยินชัดเจน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งลำพอง เหมือนกับอันธพาลที่กร่างตามท้องถนน

ห้องโถงเงียบผิดปกติแม้เข็มตกก็ยังได้ยิน ปากทุกคนอ้าค้างและจ้องมองถังเทียนอย่างโง่งม

เจ้าเด็กนี่บ้าไปแล้วหรือ?

เขาไม่รู้ว่าผู้ว่าการดวงดาวอยู่ที่นั่นหรือ?

คณะปกครองที่อยู่ข้างๆผู้ว่าการดวงดาวมองดูโกรธและสวี่ฉางเทียนฝืนยิ้ม เจ้าเด็กนี่ไร้เหตุผลแท้ๆขณะที่หัวหน้าคณะปกครองเตรียมจะพูด ผู้ว่าการดวงดาวยกมือห้าม กลุ่มคณะปกครองตะลึงแต่ก็ยอมชะงักเท้าทันที

หน้าของผู้เฒ่าหวีแดงก่ำ เขาไม่เคยคิดเลยว่าถังเทียนจะจงใจฉีกหน้าเขาอย่างไม่เกรงใจต่อหน้าผู้ว่าการดวงดาวและทุกคน

“โอหังนัก!”

เสียงที่เยือกเย็นดังออกมา  แต่กลับดังมาจากผู้อาวุโสที่อยู่ข้างตัวผู้เฒ่าหวี  เขาหยีตาและพูดเสียงนุ่มนวล  “เดรัจฉานที่ไร้มารยาทนี่มาจากไหนกัน?  ผู้เฒ่าหวีตามดูแลตระกูลกู้ที่น่าสงสารด้วยใจที่เมตตา  แต่กลับมีคนชั่วทำร้ายเขา  ผู้เฒ่าหวีที่ได้รับการนับหน้าถือตาไม่ได้พูดต่อรองอะไรกับเจ้า  ตระกูลกู้นอกลู่นอกทางเกินไปแล้วกฎของบ้านในเวลานั้นดูเหมือนถูกกวาดทิ้งไปหมด ดูเหมือนว่าข้าคงต้องสั่งสอนพวกเจ้าเหล่าผู้เยาว์ทุกคนที่บังอาจทำกับสหายรักของข้าจากการมาเยือนตระกูลในตอนนั้นเสียแล้ว  นึกว่ามีฝีมือนักหรือ  พวกเจ้าช่างไม่รู้จักประมาณตัวเสียเลย!”

วลีสุดท้ายว่า“พวกเจ้าไม่รู้จักประมาณตัว” ทำให้อุณหภูมิของห้องโถงทั้งหมดลดลง

สีหน้าของกู้เสวี่ยเยือกเย็น  ขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลกู้ดูโกรธเคือง

อย่างไรก็ตามถังเทียนไม่ได้โกรธแม้แต่น้อย และฉีกยิ้ม “ท่านไม่ได้หมายความว่าต้องการสู้ใช่ไหม? ทำไมต้องพูดให้วกวนด้วยเล่า?ไม่ต้องรีบก็ได้, ขอทีละคน, ว่ายังไง ผู้เฒ่าหวี ท่านเป็นอะไรไปแล้ว?  กลัวหรือ? ขี้ขลาดหรือ? ท่านเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า? ถ้ายังเป็นลูกผู้ชายงั้นก็ออกมาสู้กัน”

อาการบาดเจ็บครั้งก่อนของผู้เฒ่าหวียังไม่หายดี  และตอนนี้ เขาถูกถังเทียนเหน็บแนมจึงมีสีหน้าเปลี่ยนไปมา

“โอว, ข้าเข้าใจ, ท่านเป็นแก่เกินไปเสียแล้ว หรือไม่ก็...”

ถังเทียนละคำพูดไว้ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความปรารถนาร้ายเบื้องหลังคำนั้น  พวกเขาไม่มีทางเข้าข้างเจ้าผู้นี้ในอนาคตแน่

“เอาอีก  พยายามเข้าอีก!”  ปิงตะโกนอยู่ในใจถังเทียนอย่างเบิกบานใจ คำพูดทิ่มแทงใจพรั่งพรูออกมาเหมือนปีนกล  “ยอมรับเสียเถอะว่าตนเองแก่แล้วทำไมถึงต้องออกมาทำเรื่องโง่ๆ ด้วยตนเองในเมื่ออายุปูนนี้แล้ว จุ๊ จุ๊ท่านก็เห็นนี่ เรื่องนี้มันน่าขายหน้าขนาดไหนแล้วในอนาคตท่านจะเอาตัวรอดได้ยังไง อย่ากังวลเลย การแสดงตลกงี่เง่าของท่านในวันนี้จะต้องเป็นที่จดจำของทุกคน  หลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดไปแล้ว  ลูกหลานของตระกูลหวี  จะต้องประทับใจในวันนี้ไปตลอด....”

ถังเทียนเอาแต่ตอกย้ำและไม่อาจทำให้ได้เร็วดั่งใจของปิงได้

โอ้ก..!

ผู้เฒ่าหวีกระอักโลหิตออกจากปากและล้มลงทันที ใบหน้าเขาเหลืองซีดเหลือลมหายใจรวยริน

ถังเทียนประหลาดใจ เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ว่าการด่าทอคนก็สามารถเล่นงานคนได้อย่างน่าทึ่งแบบนั้น

“ทหารที่เอาชนะได้โดยไม่ต้องสู้  นี่แหละเป็นศิลปะการรบขั้นสูงสุด  ในที่สุดข้าก็เข้าใจ!”  เบื้องหลังประตูดาวกางเขนปิงยืนกอดอกแหงนมองฟ้า ใบหน้าของเขาอ้างว้างรำพึงอยู่ในใจ “ปล่อยวางเมื่อได้ข้อสรุป  ทิ้งทั้งอำนาจและชื่อเสียง”

“หาเรื่องตาย!” ผู้อาวุโสคนนั้นโกรธเต็มที่  เขาโดดขึ้นและโฉบเข้าโจมตีเหมือนอินทรี!

ถังเทียนดึงความรู้สึกกลับมา  สีหน้าของเขาเยือกเย็น   เขารู้สึกหมั่นไส้เจ้าผู้นี้อยู่นานแล้ว  เมื่อฝ่ายตรงข้ามโจมตีก่อน ก็ถูกใจเขาทันที

เขาย่อตัวในท่านั่งม้าขาไม่เคลื่อนไหว และปล่อยหมัดออกไปรับการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง

บึ้ม!

ทั้งสองฝ่ายปะทะกันโดยตรง

พื้นหินใต้เท้าถังเทียนแตกเท้าของเขาจมลงไปในพื้น แต่ร่างของเขาไม่ขยับ ขณะที่ผู้อาวุโสนั้นรู้สึกเหมือนกระแทกใส่กำแพง  พลังมหาศาลสะท้อนกลับมา  เขากระเด็นกลับหลังและม้วนตัวในอากาศต่อเนื่องก่อนจะไปที่อยู่ที่คานของห้องโถงซึ่งอยู่ในจุดที่สูงสุด

ถังเทียนถ่มรสขมในปากออกมาและพูดเย็นชา “ทำคุยโตเที่ยวเสนอหน้าให้บทเรียนที่โน่นที่นี่บ้าง  ข้าสงสัยจัง เจ้าจะน่ากลัวแค่ไหนเชียว? ฝีมือแค่นี้ข้าหาเอาแถวๆ ตระกู้ก็ได้!”

ปิงยกยอถังเทียนอยู่ข้างใน  “ด่าได้ดี พ่อหนุ่มเดี๋ยวนี้เจ้าชักจะคล้ายข้าเข้าไปแล้ว”

ผู้อาวุโสโกรธจนหัวเราะออกมาและพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “ในเมื่อเจ้าหาที่ตายเอง ก็อย่าได้โทษว่าข้าก็แล้วกัน!”

เขากำลังเตรียมโจมตีก็มีเสียงทุ้มต่ำดังเข้าหูทุกคน

“พอได้แล้ว!”

ผู้ว่าการดวงดาวผู้นิ่งเงียบมาตลอดเวลาเอ่ยขึ้นจนได้  ผู้อาวุโสชะงักค้าง  เขาคลายพลังและลงมาจากคานบ้านพูดกับถังเทียน“เห็นแก่ท่านผู้ว่าฯ ของเรา ข้าจะยอมละเว้นเจ้าสักครั้ง”

ถังเทียนเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสก็แลบลิ้นล้อเลียนและหัวเราะเบาๆ

ผู้อาวุโสหน้าเขียวทันที

ขณะที่ผู้ว่าการดวงดาวเตรียมตัวพูดเสียงหัวเราะเบาๆ ก็ดังมาจากเด็กสาวที่อยู่ด้านข้างเขาเงียบทันทีและหัวเราะเบาๆ “พ่อหนุ่มนี่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาจริงๆ”

ถังเทียนได้ยินเสียงเด็กสาวหัวเราะก็แปลกใจเขาจึงหันไปมองตรงที่นั่ง

เมื่อเขาเห็นเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ใหญ่  ร่างของเขาแข็งค้าง กลัวจนนึกอะไรไม่ออก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด