ตอนที่แล้วตอนที่ 170 พยัคฆ์ร้ายในฝูงแกะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 172 โลกเปลี่ยนไปอย่างรวดรวดเร็ว

ตอนที่ 171 กลัวจนโง่


ถังเทียนเบิกบานใจจากการต่อสู้

เขาควงกระบองเขี้ยวหมาป่าในมือเป็นกังหันกวาดไปทั่วห้องโถง ทุกที่ซึ่งเขาไปถึงต่างก็ถูกกวาดทำลายได้ง่าย  เสียงร้องโหยหวนได้ยินอย่างต่อเนื่อง  ความเร็วของเขามากมายจนนักสู้ไม่มีเวลาได้หนี

“อ๊า.. อ๊าค... อ๊า!”

“ไป ไป ไป!”

“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”

ถังเทียนคำรามลั่นห้องโถง

เมื่อเห็นถังเทียนบ้าดีเดือด  หลู่ชิงกลัวจนคิดอะไรไม่ออก  เขาสูญเสียความตั้งใจสู้  และรีบวิ่งไปที่กลางซากหักพังทลายเพื่อช่วยผู้เฒ่าหวี

ถังเทียนตาไวเหมือนเหยี่ยว  เขาสังเกตเห็นหลู่ชิงและผู้เฒ่าหวี  เขาโห่ร้องเสียงประหลาดทันทีกระทืบเท้ากับพื้นและทะยานขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับชูกระบองเหนือหัว

ถังเทียนลอยตัวขึ้นไปสูงราวๆ 20 เมตรและร่วงลงมาเหมือนดาวตก หลู่ชิงและผู้เฒ่าหวีขยายขนาดอย่างรวดเร็วในสายตาของเขา  เขาสามารถมองเห็นสีหน้าหวาดกลัวสยดสยองของทั้งสองคนได้ชัด

สายตาของถังเทียนบ่งบอกว่าตั้งใจจะฆ่าเมื่อนึกถึงความอัปยศที่อาเสวี่ยต้องทนทรมาน เขาจึงมีแต่ความโกรธ เจ้าแก่ระยำนี่จะทำให้หลายคนต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป ถ้าหากเขายังมีชีวิตอยู่

รังสีฆ่าฟันเต็มอยู่ในหัวใจของเขาจึงเป็นธรรมดาที่ถังเทียนใช้พลังเต็มที่

แครก แครก แครก!

ข้อต่อทุกข้อเหมือนกับร่ำร้อง  กล้ามเนื้อทุกส่วนตื่นตัวเต็มที่ถังเทียนอยู่ในอากาศในท่าเหมือนธนูที่โก่งสายเต็มเหนี่ยวร่างของเขายืดถึงขีดจำกัด กระบองเขี้ยวหมาป่าในมือที่ชู ยกสูงขึ้นไปไม่กี่นิ้ว!

“ฆ่า!”

ถังเทียนถลึงตาด้วยความโกรธ  ลมหายใจหนักหน่วง

พลังในร่างทั้งหมดถูกรวมไว้ จู่ๆกระบองที่ชูเหนือหัวเขาอันตรธานไปจากในมือ  พวกนักสู้ที่มีพลังสายตาดีสามารถมองเห็นกระบองพุ่งลงมาในอากาศหนามเขี้ยวสุนัขบนกระบองแต่ละเขี้ยวสั่นรุนแรงแหวกอากาศจนเกิดเสียงหวีดฟังแล้วเสียวสันหลังวาบกันทุกคน

วีดดดด

โดยไม่มีการเตือนรังสีที่แกร่งกร้าวเย็นยะเยียบปรากฏวาบอยู่ต่อหน้าต่อหน้าเขา

ม่านตาของถังเทียนหดแคบแต่เขาไม่แตกตื่นแม้แต่น้อย แรงเหวี่ยงของเขาอยู่ในระดับสูงสุดไปแล้ว ต่อให้เป็นไซอามาเองเขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย

กระบองและรังสีขวานปะทะกันตรงๆ

ปัง!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวของทองและเหล็กปะทะกันกลบเสียงอื่นทั่วทั้งห้องโถง

ถังเทียนรู้สึกแต่ว่าพลังกล้าแกร่งเมื่อเทียบกับที่ขวางหน้ากระบองของเขา  กระบองในมือของเขาดูเหมือนปะทะใส่กำแพง

แรงสั่นสะเทือนมหาศาลทำให้ข้อมือของเขาถึงกับชา

ถังเทียนแตกตื่นเขายืมแรงสะท้อนและเด้งถอยกลับไปด้วยความเร็วสูง

ส่วนคนอื่นเห็นถังเทียนกำลังพุ่งใส่หลู่ชิงและผู้เฒ่าหวีอย่างโกรธเกรี้ยว  เด้งกลับไปด้วยความเร็วสูง

จนกระทั่งมีร่างที่ไม่คุ้นร่างหนึ่งปรากฏออกมาจากฝูงชนเมื่อนั้นทุกคนถึงได้รู้ตัว

“ท่านหัวหน้า!”  เยี่ยนเซี่ยจำผู้มาใหม่ได้ทันที  เขาคือหัวหน้ากลุ่มสวี่ซื่อ  สวี่ฉางเทียน กำลังตกใจอย่างหนัก

ก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว ถังเทียนคำรามลั่นอีกครั้งและพุ่งเข้าหาสวี่ฉางเทียนด้วยความเร็วสูงพร้อมกับกระบองในมือเขา

บัดซบ!

เจ้าผู้นี้ปรากฏออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ยและเข้ามาขัดขวางพลังโจมตีของเขา  ถังเทียนรู้สึกว่าเหยื่อหลุดรอดมือไปได้ทำให้เขาโกรธจัดทันที

น่าคลั่งใจนัก

บุรุษแปลกหน้าตัวเตี้ยหลังโกงถูกมองว่าเป็นศัตรูของถังเทียนทันที  รูปร่างของฝ่ายตรงข้ามเตี้ยล่ำ แต่แข็งแรงมากขวานหนาหนักสองเล่มอยู่ในมือของเขาอยู่ในท่าตั้งรับพร้อมกับสีหน้าที่เคร่งเครียด

พลังรบหรือเปล่า?

ถังเทียนฉีกยิ้มลี้ลับ  หลังจากสู้มาจนถึงตอนนี้  เขาไม่อาจควบคุมตนเองได้แล้ว  เขารู้สึกว่าตนเองกำลังเร่าร้อน แม้ว่าเลือดในร่างกายเขาที่ดูดซับมาจะเป็นเลือดแคระและเลือดเทพ แต่เลือดเหล่านั้นยังไม่ได้ย่อยสลายได้สิ้นเชิง  ดังนั้นจึงทำให้ถังเทียนตื่นเต้นผิดปกติ ถังเทียนไม่มีถอยอยู่แล้วเนื่องจากคู่ต่อสู้สามารถสู้เขาได้ในแง่ความแข็งแกรง  นี่จะทำให้การต่อสู้ของเขาทวีความดุเดือด

พร้อมกับเสียงตวาดถังเทียนพุ่งเข้าไปหาด้วยเร็วยิ่งกว่าครั้งก่อน

และโจมตีด้วยพลังของเขาทั้งหมด!

สวี่ฉางเทียนเตรียมจะพูดแต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าถังเทียนไม่มีความคิดจะให้เขาพูด กระบองมาปรากฏอยู่เหนือศีรษะเขาอีกครั้งหนึ่ง  ด้วยอันตรายที่มากกว่าครั้งก่อน

หัวใจของสวี่ฉางเทียนเย็นเฉียบ  เขาไม่กล้าประมาท  และรวบรวมปราณเที่ยงแท้ยกขวานคู่ขึ้นต้าน

ปัง!

เสียงปะทะดังสนั่นทำให้ทุกคนหูอื้อ

พลังประหลาดมาจากขวาน  สวี่ฉางเทียนตกใจ แรงหวดของถังเทียนครั้งนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าครั้งก่อน  เท้าของเขาจมลึกลงไปถึงข้อเท้าพื้นแตกร่วนเหมือนขนมปังกรอบ

เจ้าผู้นี้,  มีพลังมากขนาดนั้น

สวี่ฉางเทียนมีชื่อเสียงในเรื่องพลัง มีคนมากมายที่ฝีมือดีกว่าเขา  แต่ที่มีความพละกำลังเหนือกว่าเขา  เขายังไม่เคยเจอ  พละกำลังเป็นความสามารถที่เขาภูมิใจ  คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะโดนคนอื่นเล่นงานได้

“ไปลงนรกซะเถอะ!”

ถังเทียนโกรธไม่ลืมหูลืมไปแล้วหมอกโลหิตในร่างกายเขาหลอมรวมกับเลือดเนื้อของเขาได้เร็วขึ้น ดวงตาของถังเทียนเริ่มมีรอยเส้นเลือดแดงปรากฏ  เนื่องจากพลังสะท้อนกลับที่รุนแรงขณะที่ถังเทียนเด้งกลับไปในอากาศ เขาพลิกตัวแล้วพุ่งเข้าหาสวี่ฉางเทียนด้วยความเร็วกว่าเดิมอีกครั้ง

บึ้ม บึ้ม บึ้ม!

เสียงปะทะยังดังอย่างต่อเนื่องเป็นประทัดแตก

ถังเทียนหวดกระบองของเขาใส่อย่างดุร้าย  แรงหวดใส่อย่างต่อเนื่องรุนแรงทำให้สวี่ฉางเทียนเป็นเหมือนตะปูยักษ์ที่ถูกค้อนกระหน่ำใส่ไม่หยุดและจมลงทีละนิ้วๆ  หน้าของสวี่ฉางเทียนแดงก่ำ  แขนเจ็บชา และกลั้นลมหายใจเฮือกสุดท้ายไว้  ความถี่ในการโจมตีของถังเทียนทำให้เขากระวนกระวายและไม่กล้าอ้าปาก  เพราะทันทีที่เขาอ้าปาก  พลังที่เหลือในตัวของเขาจะหายไป

เยี่ยนเซี่ยและพวกตะลึงพูดไม่ออกกับภาพที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา พวกเขาไม่เคยนึกฝันเลยว่าหัวหน้าคณะปกครองจะถูกถังเทียนเล่นงานได้”

เป็นไปได้อย่างไร....

คำเหล่านี้ว่า “เหมือนผีหลอก” ลอยขึ้นมาในใจของพวกเขา ผลกระทบของภาพใหญ่ยิ่งกว่าการต่อสู้ระหว่างถังเทียนกับผู้เฒ่าหวีทำให้พวกเขาลืมก้าวเข้าไปช่วยเหลือ

จนกระทั่งร่างของสวี่ฉางเทียนจมลึกลงไปถึงเข่า  ตอนนั้นเยี่ยนเซี่ยค่อยรู้สึกตัว  สีหน้าเขาเปลี่ยนไป และเหมือนธนูที่หลุดจากแล่งเขาพุ่งเข้าหาถังเทียน

ฮึ่ม!

ร่างบรอนซ์ขนาดยักษ์เป็นเหมือนกำแพงทองแดงปรากฏอยู่ต่อหน้าเยี่ยนเซี่ยโดยไม่มีเค้าลาง

“ปัง ปัง ปัง.....”

เสียงปะทะดังสะท้านวิญญาณชะงัก

นั่นมัน....

ม่านตาของเยี่ยนเซี่ยขยาย  เขาจำเจ้าสิ่งนี้ได้ตั้งแต่แรกสีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที! ไวมาก! เขานึกไม่ถึงเลยว่าอาวุธจักรกลที่หนักถึงเพียงนั้นจะมีความเร็วอย่างน่าทึ่งถึงเพียงนั้น

เขากัดฟันและเตรียมตัวโจมตีแต่เมื่อเขาได้ยินหัวหน้าตะโกนด้วยความกังวล “หยุดนะ”

เยี่ยนเซี่ยตกใจ  เขาระงับการจู่โจมโดยไม่คิดอะไร

ปิงใช้มือข้างหนึ่งหิ้วตัวถังเทียนไว้และอีกข้างหนึ่งถือกระบองเขี้ยวหมาป่า กระบองใหญ่น่ากลัวเมื่ออยู่ในมือปิงกลับดูเหมือนกับของเด็กเล่น

ตาของเสือเขี้ยวดาบจ้องมองเขาอย่างเย็นชา

หัวใจของเยี่ยนเซี่ยหนาวเหน็บอย่างอธิบายไม่ถูก แต่สายตาของเขามองดูถังเทียนที่อยู่ในมือของเสือเขี้ยวดาบ  เขาตะลึงเพราะถังเทียนล้มลงหมดสติไปโดยไม่รู้ตัว

สวี่ฉางเทียนยืนโงนเงนแขนขาไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย  หน้าของเขาซีดขาวหลั่งเหงื่อโชกตัว แต่ตอนนี้เขาตะโกนว่า “อย่าตื่นเต้น! ทุกคน.. มีอะไรก็เจรจากันได้!”

เจรจากันได้...

เยี่ยนเซี่ยชะงักทันทีเขาแทบจะสงสัยว่าได้ยินผิดไป คำพูดเปี่ยมด้วยไมตรีเช่นนั้นเป็นไปได้อย่างไรที่หลุดออกมาจากปากหัวหน้าคณะปกครองผู้โหดเหี้ยมฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบา

แฮก... แฮก....แฮก

สวี่ฉางเทียนอ้าปากหอบหายใจ,  ปัง!  ขวานคู่ของเขาร่วงลงพื้นและเขาไม่เหลือเรี่ยวแรงจะถือไว้ต่อไป เขาหอบหายใจรุนแรง อกของเขารู้สึกร้อนเหมือนไฟไหม้  ชุดของเขาเปียกเหงื่อโชก แขนทั้งสองเหมือนกับไม่ใช่ของเขา

ดูเหมือนว่าเขาจะหมดแรงแล้ว....

สวี่ฉางเทียนฝืนหัวร่อในใจ  สายตาเขามองไปที่ถังเทียนโดยไม่ได้ตั้งใจแต่จิตใจเขากลับว้าวุ่น

เถื่อนอะไรอย่างนี้!

พลังของเขาโดนกำราบอย่างเต็มที่สถานการณ์เช่นนี้ ตัวเขาคงไม่เป็นที่น่าเชื่อถือในตอนนี้  แต่เมื่อความอ่อนเพลียเข้าครอบงำตัว  เขาได้แต่ฝืนยิ้ม

เขาเพิ่งกระตุ้นพลังสายเลือดมาหรือนี่?

ถังเทียนสลบไสลมองดูเหมือนทารกในตอนนี้

เป็นความจริงที่ว่าเขาโดนเล่นงานโดยคนที่เพิ่งกระตุ้นพลังสายเลือด  ถ้าข่าวนี้แพร่กระจายไปเขาคงกลายเป็นตัวตลกให้คณะปกครองอีกสามกลุ่มแน่ และยอดฝีมือจักรกลผู้นี้...

หัวใจของสวี่ฉางเทียนกระตุกด้วยความระมัดระวัง  เขาอยู่ใกล้ที่สุดและเห็นชัดที่สุดด้วยเช่นกันยอดฝีมือจักรกลผู้นี้โจมตีได้อย่างแม่นยำ ถังเทียนที่กำลังคลั่งโดนซัดหมดสติทันทีถังเทียนเพิ่งผ่านการกระตุ้นพลังสายเลือดและยังย่อยสลายพลังสายเลือดได้ไม่เต็มที่ เขาเพิ่งอยู่ในสภาวะคลั่งจนทำให้พลังสายเลือดไหลย้อน  นั่นเป็นสภาวะที่อันตรายมาก

ยอดฝีมือผู้มีสามัญสำนึกจะไม่มีทางเข้าต่อสู้ทันทีก่อนที่พวกเขาจะย่อยสลายพลังสายเลือดทั้งหมดอย่างเต็มที่แล้ว

สำหรับถังเทียนถือว่าอันตรายมาก  แต่สำหรับเขาก็อันตรายพอกัน

สวี่ฉางเทียนเกือบจะพลาดท่าอยู่แล้วอดแอบดีใจไม่ได้  ถ้าเขาแพ้ถังเทียน เขาคงจะเสียศักดิ์ศรีอย่างมาก

แต่...ยอดฝีมือจักรกลที่พรวดพราดเข้ามากะทันหันทำให้สวี่ฉางเทียนตะลึงกับฝีมือของเขา

ยอดฝีมือจักรกลผู้นี้น่ากลัวกว่าทุกคนที่เขาผ่านพบมามากนัก นึกไม่ถึงเลยว่ายังมียอดฝีมือจักรกลที่น่ากลัวขนาดนั้นอยู่ในโลก

เมื่อนึกถึงคำขอของผู้ว่าการดวงดาวสวี่ฉางเทียนสูดหายใจลึกและรู้สึกว่าตนเองโชคดีอีกครั้ง  โชคดีที่เขามาทันเวลา

ปิงจ้องมองสวี่ฉางเทียนโดยไม่พูดอะไรเขาแบกถังเทียนที่หมดสติและลากกระบองเสียงดังแคร้งๆ เดินห่างออกไป

สวี่ฉางเทียนถอนหายใจโล่งอก

“ท่านหัวหน้า!ไม่เป็นไรใช่ไหม?” เยี่ยนเซี่ยวิ่งมาอยู่ต่อหน้าสวี่ฉางเทียน

“เข้ามาประคองข้าที” สวี่ฉางเทียนหายใจหนักหน่วง

เยี่ยนเซี่ยตะลึง  หัวหน้าของเขาแทบไม่เหลือพลังแม้แต่จะเดิน  เขารีบวิ่งเข้ามาและช่วยประคองเขาออกจากหลุม

สวี่ฉางเทียนกวาดสายตาไปรอบๆและนิ่งงัน “ความสัมพันธ์ของเราเลวร้ายลงไปหรือไม่?”

เยี่ยนเซี่ยแตกตื่น  หลังจากลังเลใจ เขากระซิบ“นอกจากทำร้ายผู้คุ้มกันตระกูลกู้บาดเจ็บไปคนหนึ่ง เราไม่มีความขัดแย้งอะไรอื่น”

สวี่ฉางเทียนถอนหายใจโล่งอก กล่าวว่า“ดี  ดีมาก!”

เยี่ยนเซี่ยเป็นคนฉลาด  เขารู้ว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป  “เป็นไปได้หรือว่า...”

สวี่ฉางเทียนลดเสียง“พวกเจ้าไปขอโทษกู้เสวี่ยซะ และจำไว้ว่าอย่าแสดงความไม่พอใจออกมา”

ถึงตอนนี้ อูหนานก็วิ่งมาถึงเมื่อเขาได้ยินคำพูดของหัวหน้ากลุ่มพูด พวกเขาตะลึงจนแทบไม่เชื่อหูตนเอง

“พวกเจ้าต้องแสดงความจริงใจออกไป  ไม่ว่าพวกเขาต้องการให้ชดเชยอะไรก็ให้ยอมรับทั้งหมด” สวี่ฉางเทียนลดเสียงลง หลังจากคิดชั่วครู่แล้ว เขาส่ายหัว “ข้าคิดว่าข้าพาพวกเจ้าไปตรงนั้นดีกว่านั่นเป็นการแสดงความจริงใจได้ดีกว่า”

เพราะเจ้าสี่คนนี้กลัวจนสมองไม่เหลือแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด