ตอนที่แล้วข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 1 เพียงเก็บตัวอยู่บ้านก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 3 ยกระดับให้ถึงขีดสุด, ทะลวงไปยังขอบเขตห้วงลี้ลับ

ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 2 หมัดวิญญาณมังกรอสรพิษและการฝึกฝนพลังยุทธ์หนึ่งปี


ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 2 หมัดวิญญาณมังกรอสรพิษและการฝึกฝนพลังยุทธ์หนึ่งปี

ฉู่เซวียนใช้เวลาเกือบทั้งวันนอนอ่านหนังสือบนเก้าอี้ เขาลองเปลี่ยนท่าหลายท่าดูแล้ว แต่กลับไม่ได้รับรางวัลจากระบบเลย

ดูเหมือนการเปลี่ยนท่าเพียงเล็กน้อยไม่พอที่จะกระตุ้นรางวัลสุ่มจากระบบ

ตกเย็นคนที่มาส่งอาหารไม่ใช่ข้ารับใช้

แต่เป็นสาวงามในชุดเขียว

สาวงามคนนี้คือฉู่อวิ๋น ลูกพี่ลูกน้องของเขา

ฉู่อวิ๋นเป็นที่โปรดปรานของสายเลือดหลัก นางมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม ด้วยอายุยังน้อยแต่กลับบรรลุขอบเขตมนุษย์ขั้นสูงสุดแล้ว ทั้งยังสัมผัสกับอุปสรรคของประตูมนุษย์และใกล้จะทลายประตูมนุษย์ทะลวงไปยังขอบเขตห้วงลี้ลับ

“นางมาทำไม?”

ฉู่เซวียนประหลาดใจ

ฉู่อวิ๋นวางกล่องอาหารและจัดสำรับ นางเงยหน้าขึ้นมองฉู่เซวียนก่อนรู้สึกว่าเขาดูต่างไปจากเดิม

เนื่องจากฉู่อวิ๋นยังไม่ถึงขอบเขตห้วงลี้ลับและฉู่เซวียนยังปกปิดความแข็งแกร่ง นางจึงมองความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉู่เซวียนไม่ออก

“พี่สิบสาม พี่ต้องทนไปก่อนนะ เมื่อท่านปู่หายโกรธแล้ว ข้าจะไปอ้อนวอนให้พี่กลับจวนบรรพชนเอง”

ในหมู่พี่น้องรุ่นนี้ ฉู่อวิ๋นกับฉู่เซวียนอายุไล่เลี้ยกันที่สุด

“ไม่ต้องหรอก ข้าอยู่ที่นี่ดีกว่า ข้ากลับไปให้เหม็นขี้หน้าทำไม”

ฉู่เซวียนโบกมือปฏิเสธ

ไม่เพียงฉู่เซวียนไม่วางแผนที่จะกลับไปยังจวนบรรพชน เขายังไม่วางแผนที่จะก้าวเท้าออกจากเรือนสี่ประสานด้วยซ้ำ

เขาชอบเก็บตัวอยู่บ้าน!

“พี่สิบสาม ข้าจะไปอ้อนวอนท่านปู่เอง ท่านปู่จะต้องตอบตกลงแน่ รับรองท่านปู่ไม่มีทางโกรธข้าหรอก ไม่ต้องห่วง”

ฉู่อวิ๋นคิดว่าฉู่เซวียนจะกลัวว่านางข้องเกี่ยวกับเขามากไปหากช่วยเขา เขาจึงตอบปฏิเสธ

“ไม่ต้องจริงๆ”

ฉู่เซวียนเห็นแววตาอันแน่วแน่ของฉู่อวิ๋น เขาเกิดความรู้สึกประทับใจ ในโลกนี้นอกจากบิดามารดา คนที่เป็นห่วงเป็นใยเขายังมีอีกคนหนึ่ง

แน่นอนว่าฉู่เซวียนรู้ว่าอีกไม่กี่วัน ฉู่เทียนหมิงท่านปู่ราคาถูกถึงแม้ไม่หายโกรธแต่ก็คลายลงบ้าง หากฉู่อวิ๋นไปอ้อนวอนในตอนนั้น ย่อมมีโอกาสสูงที่จะได้รับการอภัย

ต้องไม่ลืมว่าฉู่อวิ๋นเป็นผู้ถูกเลือกในหมู่ลูกหลานของฉู่เทียนหมิง นางเป็นหลานสาวคนโปรด ฉู่เทียนหมิงไม่มีทางโกรธนางด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นี้

ทว่าฉู่เซวียนไม่ต้องการจริง ๆ

บ้างหลังนี้ตั้งอยู่ห่างไกลความวุ่นวาย เงียบสงบเหมาะกับการเก็บตัวอยู่บ้านมากกว่า

เมื่อฉู่เซวียนกลับไปยังจวนบรรพชน คนอื่นจะรำคาญใจตอนที่เห็นหน้าเขาแล้วก็จะมาก่อกวนเขาอยู่เรื่อยๆ

ฉู่อวิ๋นนั่งลงกินอาหารกับฉู่เซวียน หลังจากคุยกันสักพัก นางก็ขอตัวกลับไป

ก่อนจะออกจากเรือนสี่ประสาน ฉู่อวิ๋นย้ำคำสัญญาว่าตนจะไปอ้อนวอนท่านปู่เพื่อให้เขากลับไปยังจวนบรรพชน

ทว่าฉู่เซวียนไม่มีทางกลับไป เขาจะอยู่ที่นี่และไม่ออกไปโดยเด็ดขาด

ฉู่เซวียนเอนหลังบนเก้าอี้ด้วยท่าทางผ่อนคลาย

“โฮสต์ได้เก็บตัวอยู่บ้านสองวัน รางวัลคือหมัดวิญญาณมังกรอสรพิษ!”

เสียงของระบบดังขึ้น รางวัลส่งตรงมายังฉู่เซวียนทันที กระแสข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาในใจของเขาจนแทบตั้งตัวไม่ทัน

ในใจของฉู่เซวียน มังกรอสรพิษตนหนึ่งปรากฏขึ้น รัศมีของมันคล้ายกับรุ้งเจ็ดสี แต่ละหมัดแฝงไว้ด้วยวิญญาณ

เพียงแป๊บเดียว ฉู่เซวียนก็เชี่ยวชาญหมัดวิญญาณมังกรอสรพิษ นี่คือวิชาสายโจมตีอันดับต้นๆ ของระดับวิญญาณ

น่าเสียดายที่ฉู่เซวียนถูกจำกัดด้วยฐานพลังยุทธ์ เขาจึงปลดปล่อยพลังของมันได้ไม่เต็มที่

หมัดวิญญาณมังกรอสรพิษแบ่งเป็นร่างอสรพิษและร่างมังกร เมื่อสำเร็จขั้นเปลี่ยนอสรพิษแปลงมังกรก็จะสามารถบรรลุแก่นแท้ของวิชานี้

ฉู่เซวียนออกหมัดวิญญาณมังกรอสรพิษอยู่ในลานบ้าน หมัดของเขาเหมือนกับอสรพิษที่จู่โจมเหยื่อ มันทั้งคล่องแคล่ว รวดเร็ว และรุนแรง

เวลานี้ด้วยพลังป้องกันจากพลังเทพกายาวัชระคงกระพัน บวกกับพลังโจมตีที่เร็วรวดและรุนแรงจากหมัดวิญญาณมังกรอสรพิษ ทำให้ฉู่เซวียนรับมือกับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมนุษย์ขั้นสูงสุดหลายสิบคนได้สบายๆ

ฉู่เซวียนจะเชี่ยวชาญวิชาที่ระบบมอบให้ในทันที หากฐานพลังยุทธ์ของเขาสูงพอ เขาสามารถใช้ร่างมังกรได้เลย

ทว่าหากฉู่เซวียนต้องการใช้ร่างมังกร อย่างน้อยเขาต้องอยู่ในขอบเขตห้วงลี้ลับขั้นที่เจ็ด

หากเขาต้องการสำแดงหมัดวิญญาณมังกรอสรพิษอย่างเต็มที่ เขาต้องอยู่ในขอบเขตวิญญาณ

หมัดวิญญาณมังกรอสรพิษเป็นหนึ่งในวิชาชั้นยอดในหอวิชายุทธ์ของตระกูลฉู่เช่นกัน

ฉู่เซวียนรู้สึกว่าตนน่าจะทะลวงไปยังขอบเขตห้วงลี้ลับได้ในอีกสองสามวัน

รางวัลจากการเก็บตัวอยู่บ้านในวันที่สามคือมีด

“มีดมาร”

มีดเล่มนี้มีความสามารถทำให้จิตใจของศัตรูสับสน คนที่จ้องมองมีดเล่มนี้จะเห็นคล้ายกับมีดได้แบ่งออกเป็นหลายเล่ม ทำให้แยกไม่ออกว่าเล่มไหนจริงไหนปลอม

หากใช้โจมตี มันจะสร้างมีดจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อทำให้ศัตรูสับสน

ถือว่าเป็นอาวุธที่ดีเลยทีเดียว

ในวันที่สี่ ฉู่เซวียนยังคงเอนหลังอ่านหนังสือบนเก้าอี้ ในเมื่อเขาตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ในเรือนสี่ประสาน เขาต้องปรับความคิดของตนเพื่อไม่ให้ตื่นกลัวโดยง่าย

การอ่านหนังสือถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีในการสงบจิตเพื่อช่วยให้เขาไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องภายนอก

ทำให้เขาอ่านหนังสือพิศวงเล่มหนึ่ง

สิ่งที่บันทึกในหนังสือเล่มนี้คือเรื่องราวพิศวงในแผ่นดินหนานโจว รวมถึงบันทึกในประวัติศาสตร์

อย่างเช่น บันทึกการเปลี่ยนแปลงของเก้าแคว้นในแผ่นดินหนานโจว มันบันทึกเกี่ยวกับราชวงศ์ใดล่มสลาย ราชวงศ์ใดผงาดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

แคว้นฉินเป็นหนึ่งในเก้าแคว้นในแผ่นดินหนานโจว แคว้นฉินเคยเป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่ง แต่สุดท้ายก็ค่อยๆ เสื่อมถอยลงภายใต้การปกครองร่วมกันของตระกูลฉิน ตระกูลฉู่ ตระกูลเหอ และตระกูลจ้าว นั่นคือประวัติของแคว้นฉินในปัจจุบัน

ตระกูลฉินทรงพลังที่สุด เป็นตระกูลราชวงศ์ในปัจจุบัน ส่วนตระกูลฉู่ ตระกูลเหอ และตระกูลจ้าว เป็นตระกูลสามขุนนางใหญ่

ในบรรดาเก้าแคว้นในแผ่นดินหนานโจว มีแคว้นฉินเท่านั้นที่มีการปกครองร่วมกันของทั้งสี่ตระกูล ตระกูลฉินไม่มีพลังพอที่จะรวมอำนาจของตระกูลสามขุนนางใหญ่ บวกกับความสัมพันธ์ระหว่างบรรพบุรุษของสี่ตระกูลที่มีการแต่งงานกันในแต่รุ่นเรื่อยมา ทำให้ยากที่จะแบ่งแยกสี่ตระกูลออกจากกัน

นอกจากนี้ เมื่อมีศัตรูร่วมการขัดแย้งกันเองก็มีแต่นำไปสู่การทำลายล้าง ไม่ว่าราชวงศ์ฉินจะทะเยอทะยานเพียงใด พวกเขาทำได้เพียงยอมรับความจริงที่ว่าทั้งสี่ตระกูลปกครองแคว้นร่วมกันขณะที่ตระกูลฉินเป็นผู้นำ

“โฮสต์ได้เก็บตัวอยู่บ้านสี่วัน ได้รับรางวัลคือการฝึกฝนพลังยุทธ์หนึ่งปี”

รางวัลสำหรับสี่วันมาถึง ฉู่เซวียนตื่นขึ้นจากสมาธิ การฝึกฝนพลังยุทธ์หนึ่งปี?

หากได้รับการฝึกฝนพลังยุทธ์หนึ่งปี เขาจะบรรลุขอบเขตห้วงลี้ลับได้เลย

ฉู่เซวียนกดรับรางวัลทันที

เขารู้สึกได้แค่พลังงานปรากฎขึ้น แล้วความแข็งแกร่งก็พลันพุ่งทะยานราวกับได้สะบั้นโซ่ตรวนบางอย่างออกไป

ทว่าฉู่เซวียนไม่ได้บรรลุขอบเขตห้วงลี้ลับทันที

แก่นแท้ ลมปราณ และวิญญาณของเขากำลังรู้สึกว่าถูกยกระดับขึ้น

ราวกับพลังขั้นต่อไปคือขั้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะพลิกฟ้าพลิกดิน นี่คือเรื่องจริงโดยเฉพาะเจตจำนงวิญญาณของเขา มันอาจกลายเป็นเจตจำนงวิญญาณที่จับต้องได้เลย

ฉู่เซวียนสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตนอย่างระมัดระวัง รางวัลการฝึกฝนพลังยุทธ์หนึ่งปีถึงแม้ไม่ช่วยให้เขาบรรลุขอบเขตห้วงลี้ลับ

ทว่ามันได้ผลักดันฐานพลังยุทธ์ของเขาให้ถึงขีดจำกัดของขอบเขตมนุษย์อย่างแท้จริง

ฉู่เซวียนมีความรู้สึกว่าตอนที่เขาบรรลุขอบเขตห้วงลี้ลับ ความแข็งแกร่งและรากฐานของเขาจะเหนือล้ำกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตห้วงลี้ลับทั่วไป

เป็นเพราะฉู่เซวียนบรรลุขอบเขตมนุษย์ขั้นสูงสุดชนิดที่บรรลุขั้นต่อไปไม่ได้ แต่เวลานี้เขากลับบรรลุไปอีกขั้น ทำให้ถึงขีดจำกัดของขอบเขตมนุษย์อย่างแท้จริง

ขอบเขตกึ่งห้วงลี้ลับ?

ฉู่เซวียนไม่รู้ว่าเวลานี้ขอบเขตของเขาเรียกว่าขอบเขตกึ่งห้วงลี้ลับได้หรือไม่

สิ่งที่เขารู้คือเวลานี้ความแข็งแกร่งของเขาได้ก้าวข้ามขอบเขตมนุษย์ขั้นสูงสุดไปแล้ว

โดยปกติเมื่อบรรลุขอบเขตมนุษย์ขั้นสูงสุด ไม่มีทางบรรลุไปอีกขั้นได้หากไม่ทำความเข้าใจประตูมนุษย์ มีเพียงสัมผัสกับอุปสรรคของประตูมนุษย์และทลายประตูมนุษย์ทะลวงไปยังขอบเขตห้วงลี้ลับถึงจะเพิ่มความแข็งแกร่งได้ต่อไป

ทว่าฉู่เซวียนกลับไม่เคยได้ยินสภาวะที่บรรลุไปได้อีกขั้นจนถึงขีดจำกัดของขอบเขตมนุษย์เช่นนี้

เขาเกิดมาในตระกูลฉู่ แม้แต่ภูมิหลังตระกูลฉู่แต่ก็ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับสภาวะนี้

ฉู่เซวียนรู้สึกว่าสภาวะนี้น่าจะหายากอย่างยิ่ง จึงเป็นสาเหตุที่ตระกูลฉู่ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับสภาวะนี้

แน่นอนว่าความเป็นไปได้อีกอย่างคือหนังสือในครอบครองของตระกูลฉู่ยังมีน้อยจนเกินไป จึงเป็นสาเหตุว่าเหตุใดฉู่เซวียนถึงไม่พบบันทึกเกี่ยวกับสภาวะนี้

เวลานี้ขอบเขตห้วงลี้ลับที่แท้จริงก็ได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าสายตาของเขาแล้ว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด