ตอนที่แล้วตอนที่ 167 พลังสายเลือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 169 ชัยชนะ

ตอนที่ 168 ท้ารบ


โห.....

มีเสียงเบาๆดังมาจากภายในตัวถังเทียน

ไม่มีใครสังเกต เพราะสายตาพวกเขาต่างจับจ้องมองดูการต่อสู้รุนแรงของหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงกันหมด  มีเพียงผู้อาวุโสหวีที่สังเกตเห็น  คิ้วขาวของเขากระตุกเหมือนกับไม่เชื่อภาพที่เห็น

ทันใดนั้นสำนึกอันตรายผุดขึ้นมาในใจของผู้เฒ่าหวี

ก่อนที่เขาจะลงมือใดๆได้ มีวิวัฒนาการฉับพลัน

เผียะ เผียะ เผียะ!

เสียงระเบิดดังต่อเนื่องอยู่ภายในตัวถังเทียน

ผิวของถังเทียนที่ปล่อยแรงระเบิดออกมาด้านนอกสั่นสะเทือนเหมือนคลื่น  เป๊าะ เป๊าะ เป๊าะ, เสียงกระดูกลั่นดังขึ้นพร้อมกัน  ร่างของถังเทียนคล้ายกับจะมีสัตว์ประหลาดออกมา

ฮ่า....

ด้านข้างขาของถังเทียนอากาศเบาบางไหลอย่างเงียบๆ และก่อรูปเป็นวังวนเล็กๆ

นั่นคือ....

ม่านตาของผู้เฒ่าอู๋หดแคบเนื่องจากความรู้สึกกังวลและอันตรายที่เพิ่มมากขึ้นเหมือนจะเป็นรูปธรรมชัดเจน  ดวงตาของเขาแสดงให้เห็นอาการตื่นตัว  เขาเป็นผู้มีชื่อเสียงมาหลายปีแล้ว  แต่ไม่เคยเห็นเรื่องแปลกประหลาดแบบนั้นเกิดขึ้น

ถังเทียนหลับตาและกางแขนอยู่ต่อหน้าของเขา  ดูเหมือนจะมีความเคลื่อนไหวลึกลับมาก

ผู้เฒ่าหวีไม่เคยชอบล้ำเส้นกับคู่ต่อสู้ที่เขาไม่เข้าใจเพราะนั่นเป็นอันตรายอย่างมาก เขามีชื่อเสียงมาหลายปี และเห็นนักสู้จำนวนมากมายกว่าเขาที่มีฝีมือเหนือกว่าเขาต้องเจ็บตัวด้วยน้ำมือของคู่ต่อสู้ที่ไม่คุ้นเคยและอันตราย  ทำให้เขาต้องระมัดระวังอย่างมากในตอนนี้  และเพราะความระมัดระวังของเขานี่เอง  ทำให้เขาปกป้องสถานะของเขามาได้นานหลายปี

ฮ่าห์ ฮ่าห์..ฮ่าห์....

กระแสอากาศก่อตัวเป็นจุดๆและพัดผ่านรอบตัว อากาศรอบตัวถังเทียนมีสภาวะไม่แน่นอน

สายตาของผู้เฒ่าหวีจับจ้องอยู่ที่ตัวถังเทียนและลดความตั้งใจโจมตีก่อน เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับถังเทียนและพัฒนาการที่กำลังเกิดขึ้น

เขาตัดสินใจรอสังเกตดู

วิ้ววว!กระแสอากาศเริ่มปั่นป่วนเสียงเปลี่ยนจากที่เป็นเสียงลมหายใจเป็นเสียงลมยามพัดธงโบกสะบัด  กรวดทราบรอบๆเท้าของถังเทียนถูกกระแสลมดันม้วนตัวออกไปพื้นที่รอบๆ

เศษกรวดหินนับไม่ถ้วนเป็นเหมือนมดที่แตกรังกระจัดกระจายไปทั่วพื้นหิน

ความสับสนวุ่นวายล่าสุดนี้ดึงดูดนักสู้บางส่วนที่กำลังให้ความสนใจการต่อสู้ของหลิงซิ่วกับอู๋เจ๋อสิง

“พระเจ้าช่วย!  มันเกิดอะไรขึ้น?”

“มาดูเร็ว!”

เสียงอุทานตื่นเต้นปลุกผู้คนมากมายยิ่งขึ้นและดึงดูดผู้คนให้หันเหความสนใจมาดูถังเทียนในกลางห้องโถง  พวกเขาตะลึงอยู่กับฉากภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า

แครก  แครก!

อากาศภายในระยะ 1.7เมตรรอบตัวถังเทียนดูเหมือนกำลังถูกต้มกระแสอากาศจำนวนมากกำลังปะทะกันทำให้เกิดแรงเสียดสีกันเสียงระเบิดดังต่อเนื่องไม่หยุด  ประกายไฟที่เกิดจากการเสียดสีของอากาศกระพริบ

ร่างของถังเทียนพร่าเลือนเหมือนกับภาพสายน้ำไหลสลายหายไป

นอกจากหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงที่ตั้งหน้าตั้งตาต่อสู้อย่างดุเดือดแล้ว  สายตาทุกคู่ถูกฉากภาพนี้ดึงดูด ไม่มีใครเคยเห็นภาพที่เหลือเชื่อน่าประทับใจอย่างนี้มาก่อน

ทุกคนตกตะลึงปากอ้าตาค้างจ้องมองถังเทียนที่อยู่ตรงกลางห้องอย่างงงงวย

เหมือนกับพวกเขาคิดว่าพวกเขาได้เห็นพายุที่น่ากลัวกับตาตนเองกำลังก่อตัวอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา  คำถามเกิดขึ้นในใจทุกคนโดยไม่อาจควบคุมได้ ภาพอะไรที่รอพวกเขาอยู่ เมื่อพายุนี้ก่อตัวเต็มรูปแบบ

จะปรากฏเป็นภาพแบบไหนกันแน่

ไม่มีผู้ใดรู้!

พวกเขาตาเบิกกว้างผสมกับความกลัวและความอยากรู้อยากเห็น  ไม่กล้าเบนความสนใจไปที่อื่น

เสียงระเบิดราวกับประทัดแตกเข้มข้นมากยิ่งขึ้นอากาศรอบตัวของถังเทียนก็ยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นความรู้สึกสงบก่อนพายุจะมาครอบงำความรู้สึกทุกคน

ทันใดนั้นราวกับว่าเวลาหยุดชะงักเสียงแตกระเบิดหายไป และอากาศที่ปั่นป่วนตอนนี้กลับหยุดนิ่ง

ในไม่ช้าเสียงดังบึ้มก็ตามมา  อากาศที่ไม่เสถียรรอบตัวถังเทียนระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ทันที!

คลื่นอากาศที่รุนแรงผสมกับพลังที่น่ากลัวกวาดผ่านไปทั่วห้องโถง นักสู้ที่ฝีมือค่อนข้างอ่อนรู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายกระแทกใส่ไม่สามารถยืนหยัดได้มั่นคงถูกพลังคลื่นอากาศกวาดกระแทกไปอยู่ที่มุมห้อง

อู๋เจ๋อสิงกำลังตั้งสมาธิกับการต่อสู้ไม่ได้เตรียมพร้อมต้านรับ เมื่อคลื่นอากาศกวาดเข้ามาทางเขาในระยะห่างเก้าเมตรเขาจึงค่อยตระหนักถึงอันตรายที่กำลังจะเกิด ปฏิกิริยาของเขารวดเร็วมาก ทันทีที่คลื่นอากาศมาถึงตัวเขาเขาได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งแล้วและลอยไปตามคลื่นอากาศเหมือนเศษใบไม้

อู๋เจ๋อเทียนลอยอยู่กลางอากาศถลึงจ้องมองถังเทียนด้วยแววตาเหลือเชื่อ

บรรยากาศเช่นนี้...ช่างโอ่อ่ายิ่งนัก!

หลิงซิ่วก็ยังไม่ได้เตรียมตัวรับพลังคลื่นระเบิดอากาศกะทันหันนี้ เขารีบคว้าหอกมาไว้กับตัวและหลบไปอยู่หลังเสา  เขาตกใจมากและเมื่อเขาตระหนักว่าถังเทียนเป็นต้นเหตุวุ่นวายสับสนนี้ เขาถึงกับตกตะลึง

เจ้าหมอนี่, เป็นตัวประหลาดแบบไหนกัน?

แม้แต่ผู้ทรงพลังอย่างผู้เฒ่าหวีก็ไม่อาจรักษาสีหน้าให้สงบได้อีกต่อไปเขาเริ่มระมัดระวังและไม่ประมาทต่อไป

ทรงพลังจริงๆ

เขาเริ่มลังเลหมัดที่ถังเทียนเพิ่งต่อยใส่จี่เทียนเมื่อครู่นี้เขาสามารถบอกได้ว่าถังเทียนอยู่สภาวะคลั่ง ดังนั้นพลังจึงเพิ่มขึ้นมาฉับพลัน แต่ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยแค่คำว่าสภาวะคลั่ง

เจ้าหมอนี่....มีเบื้องหลังเช่นใดกันแน่?

เขาโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครรู้  เหมือนกับเงาที่ลอยไปลอยมา

อย่างไรก็ตาม  ความสนใจของเขาถูกถังเทียนผู้เปิดเผยพลังตนเองอยู่ในห้องโถงหันเหความสนใจอย่างรวดเร็ว

ถังเทียนกางแขนกว้าง,หลับตาแน่นยังคงยืนอยู่เงียบๆ เหมือนกับหลับลึก

ทันใดนั้นถังเทียนลืมตา

บึ้ม!

คลื่นพลังที่เหมือนเมื่อตอนปล่อยจรวดยานอวกาศท่วมท้นทะลักเหมือนน้ำบ่าถูกปลดปล่อยเหมือนพายุฝนฟ้าคะนอง

ตาของถังเทียนเป็นสีแดงสว่างสดใสแต่เหมือนห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก ท่าทีที่สง่างามทำให้หน้าของนักสู้ทุกคนในห้องโถงเปลี่ยนไปหัวใจของพวกเขาเหมือนกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นร่างกายของพวกเขาเหมือนควบคุมไม่ได้ พวกเขาไม่อาจขยับได้

ในมุมหนึ่งไม่มีผู้ใดทันสังเกตเยี่ยนเซี่ยและพวกอื่นปะปนอยู่ภายใน หน้าของเยี่ยนเซี่ยเขียวคล้ำ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจนอกจากเขาแล้วอูหนานและคนอื่นก็หน้าถอดสี

“เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่?”  เสียงของกงอี้ซิ่วแตกตื่นกระแสพลังที่โอ่อ่านั้นทำให้เขาใจเต้นแทบบ้า

ไม่มีผู้ใดตอบคำถามนี้ได้

เยี่ยนเซี่ยลดเสียลง“เป็นพลังสายเลือด ดูเหมือนเขาจะได้กระตุ้นพลังสายเลือดของเขา”

“กระตุ้นพลังสายเลือดน่ะหรือ?”  สั่วกวงที่อยู่ใกล้ๆ อุทานเขาพยายามลดเสียง  “กระตุ้นพลังสายเลือดในเวลาเช่นนี้  นี้มันเกิน...”

หน้าของอูหนานมีสีหน้าปั้นยาก“ข้าเกรงว่าเราตอนนี้เราก่อเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว”

ความจริงในใจเยี่ยนเซี่ยเห็นด้วยกับอูหนาน  แต่เขาแค่นหัวเราะ  “ปัญหาของเราเพียงเล็กน้อย  คนที่เจอปัญหาใหญ่ก็คือผู้เฒ่าหวี  เราแค่ทำร้ายบริวารของกู้เสวี่ย  แต่ผู้เฒ่าหวีต้องการชิงตัวนาง”

ทั้งสามคนถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น

เมื่อเยี่ยนเซี่ยได้ยินเสียงถอนหายใจโล่งอกของทั้งสามคนเขารู้ในใจว่าอูหนานและพวกที่เหลือไม่มีความกล้าต่อสู้กับถังเทียนต่อไป

อย่างไรก็ตามโชคดีที่มีคนที่โง่ยิ่งกว่าคอยช่วยป้องกันเขาไว้

รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าของเยี่ยนเซี่ย  ครั้งนี้ผู้เฒ่าหวีลำบากแน่

※※※※※

ถังเทียนลดแขนลง ดวงตาแดงสดใสของเขามองผู้เฒ่าหวีอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ

ทันใดนั้นยกแขนขวา นิ้วชี้ที่เหมือนหอกของเขาชี้ไปที่ผู้อาวุโสหวี

การท้าสู้ที่ไม่มีกฎเกณฑ์และยโสลำพองไม่มีทางถอนถอยเป็นที่รับทราบกันทุกคนอย่างไม่มีความผิดพลาด

“เฮ้, ตาเฒ่า,มาจบเรื่องทั้งหมดในวันนี้ด้วยการต่อสู้กันเถอะ!”

เรือนร่างที่ตั้งตรงกำลังชี้นิ้ว  ถังเทียนผู้โดดเด่นไม่ค่อยคุ้นเคยนักไม่มีความโกรธ ไม่มีเสียงโห่ร้อง แต่ทุกคนในห้องโถงตอนนี้รวมทั้งอู๋เจ๋อสิงสะดุ้งตกใจเพราะถังเทียนที่ไม่คุ้นเคยอย่างนั้น

เถื่อน แน่วแน่หัวรั้น

แม้ว่าพลังฝึกปรือของผู้เฒ่าหวีจะเหนือกว่าผู้อื่นมากแต่การถูกกระตุ้นท้าทายเช่นนั้นต่อหน้าต่อตาทุกคน ทำให้เขาหน้าร้อนด้วยความโกรธ

ผู้เฒ่าหวีโกรธจนหัวเราะ“อย่างนั้นข้าจะสั่งสอนเจ้า  เจ้าคนอวดดี”

ผู้เฒ่าหวีลุกขึ้นยืน  หน้าเขาเขียวคล้ำและเดินช้าๆเข้าหาถังเทียน ความรู้สึกอึดอัดคับข้องถูกปลดปล่อยทันทีแตกต่างจากพลังรุนแรงของถังเทียน  แต่เต็มไปด้วยความสูงวัยและชั้นเชิง

นักสู้อื่นตื่นเต้นทันที

ผู้เฒ่าหวีมีชื่อเสียงมานานกว่าสี่สิบปีเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงในดาวไพรมายาและตระกูลหวีเป็นตระกูลที่มีสถานะสูงสุดในดาวไพรมายาด้วยความเป็นผู้นำของเขา  เขามีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ในชีวิตพ่ายแพ้ให้แก่คนผู้เดียวคือกระบี่ราตรีไซอา  ไซอาโดดเด่นขึ้นมาในปีนั้นเข้าร่วมต่อสู้ในทุกประเภทรายการ และไม่เคยประสบความพ่ายแพ้แต่อย่างใดและขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ในที่สุด

ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นไม่ส่งผลต่อการจัดอันดับของผู้เฒ่าหวีแต่อย่างใด  เพราะปีนั้นเป็นปีแห่งความมืด ยอดฝีมือเกือบทุกคนในดาวไพรมายาพ่ายแพ้ในเงื้อมมือไซอา  อย่างไรก็ตาม ชีวิตมิอาจคาดคำนวณได้  เนื่องจากสาเหตุที่ไม่ชัดเจน  ไซอาพลันเปลี่ยนบุคลิกนิสัยของเขา  และมาตรฐานของเขาลดลงฮวบฮาบ เขาตกลงจากอันดับหนึ่งไปอยู่อันดับที่ห้าและกลายเป็นมือสังหารที่มีชื่อมากที่สุดในดาวไพรมายา

ผู้เฒ่าหวีมีระดับคงที่อยู่ระดับที่สิบห้าเสมอ

นี่คืออันดับที่ยังน่ากลัวแต่ก็ยังเป็นอันดับที่น่าอายอยู่ดี

สิบอันดับแรกเป็นเหมือนต้นน้ำ  ทุกคนร่ำรวยมีอิทธิพล ขณะที่อันดับสิบถึงยี่สิบจะเป็นพวกกดขี่ใช้อำนาจ  แต่ผู้เฒ่าหวีผู้ทะเยอทะยานต้องการเป็นจุดสนใจแค่เป็นผู้ใช้อำนาจไม่ทำให้เขาพอใจได้ อย่างไรก็ตาม อันดับของเขายากที่จะขยับมากไปกว่านี้ ดังนั้นเขาคิดจะใช้ศักดิ์ศรีและความอาวุโสของพวกเขามาทดแทนความสามารถที่ขาดไป

และนี่คือเหตุผลที่เขาถึงได้ทุ่มเทมากมายกับการเป็นวีรบุรุษรับเชิญ

สถานการณ์ดำเนินไปอย่างราบรื่นเกินไปดังนั้นเขาตัดสินใจตามจีบเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลกู้  เหตุผลเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะตระกูลกู้สำคัญมากต่อแผนการของเขาในครั้งนี้เขาจำเป็นต้องยึดตระกูลกู้ให้อยู่ในเงื้อมมือให้ได้  ไม่มีข้ออ้างของตระกูลกู้เขาไม่มีเหตุผลจะเข้าไปแทรกแซง

ถังเทียนและหลิงซิ่วแทบคุกคามเขาได้น้อยมาก  สำหรับการจัดอันดับในนักสู้ห้าสิบอันดับแรกอาจดูว่าเป็นนักสู้ธรรมดา แต่สำหรับเขาเทียบได้กับบริวารของเขาอย่างหลี่ซิ่นและจี่เทียน นอกจากนี้เขาเชื่อว่ามียอดฝีมือมากมายจากตระกูลต่างๆจะมีมาในอนาคตไม่มีที่สิ้นสุด นักสู้ผู้มีมาตรฐานเหล่านี้ เขาสามารถรวบรวมได้อย่างน้อยแปดคน

เขามีต้นทุนอยู่ในมือเพียงพอซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้เขา

แต่เขาคำนวณผิด

หลิงซิ่วสามารถสู้กับอู๋เจ๋อสิงได้และถังเทียนพิชิตจี่เทียนในหมัดเดียวฝีมือของเขาไม่ต่ำทรามกว่าอู๋เจ๋อสิง กลิ่นอายของเขาทวีความน่ากลัวมากขึ้น  ตั้งแต่แรกเริ่มผู้เฒ่าหวีไม่เคยคิดว่าเขาจะถูกลากลงปลักนี้ไปด้วย

สถานการณ์ของเขาในตอนนี้หมิ่นเหม่มาก

ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนว่าเขากลับไปสู้กับไซอาแม้ว่าการต่อสู้ครั้งนั้นจะไม่ได้ทำให้เขาถูกลดอันดับ แต่ก็มีผลกระทบต่อศักดิ์ศรีของเขา  แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือความมั่นใจของเขาหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น เขาต้องใช้เวลาถึงเจ็ดปี ก่อนที่เขาจะสามารถฟื้นคืนความเชื่อมั่นของเขาให้กลับมาอยู่ในระดับสูงได้

และสถานการณ์ของวันนี้จะน่ากลัวยิ่งกว่า  ถ้าเขาล้มเหลว...

ผู้เฒ่าหวีสูดหายใจลึกและผลักความคิดนี้ทิ้งไว้เบื้องหลัง สีหน้าเข้ม  เสื้อผ้าพองหนาอัดแน่นไปด้วยพลัง

เขาเดินเข้าหาถังเทียนทีละก้าวๆทั้งผมและเคราของเขาชี้ชัน

สู้ครั้งนี้ไม่เป็นก็ตาย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด