ตอนที่แล้วตอนที่ 159 วางแผน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 161 เข้าตาจน

ตอนที่ 160 สำเร็จ


ยานโดยสารกำลังเข้ามาใกล้ทุกที  บนยานมีสัญลักษณ์โดดเด่น  แต่ถังเทียนและพวกที่เหลือไม่รู้จัก  ถ้าตามบรรทัดฐานถือว่าเป็นพวกระดับสูงโอ่อ่าและวิธีที่เดินทางมาก็เหมาะกับเป้าหมายของพวกเขามากที่สุด

โดยไม่มีความลังเลใจ เมื่อยานโดยสารปรากฏ คนแรกที่เปิดฉากก็คือหลิงซิ่ว

เมื่อเผชิญหน้ากับยานโดยสารที่บินต่ำลงมา หลิงซิ่วกำลังตั้งใจจะสู้ให้ถึงที่สุด ตาสีส้มของเขามีประกายไฟลุกโชน ผมสีน้ำเงินของเขาพริ้วไสวอยู่ในสายลม

ทุกคนกระทืบเท้าอย่างรุนแรงและกระโจนขึ้นไปในอากาศ  พอถึงช่วงกลางเขาบิดนิ้วของขา  และหอกก็บินออกไปทันที  นี่คือทักษะของเขาเอง  และทักษะเหล่านี้ทั้งหมดจุดประสงค์ก็คือเพื่อหลีกเลี่ยงร่างกายที่อ่อนแอเปราะบางของเขา

หอกเป็นเหมือนธนูที่หลุดออกจากแล่ง ร่างของเขาเบาเหมือนใบไม้ ขณะที่ตามหอกที่พุ่งออกไป

ร่างของเขาพุ่งตามหอก ขณะที่หอกร่อนไปตามลมอย่างสง่างาม

ในเขตสายตาของพวกเขา ขณะที่ยานขยายใหญ่ขึ้นทุกที  ความตั้งใจต่อสู้เผาผลาญจนถึงระดับจะปะทุออกมาเหมือนลาวาร่างสง่างามของเขาในอากาศ เปล่งแสงวาบทันทีเหมือนฟ้าผ่า

“ฆ่า!”

เมื่อเสียงของเขากึกก้อง ทั่วทั้งท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาวที่ร่วงลงมาเหมือนสายฝนคลุมไปทั่วทั้งยานโดนสาร

หอกเปล่งเสียงและมีพลังน่ากลัวนัก

“บังอาจนัก!” เสียงที่โมโหโกรธเกรี้ยวดังออกมาจากยานทันที ทันใดนั้นร่างใหญ่มหึมาปรากฏต่อหน้ายานทันที ตลอดท้องฟ้าเต็มไปด้วยรัศมีเยือกเย็นแต่สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไปสักนิด

เขารวบหมัดและปล่อยออกด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง หมัดของเขาเคลื่อนไหวตลอดแค่เพียงพริบตาก็มีขนาดเท่าขวด

บุรุษร่างใหญ่ตะโกนและปล่อยหมัดออก

รังสีหมัดขนาดขวดเหล้าสีแดงพุ่งออกมาและพองตัวในกลางอากาศทันทีส่งเสียงหวีดหวิวน่ากลัวพุ่งเข้าใส่หลิงซิ่ว

หลิงซิ่วรู้ว่าเป็นหมัดที่ทรงพลัง พวกเขาแข็งแกร่งเหมือนที่คาดไว้...

แต่....

ชั้นรัศมีบางๆ ลุกพรึ่บอยู่ในดวงตาของหลิงซิ่ว  ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง แต่ก็ยังค่อยๆ กระตุ้นความตั้งใจต่อสู้ของเขา  ตลอดทั้งร่างของเขาร้อนขึ้น ยกเว้นเหล็กเย็นกับนิ้วมือของเขา

เขาต้องไม่ลืมภารกิจ

เสียงแค่นเยือกเย็นดังออกมาจากปากของเขา นิ้วทั้งห้ากำรอบท้ายหอกแล้วปั่น หอกเหล็กหมุนเป็นวงและรังสีเยือกเย็นที่ล้อมรอบก็หายไป

ปลายหอกจุดประกายด้วยรังสีเยือกเย็น เกิดประกายสว่างกว่าดวงดาวที่สว่างในท้องฟ้ามืดมิดเสียอีก

หอกเล่มเดียวระดมแทงใส่รังสีหมัดขนาดมหึมา!

บุรุษร่างใหญ่หรี่ตา แววประหลาดใจปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา  เขาไม่เคยคาดเลยว่าวิชาหอกของฝ่ายตรงกันข้ามจะลึกลับมาก  แต่หมัดของเขาก็ไม่ได้พ่ายแพ้

ซู่...

ปลายหอกหายไปทันที แม้ว่ามันจะหายไป แต่ว่าร่างของหลิงซิ่วยังอยู่ตรงนั้น

ไม่ดีแน่

สีหน้าของบุรุษร่างใหญ่เปลี่ยนไป

หลิงซิ่วแทงไปตรงช่องว่างข้างยานโดยสารรังสีหอกเยือกเย็นแหลมคมพุ่งไปเหมือนอัศวินโบราณ

หลิงซิ่วงามสง่ามากยามเคลื่อนไหวในอากาศก่อนนี้ แต่ขณะนี้เขาเป็นเหมือนไฟร้อนแรงที่ถูกลมพัดกระพือแรงกล้าทุกส่วนในร่างกายเขามีเปลวลุกโชน แม้แต่หอกเหล็กดำก็พลอยลุกไหม้ไปด้วยพร้อมปลดปล่อยพลังความร้อนที่น่าทึ่ง

ความก้าวหน้าที่เลิศล้ำนัก

บุรุษร่างใหญ่ไม่รู้ว่าทำไมใจของเขาจู่ๆ ก็ผุดวลีนี้ขึ้นมา

ปัง!

เหมือนกับดาวตกวิ่งกระแทกใส่จุดตาย หอกกระแทกใส่ยานโดยสาร

ชิ้นส่วนยานแตกทันที เป็นปราณที่ทรงพลังเหลือเกิน ที่สำคัญตัวยานโดยสารหนาและแข็ง แต่ก็ยังแตกทำลายได้  เสียงด่าและร้องด้วยความโกรธดังออกมาจากภายในยานโดยสาร เกิดความยุ่งเหยิงขณะที่ยานโดยสารสูญเสียการควบคุมและบินไปอย่างไร้ทิศทางในอากาศ

“โจรร้าย! ตายเสียเถอะ!”

บุรุษร่างใหญ่ตะโกนด้วยความโกรธ เขาตีลังกาและกระโจนเข้าหาหลิงซิ่ว

หลิงซิ่วไม่สนใจมองดูผลงานของเขา เป็นไปตามแผน  เขาไม่ลังเล ขณะที่เขาหมุนตัวรับหอกก็มุ่งหน้าสู่หุบเขา  ร่างของเขาแนบติดอยู่หอก

ในชั่วพริบตา เขาบินไปไกลเกินกว่าสามสิบเมตร

บุรุษร่างใหญ่ไม่คิดว่าหลิงซิ่วจะหลบหนีไปอย่างเร่งร้อนทันที  เมื่อตั้งหลักได้ ก็ยิ่งโกรธแค้น  ไอ้แพนด้าหน้าโง่นั่น  วันนี้เจ้าไม่รอดแน่

บุรุษร่างใหญ่คำราม เขากางแขนออกเหมือนอินทรีสยายปีก แล้วพุ่งไปที่หลิงซิ่ว

ทั้งสองยังทอดระยะห่างกัน

ยานโดยสารกำลังจะร่วง

หลังจากนั้นก็มีร่างที่ตระหนกตกใจโดดลงมาจากยาน

“ลุย!”

ถังเทียนและอีกสามคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน

ในท่ามกลางกลุ่มผู้คน มีบางส่วนวิ่งเขามาด้วยความตั้งใจป้องกันตัว

ถังเทียนพิจารณด้วยประสบการณ์ เมื่อเขาเห็นบุรุษที่ขวางหน้าเขามีแววตื่นเต้นอยู่ในดวงตา  เขารู้ว่าคู่ต่อสู้ไม่แข็งแกร่ง

ถังเทียนยังลอยอยู่ในอากาศ กะระยะแล้วจึงวิ่งเข้าหา

นัยน์ตาฝ่ายตรงข้ามแสดงความสุขใจทันที โอกาสดีอย่างนั้น ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เขาเริ่มลงมือทันที มีดเหล็กกล้าในมือของเขามีประกายรังสีเยือกเย็นฟันใส่ถังเทียน  ว่ากันถึงระยะห่างนั้นเขาประเมินผิด  จะมีช่วงเวลาที่เข้มงวดเป็นโอกาสดีให้ฉกฉวยเสมอ

รังสีดาบใช้ออกได้อย่างสมบูรณ์ เหมือนกับอสรพิษพ่นพิษ

ขณะนั้น ร่างของถังเทียนขยับหลบดาบเฉียดฉิวเพียงปลายเส้นผม

เขาฉวยโอกาสที่เขาอยู่ด้านหลังมีดเหล็ก ปลดปล่อยพลังร่างกระเรียนของเขา

ปุ

เหมือนกับสายฟ้าฟาด ฝ่ายตรงข้ามแหงนหน้ากระอักโลหิต  ถังเทียนประทับฝ่ามือใส่ร่างเขาและฉวยโอกาสลอยตัวเข้าหาแนวป้องกันของคน

ถังเทียนยังนับว่าโชคดี ขณะที่ปิงและกรงเล็บภูตพรายต่อสู้อย่างยากลำบาก

ถังเทียนเพ่งความสนใจภายใน เขาตระหนักได้ถึงเป้าหมายที่มีค่า ในมือของผู้คุ้มกันสตรีกำลังอุ้มเด็กหญิงที่เม้มปากเต็มที่คนหนึ่ง

ในพริบตา ถังเทียนสังเกตได้ว่า เป้าหมายต้องเป็นคนสำคัญ  แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเด็กหญิงนี้เป็นใคร  แต่ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย  เขายังคงเข้าใจเรื่องนั้น

เมื่อเห็นหญิงผู้คุ้มกันเด็กหญิงน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นตัวประกันสำคัญ ถ้าเขาชิงตัวเธอได้ อย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่ากลุ่มนั้นจะไล่ตามพวกเขา

ทันทีที่คิดได้เช่นนั้น ถังเทียนลงมือทันที เขามาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คุ้มกันหญิง

ผู้คุ้มกันสตรีผู้นี้ร่างสูงใหญ่ ผมทองรวบมัดผมหางม้า  ในมือนางถือกระบี่ยาวบ่งบอกถึงพลังของนาง

นางสังเกตถังเทียนที่สวมหน้ากากลิงอุรังอุตังตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว  ดังนั้นเมื่อเขาปรากฏตัวหน้านาง  นางจึงไม่ประหลาดใจ  กระบี่ยาวในมือนางสั่นและกลีบดอกไม้สามดอกบานออกพร้อมกับฟันกระบี่ใส่ถังเทียน

บุปผากระบี่สีชมพูดูน่ารักมาก แต่ในช่วงเวลานี้ มันกลับเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

เห็นได้ชัดว่าวิชากระบี่ของผู้คุ้มกันหญิงนั้นเคร่งครัดมาก  การควบคุมกระบี่ทำเหมือนกับที่ระบุไว้ในตำราทั้งวิธีจู่โจมใส่ถังเทียน  จึงยังไม่พอ

หลังจากการต่อสู้ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงมาแล้ว  เมื่อใดก็ตามที่ถังเทียนต่อสู้  เขาจะไม่มีความปราณีแน่นอนและจะใช้ทุกวิธีการในการต่อสู้

มือของถังเทียนสั่น

วังวนกระเรียนขาว!

วังวนกระเรียนขาวที่คมเป็นเหมือนมีดใบพัดที่ปั่นด้วยความเร็วสูง  ดูเหมือนวังวนกระเรียนขาวแทบจะบดบังสายตานาง

แววตื่นตระหนกปรากฏอยู่ในดวงตาของผู้คุ้มกันสตรี  แต่นางรีบสงบจิตใจอย่างรวดเร็ว  ปลายกระบี่ของนางแทงออกอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว

ถังเทียนประหลาดใจ วิชากระบี่ของผู้คุ้มกันสตรีนับได้ว่าแข็งแกร่ง  นางยังคงใช้กระบวนท่าอย่างเคร่งครัดเห็นได้ชัดว่านางไม่รู้วิธีต่อสู้ ถังเทียนสังเกตเพิ่มอีกอย่าง ผู้คุ้มกันสตรีปกป้องเด็กหญิงมากกว่าจะปกป้องตัวนางเอง

ถังเทียนน่ากลัวมากในการต่อสู้

คำพูดของปิงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสนุกแน่นอน ถังเทียนที่อยู่ในการต่อสู้มักจะแสดงระดับสติปัญญาในการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาออกมา  สัญชาตญาณของเขาแหลมคม  น่ากลัวมาก รายละเอียดทุกอย่าง เขามักนำมาใช้ได้เสมอ

ถังเทียนตระหนักได้ทันทีว่า เด็กหญิงน้อยสำคัญต่อเยี่ยนเซี่ยมาก

ในพริบตา เขาตัดสินใจลักพาตัวเด็กหญิงตัวน้อย

ไวเท่าความคิด ร่างถังเทียนหายไป เขาซ่อนตัวอยู่หลังวังวนกระเรียนขาวของเขา

สตรีมือคุ้มกันรู้สึกได้ทันทีว่าพลังแล่นมาตามปลายกระบี่ของนาง  แต่สายเกินไปพลังระเบิดออกไปจนกระบี่นางเบนออกไป ก่อให้เกิดความผิดพลาดและถังเทียนก็โฉบมาเหมือนสายฟ้า

มือคุ้มกันสตรีแตกตื่น นางปล่อยกระบี่ทันทีและตีศอกใส่ถังเทียน

ถังเทียนประหลาดใจ การใช้ศอกโจมตีไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญแน่น ผู้หญิงคนนี้เรียนรู้การต่อสู้ระยะประชิดมาด้วยแต่ร่างของถังเทียนไวกว่าที่นางคาดและในช่วงเวลานี้เองมือของเขาก็ป้องกันศอกของคู่ต่อสู้ไว้ได้พร้อมกันนั้นเขาปล่อยหมัดขวาใส่อกที่นุ่มของนาง

แม้ว่าจะมีเกราะป้องกัน แต่พลังของถังเทียนก็แข็งแกร่งมากและทำให้นางตัวแข็งเพราะความเจ็บปวด

ถังเทียนฉวยโอกาสชิงตัวเด็กผู้หญิงทันทีทำให้ผู้คุ้มกันหญิงมีสีหน้าแตกตื่น  แต่ถังเทียนไม่ให้โอกาสใดๆ แก่นางเขาโดดลงมาโดยไม่ลังเลใจ

ทันทีที่ก้าวลงพื้น เขาตะโกนทันที “หนี!”

ฉัวะ!

ปิงและกรงเล็บภูตพรายถอนกำลังทันที คนหนึ่งไปทางซ้ายคนหนึ่งไปทางขวาแยกย้ายกันหลบหนี

ถังเทียนอุ้มเด็กหญิงน้อยวิ่งเตลิดเข้าป่าเสียงตะโกนและเสียงฝีเท้าดังไล่หลังเขามาตลอด ถังเทียนรีดพลังของเขาออกมาทั้งหมด ภายใต้ภูมิประเทศกันดารซับซ้อนของป่าช่วยเขาได้มากสัญชาตญาณสิบแปดเท่าทำให้เขารู้ตรงไหนมีสิ่งกีดขวาง ตรงไหนมีอันตราย

เขาเป็นเหมือนลิงอุรังอุตังที่คล่องแคล่ววิ่งเข้าไปในป่า ทั้งที่ยังอุ้มเด็กหญิงน้อยที่ยังลืมตากว้างซอกแซกมองหน้ากากลิงอุรังอุตังด้วยความอยากรู้

แต่ทหารที่ไล่หลังตามเขามา ไม่มีทีท่าว่าจะถอดใจเลิกตาม  พวกเขาไล่ตามมาอย่างไม่เลิกรา

แผนการสำเร็จ

จิตใจของถังเทียนมีความสุขท่วมท้น ตราบใดที่พวกเขาติดตามเข้าไปในป่าลึก ถ้าพวกเขาต้องการจะออกจากป่า พวกเขาจะต้องเสียเวลามาก หรือบางทีอาจจะออกไปไม่ได้เลย

ถังเทียนตระหนักได้อย่างรวดเร็ว่าพวกเขาไม่มีทางไล่ตามเขาทัน

เพื่อไม่ให้ทิ้งพวกเขาห่างเกินไป บางครั้งถังเทียนก็จงใจหยุดพักผ่อน

หลังจากหนีมาหนึ่งวันเต็ม  ก็ตกกลางคืนทั้งป่ากลายเป็นน่ากลัวมากขึ้น ทหารที่คอยติดตามไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ แต่ความเร็วของพวกเขาช้าลงกว่าแต่ก่อน ทำให้ถังเทียนต้องหยุดพักเป็นเวลานาน

ความมืดไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อถังเทียน เขาไม่ต้องใช้ตาก็สามารถหลบสิ่งกีดขวางและอันตรายได้แต่คนอื่นที่ตกอยู่ในความมืดรู้สึกว่าป่าที่มีความซับซ้อนอยู่แล้วกลายเป็นที่อันตรายมากขึ้นและน่าหงุดหงิดยิ่งขึ้น

การหนีจนถึงเช้าวันต่อไปทำให้เขาเกือบคลาดเคลื่อนไปจากแผน ตามสถานการณ์ปัจจุบันเขาไม่จำเป็นต้องใช้กรงเล็บภูตพรายเพื่อช่วยเขาจัดการทหาร

ถังเทียนมีความสุขเหลือจะกล่าว ความสำเร็จอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว

ทันใดนั้น เด็กหญิงน้อยที่อยู่บนหลังของเขาเริ่มดิ้นรนสุดแรงของเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด