ตอนที่แล้วตอนที่ 155 วังวนกระเรียนขาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 157 ตุ๊กตาห้ามุทรา

ตอนที่ 156 คณะปกครองสวี่ซื่อ


“เทวรูปห้าตา?” ถังเทียนสงสัยเมื่อได้ยินเสียงอุทานของกู้เสวี่ย

“อืมมมม!”  กู้เสวี่ยพยักหน้ายืนยัน “ประมาณพันปีหลังจากรัชสมัยของหมู่ดาวแมงป่อง  มีดาวดวงหนึ่งจู่ๆก็มีชื่อเสียงขึ้นมาเรียกกันว่าดาวเนตรโลหิต ดาวเนตรโลหิตมีสิ่งพิเศษที่เรียกกันว่าตุ๊กตาเนตรโลหิต  ข้าเพิ่งจะนึกออกเดี๋ยวนี้เอง  พลังของตุ๊กตาเนตรโลหิตนั้นโดดเด่น พวกเขาสร้างกองทัพตุ๊กตาเนตรโลหิตเพื่อต่อสู้ในสงครามของพวกเขา”

“ทรงพลังขนาดนั้นเชียวหรือ? ข้าคิดว่ามันมีพลังปานกลางนะ  แต่ก็ต้องพูดเลยว่าวิธีการของพวกมันแปลกไปบ้าง”  ถังเทียนถือโอกาสยืดอกลำพอง

ปิงอดไม่ได้ ถึงกับแค่นเสียง “จิตวิญญาณพลังยุทธของพวกมันลดอ่อนลงจนเหลือเพียงเท่านั้น  เจ้าใช้เวลาตั้งมากมายยังกล้าลำพองอีกเหรอ?”

ถังเทียนร้อง “แต่ก็เห็นชัดแล้วนี่ว่า ข้าเป็นคนจบการต่อสู้ได้ก่อนลุงเสียอีก”

ปิงเยาะเย้ย “นั่นเป็นเพราะเจ้ามีถุงมือกระเรียนฟ้า ท่าทางน้ำเสียงเจ้าไม่ได้ยอมรับนับถือตาแก่คนนี้เลยแม้แต่น้อย โอว...เจ้าไม่เคารพครูฝึกของเจ้าด้วย เฮอะๆ.. ถ้านี่เป็นยุคในอดีต และเรามีทหารใหม่อีกคนที่ไม่ใช่เจ้าออกมาสู้กับตุ๊กตาห้าตัวนี้   พวกเขาก็สามารถจบงานได้เพียงลำพัง  และต้องถือว่าเป็นความอับอายขายหน้า ถ้าพวกเขาถึงกับต้องให้นายทหารออกมาช่วยพวกเขา!  โอวและเจ้ายังใช้เม็ดพลังวิญญาณไปถึงสิบลูกเพื่อเรียกกรงเล็บภูตพรายออกมาฮึ.. ใช้ไปตั้งมากมายอย่างนั้นถือว่าน่าขายขี้หน้ายิ่งกว่าครั้งไหนๆ เสียอีก”

“มาเลย, มาสู้กันเลย!ใช้หมัดตัดสินกันเลยดีกว่าว่าใครถูกใครผิด” ถังเทียนโมโหชี้นิ้วใส่ปิง

ปิงเหลือกตาและมองดูเขาอย่างผิดหวัง “ตอนนี้เจ้ามันก็แค่เด็กน้อย ในยุคของเราไม่เคยมีเด็กอย่างเจ้าเลย ที่บังอาจท้าทายนายทหารของตนเองทั้งที่ตนเองยังฝึกระดับทหารเกณฑ์ไม่จบ อาใช่แล้วขนาดยังสอบไม่ผ่านการอบรมทหารใหม่  เด็กรุ่นหลังอย่างเจ้าก็ท้าทายมั่วโดยไม่รู้จักประมาณตัวเองเสียแล้ว”

“ลุง  ลุง   ลุง...” หน้าของถังเทียนแดงก่ำ

กู้เสวี่ยมองดูถังเทียนกับปิงทะเลาะกันก็อดหัวเราะขำไม่ได้  เพื่อกันไม่ให้ทั้งคู่ทะเลาะกันนางตัดสินใจพูด ทันทีที่นางเปิดปากพูดก็สามารถดึงความสนใจพวกเขาได้

“พลังของตุ๊กตาเนตรโลหิตไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่นั้น  ตามหนังสือที่ข้าได้อ่านมา ดาวเนตรโลหิตถึงความรุ่งเรื่องสุดยอดได้เร็วมาก  พวกเขามีผลงานรบที่ดี  แต่พอหลังจากพวกเขาล่วงเกินหมู่ดาวหมาล่าเนื้อ  ทางดาวเนตรโลหิตจึงทำลายประตูดวงดาวของพวกเขาทั้งหมดเพื่อป้องกันตนเอง จนกระทั่งต่อมาไม่มีผู้ใดเห็นพวกเขาอีกต่อไป  ดาวเนตรโลหิตมีช่วงเวลารุ่งโรจน์อยู่สิบปี ข้าจำได้ว่าตุ๊กตาเนตรโลหิตเป็นของพิเศษมาก   เมื่อพวกมันรวมเข้าด้วยกันก็สามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ธรรมดานั่นก็คือเทวรูปห้าตา”

“อย่างนั้นหรอกหรือ?” ถังเทียนหมุนดูตุ๊กตาน้อยดูรอบๆ เขาถามด้วยความสงสัยขณะที่ตาเบิกจ้องด้วยความประหลาดใจ  “นี่ช่างสนใจจริงๆ  มันมีห้าตาจริงๆ ด้วย”

ก่อนหน้านั้น เขายังผมลุกตั้งชัน แต่ตอนนี้ถังเทียนดูได้อย่างไม่กลัว

“อืม... เป็นเรื่องยากมากที่จะได้พบกับเทวรูปห้าตา  แม้ว่าไม่มีใครชอบตุ๊กตาเนตรโลหิต  แต่เทวรูปห้าตาก็มีชื่อเสียงมาก  พวกมันล้ำค่ามากเมื่อมีการประมูล  เพราะพวกมันมีพลังเวทมนต์  ตาทั้งห้าของเทวรูปสามารถปล่อยรังสีได้แตกต่างกัน รังสีเหล่านี้สามารถกระตุ้นพลังให้กับสายเลือดเร้นในตัวของเจ้าได้”

กู้เสวี่ยกำชับถังเทียนให้ระมัดระวัง “อาเทียน, จะให้ดีที่สุดก็คือเจ้าอย่าบอกใครว่าเจ้ามีเทวรูปห้าตา

“กระตุ้นพลังสายเลือดน่ะหรือ?” ตาถังเทียนเป็นประกายและยื่นมันให้กู้เสวี่ย  “อย่างนั้นข้าให้เจ้าก็แล้วกันมันสามารถช่วยเจ้ากระตุ้นพลังสายเลือดลับได้แน่นอน”

กู้เสวี่ยปลื้มใจ แต่นางสั่นศีรษะอย่างแน่วแน่ “มันแพงเกินไป  นอกจากนี้ข้าไม่มีฝีมือพอจะปกป้องมันได้   อาเทียน,เจ้ายังไม่ได้กระตุ้นพลังสายเลือด เจ้าต้องใช้มัน”

ตาของกู้เสวี่ยบริสุทธิ์เหมือนน้ำใส ถังเทียนยิ้ม “ข้ามั่นใจว่าข้าไม่มีพลังสายเลือดอะไรทั้งนั้น  ขนาดเพิ่งกลืนสายเลือดแคระและสายเลือดเทพลงไปก็ยังไม่มีอาการสนองตอบแต่อย่างใด ของจะเสียเปล่าได้ ถ้าให้ข้าเก็บไว้ ถ้าเจ้ามีของสิ่งนี้เก็บไว้ อาเสวี่ย! เจ้าอาจไม่ต้องใช้วิธีอันตรายเพื่อกระตุ้นสายเลือดของเจ้าก็ได้”

หลังจากนั้นถังเทียนก็ยัดเทวรูปห้าตาไว้ในมือของกู้เสวี่ย “รับไว้เถอะ”

ก่อนจะรอให้กู้เสวี่ยตอบรับ เขามองดูท้องฟ้า “เวลาล่วงเลยมามากแล้ว  เราต้องกลับกันแล้ว  ไปเถอะ”

ถังเทียนคว้าตัวกู้เสวี่ยและทะยานขึ้นไปในอากาศ

กู้เสวี่ยขบริมฝีปากแน่น และเงียบอยู่ตลอดเวลา

ทั้งสองคนเพิ่งกลับมาถึงตระกูลกู้ ก็เห็นเมอเรย์กำลังมีสีหน้ากังวล นางสลายรอยยิ้มและถามอย่างใจเย็นว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

เมอเรย์ฝืนยิ้ม “ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่าคณะปกครองสวี่ซื่อจะมาที่ตระกูลกู้เพื่อท้าสู้ในอีกห้าวัน  พวกเขากำลังขอให้เราร่วมมือ”

กู้เสวี่ยดูกระวนกระวายและโกรธ “ต่อให้สวี่ฉางเทียนเป็นคณะปกครองในดาวไพรมายา แต่เขาจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องของตระกูลกู้ได้อย่างไร?”

“คณะปกครองคืออะไรเหรอ?” ถังเทียนมองด้วยความสงสัย

กู้เสวี่ยกัดฟันนาง ตาเต็มไปด้วยความโกรธและอธิบาย  “ดาวไพรมายาเป็นขององค์การวิญญาณมืด องค์การวิญญาณได้แต่งตั้งหัวหน้าผู้ปกครองดาวอย่างดาวไพรมายา  ภายใต้ผู้นำของดาว  มีคณะปกครองสามถึงห้าคน  ดาวไพรมายาเป็นดาวเล็กดังนั้นจึงมีคณะปกครองอยู่เพียงสามคน ผู้นำดวงดาวและคณะปกครองเป็นยอดฝีมือขององค์การวิญญาณมืด  พวกเขาทรงพลังแข็งแกร่งมาก”

ถังเทียนตาเบิกกว้าง  “พวกเขาแข็งแกร่งมากแค่ไหน?”

“แข็งแกร่งมาก  พวกเขาได้รับแต่งตั้งจากระดับเบื้องบน  สวี่ฉางเทียนเป็นนักสู้อันดับสิบสามในทำเนียบดาวไพรมายา  เขามีพลังแข็งแกร่งกว่าพี่น้องตระกูลหัวมาก  นอกจากนั้นคณะปกครองยังมีอำนาจแต่งคณะปกครองของตนเองอีกด้วย แม้ว่าจะมีคนทำงานให้สวี่ฉางเทียนไม่มาก ราวๆ สิบคน แต่ไม่มีใครที่ไม่ใช่ยอดฝีมือ สามคนติดอยู่ในห้าสิบอันดับยอดฝีมือของดาว  และพวกที่เหลือ อยู่ในอันดับไม่เกินร้อย”

“นั่นก็น่ากลัวเลยนะ” ถังเทียนสูดลมหายใจหนาวเหน็บ  มีสามคนจากห้าสิบทำเนียบยอดฝีมือของดาว นั่นก็หมายความว่ามีอยู่สามคนที่เหมือนกับพี่น้องตระกูลหัว

“ฮืม!  ตามทฤษฎีแล้ว กลุ่มคณะปกครองจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องภายในตระกูล  นั่นคือระเบียบของดาวไพรมายา แค่เพียงว่าในแต่ละปีเราต้องส่งรายงานเท่านั้น”  กู้เสวี่ยมองดูไม่สบายใจ  แต่นางสงบจิตใจได้และมองดูเมอเรย์ “ลุงเมอเรย์!  ลุงลองไปสืบดู หาให้พบว่าเพราะเหตุใดคณะปกครองถึงได้มายุ่งเกี่ยวกับตระกูลกู้”

เมอเรย์พยักหน้าหนักแน่น  “ได้เลย!”

หลังจากนั้น เขาเดินออกไปโดยไม่ลังเลเลย

ถังเทียนปลอบกู้เสวี่ย “อย่ากังวลไปเลยอาเสวี่ย ถ้าพวกเขาทำอะไรไม่ดี ข้าจะทุบตีพวกมันเอง”

กู้เสวี่ยฝืนยิ้ม  “ฮืม.. อาเทียน,ข้าขอตัวก่อน”

ถังเทียนเข้าใจความกังวลที่ฉาบอยู่ในดวงตาของกู้เสวี่ยและกล่าวว่า “อืม..เชิญ”

เมื่อเห็นกู้เสวี่ยกังวลมาก ถังเทียนเอียงคอและไตร่ตรอง เขากำลังเดินเข้าไปในลานบ้านก็เห็นหลิงซิ่วกำลังฝึกวิชาหอก  “เฮ้!  ซิ่วซิ่วน้อย เจ้ารู้จักคณะปกครองสวี่ซื่อไหม?”

หลิงซิ่วหยุดและขมวดคิ้วทันที “เจ้าสร้างความไม่พอใจให้คนจากคณะปกครองหรือ?  พวกมันเป็นกลุ่มคนบ้าที่ยากจะรับมือได้”

ถังเทียนดูถูกทันที  “ข้าว่าเจ้ากลัวคนพวกนั้นมากกว่า”

“เหลวไหล!”  หลิงซิ่วระเบิดอารมณ์เหมือนแมวโกรธ  เขาคำราม “พวกมันอยู่ไหน! ข้าจะทะลวงพวกมันด้วยหอกของข้า”

“เจ้าจะทำอย่างนั้นด้วยหอกเล่มเดียวน่ะหรือ?”  ถังเทียนตะลึงหลังจากได้ยินคำพูดนี้  จากนั้นเมื่อเขาคิดถึงวิชาหอกทะเลจุดที่หลิงซิ่วใช้  เขาก็รู้สึกว่ามีแนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น

ถังเทียนที่ปกติจะโมโหเมื่อเขาโดนปิงปรามาส ค่อยวางท่าทางว่ามีฝีมือตอนอยู่ต่อหน้าหลิงซิ่ว

“ลุงเมอเรย์บอกว่าสวี่ฉางเทียนจากคณะปกครองจะลงมาต่อสู้ในอีกห้าวัน”  ถังเทียนประกาศ

ความหงุดหงิดของหลิงซิ่วสงบลง ในดวงตาเขามีแววรังเกียจ “สวี่ฉางเทียนน่ะหรือ? บรรดาคนในคณะปกครอง เจ้านั่นโลภมากที่สุด! มันใช้วิธีป่าเถื่อนจัดการหลายๆ เรื่อง บริวารของมันก็เหมือนกัน พวกมันไม่ใช่คนดี! มันมาคราวนี้ย่อมมีเจตนาไม่ดี”

“มาด้วยเจตนาไม่ดี...” ถังเทียนถอนหายใจและพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี  “พวกมันควรฉลาดกว่านี้  ถ้าไม่อย่างนั้น  อย่าได้โทษว่าหมัดของข้าก็แล้วกัน”

“เจ้ากำลังเข้าร่วมทดสอบผ่านประตูดวงดาวไม่ใช่หรือ?  ถ้าเจ้ามีเรื่องกับสวี่ฉางเทียนเจ้าอย่าหวังเลยว่าจะผ่านได้” หลิงซิ่วมองดูถังเทียน

ถังเทียนมองเขาอย่างหยามเหยียด“ข้านึกว่าเจ้าเปลี่ยนเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งและได้พบความหมายของคำว่าซื่อสัตย์และยุติธรรม  แต่ดูเหมือนว่าเจ้ายังย่ำอยู่กับที่”

หลิงซิ่วเตือนเขาด้วยความปรารถนาดี  แต่เขากลับถูกถังเทียนยอกย้อน จึงหัวเสียทันที“เดรัจฉาน! เจ้ากล้าดียังไงมาพูดเรื่องความเที่ยงธรรมกับข้า? มาเลย!  เจ้าบ้า!  มาซ้อมมือกันข้าจะแทงก้นเจ้าให้พรุนเป็นรังผึ้งเลย..”

ถังเทียนเหลือกตา โบกมือและหันมาตะโกนตรงๆ

“เจ้าเติบใหญ่แล้ว  และพวกเจ้าทุกคนรู้แต่เรื่องท้าตีท้าต่อยทั้งวันทั้งคืน   พ่อหนุ่มน้อยลองทำบางอย่างด้วยตัวเองบ้างได้ไหม? ข้าไม่มีเวลาจะมาเล่นกับเจ้า เจ้าเรียนรู้จากหนุ่มน้อยชาวฟ้าไว้จะดีกว่า  เจ้ารู้ไหม ทำไมเจ้าเอาชนะข้าไม่ได้?  พ่อหนุ่มน้อย เจ้าไม่ต้องมาอ้างดีกว่า  อัจฉริยะร้อยละ 99 ล้วนสร้างขึ้นมาจากการอาบเหงื่อต่างน้ำฝึกฝนหนักกันทั้งนั้น....”

หลิงซิ่วหน้าแดงและตัวสั่นด้วยความโกรธ

ครั้งล่าสุดที่ถังเทียนเอาชนะเขาได้ ก็ในตอนที่เขาไม่มีหอกอยู่ในมือ แต่เจ้าบ้านี่ยังบอกเขาไม่ให้หาข้ออ้างซึ่งเป็นการทำร้ายจิตใจเขา

ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนหนักหรือความยากลำบาก ใครจะบ้าฝึกอยู่ที่บ้านตลอดทั้งวันเล่าและใครจะออกไปแสดงฝีมือข้างนอกเล่า....

บัดซบเอ๊ย!

※※※※

ถังเทียนรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นหลังจากได้หยอกล้อหลิงซิ่ว!  ความโกรธของเขาหายไปหมด  ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าการกระทำของเขาได้รับอิทธิพลมาจากปิง

เมื่อเขาเข้าไปในค่ายฝึกทหารใหม่  ถังเทียนทิ้งเรื่องของคณะปกครองออกไปจากใจ  และทุ่มความสนใจทั้งหมดไปที่วิทยายุทธแทน  เขาไม่ได้เข้าไปในหุบเขาหิวโหยทันที  แต่กลับตั้งท่าเริ่มฝึกฝนแทน

กระบวนท่าของเทวรูปห้าตานั้นพิเศษ

เขาเลียนแบบท่ามือของตุ๊กตาดอกไม้  ทันทีที่ประกบนิ้วเข้าด้วยกันปราณเที่ยงแท้ในตัวของเขาก็เคลื่อนไหวทันที แม้ว่าจะเบามาก แต่เขามั่นใจว่าไม่ใช่ภาพลวงตา

ว้าว...มีพรสวรรค์กับเขาเหมือนกัน!

จู่ๆ ถังเทียนก็กระตือรือร้นขึ้น

เขาจำท่ามือทั้งห้าได้ชัดเจนและเริ่มทำท่าเลียนแบบ  ท่ามือแต่ละท่ามีผลสนองตอบร่างกายแต่ละส่วนที่ต่างกัน  แม้ว่าจะมีผลตอบสนองเล็กน้อย  แต่สัญชาตญาณถังเทียนแรงกล้า  เขาสามารถรู้สึกได้

เมื่อเขาพยายามระลึกถึงอีกครา  เขาทำท่ามือเหมือนตุ๊กตาดอกไม้กลับกลายเป็นว่าเขาเงียบสงบและไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

ครึ่งชั่วโมงต่อมามีความรู้สึกอุ่นขึ้นมาจากใต้เท้าของเขา ราวกับว่าถังเทียนจมอยู่ในแสงอาทิตย์อบอุ่น  ร่างกายของเขาอุ่น มีความรู้สึกสบายจนอธิบายไม่ถูก  เขายิ้มเล็กน้อย

ปิงยังคงเฝ้าสังเกตถังเทียน

เมื่อถังเทียนเริ่มเลียนแบบ  เขาเริ่มขมวดคิ้วเมื่อเป็นสิ่งที่ไม่รู้จัก เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับถังเทียนที่จะลองฝึกฝนเช่นนั้น  เพราะมันอันตรายมาก  แต่เขาไม่ห้ามถังเทียนทันที  เขาจะรอจนถังเทียนไม่สามารถโต้ตอบได้  จากนั้นเขาค่อยเน้นย้ำถึงอันตรายจากการกระทำนี้

แต่...

แต่เมื่อรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของถังเทียน  ปิงถึงกับสั่น นัยน์ตาเขาเป็นประกายในเสี้ยววินาทีเขาหาร่องรอยของถังเทียนไม่เจอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด