ตอนที่แล้วตอนที่ 154 รูปสลักหินปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 156 คณะปกครองสวี่ซื่อ

ตอนที่ 155 วังวนกระเรียนขาว


ตาของตุ๊กตาเรืองแสงดูน่าขนลุกแดงเหมือนทับทิม  หน้าที่เป็นศิลาดูมีชีวิตยิ่งดูหม่นหมองกว่าเดิม  ถังเทียนรู้สึกว่าเขาเหมือนตกเป็นเป้าหมายของอสรพิษ

ปิงและตุ๊กตาหินอีกสองตัวโผล่มาจากด้านหลัง พลังของตุ๊กตาแข็งแกร่งมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้  และวิชาของพวกมันก็แปลกประหลาดสิ้นเชิงเห็นได้ชัดว่าพวกมันได้เปรียบ

สถานการณ์ของพวกมันได้เปรียบแต่ถังเทียนก็มีวิธีของตนเอง

“กรงเล็บภูตพราย!”

แก่นพลังวิญญาณระดับหกจำนวนสิบเม็ดแลกเปลี่ยนเพื่อเรียกกรงเล็บภูตพรายออกรบ  กรงเล็บภูตพรายระดับหกก็ยังทรงพลังอยู่ดี  กรงเล็บภูตพรายปรากฏตัวข้างๆ ถังเทียนร่างที่งองุ้มของเขาให้ความรู้สึกที่สบายใจสำหรับถังเทียน

ตาของตุ๊กตาตัวหนึ่งกระพริบแสงสีแดงและช่วงเวลาต่อมาก็หายไปในอากาศ  ในเวลาเดียวกันกรงเล็บภูตพรายลืมตาทันทีกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนที่จะหายไปเช่นกัน

ปง!

ดาวตกที่แสงวาววับปรากฏอยู่ในท้องฟ้า

นิ้วที่ผอมแห้งปะทะกับโครงสร้างโลหะ  ไม่มีฝ่ายใดเคลื่อนไหว

ในสายตาของกรงเล็บภูตพรายความปรารถนาจะต่อสู้กำลังลุกโชน  เขาเสียดสีนิ้วทั้งห้ากับสายลมและสร้างรังสีเป็นประกายจับตาและปล่อยรังสีนั้นพุ่งเข้าหาตุ๊กตาหิน

ตาของตุ๊กตาแดงและเหมือนกับมันจะยิ้มให้สหายเก่า  ตุ๊กตาหินคว้าอากาศข้างหน้าของมัน

ทั้งสองฝ่ายเร่งความเร็วขึ้นจนอยู่ในระดับสูงสุด

ถังเทียนระบายลมหายใจ  ในบรรดาตุ๊กตาหินทั้งห้าตัวตุ๊กตาลายดอกไม้ให้ความรู้สึกอันตรายกับเขามากที่สุด  กรงเล็บภูตพรายล่อหลอกมันทำให้ความกดดันของถังเทียนลดลงถึงครึ่งหนึ่ง

แกกแกก แกก, ถุงมือกระเรียนฟ้าเริ่มจัดรูปทรง เหมือนกระเรียนหดคอรอเวลาทะยานตัว

ถังเทียนไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย  แม้ว่ามนุษย์หินเหล่านี้จะมีปราณที่น่าขนลุกและชั่วร้าย  แต่ถังเทียนก็ยังกล้า  เขาไม่ได้รับผลกระทบจากปราณที่แข็งแกร่งนั้น

พลังปราณเป็นระลอก  แต่ถังเทียนไม่รอให้มนุษย์ศิลาเคลื่อนไหว เขากลับย่อตัวลงและพุ่งโจมตี

เป้าหมายของเขาก็คือตุ๊กตาหน้าร้องไห้

ตุ๊กตาร้องไห้ดูเหมือนว่ามันเตรียมจะร้องไห้  มันดูกดดัน สิ้นหวังและมืดมน ในดวงตาแดงของมันเหมือนกับมีทะเลเลือดนรกแดง  มีรังสีเลือดกระพริบอยู่ตลอด

ถังเทียนรู้ว่าอารมณ์อย่างนี้ชั่วร้ายและไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

เสียงกระหึ่มของวิชาประทับหัตถ์ใหญ่ตบใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้

ก่อนหน้านี้ท่าเท้ามีดถานถุ่ยไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับตุ๊กตาหินได้ ดังนั้นถังเทียนจึงตัดสินใจใช้พลังประทับหัตถ์ใหญ่

เหมือนกับว่าตุ๊กตาหน้าร้องไห้จะรู้ว่ามันทรงพลังมันถอยหลังอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลเลย

ฝ่ามือพลาดประทับลงกับพื้น  แต่ถังเทียนไม่หงุดหงิด  ประทับหัตถ์ใหญ่สามารถคุกคามตุ๊กตาหินได้  นี่ทำให้ตาของถังเทียนเป็นประกายเสียงหวีดหวิวดังขึ้นทำลายความเงียบ ตุ๊กตาหินหน้าโกรธลอบทำร้ายเขา

ตุ๊กตาหน้าโกรธรวมมือเปลี่ยนเป็นหมัด  แต่หมัดของมันดูแปลก นิ้วหัวแม่มือเป็นเหมือนลิ้นที่เกาะอยู่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง  แสงสีแดงในดวงตาของมันสว่างวาบขึ้นหมัดนั้นมีระลอกแสงสีแดงและเปลี่ยนเป็นหมัดที่มีรังสีแดงหุ้มเหมือนกับว่าเป็นลูกปืนใหญ่กระแทกเข้าใส่หลังของถังเทียน

ถังเทียนมีประสบการณ์กับการรุมโจมตีมาแล้ว  เมื่อเขาถูกโจมตีจากข้างหลัง  เขาไม่ตื่นเต้น เขารู้ชัดเจนว่าเขาต้องชนะเขาต้องคิดหาวิธีกำจัดความได้เปรียบของฝ่ายตรงข้าม  เขาต้องคิดหาวิธีพลิกสถานการณ์ก่อนที่เขาจะสามารถหาโอกาสคว้าชัยชนะ

อย่างรวดเร็วเขาเตะขาออกและในขณะเดียวกัน ก็ใช้ฝ่ามือซ้ายด้วยประทับหัตถ์ใหญ่โจมตีกลับหลัง

ปัง!

ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ฝ่ามือซ้ายของเขา พลังปราณทำลายชอนไชเข้ามาในเส้นชีพจรมือซ้ายของเขา  ถังเทียนประหลาดใจ  แต่เขาใช้พลังร่างกระเรียนของเขาสลายปราณเที่ยงแท้ที่ชอนไชเข้ามาในร่างเขาการยืมพลังจากพลังชนิดนี้ ทำให้เขาปลิวกระเด็นเหมือนกับลูกเบสบอลที่ถูกหวดความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตุ๊กตาหน้าร้องไห้เข้าใกล้เขาทันที

ตาแดงของตุ๊กตาหน้าร้องไห้สว่างวาบ มันรวบนิ้วหัวแม่มือนิ้วชี้ นิ้วกลางและรวบเข้าสร้างเป็นกระบี่แล้วตวัดใส่ถังเทียน

ถังเทียนหรี่ตา จุดแสงสีแดงสว่างวาบขึ้นที่นิ้วกลางของตุ๊กตาหินหน้าร้องไห้

ควับ!

รังสีกระบี่แดงถูกปล่อยออกมาจากนิ้วกลางของตุ๊กตาหน้าร้องไห้พุ่งเข้าหาถังเทียน

แค่ช่วงเวลาก่อนที่รังสีแดงจะสว่างขึ้น  ผมของถังเทียนตั้งชัน  เขาปล่อยพลังประทับหัตถ์ใหญ่โดยไม่ต้องคิดอะไร

เขาฝึกฝนมาทั้งวันทั้งคืนไม่เคยย่อหย่อนเขาฝึกประทับหัตถ์ใหญ่ได้ในระดับลึกซึ้งแทบจะถึงระดับเคล็ดสังหาร  การถูกคุกคามคราวนี้ทำให้เขาตั้งใจมากกว่าที่เคย  จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของเขาเป็นเหมือนดอกไม้เพลิง  แต่เป็นเพลิงสีเงิน เงียบและเยือกเย็น

คราวนี้เมื่อใช้ฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างต่างออกไป

ฝ่ามือที่เป็นเหมือนแท่งหินหลักหนักแน่น และมั่นคงเหมือนเหล็ก บนผนึกฝ่ามือมีตราประทับสีแดงสองตรา

ศิลา!

ปราณที่หนาแน่นปกคลุมบรรยากาศในเสี้ยววินาที

ติง

รังสีกระบี่แดงแทงผ่านตราประทับได้สามนิ้วก่อนจะหายไป แต่ผนึกฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ยังส่งเสียงหวีดต่ำกระแทกเข้าใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้

แววหวาดกลัวเลือนลางฉายผ่านตาของตุ๊กตาหน้าร้องไห้  อากาศโดยรอบตัวมันเฉื่อยชาทันที  ดูเหมือนมันจะรู้ว่าตกอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติ

มันทำท่ามือเหมือนเดิมและประกบมือเข้าด้วยกันหน้าของมันย้อมด้วยปราณสีแดง

วืดดด!

รังสีกระบี่หนาสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากระหว่างฝ่ามือของมันและปะทะกับฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่

รังสีกระบี่สีแดงทรงพลังแทงเข้าไปในประทับหัตถ์ใหญ่  ขณะที่มันจะแทงทะลุ พอตราผนึกคำว่า “หิน”บนประทับหัตถ์ใหญ่เปล่งแสง ก็สามารถต้านทานรังสีกระบี่แดงทันที

ตราผนึกที่มีคำว่า“หิน” และรังสีกระบี่แดงหมองลงทันที

ตราคำว่า“หิน” เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีโปร่งแสง และใกล้จะหายไปรังสีกระบี่ถูกกระแทกใส่สลายเป็นจุดสีแดงนับไม่ถ้วน

ผนึกประทับหัตถ์ใหญ่ประทับใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้

ปัง!

ตุ๊กตาหน้าร้องไห้ถูกกระแทกป่นเป็นผุยผงทันที

ตุ๊กตาหน้าโกรธดูเหมือนจะยิ่งโกรธมากขึ้น ดวงตาสีแดงดูเหมือนจะอยู่ในอารมณ์ที่เดือดดาล มันปล่อยหมัดใส่ด้านหลังของถังเทียน

ตอนนี้ถังเทียนอยู่ในสถานการณ์ที่แปลก  เหมือนกับว่าการต่อสู้ทั้งหมดอยู่ภายในใจของเขา  ปิงกำลังต่อสู้กับตุ๊กตาอีกสองตัว  และเขาก็ไม่ได้เสียเปรียบด้วยวิธีที่ง่ายและหมดจด ถังเทียนไม่รู้ชื่อวิชานั้น แต่ในเงื้อมมือของปิง วิชานั้นทรงพลังเมื่อเทียบกับดาบกางเขนเขียวแดง ตอนนี้ปิงยังใช้ออกได้หมดจดกว่า

ปิงไม่เคยสอนวิทยายุทธอื่นให้เขา  มีแต่จับถังเทียนโยนใส่ในสภาพแวดล้อมต่างๆเพื่อให้ถังเทียนปรับตัว

มีความคิดอยู่หลายเรื่องที่ปรากฏอยู่ในใจของเขา  แต่ตอนนี้ หัวใจของถังเทียนสงบผิดธรรมดา

โดยมิต้องหันศีรษะไปมอง เขาสะบัดนิ้วทั้งห้าที่สวมถุงมือกระเรียนฟ้าอยู่  พลังงานกระเรียนโคจรเข้าถุงมือกระเรียนทันทีร่างกระเรียนที่คมชัดกู่ร้องทันที

เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนใช้ถุงมือกระเรียนฟ้าต่อสู้  เขารู้สึกว่ามีความแตกต่างจากเดิม

วังวนวิหคขาว

ฟิ้วฟิ้ว ฟิ้ว วังวนที่คล้ายกับทอร์นาโดสีขาวส่งเสียงหวีดหวิวแล่นเข้าหาหมัดที่มีรัศมีแดงครอบคลุมราวกับมัจฉาคะนอง

หมัดรังสีแดงถูกดูดเข้าหาวังวนสีขาว

ควั่บ

หมัดรังสีแดงกับวังวนปะทะกันทันทีและในทันใดนั้น รังสีหมัดแดงถูกพลังวังวนสีขาวปั่นอย่างรวดเร็ว  หมัดถูกปั่นกระเด็นไปข้างๆและวังวนขาวพุ่งเข้าใส่ตุ๊กตาหน้าโกรธอย่างร่าเริง

และถึงเวลานี้วังวนขาวระเบิดพลังและเสียงหวีดหวิวออกมา ภายในวังวนแฝงไว้ด้วยพลังร่างกระเรียนซึ่งระเบิดออกมาฉับพลัน วังวนขาวแต่ละวงเหมือนใบมีดที่หมุนปั่นด้วยความเร็วสูง

ประกายสีขาวแปลบปลาบทั้งหมดมองดูคล้ายกับนก

และพุ่งเข้าหาตุ๊กตาหินทุกทิศทางอย่างกราดเกรี้ยว

ตุ๊กตาหน้าโกรธกรีดเสียงโหยหวนและใช้วิธีของมันป้องกันประกายวิหคขาวที่พุ่งเข้ามาแต่เนื่องจากมีมากเกินไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันได้ทั้งหมด ควั่บ!  วังวนที่แฝงด้วยพลังร่างกระเรียนกระแทกใส่ร่างของมันอย่างต่อเนื่อง

การกระทบกระแทกในแต่ละครั้งทำให้ร่างของมันสั่น  รูหลุมเริ่มเกิดขึ้นบนร่างของมัน

ตุ๊กตาหินหน้าโกรธเหมือนกับที่ร่อนตะแกรง  มันสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้และร่างของมันมีหลุมรูมากมาย

ถุงมือกระเรียนฟ้าช่วยเพิ่มพลังร่างกระเรียนมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้ นอกจากนี้วังวนวิหคขาวยังถูกเสริมพลังด้วยพลังร่างกระเรียนทำให้มันทรงพลังมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้

ในช่วงเวลานั้นเอง  ถังเทียนก็เข้าใจได้

ในอนาคตจากนี้ไป  เขาจะตั้งชื่อมันว่าวังวนกระเรียนขาว

ถังเทียนไม่ยอมให้ตุ๊กตาหน้าโกรธตั้งตัวได้  แค่ขยับตัวครั้งเดียวเขาก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าตุ๊กตาหินหน้าโกรธและปล่อยพลังฝ่ามือออกไป

ประทับหัตถ์ใหญ่

พลังจากฝ่ามือถูกส่งเข้าไปในร่างของมัน

ปัง! ตุ๊กตาหินหน้าโกรธระเบิดเป็นชิ้นๆ

ถังเทียนยืนรำลึกการต่อสู้อยู่ตรงนั้นเอง  เขามีความก้าวหน้าอย่างมากมายแน่นอน เขาไม่รู้สึกประหลาดใจที่สามารถเข้าใจเคล็ดสังหารของวิชาประทับหัตถ์ใหญ่ได้  สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจจริงๆก็คือพลังที่น่ากลัวของวังวนกระเรียนขาวต่างหาก

ก่อนหน้านี้เขาได้ลองรวมพลังร่างกระเรียนให้เป็นวังวนวิหคขาว แต่เมื่อเทียบกับพลังนี้แล้ว ห่างไกลคนละโลก  จุดสำคัญตรงนี้ก็คือถุงมือกระเรียนฟ้า    พลังกระเรียนฟ้าต้องแข็งแกร่งเพียงพอก่อนจึงจะสามารถใช้วิธีเร่งศักยภาพจนสูงสุด ขอเพียงอาศัยถุงมือกระเรียนฟ้าและพลังกระเรียนฟ้าเพื่อเพิ่มพลังให้เขา  สมบัตินี้ย่อมช่วยเขาเป็นอย่างดี

ดูเหมือนเขาจำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัวให้คุ้นเคยกับการใช้ถุงมือกระเรียนฟ้า

น่าเสียดายที่ถุงมือกระเรียนฟ้าสามารถสวมใส่ได้แค่เพียงมือ

ถ้าสามารถสวมได้ถึงขา  อย่างนั้นเมื่อใช้ร่วมกับพลังร่างกระเรียนท่าเท้าถานถุ่ยจะแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงไหน

ถังเทียนหัวเราะ  เขาก็เป็นคนโลภเหมือนกัน  ด้วยวังวนกระเรียนขาว  พลังของเขาจะแตกต่างไปจากเดิม  วังวนวิหคขาวเดิมใช้ก่อกวนศัตรูเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้มีพลังในการทำลายล้าง

เขาเริ่มกลับมาสู่ความเป็นจริงช้าๆ  ถังเทียนตกใจกับเสียงตวาดกึกก้องสองสามครั้งปิงจัดการกับตุ๊กตาหินสองตัวได้สบายๆ  ทางด้านกรงเล็บภูตพรายก็ฝังกรงเล็บทั้งห้าเข้าที่อกของตุ๊กตาหินดอกไม้

ถังเทียนตกตะลึง  ส่วนอกของตุ๊กตาหินเหล่านี้แข็งแกร่งมากขนาดถังเทียนใช้ดาบเท้าถานถุ่ยก็ยังไม่สามารถทิ้งร่องรอยลงบนตัวตุ๊กตาหินได้  แต่กรงเล็บภูตพรายสามารถเจาะผ่านได้สบายๆ

ช่างเป็นพลังกรงเล็บที่แข็งแกร่งและเกรี้ยวกราดนัก

ทันใดนั้นถังเทียนเหลือบไปเห็นตุ๊กตาหินหน้าร้องไห้ที่โดนประทับหัตถ์ใหญ่เล่นงาน  มีทับทิมแดงเม็ดหนึ่งดึงดูดความสนใจของเขา

เอ๋?  อะไรกันนี่?

เขาหยิบทับทิมแดงขึ้นมา  มันคือสีเดียวกับตาของตุ๊กตาหิน  ถังเทียนตื่นเต้นในใจ เขารีบวิ่งไปที่ตุ๊กตาหน้าโกรธและเริ่มค้นหา  เขาพบทับทิมแดงคล้ายๆ กัน

ในไม่ช้าเขาก็พบทับทิมแดงในตุ๊กตาอีกสามตัวทั้งหมด

ทับทิมทั้งห้าเม็ดวางเรียงอยู่ในฝ่ามือของเขา  จู่ๆ ทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นเหมือนแอ่งเลือดและรวมตัวเป็นร่างมนุษย์เลือนลางร่างหนึ่ง

หลังจากนั้นชั้นเลือดชั้นนอกเริ่มลอกออก   รูปสลักหินขนาดนิ้วชี้ปรากฏอยู่ที่ฝ่ามือของถังเทียนตาของตุ๊กตาแดงก่ำ  บนหน้าผากของมันฝ่ามือซ้ายขวามีดวงตาที่แดงฉาน

รูปสลักห้าตาทำให้ถังเทียนถึงกับผมตั้งชัน

กู้เสวี่ยพอรู้ว่าใครชนะในการต่อสู้จึงรีบเข้ามาทันที  เมื่อนางเห็นตุ๊กตาในมือของถังเทียน  นางถึงกับสีหน้าเปลี่ยน และอุทานออกมา

“เทวรูปห้าตา”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด