ตอนที่แล้วตอนที่ 152 วิชาหอกดาวแกะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 154 รูปสลักหินปีศาจ

ตอนที่ 153 ซากหักพังในหุบเขา


“วิชาหอกดาวแกะน่ะหรือ?” ถังเทียนสงสัยทันที  “ฟังดูน่าทึ่ง”

“อืม..ใช่แล้ว”  ปิงพึมพำ “ข้าไม่ทราบว่าเดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร แต่ในยุคของข้า นั่นเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ดาวแกะ  มีชื่อเสียงมาก ข้าไม่เคยคิดว่าวิชานี้จะตกทอดมาถึงคนรุ่นนี้  สำหรับพวกเรามรดกของกองทัพดาวกางเขนใต้ถูกทำลายหมดสิ้นแล้ว”

“ยังหรอก”ถังเทียนเถียง “ยังมีลุงกับข้าไม่ใช่หรือ?”

ถังเทียนเห็นแสงสว่างรำไรทันทีและพูดอย่างไม่พอใจ  “เว้นแต่ ลุงไม่ได้สอนข้าอย่างจริงจัง  ตามหลักสูตรการสอนที่แท้จริงของกองทัพดาวกางเขนใต้ใช่หรือเปล่า?”

“เจ้ามันเป็นเด็กกวนประสาทอย่างนั้นเจ้ายังไม่ผ่านหลักสูตรฝึกฝนในค่ายทหารใหม่แล้วยังต้องการจะเรียนอีกวิชาอื่นอีกหรือ?”  ปิงหยอกเย้า แต่ยังรู้สึกชุ่มชื่นในหัวใจ   แต่เขายังคงตอบ“แต่ตั้งแต่ครั้งที่ข้ายังมีชีวิต  กองทัพดาวกางเขนใต้มีช่วงเวลาที่รุ่งเรืองนัก ฮึ ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการชิงดีชิงเด่นหรือยังไง  ถ้าเจ้ายังแพ้เจ้าเด็กจากดาวแกะ  ข้าคงอับอายขายหน้าเป็นแน่”

ชิงดีชิงเด่นน่ะหรือ?

ถังเทียนหน้าซีด  เขายังบอบช้ำตรงตำแหน่งก้นที่ถูกหมาป่ากัด หมาป่าแทะกระดูกหลายตัวที่ไล่ตามเขาผุดขึ้นมาในใจของเขาและทันใดนั้นเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ ก้นของเขายังคงเจ็บปวดอยู่

“อย่าดูถูกข้านะ!”ถังเทียนพูดหนักแน่น “ข้าจะพ่ายแพ้เจ้าเด็กตัวแสบนี่ได้อย่างไร? ยังไงข้าก็เป็นพี่ใหญ่ของเขา”

“เด็กคนนี้ไม่เหมือนคนธรรมดา”  จู่ๆ ปิงก็พูดอย่างยินดี“วิชาหอกดาวแกะเป็นวิชาที่มีลักษณะพิเศษมาก ขึ้นชื่อมากในเรื่องความยากลำบากในการฝึกซ้อมเขาใช้หอกด้วยพลังหมุนวนที่แข็งแกร่ง สำหรับการโจมตี มันมีพลังทำลายล้างที่น่าทึ่ง  ขณะที่เมื่อเจอการป้องกันมันสามารถสลายการป้องกันของศัตรูได้ ดูเขาสิ  เขาสามารถโจมตีได้ถึงวินาทีละสามสิบครั้งอืม.. ดูเหมือนวิธีที่เขาทำนั้น เกิดจากพลังนิ้วทั้งหมด”

“หือ?” ถังเทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้ยินคำชมจากปิง นี่เป็นครั้งแรกแต่เมื่อดูความตั้งใจของหลิงซิ่ว ถังเทียนอดพยักหน้าไม่ได้  “เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งมากแน่นอน  วิธีการปลดปล่อยพลังของเขาก็พิเศษเฉพาะตน  เขาใช้แรงเสียดทานระหว่างนิ้วและหอก  ครั้งแรกที่ข้าเห็นก็เป็นอย่างนี้จริงๆ”

“ครั้งสุดท้ายที่ข้าได้เห็นวิชาหอกดาวแกะ  พวกเขาไม่ได้ปลดปล่อยพลังอย่างนี้  นี่คือการบัญญัติใหม่”  ปิงพึมพำ “เคล็ดการปลดปล่อยพลังนั้นว่องไวและลับ ไม่มีใครสามารถคาดได้หรือตามได้ทัน นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวยังมีน้อยมาก ดังนั้นเขาจึงสามารถดึงหอกได้รวดเร็วนั่นเหมาะมากกับการสร้างทะเลดวงดาว อย่างไรก็ตาม ความต้องการของพลังนิ้วเกินกว่าผู้ใดจะนึกภาพออก   พลังของนิ้วยังมากกว่าเคล็ดปลดปล่อยพลังปกติเล็กน้อย”

“นั่นยอดเยี่ยมจริงๆ”  ถังเทียนเข้าใจความเข้มแข็งของการปลดปล่อยพลัง  แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจความลึกลับนี้  แต่เขาสามารถคำนวณได้ว่าจะต้องมีนิ้วแข็งแรงมากเพียงไหนถึงจะสร้างพลังได้ขนาดนั้น  “พลังนิ้วของเขาอย่างน้อยต้องแข็งแกรงกว่านักสู้ปกติถึงสี่สิบเท่าหรือมากกว่า”

ถังเทียนคำนวณแล้ว ตนเองก็ต้องตกใจ

มากกว่านักสู้ธรรมดาถึงสี่สิบเท่า  พลังขนาดนั้นไม่สามารถเทียบได้กับพลังแขนของเขา  แต่นั่นก็น่าประทับใจแล้ว  ขณะที่อีกด้านหนึ่งเคล็ดการปล่อยพลังที่ประหลาดนี้ลดการเคลื่อนไหวและโจมตีเท่าที่จำเป็นทำให้ยากจะทำนายวิถีของหอก เนื่องจากสามารถทำได้ฉับพลัน พลังทะลวงของมันมีสูงมาก

ระยะเวลาที่เขาดึงหอกกลับมาสั้นลงช่วยให้หลิงซิ่วสามารถสร้างทะเลดวงดาวที่หนาแน่นและมั่นคงได้

ในที่สุดหลิงซิ่วผู้มุ่งมั่นก็หยุด

เขาเปียกโชกด้วยเหงื่อตนเอง หอบและเขาสังเกตเห็นถังเทียนจากหางตา

“เฮ้ ซิ่วซิ่วน้อยวิชาหอกดาวแกะของเจ้ายอดเยี่ยมทีเดียว” ถังเทียนหัวเราะพลางเดินเข้าไป

“หอกดาวแกะ?”  หลิงซิ่วตะลึง เขาพึมพำ  “เจ้าพูดผิดแล้ว  นี่เรียกว่าหอกทะเลจุด”

“หอกทะเลจุด?”  ถังเทียนประหลาดใจ

“ยกเว้นแต่มันเปลี่ยนชื่อ?”  ปิงก็ตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน

หลังจากความเปลี่ยนแปลงพันปี ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจที่ชื่อวิชาจะถูกเปลี่ยน ถังเทียนและปิงไม่ถือสา

อย่างไรก็ตาม นั่นคือคือหอกดาวแกะในสายตาของเขา

“หอกทะเลจุด  ก็อาจเป็นได้ เจ้าฝึกเสร็จแล้วเหรอ?” ถังเทียนกระโดด  “มาซ้อมมือกัน”

“ข้ายังฝึกไม่เสร็จ”  หลิงซิ่วไม่ยุ่งกับถังเทียน  เขาเดินไปมุมและเริ่มนั่งเดินปราณ

ถังเทียนยืนงง ตาของเขาเบิกกว้างและหน้าของเขาไม่สบายใจ “เฮ้...”

ทันในนั้น มีเงาร่างหนึ่งเดินแทรกเข้ามา  “อาเทียน!”

“อาเสวี่ย”ถังเทียนใช้เวลาดูและก็ต้องตกใจ “เจ้ามีเวลาว่างตอนนี้ได้ยังไง? เจ้ายุ่งๆ อยู่ไม่ใช่หรือ?”

“ข้าเสร็จแล้ว  ทุกอย่างเตรียมไว้อย่างดี  ข้าเบาใจได้แล้ว”  กู้เสวี่ยยิ้ม “โอวจริงสิ,  ชื่อพวกเจ้าได้ถูกรายงานไปแล้ว บทฝึกทดสอบเพื่อเข้าประตูดวงดาวจะมีในอีกสองเดือน  พวกเจ้ามีเวลาพิเศษอีกเดือนหนึ่ง  ถือว่ามีเวลามากพอ

“เยี่ยมเลย”  ถังเทียนดีใจ “ขอบคุณ”

“ถ้าเจ้าต้องการขอบคุณข้า  อย่างนั้นมากับข้าสักเดี๋ยวเถอะ”  กู้เสวี่ยพูดเชิงตามใจตัวเอง “ยากนักที่ข้าจะมีเวลาได้พัก   ออกไปเดินเล่นแก้เบื่อกันเถอะ  ข้าต้องการรั้งหนุ่มชาวฟ้านี้ไว้ปกป้องข้าขณะเดียวกันตอนนี้คนคุ้มครองข้าขอพักสักครู่”

“ตกลง!”  ถังเทียนเห็นด้วยอย่างเอาใจใส่  กู้เสวี่ยไม่ค่อยมีข้อขอร้องอะไร  นี่ไม่ใช่คำขอที่เอาแต่ใจตนเอง  แต่เมืองเฮยซานยังอยู่ในความวุ่นวาย  เมื่อหลิงซิ่วและเขายังอยู่ที่นั่นไม่มีใครกล้ายุ่งกับตระกูลกู้ แต่ความปลอดภัยของกู้เสวี่ยยังคงเป็นปัญหาใหญ่

“อย่างนั้นก็ดีเลย!  ใบหน้าที่น่ารักของกู้เสวี่ยสดชื่นทันที  นางกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี ”ไปกันเถอะ อย่ามัวแต่เสียเวลาเลย!”

เมื่อเห็นกู้เสวี่ยกระโดดดีใจเหมือนเด็กผู้หญิงตัวน้อยถังเทียนจึงระลึกได้ว่าประมุขตระกูลกู้ยังเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เท่านั้น

ด้วยวัยเพียงแค่นี้นางต้องผ่านเรื่องทุกข์ยากมากมาย  นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนาง

ถังเทียนปล่อยวางภาระหนักในใจเขา  เขาหัวเราะและจู่ๆก็จับกู้เสวี่ยโยนขึ้นไปในอากาศ

ก่อนที่นางจะตั้งหลักได้ กู้เสวี่ยเผลอร้องลั่นแต่ในทันทีนั้น จากเสียงกรีดร้องก็เป็นเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงทันที สายลมพัดผ่านหน้านางขณะที่นางมองดูถังเทียนที่อยู่ด้านข้างนาง  ทันใดนั้นนางปรารถนาจะให้เวลาหยุดนิ่งอยู่อย่างนี้...

“นี่,เราจะไปไหนกัน?”

ถังเทียนตะโกนผ่านสายลมหวีดหวิวถามกู้เสวี่ยที่ยังหวาดๆ อยู่

กู้เสวี่ยสงบอารมณ์และตะโกน  “ออกไปนอกเมืองกันเถอะ  ที่นั่น เห็นไหม? มีหุบเขาใหญ่แห่งหนึ่ง”

เมื่อได้ยินคำว่าหุบเขา ถังเทียนพลันคิดถึงหุบเขาหิวโหย หัวใจเขาเต้นแรงทันที

หึหึหึหนุ่มชาวฟ้าจะอยู่สภาพที่น่าสมเพชเช่นนั้นเพราะหุบเขาหิวโหยอย่างเดียวได้ยังไง?

หลังจากสงบจิตใจตนเอง ถังเทียนก็วิ่งสุดกำลัง เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาออกมาจากหุบเขาหิวโหยหรือเปล่า แต่ทางเดินปราณและตันเถียนของเขาดูดซับพลังโดยรอบอย่างหิวกระหาย

พลังงานโคจรเข้าในเส้นโคจรปราณและเปลี่ยนเป็นปราณแท้อย่างต่อเนื่อง  จากนั้นก็เก็บไว้ที่แอ่งตันเถียนอีกครั้งนั่นคือความพอใจและความสุขที่บริสุทธิ์ ถังเทียนเกือบหลั่งน้ำตา

ในท่ามกลางความสุข ถังเทียนพากู้เสวี่ยเข้าไปในหุบเขา

“มีซากโบราณสถานอยู่ในหุบเขาใหญ่นี่ด้วย”  ขณะสายลมพัดหวีดหวิว  กูเสวี่ยต้องขึ้นเสียงดังเพื่อถังเทียนได้ยิน  “ข้าไม่รู้ว่าเป็นของคนรุ่นไหน   เคยมีนักผจญภัยเสี่ยงมาที่นี่  แต่เงินทองของมีค่าทั้งหมดถูกขนไปแล้ว  ส่วนที่เหลือมีแต่ซากหักพัง  ไม่มีใครผ่านมาหลายปีแล้ว”

จู่ๆ นางยิ้มทันที “นี่เป็นเพียงสถานที่เดียวในเมืองเฮยซานที่ยังคงมีทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยม”

อาจพูดได้เลยว่าไม่มีใครผ่านมาทางหุบเขาบ่อยนัก  ต้นหญ้างอกเงยยาวจนไม่มีทางเดิน  ถังเทียนประคองกู้เสวี่ยพาเหินไประหว่างผนังหุบเขา    พวกเขาไปได้อย่างสบาย

ผ่านไปตามหุบเขา ฉากภาพข้างหน้าก็ปรากฏชัดทันที

สถานที่หักพังปรากฏอยู่ข้างหน้าถังเทียน  พื้นปกคลุมไปด้วยซากหักพังที่บางอย่างก็ถูกสลักไว้  แต่ดูจากการกัดเซาะนั่นเป็นของยุคเก่าเมื่อนานมาแล้ว

ถังเทียนเข้าใจเหตุผลที่กู้เสวี่ยกล่าวว่าที่นี่มีทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยม  แม้ย้อนกลับไปในยุคก่อนเมื่อนานมาแล้ว  และมีรอยกัดเซาะมากมาย  แต่ลายดอกไม้บนผนังและเสาช่างดูประณีตและงดงาม ดอกไม้สดที่งอกอยู่ในซากหักพังทำให้สิ่งของในซากหักพังเหล่านี้ดูเรียบง่ายปราศจากเครื่องตกแต่ง

กู้เสวี่ยก้มตัวเล็กน้อยเด็ดดอกไม้สีฟ้าและสูดดม  นางพูดอย่างอ่อนโยน  “เมื่อข้ายังเด็ก  บิดาข้าเคยพาข้ามาเล่นที่นี่  ขณะนั้นไม่มีใครอยู่ที่นี่  บิดาข้าบอกว่าเมื่อสามสิบปีที่แล้วเคยมีคนมาที่นี่ เนื่องจากมีสมบัติที่น่าทึ่งซ่อนอยู่ที่นี่  ทั่วทั้งซากหักพังแห่งนี้ถูกขุดลึกลงไป  แต่ก็ไม่มีอะไร  นอกจากเสาเหล่านั้นและกำแพงที่ไม่มีใครต้องการ  บิดาเห็นว่าข้าชอบที่นี่  ดังนั้นท่านจึงถางดายหญ้าที่งอกอยู่บนซากหักพังนี้ทั้งหมดและปลูกดอกไม้ที่ข้าชอบให้  ท่านบอกว่าต้องการสร้างสวนดอกไม้ให้ข้า”

ถังเทียนรับฟังอย่างเงียบงัน  เขาไม่รู้จะปลอบนางยังไง

กู้เสวี่ยหักห้ามความเศร้าและพยายามยิ้มอีกครั้ง  “นี่, มันนานมาแล้วนะ ต้นหญ้าที่นี่งอกขึ้นมาก นี่ๆ อาเทียน  ช่วยข้าถอนมันที”

“ฮ่าฮ่า,  ไม่มีปัญหา!”

ทั้งสองคนเริ่มง่วนอยู่กับงาน  งานเช่นนั้นสำหรับถังเทียนแล้วง่ายมาก  เขาเริ่มใช้ชีวิตแบบนั้นมานามนานแล้ว  และใช้อย่างเต็มที่

“อาเทียน!เมื่อตอนเจ้ายังเด็ก เจ้าใช้ชีวิตยังไงเหรอ?”

“เมื่อข้ายังเด็ก  ข้าก็อยู่กับแม่ข้า  แล้วพอแม่ข้าตาย...”

เสียงสนทนาของทั้งสองคนก้องอยู่ในสถานที่หักพัง

ถังเทียนทำงานอย่างว่องไว เขาถอนหญ้าไปพลางและตอบคำถามของกู้เสวี่ยที่ดูเหมือนไม่มีจบสิ้นไปพลาง  ทันใดนั้น มีของบางอย่างอยู่ในดินที่สะดุดตาเขา

“เอ๋?”  ถังเทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เป็นรูปฝ่ามือที่สลักอยู่บนหิน  ท่วงท่าฝ่ามือสะดุดตาถังเทียน  ดูแล้วเป็นท่วงท่าง่ายๆ  แต่หัวใจถังเทียนตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว

กู้เสวี่ยได้ยินเสียงตกใจของถังเทียนจึงรีบวิ่งมาดู  “อาเทียน, เจ้าพบอะไรเหรอ?”

ถังเทียนชี้ไปที่หินรูปมือในดิน  “นั่น”

กู้เสวี่ยมองดูจุดที่ถังเทียนกำลังชี้และเห็นแสงทันที  “โอว, มีตุ๊กตาหินมากมายในอดีต  แล้วก็มีอย่างนี้อยู่หลายตัว  แต่มีคนขุดพวกมันขึ้นมาหมดแล้ว  ทุกคนแค่ต้องขุดลึกลงไปราวสามฟุตตุ๊กตาหินพวกนั้นแตกหักหมดแล้ว เจ้าสนใจตุ๊กตาหินด้วยเหรอ อาเทียน?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น”  ถังเทียนสั่นศีรษะ “แต่ข้าไม่รู้ว่าทำไมหินรูปมือก้อนนี้ถึงให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดา

ถังเทียนรู้ว่าสัญชาตญาณของเขาแข็งแกร่งมาก  และแข็งแกร่งมากกว่านักสู้ทั่วไปถึงสามสิบเท่า

กู้เสวี่ยตาเป็นประกาย “อย่างนั้น ก็ขุดขึ้นมาดู”

ถังเทียนก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็นอะไร  เขาจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อขุดออกมาดู

ถังเทียนเริ่มขุด งานขุดดินสำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องง่าย

โดยไม่ต้องเสียเวลามาก ตุ๊กตาแขนเดียวไม่มีปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด