ตอนที่แล้วตอนที่ 7-2 สัตว์เลี้ยงเทพลงประทับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7-4 เท้ายักษ์

ตอนที่ 7-3 จะตายแน่หรือ?


เหล่าคนที่ทรงพลังทุกคนในโบสถ์เจิดจรัสชั้นบนสุดตะลึงกันหมด  วิญญาณของลินลี่ย์ยังอยู่ห่างไกลจากการตกผลึกอยู่มาก  เขาไม่มีอะไรมากไปกว่าจอมเวทระดับเจ็ดแม้แต่หัวหน้าจอมเวทระดับเก้าก็ยังไม่อาจต่อต้านการอาบแสงศักดิ์สิทธิ์จากมหาเทพเจิดจรัสได้

“เป็นไปได้อย่างไร?”  โยคี,มือปราบและผู้ช่วยตุลาการทุกคนเริ่มบ่นพึมพำในกลุ่มพวกเขาไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็น

“ล้มเหลวจริงๆไม่อาจสร้างสัตว์เลี้ยงเทพได้สำเร็จจริงๆ ถ้าอย่างนั้น...เราควรจัดการลินลี่ย์ผู้นี้ยังไง?”  ไฮเดนส์จ้องลินลี่ย์และระงับไม่ทำต่อ “อัจฉริยะอย่างเขาจะต้องได้เป็นนักสู้ระดับเซียนได้ภายในร้อยปีแน่นอน  เขาอาจจะทรงพลังได้มากยิ่งกว่าข้า เมื่อถึงเวลานั้นความรุ่งเรืองของศาสนจักรเจิดจรัสของเราจะต้องแผ่ขยายกินอาณาเขตที่กว้างขวางจริงๆ”

ไฮเดนส์ไม่อาจตัดใจฆ่าลินลี่ย์ได้จริงๆ

“องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์?”  กิลเยโมเรียกเบาๆ

ไฮเดนส์รู้สึกสูญเสีย ทันใดนั้นสายตาที่สับสนกลายเป็นคมกล้าทันที  เขาตัดสินใจ

“ฝ่าบาท,ลินลี่ย์ไม่ได้รับพรแล้ว  อย่างนั้นเรา...?”  กิลเยโมถาม

ไฮเดนส์มองลินลี่ย์  ภายใต้การควบคุมของเขา  ร่างของลินลี่ย์ค่อยๆ ลอยลงมากับพื้น  เมื่อถึงเวลานี้ ลินลี่ย์ฝืนตนเองอยู่ในท่ายันด้วยมือ  ตอนนี้ร่างกายลินลี่ย์ไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด ต้องบอกว่าเขาได้รับประโยชน์จากการอาบแสงสัตว์เลี้ยงเทพ

ลินลี่ย์มองดูเหล่าคนที่ทรงพลังที่ล้อมรอบตัวเขา

“คนเหล่านี้อย่างน้อยเป็นนักสู้ระดับเก้าทุกคน ถ้าเราดิ้นรนต่อสู้กับพวกเขา เราคงไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย” ลินลี่ย์จ้องไฮเดนส์และคนอื่นอย่างเย็นชา “องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ท่านตั้งใจจะทำอะไรกับข้ากันแน่?”

ใบหน้าของไฮเดนส์มีรอยยิ้มทันที  “ไม่จำเป็นต้องถามมากความ  มือปราบ! เอาตัวลินลี่ย์กลับไปที่ห้องคุมขัง”  “พะย่ะค่ะ,ฝ่าบาท” มือปราบพิเศษทั้งหกคนพยักหน้ารับคำ

โดยไม่ปล่อยให้ลินลี่ย์ได้มีโอกาสตั้งตัว  พวกเขาตรงเข้าไปที่ลินลี่ย์ทันที  ขณะที่หนึ่งในนั้นตะคอกใส่ “เดินไป!  หรือเจ้าต้องการให้เราลากคอเจ้าไป?”

พวกเขาบังคับลินลี่ย์ตามหน้าที่  ลินลี่ย์ไม่มีทางเลือก

“ได้”ลินลี่ย์เปิดประตูและเริ่มเดินลงไป มือปราบทั้งหกเดินตามหลังลินลี่ย์โดยตรง ขณะที่ลินลี่ย์เดินลงบันไดไปได้หนึ่งชั้น เขาเห็นว่าทหารยามทุกคนเมื่อเห็นมือปราบทั้งหกคนต่างก็แสดงความเคารพอย่างสูงทั้งหมด

มือปราบพิเศษทั้งหกคนสวมชุดยาวสีฟ้าม่วง  นัยน์ตาเย็นชาของพวกเขาจ้องมองลินลี่ย์ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าหากเขาไม่ปฏิบัติตามทีพวกเขาสั่ง  พวกเขาอาจฆ่าลินลี่ย์ได้ทันที

หลังจากมือปราบทั้งหกพาลินลี่ย์ไปแล้ว  คาร์ดินัลหญิงเมลินาถาม “ฝ่าบาท!  ลินลี่ย์นั่นไม่ได้รับพรวิเศษแม้ว่าเราไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แต่เราต้องตัดสินกันแล้ว เราควรทำยังไงดีกับลินลี่ย์?”

กิลเยโมและคนอื่นๆมองดูไฮเดนส์กันทุกคน

ลินลี่ย์เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง  พวกเขารู้เรื่องนี้กันทุกคน  แต่ลินลี่ย์ไม่ได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงเทพและมารดาของเขาถูกศาสนจักรเจิดจรัสฆ่าตาย ศาสนจักรจะต้องตัดสินใจ  พวกเขาจะเสี่ยงรับลินลี่ย์ไว้และปกปิดความจริงเบื้องหลังความตายมารดาของเขาหรือ?  หรือว่าควรให้ลินลี่ย์ตาย?

แม้ว่าคงเป็นไปได้ที่จะปกปิดความจริงเบื้องหลังความตายของมารดาของเขาได้สักระยะหนึ่ง แต่เมื่อลินลี่ย์เข้าสู่ระดับสูงของศาสนจักรเจิดจรัส  ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะปกปิดเอาไว้อีกต่อไป

ใบหน้าของไฮเดนส์เย็นชา  เขาพูดด้วยเสียงเย็นชา  “ฆ่า”

กิลเยโมและคนอื่นๆ รู้สึกหัวใจสะท้าน

“ในอีกไม่กี่วันจะครบรอบ 10,000 ปีเทศกาลยูลาน  ไว้ค่อยดำเนินการประหารลินลี่ย์หลังจากงานฉลองเทศกาล”  ไฮเดนส์ประกาศ

กิลเยโมเป็นคนที่มีสัมพันธ์สนิทกับลินลี่ย์มากที่สุดลอบถอนหายใจ

อัจฉริยะผู้อาจครอบงำทวีปทั้งสิ้นจะต้องประสบชะตากรรมอายุสั้นเสียแล้ว กิลเยโมรู้ดีว่าลินลี่ย์ถูกจองจำในโบสถ์เจิดจรัส ไม่มีทางที่ลินลี่ย์จะหลบหนีไปได้  ลินลี่ย์จะไม่สามารถออกไปจากคุกได้

“ซีซาร์ผู้นั้นก็มีความสัมพันธ์กับลินลี่ย์ แต่แม้จะเป็นซีซาร์ก็ไม่มีความสามารถทำลายคุกในโบสถ์เจิดจรัสช่วยลินลี่ย์ได้”  กิลเยโมลอบถอนหายใจ

ลินลี่ย์คงจะตายแน่

บนชั้นเก้าของโบสถ์เจิดจรัส  ภายในห้องขัง

“เข้าไป”

ลินลี่ย์เข้าไปในห้องขัง  มือปราบทั้งหกปิดประตูไล่หลังเขา

ขณะที่มือปราบทั้งหกหมุนตัวออกไปทันที  หนึ่งในนั้น มีผมสีเงินหันมามองลินลี่ย์  “เจ้าหนู ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน  แม้ว่าเจ้าจะฟื้นคืนพลังก็ตามอย่าฝันเลยว่าจะแหกคุกนี้ออกไปได้”

มือปราบอื่นอีกห้าคนชะงักเช่นกันและมือปราบหัวล้านคนหนึ่งหัวเราะ  “แหกคุกน่ะหรือ  เด็กน้อย ถ้าเจ้าสามารถแห่งคุกนี้ออกไปได้นั่นก็หมายความว่าพลังของเจ้าอยู่ในระดับเดียวกับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์”

“หมายความว่ายังไง?”  ลินลี่ย์ถาม

ตัวลินลี่ย์เองไม่อาจเห็นความพิเศษใดๆในคุกนี้  ให้เขามีพลังนักรบระดับเก้าในร่างแปลงมังกร  คุกศิลาธรรมดาก็แตกทำลายได้ง่ายเหมือนกระดาษ

“โบสถ์เจิดจรัสเป็นสิ่งก่อสร้างที่เหลือเชื่อที่สุดที่ศาสนจักรเจิดจรัสครอบครอง  ทั้งตัวโบสถ์เองซ่อนพลังเวทมหาศาลไว้ภายใน  รู้จักกันในนามว่าศิริแห่งมหาเทพเจิดจรัส  เป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าจะสร้างความเสียหายได้แม้แต่น้อยไม่ว่าจากภายในหรือภายนอก” บุรุษผมเงินพูดด้วยความภูมิใจ  “เด็กน้อย!  ข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้  โอกาสเดียวที่เจ้าจะแหกคุกนี้ได้ก็คือทำลายประตูกรงขัง ข้าสามารถบอกเจ้าได้เช่นกันว่าตัวกรงสร้างจากโลหะที่มีส่วนผสมกับโลหะอดาเมนไทน์แข็งพิเศษ”

พอพูดจบมือปราบทั้งหกหัวเราะลั่นและเดินออกไป

ลินลี่ย์เงียบ

เมื่อเขาได้ยินคำว่าโลหะอดาเมนไทน์แข็งพิเศษลินลี่ย์เข้าใจว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแหกคุกออกไปได้ ตามตำนานเมื่อเวทดินเกราะเอิร์ทการ์ดบรรลุถึงระดับเทพ  เกราะเอิร์ทการ์ดจะประกอบไปด้วยโลหะอดาเมนไทน์แข็งพิเศษ พลังและความทนทานของมันเพียงพอทนทานต่อการจู่โจมทำลายของนักสู้ระดับเทพหลายครั้ง  ขณะที่นักสู้ระดับเซียนไม่มีทางทำลายมันได้เลย

ลินลี่ย์เป็นจอมเวทสายธาตุดิน ดังนั้นเป็นธรรมดานั่นเองที่เขารู้เรื่องตำนานเกี่ยวกับเกราะเอิร์ทการ์ดที่มีระดับพลังสุดยอด

เมื่อกลายเป็นมหาจอมเวทระดับเซียน  เกราะเอิร์ทการ์ดจะมีส่วนประกอบเป็นเพชรเมื่อบรรลุเป็นนักสู้ระดับเทพ เกราะจะเป็นโลหะอดาเมนไทน์ที่แข็งเป็นพิเศษ

“ลินลี่ย์,  ข้าคาดว่าคุกนี้ศาสนจักรเจิดจรัสสร้างขึ้นมาเพื่อจองจำนักสู้ระดับเก้าหรือได้กระทั่งนักสู้ระดับเซียนก็เช่นกัน” เดลิน โคเวิร์ทกล่าว  “แม้แต่ตัวกรงก็ยังมีร่องรอยสร้างด้วยโลหะอดาเมนไทน์  ถึงแม้จะไม่ใช่อดาเมนไทน์บริสุทธิ์ก็ตาม แต่บางทีแม้แต่นักสู้ระดับเซียนก็ยากจะทำลายมันได้”

ลินลี่ย์พยักหน้า

จากคำพูดของมือปราบ เขาพบแล้วว่าเขาคงไม่สามารถทำลายคุกออกไปได้  เนื่องจากพวกเขาบอกแล้วว่าจะทำลายออกไปได้  พลังของลินลี่ย์อย่างน้อยจะต้องเท่ากับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์

บ่ายวันต่อมา

มอนโร ดอว์สัน, เยล,เรย์โนลด์และจอร์จนั่งพร้อมหน้ากันรอบๆ โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหาร  ช่วงเวลานี้ เยล,เรย์โนลด์และจอร์จไม่เคยหยุดห่วงลินลี่ย์เลย แม้แต่มอนโรก็ยังล้มเหลว พวกเขาจะสามารถทำอะไรได้?

ทำลายโบสถ์เจิดจรัสเพื่อช่วยเหลือลินลี่ย์  แม้แต่มอนโร ดอว์สันก็ยังไม่กล้าทำอะไรเช่นนั้น

“เยล, ในอีกสองวัน  จะเป็นเทศกาลยูลาน  งานเทศกาลครั้งนี้จะเป็นการเฉลิมฉลองปีที่10,000 ซึ่งเราจะเห็นได้ครั้งเดียวในชีวิตของเราเท่านั้น  เด็กๆ พวกเจ้าถือโอกาสไปเที่ยวกันเถอะ” มอนโร ดอว์สันหัวเราะ

มอนโรปฏิบัติกับพี่น้องที่สนิทของลูกชายของเขาด้วยไมตรีจิตเป็นอย่างดี

นี่เป็นเพราะพี่น้องทั้งสามของเยลค่อนข้างไม่ธรรมดา  ลินลี่ย์, จอร์จและเรย์โนลด์  ตระกูลของเรย์โนลด์มีอำนาจมากไม่ธรรมดาอยู่ในกองทัพของจักรวรรดิโอเบรียน  ตระกูลของจอร์จก็ทรงอิทธิพลมหาศาลอยู่ในจักรวรรดิยูลาน  และไม่ได้อ่อนแอกว่าตระกูลเลโอนเท่าใดนัก

สำหรับลินลี่ย์แม้ว่าตระกูลเขาจะอ่อนด้อยอยู่ในตอนนี้ แต่ก็เป็นตระกูลของนักรบเลือดมังกรและศักยภาพของตัวลินลี่ย์เองก็ไร้ขีดจำกัด

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

“ท่านประธาน,ทูตสวรรค์ของศาสนจักรเจิดจรัสมาถึงแล้ว” คนรับใช้เรียนด้วยความเคารพ

เมื่อได้ยินคำว่า “ศาสนจักรเจิดจรัส”ตาของเยล, จอร์จและเรย์โนลด์เป็นประกาย และพวกเขาหันมามองคนรับใช้  มอนโรดอว์สันรู้ว่าบุตรของเขาคิดอะไรอยู่ เขาจึงกล่าวพลางหัวเราะทันที “ให้พวกเขาเข้ามา”

“ขอรับ”

ชั่วเวลาต่อมา  บาทหลวงคนหนึ่งเดินเข้ามา  เขากล่าวด้วยความเคารพ  “ท่านประธานดอว์สัน ฝ่าบาทจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มีบัญชาให้ข้าส่งจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน”  ขณะที่เขากล่าว  เขาดึงจดหมายออกมาจากในชุดที่งดงาม

คนใช้รับจดหมายทันที  จากนั้นมอบให้มอนโร ดอว์สัน

มอนโร ดอว์สันเปิดจดหมายอ่านทันที  แต่เมื่อเห็นเนื้อความในจดหมายหน้าของเขาเปลี่ยนทันที เขากล่าวเสียงเย็นชา  “ตอนนี้ท่านกลับไปได้แล้ว”

บาทหลวงคำนับเล็กน้อย จากนั้นก็ออกไป

“ท่านพ่อ,ในจดหมายว่าไงบ้าง?”  เยลรีบถามทันที  “ใช่เกี่ยวข้องกับน้องสามหรือไม่?”  เรย์โนลด์และจอร์จมองดูมอนโรดอว์สันอย่างมุ่งหวัง

มอนโร ดอว์สันพยักหน้า

“จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แจ้งให้ข้าทราบถึงการพิจารณาตัดสินภายในของศาสนจักรเจิดจรัส  พวกเขาจะประหารลินลี่ย์เป็นการลับ”  คำพูดของมอนโร ดอว์สันเหมือนกับฟ้าผ่ากรอกหูของเยล,เรย์โนลด์และจอร์จ หน้าของพวกเขาซีดขาวทันที พวกเขาตกตะลึงเป็นเวลานาน

“ไม่, ไม่มีทาง”

เยลเป็นคนแรกที่เริ่มตะโกนออกมา เขาแย่งจดหมายจากมือบิดาของเขาและถือด้วยมือที่สั่นเทาขณะที่เขาเริ่มอ่าน  ข้างๆ เขาเรย์โนลด์และจอร์จก็หันมาดูด้วยเช่นกัน แต่เมื่อทั้งสามได้เห็นเนื้อความแล้ว พวกเขากลัวแทบคลั่ง

“ไม่!!!”

เยลกระโจนออกจากที่นั่งตั้งใจจะวิ่งออกไปนอกห้องโถง  “เยล!”  มอนโร ดอว์สันขมวดคิ้ว ตะโกนเรียกอย่างเย็นชา

“หยุดเขาไว้” มอนโร ดอว์สันสั่ง

เยลหันหน้ามาจ้องบิดาของเขา  เขากล่าว “พ่อ, ข้าขอร้องพาคนไปช่วยน้องสามเถอะ ถ้าจำเป็น หอการค้าสามารถให้ของที่มีค่าได้ข้าไม่เชื่อว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะไม่สนใจหอการค้าของเรา  ท่านพ่อ ข้าขอร้อง”

“ฮึ่ม, เจ้าจะรู้อะไร?ถ้ามีเรื่องที่สามารถเจรจากันได้จริงๆ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คงเริ่มเจรจากับข้านานแล้ว  ความบาดหมางที่ลินลี่ย์มีต่อศาสนจักรเจิดจรัสเป็นเรื่องที่เราคิดไม่ถึง มิฉะนั้นศาสนจักรเจิดจรัสคงไม่ตัดสินใจประหารชีวิตอัจฉริยะอย่างเขาแน่  พอได้แล้ว, หนุ่มๆ พาคุณชายไปที่ห้องพักของเขา ให้เขาใช้เวลาสงบสติอารมณ์เสียก่อน”

การ์ดประจำตระกูลพาเยลกลับไปที่ห้องเขาทันที  ไม่ว่าเยลจะประท้วงเหน็บแนมอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์

เรย์โนลด์และจอร์จทำได้เพียงอยู่อย่างเงียบๆ

ที่สำคัญพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์พิเศษกับมอนโรดอว์สัน  แต่ในใจพวกเขากระวนกระวายห่วงลินลี่ย์มาก

มีคนมาเยี่ยมลินลี่ย์ถึงห้องขัง  เป็นกิลเยโม

“กิลเยโม”  ลินลี่ย์มองดูกิลเยโมด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

กิลเยโมนำอาหารที่มากมายเป็นพิเศษและส่งผ่านช่องเล็กๆผ่านประตูห้องขัง

กิลเยโมมองดูลินลี่ย์  เขาถอนหายใจ “ลินลี่ย์  ข้ามองเจ้าด้วยความชื่นชมจริงๆ  แต่อนิจจา บางทีเจ้าคงไม่สามารถกลายเป็นสมาชิกของศาสนจักรเจิดจรัสของเรา  มีอาหารดีๆ ให้กิน เจ้ากินเสียเถอะ  ยังเหลือโอกาสอย่างนี้ไม่มากนัก”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้  ลินลี่ย์ตะลึง

“ใต้เท้ากิลเยโม,พูดอย่างนี้หมายความว่าไง?” ลินลี่ย์มองดูกิลเยโม

กิลเยโมถอนหายใจ  “อีกสองวัน ซึ่งก็คือวันที่ 2 มกราคมจะถึงวาระสุดท้ายของเจ้า”  กิลเยโมชอบหนุ่มน้อยลินลี่ย์นี้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากพบเหตุผลที่ลินลี่ย์พยายามฆ่าเคลย์กิลเยโมยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้นที่ชะตาของลินลี่ย์พลิกผันเช่นนี้

เขาสามารถมีอนาคตที่รุ่งโรจน์  แต่เพื่อพ่อแม่ที่ตายไปของเขาเขายินดีเสียสละทุกอย่างเพื่อล้างแค้น

แม้ว่ากิลเยโมจะไม่เคยทำเช่นนั้น  แต่ในใจเขายังรู้สึกชื่นชมลินลี่ย์

“วันที่ 2 มกราคม?”

สีหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปมาหลายครั้ง  แต่ในที่สุดเขาหลับตา  เขาเข้าใจทั้งหมดแล้ว  เป็นที่ชัดเจนว่าอีกสองวันเขาจะตาย

“ขอบคุณ,ใต้เท้ากิลเยโม  ถ้าไม่ใช่เพราะท่านข้าก็ยังคงยึดความหวังว่าจะรอดชีวิตได้” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น

กิลเยโมมองดูลินลี่ย์  เขาถอนหายใจเบาๆ  ส่ายหน้า จากนั้นหันหน้าเดินออกไปปล่อยให้ลินลี่ย์อยู่ใรห้องขังตามลำพัง

“วันที่ 2 มกราคม พวกเขาต้องรอจนกว่าจะพ้นเทศกาลยูลานจึงจะฆ่าข้าหรือ?  พรุ่งนี้จะเป็นงานเทศกาลยูลาน  ข้าเชื่อว่าจะเป็นวันแต่งงานของคาลันกับอลิซเช่นกันกระมัง?”  เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะตาย ลินลี่ย์กลับรู้สึกใจเย็นขึ้นและสงบขึ้นกว่าแต่ก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด