ตอนที่แล้วตอนที่ 147 โจมตีตอบโต้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 149 ดาบกางเขนเขียวแดง

ตอนที่ 148 ปิงออกศึก


“บุกเข้าไป!  พวกมันไม่เหลือพลังอยู่แล้ว!”

“ฆ่าพวกมัน!”

“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”

เสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งดังตลอดตามทางเมื่อกลุ่มนักสู้พุ่งเข้ามาจากท้ายถนน  ทุกคนที่ได้เห็นการต่อสู้ในเมืองก็พากันตกตะลึง

ตัดสินใจได้อย่างบ้าคลั่งมาก!

ทุกคนตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขา  พอๆกับการตัดสินใจของกู้อันสวงและผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล ถังเทียนและหลิงซิ่วเพิ่งจะฆ่าพี่น้องตระกูลหัวได้   นี่หมายความว่าด้วยการต่อสู้ครั้งนี้  ทั้งสองคนจะเข้าสู่ทำเนียบสุดยอดฝีมือห้าสิบอันแรกของดาวไพรมายา ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นทั้งสองครอบครัวกลับเปิดศึกบุกโจมตี พวกเขาไม่กลัวถังเทียนกับหลิงซิ่วจะพลิกสถานการณ์หรือ?

ตราบใดที่หนึ่งในสองคนนี้ตื่นขึ้นมา  พวกเขาคงได้ตายแน่

แต่ทุกคนอดชื่นชมทั้งสองคนไม่ได้ที่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างเด็ดเดี่ยวและเฉียบขาด

นักสู้จับกลุ่มกันวิ่งเข้าไปในจุดที่กู้เสวี่ยและพวกรวมตัวกันอยู่พื้นเกิดเสียงดังสั่นสะเทือน ทั่วทั้งเมืองเฮยซานสั่นสะเทือนไปหมด

ต้าเว่ยมีความเร็วสูงมาก เขากับยอดฝีมืออื่นอีกสองสามคนที่มีฝีมือพอกันบุกเข้ามาจากข้างหน้าพวกเขาเป็นเหมือนหัวหอกทะลวงฟันของคนกลุ่มนี้ เสียงลมพัดกรอกหูดังอื้ออึง แต่ละคนใช้วิชาตัวเบาถึงขั้นสูงสุดบินข้ามกำแพงเหยียบบนหลังคาและพุ่งขึ้นหน้าไปพร้อมกัน

เงาแต่ละสายเหมือนธนูที่ยิงออกไปในท้องฟ้า

ความกลัวของต้าเว่ยจางหายไปในอากาศนานแล้ว  ฝูงชนที่บ้าคลั่งมีผลต่อเขาเช่นกัน  ถูกแล้ว นี่คือโอกาสเดียวของพวกเขา!  ทุกคนตีวงล้อมเข้ามาเหมือนสัตว์ป่าทั้งขู่เข็ญตะคอกในการศึกสุดท้ายนี้ เป็นสภาพพลังที่น่าตื่นตาตื่นใจ

เขาเชื่อมั่นว่าพลังเช่นนั้นจะสามารถฉีกกระชากได้ทุกสิ่งทุกอย่าง!

ต่อสู้เพื่อชื่อเสียง  แล้วยังไงเล่า?  สามารถฆ่าสองพี่น้องตระกูลหัวได้ แล้วไง?  พวกเจ้าไม่มีโอกาสแล้ว!

ทันใดนั้นร่างโลหะบรอนซ์ปรากฏอยู่ในสายตาของพวกเขา

นั่นคือ.....

ม่านตาของพวกเขาหรี่แคบ  อาวุธจักรกล!

แม้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเครื่องมือเช่นนี้จริงๆ  เขาก็สามารถจำได้ทันที  เกราะเสือบรอนซ์สูงสองเมตรที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาคืออาวุธจักรกลในตำนาน!

ยอดฝีมืออาวุธจักรกลน่ะหรือ?

ต้าเว่ยประหลาดใจเล็กน้อย  เป็นไปได้ไหมว่ามียอดฝีมืออาวุธจักรกลซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้?  ต้าเว่ยเป็นคนที่ฝีมือดีที่สุดสำหรับนักสู้อย่างเขา อาวุธจักรกลทุกชนิดถือว่าเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของเขาการค้นคว้าของพวกเขาในเรื่องเหล่านี้แค่ต่ำกว่าช่างเครื่องจักรกล  อาวุธจักรกลที่อยู่ต่อหน้าเขา เขาจำได้แน่นอนว่าเป็นรูปแบบของกองทัพดาวกางเขนใต้

เหมือนจริงมาก  มันดูสมจริงมาก!

พยัคฆ์ที่เคร่งขรึมสง่างามข้อต่อเต็มไปด้วยหนาม กรงเล็บโค้งที่แหลมคม...

แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลแต่เขาก็ยังประหลาดใจมาก ถ้าไม่คำนึงถึงโครงสร้างร่าง หรือการออกแบบ  รวมทั้งรูปแบบที่ซับซ้อน ดูสมจริงมากเขาเคยเห็นของเลียนแบบมามาก แต่ไม่เคยเห็นจักรกลที่มีระดับมาตรฐานเหมือนตัวที่อยู่ข้างหน้านี้เลย

อย่างไรก็ตาม ต้าเว่ยไม่ได้แตกตื่น   มาตรฐานของวิศวะเครื่องกลสามารถตัดสินมาตรฐานอาวุธจักรกลได้ และมาตรฐานอาวุธจักรกลสามารถตัดสินมาตรฐานนักสู้ได้  มาตรฐานวิศวะจักรกลในทุกวันนี้ยังแค่ระดับธรรมดาและนักสู้เครื่องจักรกลก็ยังเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับความนิยม  ดังนั้นมาตรฐานเช่นนี้จึงสามารถคาดคำนวณได้

“หงกวง,ข้าจะปล่อยนักสู้เครื่องจักรกลนี้ให้เจ้าจัดการ!  คนอื่นๆ ไปค้นหาเขา!”  ต้าเว่ยขึ้นเสียง   แม้ว่าฝีมือของฝ่ายตรงข้ามไม่น่าจะสูงล้ำเกินไป  แต่เวลาช่วงนี้สำคัญกว่าอะไรอื่นจบการต่อสู้ให้ไวเป็นกุญแจสำคัญ

“ตกลง!”บุรุษหยาบกร้านคนหนึ่งในมือถือค้อนหัวฟักทองด้ามยาว  นักรบเครื่องจักรกลกลัวจำนวนที่มากกว่า  เพราะอาวุธจักรกลปกติจะไม่คงทน

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายร่นเข้ามาเรื่อยๆ

นักรบเครื่องจักรกลยังคงไม่แยแสนิ่งและต้าเว่ยรู้สึกประหลาดใจว่าคงเป็นของที่เอาไว้ตั้งให้ดูหรือเปล่า?

แต่หลังจากนั้นเขาตะโกนลั่นอย่างไม่ลังเลใจ  “ทุกคน บุก!”

นักสู้จำนวนมากบุกเข้ามาและกระโจนใส่ยอดฝีมือจักรกลจากทุกทิศทาง

แสงเย็นเยือกวูบผ่านไปในท้องฟ้า  เสียงโห่ร้องดังมาจากทุกทิศ  ขณะที่เขาถูกตาข่ายรายล้อม  ยอดฝีมือจักรกลไม่ทราบว่าจะหลบไปที่ใดได้

ทันใดนั้นยอดฝีมือเครื่องจักรที่อยู่บนพื้นพลันเงยหน้า

※※※※

ปิงมองดูร่างพวกที่ระดมพุ่งเข้าหา เขาไม่ได้รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกมึนงงแทน

นานเท่าใดแล้วตั้งแต่เขาอยู่ในสนามรบครั้งสุดท้าย?

เขาไม่สามารถจำได้เลย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด  ผู้บัญชาการพบว่าเขามีทักษะในการเสริมสร้างทหารใหม่จึงโอนให้เขาไปเป็นครูฝึก  โอว, ผิดแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อพวกเขาสูญเสียอย่างหนักและไม่มีทหารทดแทนอย่างเพียงพอ ผู้บัญชาการรู้สึกว่าจำเป็นต้องเปิดค่ายฝึกทหารใหม่

ตั้งแต่นั้น เขาก็ไม่เคยออกสู่แนวหน้าอีกเลย

ไอ้พวกอวดดีเหล่านั้นปล่อยให้เขาอยู่แนวหลังอย่างปลอดภัย  และปล่อยเรื่องแนวหน้าให้พวกเขาดูแล ในตอนแรกเขายังกังวลว่าเจ้าพวกอวดดีเหล่านั้นจะไม่เชื่อถือ  แต่จากนั้นเขาก็ตระหนักว่า พวกเขาทำงานได้ค่อนข้างดีดังนั้นเขาจึงรู้สึกสบายใจ และเร่งผลิตทหารใหม่อย่างตั้งใจ

เขายิ่งทำก็ยิ่งโดดเด่น ทุกคนชื่นชมเขา หลังจากที่ค่ายเพิ่มครูฝึกขึ้นมาอีกสองสามคน  เขาก็กลายเป็นหัวหน้าครูฝึก

อย่างไรก็ตาม  ความรู้สึกของสมรภูมิ...เขาไม่เคยลืมเลือน!

ช่วงเวลาที่เขาติดตามผู้บัญชาการต่อสู้ในสมรภูมิ เขาไม่เคยลืมเลือน

เขาไม่เคยคาดว่า หลังจากผ่านมาอีกนานหลายๆ ปี เขาจะลงสู่สมรภูมิอีกครั้ง.. ฮืม.. ดีล่ะ..ความจริงก็เป็นแค่การรบในสงครามขนาดเล็ก แต่ก็ยังนับว่าเป็นการต่อสู้เพื่อสิทธิบางอย่าง....

ถ้าผู้บัญชาการและพวกทหารที่เหลือยังอยู่รอบๆ จะดูยิ่งใหญ่เพียงไหน...ฮืม.. พวกเจ้าจะต้องทะเลาะกันภายในเพื่อตัดสินว่าใครจะได้ออกไปสู้ก่อน  ใช่แล้ว ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!

มุมปากของปิงเชิดขึ้นและยิ้มอบอุ่นโดยไม่รู้ตัว

ศัตรูที่ก้าวเข้าในสายตาของเขาอย่างรวดเร็วพวกนั้น  ในสายตาของเขาเหมือนกับเป็นอากาศว่างเปล่า

ท่านผู้บัญชาการ  ข้าจะสู้ให้สมศักดิ์ศรีและจะไม่ยอมให้กองทัพของเราต้องขายหน้า

แม้ว่าพวกท่านจะไม่สามารถเห็นได้ แม้ว่าธงของกองทัพจะไม่ได้โบกสะบัดในท้องฟ้าอีกต่อไป  แม้ว่าจะไม่มีการป้องกันใดๆ อีกต่อไป แม้ว่าความรุ่งเรืองที่พวกเราได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาจะล่มสลายไปกับกระแสเวลาในประวัติศาสตร์ก็ตาม...

แม้ว่าชื่อของกองทัพดาวกางเขนใต้ จะค่อยๆ ถูกลืมเลือนไป  ช่างน่าเสียดาย

เพราะมีแต่ข้าที่ยังคงอยู่...

อย่างนั้นขอให้ข้าได้ปกป้องความรุ่งเรืองของมันเอาไว้  ขอให้ข้าได้ปัดฝุ่นธุลีที่ทับถมบดบังชื่อของกองทัพเรามานานเป็นพันปี

ขอให้ข้าได้ปลุกความรู้สึกลึกๆ ของคำนี้ที่มีต่อชื่อนี้

กลัว...

กองทัพดาวกางเขนใต้ .... เคลื่อนทัพ

※※※※

ตาของเสือบรอนซ์ดูเหมือนจะเปล่งประกายวูบ หัวใจของต้าเว่ยจู่ๆ ก็สะดุ้งขึ้นมาไม่มีเหตุผล   เขาโพล่งออกไปโดยไม่รู้ตัว  “ระวัง!”

เสือเขี้ยวดาบหายทันที

แทบจะทันทีทันใดมันมาปรากฏตัวด้านหลังหงกวง

ฉัวะ!

กรงเล็บเสือที่คมกริบจมหายเข้าไปในอกของหงกวนโดยไม่ติดขัด  จากนั้นเสือเขี้ยวดาบก็หายไปอีกครั้ง

เลือดสดพุ่งออกมาจากอกของหงกวงโดยไม่มีสัญญาณเตือน

ฉัวะ ฉัวะ!

มีเลือดฉีดพุ่งออกมาจากอีกสองศพ

ร่างบรอนซ์รวดเร็วมากจนตาเปล่ามองไม่ทัน ในพริบตาเดียวยอดฝีมือสามคนถูกสังหารเสียชีวิต  คนอื่นๆไม่ทันเห็นได้ชัดว่าสหายพวกเขาตายอย่างไร

ควั่บ เสือเขี้ยวดาบที่ตัวหนักลงเหยียบที่พื้นอย่างแผ่วเบาเหมือนกับว่าเท้าของมันมีเบาะรอง

ขณะที่เสือเขี้ยวดาบลงมายืนบนพื้น ร่างทั้งสามก็ล้มลงกับพื้นเหมือนกับเป็นกระสอบทรายฝุ่นฟุ้งกระจายและเลือดกระเด็นไปทุกที่

หน้าของต้าเว่ยขาวซีดทันที สามคนที่ตายไปเป็นนักสู้ฝีมือดีของครอบครัวถึงสองคน  ฝ่ายตรงข้ามสามารถฆ่าทั้งสามได้อย่างง่ายดายทั้งที่พวกเขาผนึกพลังโจมตี

ช่างน่ากลัว.... แม้จะเป็นทหารในยุคกองทัพดาวกางเขนใต้ก็ไม่น่ามีกระบวนท่าที่น่ากลัวขนาดนั้น?

นี่ตั้งแต่เมื่อใดกัน ที่มียอดฝีมือเครื่องกลที่น่ากลัวขนาดนั้น?

เจ้าผู้นี้.... เขาเป็นใครกันแน่?

น่าเสียดายที่ปิงไม่ให้เวลาพวกเขาได้ไตร่ตรอง แทบจะทันทีเสือเขี้ยวดาบก็หายไปอีกครั้ง

ทั้งโจมตีด้วยศอก หมัด และเข่า

ท่วงท่าโจมตีก็เรียบง่าย ไม่มีการหยุดยั้งคิดแต่ได้ผลเป็นความตายที่ไม่ธรรมดา ต้าเว่ยประจักษ์ด้วยตนเองว่ามียอดฝีมือที่สามารถป้องกันหมัดของเสือเขี้ยวดาบได้ แต่หมัดบรอนซ์ของเสือเขี้ยวดาบทำลายแขนของนักสู้ผู้นั้นและทะลวงร่างของเขา!

หน้าของต้าเว่ยไม่เหลือสีเลือดให้เห็นทันที

ฉากภาพเช่นนั้น ไม่เพียงแต่น่ากลัวเท่านั้น แต่ยังโหดร้ายอย่างแท้จริง

เสือเขี้ยวดาบเป็นเหมือนเครื่องจักรสังหารที่ไม่มีจิตใจไม่มีใครต้านทานมันได้ ทุกครั้งที่พวกเขาบุกโจมตี พวกเขาจะต้องสูญเสียชีวิต  ไม่ว่าท่านจะหลบซ่อนหรือใช้วิธีป้องกัน  เมื่ออยู่ต่อหน้าเสือเขี้ยวดาบนี้ทุกอย่างไร้ประโยชน์ เขาเอาชีวิตหลายคนอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรและไม่มีใครต้านรับการโจมตีของเขาได้

แทบจะในพริบตาเดียว ทุกคนที่เป็นหัวหอกบุกทะลวงก็เหลือแต่เขาเพียงลำพัง

แขนขาของต้าเว่ยเย็นเฉียบเป็นน้ำแข็ง เขาสั่นและมีใบหน้าหวาดกลัว เขาไม่กล้าต้านทานและตอบโต้

คนต่อไปจะเป็นเขา...

บึ้ม!

ร่างที่ส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนก้องหลายคนบุกตะลุยเข้าใส่เสือเขี้ยวดาบที่เย็นเฉียบ จำนวนคนที่มากมายและเสียงคำรามที่อึกทึกทำให้ต้าเว่ยหน้ากลับมามีสีเลือด

ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะน่ากลัวเพียงไหน แต่เขาก็มีเพียงลำพัง

คนๆ เดียวไม่ว่าน่ากลัวเพียงไหน ก็ไม่สามารถต้านทานคนมากคนได้

ตราบใดที่เขาบุกลุยไปเรื่อยๆ ... ก็จะได้ชัยชนะแน่นอน

ทันใดนั้น ต้าเว่ยตกตะลึง ในสายตาเขา เสือเขี้ยวดาบไม่ได้หนี ไม่ได้หลบ แต่กลับหมอบต่ำและหันหน้าเข้าหาฝูงคนกางแขนทั้งสองออกเหมือนปีก

เขา.....เขาคิดจะทำอะไร?

จู่ๆ ความคิดไร้สาระก็ผุดขึ้นมาในใจเขา หรือว่าเขาเตรียมจะใช้ร่างขวางทุกคนไว้

ฮ่าฮ่า เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน

ต้าเว่ยรู้สึกว่าความคิดของเขาไร้สาระเกินไป ดูเหมือนว่าในความคิดของเขาเพิ่งจะเลิกกลัวเจ้าผู้นี้

※※※※

“อาปิง,ตรงนี้ข้าปล่อยให้เจ้าจัดการ”

“อา.. ผู้บัญชาการ!แค่ข้าคนเดียวเหรอ?”

“ก็มันไม่มีทางเลือกเราบาดเจ็บล้มตายมากเกินไป  เจ้าไม่ต้องห่วงพื้นที่ที่เจ้ารับผิดชอบนี้ไม่ใช่จุดหลักในการโจมตี   ขอให้ทนไว้สักยี่สิบนาที แล้วข้าจะกลับมาอย่างนี้เป็นยังไง?  ถ้าเจ้าไม่ไหวข้าจะเปลี่ยนคนอื่นก็ได้”

“ข้าจะพยายาม...”

“พยายามให้ดี  ถ้าเจ้าตาย ข้าจะจุดธูปให้เจ้า!”

“ท่านผู้บัญชาการ ธูปมันแพงมาก  ขณะนี้กองทัพเราจนเหลือเกิน

……

แนวป้องกันและสนามเพาะถูกทำลายยับตัวเขาอยู่ในอาวุธจักรกลที่มีสภาพแทบจดจำไม่ได้

ทันใดนั้นความทรงจำไหลบ่าเข้ามาในหัวของปิง นั่นเป็นการรบครั้งสุดท้าย  หลังจากการรบครั้งนั้นเขาถูกส่งไปสร้างค่ายฝึกทหารใหม่

คล้ายกันจริง....

มุมปากของปิงโค้งขึ้น เขาย่อเอวต่ำ หมอบเล็กน้อยและกระโจนไปข้างหน้าแขนทั้งสองกางเหมือนปีก

เขาไม่ได้ใช้วิชานี้มานานมากแล้ว หวังว่าคงไม่ขึ้นสนิมเสียก่อน

ท่านผบ.  ถ้ามันไม่ถูกต้อง อย่ามาด่าข้าก็แล้วกัน...

หลังจากยิ้มแล้ว สีหน้าของปิงก็กลายเป็นเย็นชาและพุ่งออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด