ตอนที่แล้วตอนที่ 6-13 เปิดโปงความลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6-15 ถูกใส่ร้าย

ตอนที่ 6-14 จองจำ


เพื่อให้การดำเนินการลักลอบขนหยกวารีหนีภาษีเป็นไปอย่างราบรื่น ตระกูลเด็บส์ได้จ่ายค่าตอบแทนออกไปจำนวนมากเบอร์นาร์ดสั่งการให้น้องสามของเขา และพี่น้องแลนเซียซึ่งเปรียบเสมือนมือซ้ายและมือขวาของน้องสามตระกูลเบอร์นาร์ดรับผิดชอบในเรื่องนี้

ลินลี่ย์กำลังยืนอยู่กลางห้องประชุมอย่างสงบ เจ้าหนูเงาบีบีก็ยืนอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์อย่างเงียบไปด้วย

ทั้งคนและอสูรเวทเพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเฝ้ามองเรื่องราวทุกอย่างเงียบๆ แม้เขาจะได้เห็นท่าทางอ้อนวอนของเบอร์นาร์ดที่พยายามส่งมาให้เขาแต่ลินลี่ย์ก็ไม่ตอบสนองใดๆแม้แต่น้อย

ไม่นานหลังจากนั้น........

ได้ยินเสียงโซ่ลากมากับพื้นชายผมทองสองคนที่ถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวนเดินเข้ามาในห้องประชุมภายใต้การคุ้มกันจากทหารองครักษ์ทั้งสองคนถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวนทั้งมือและเท้าเพียงแค่ดูจากความหนาของลูกตุ้มเหล็กที่ถ่วงไว้ที่ตรวนสำหรับล่ามขาลูกตุ้มนั้นต้องหนักอย่างน้อย 100-200 ปอนด์

โซ่ตรวนหนักเช่นนี้มักถูกนำมาใช้สำหรับจับกุมนักโทษที่มีพลังแข็งแกร่งเป็นพิเศษ

"ท่านประมุขตระกูล"

ขณะที่กำลังเดินเข้ามาในห้องประชุมและเห็นว่าเบอร์นาร์ดกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นปรากฏรอยยิ้มพิศวงบนใบหน้าของพวกเขาพวกเขาส่งเสียงเรียกเบอร์นาร์ดด้วยความเคารพอย่างแท้จริง

ลินลี่ย์ที่กำลังยืนอยู่ข้างๆเข้าใจได้ทันที

เป็นไปได้อย่างมากว่าพี่น้องแลนเซียสองคนนี้เป็นผู้นำคนสำคัญในปฏิบัติการลักลอบขนของหนีภาษีผู้ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลเด็บส์อย่างลับๆ

"ตอนนี้ตระกูลเด็บส์กำลังจะมีปัญหาแล้ว" ลินลี่ย์เพียงเฝ้าดูอย่างเงียบเชียบ

เมื่อเห็นชายผมทองทั้งสองที่ถูกล่ามตรวนเอาไว้ เบอร์นาร์ดมีท่าทางสับสน"เอ้อ? แลนเซียกับแลงมูร์ทำไมเจ้าสองคนถูกองค์ราชาจับเข้าคุกได้ละ? ไม่ใช่ว่าข้าให้เงินเจ้าทั้งสองไป 100,000 เหรียญทอง เมื่อ 2-3 เดือนก่อนและบอกให้เจ้าไปใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขรึ?"

ชายผมทองทั้งสองคนสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่พวกเขาจะหัวเราะออกมา

"ท่านประมุขตระกูล ท่านกำลังล้อเล่นอยู่รึ?" แลนเซียถามพลางหัวเราะ

แลงมูร์ที่อยู่ข้างเขาหลุดขำออกมาเช่นเดียวกัน "อะไรกัน ท่านประมุขตระกูลนี่ท่านคิดว่ายังสามารถปิดบังและหลอกลวงได้อยู่อีกหรือ? ลืมมันไปได้เลยถึงเวลาที่ท่านต้องยอมรับความผิดที่ท่านก่อไว้แล้ว"

หน้าของเบอร์นาร์ดบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและจ้องมองแลนเซียและแลงมูร์ด้วยความโกรธเกรี้ยว"แลนเซีย แลงมูร์ ตระกูลเด็บส์ของข้าได้เลี้ยงดูและฟูมฟักพวกเจ้ามาตั้งแต่เด็กพวกเจ้ารู้ดีว่าข้าเมตตาพวกเจ้าเพียงใด"

"มันก็จริงอยู่ ที่ท่านดูแลพวกเราพี่น้องเป็นอย่างดีแต่พวกเราสองคนก็ทำงานเสี่ยงชีวิตให้กับตระกูลเด็บส์มาเป็นเวลาหลายปีจนถึงบัดนี้ด้วย"แลนเซียผู้พี่กล่าวออกมาอย่างเย็นชา

ความโกรธของเบอร์นาร์ดเพิ่มขึ้น เขาชี้ไปที่พี่น้องแลนเซียด้วยมือที่สั่นเทิ้ม"พวกเจ้าสองคนมันเนรคุณจริงๆ จริงอยู่ ที่พวกเจ้าได้ทำงานให้กับตระกูลเด็บส์มาหลายปีแล้วแต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เจ้าแอบยักยอกเงินจากตระกูลมาโดยตลอดหลังจากนั้นเมื่อครึ่งปีก่อน ด้วยเห็นว่าพวกเจ้าทั้งสองทำงานให้กับเรามายาวนานข้าไว้ชีวิตพวกเจ้าและยังมอบเงินให้พวกเจ้า 100,000 เหรียญทองและบอกให้เจ้ากลับบ้านเกิดและใช้ชีวิตที่เหลือของพวกเจ้า แต่... แต่พวกเจ้า... ไม่เพียงแต่ไม่สำนึกบุญคุณพวกเจ้ายังไปร่วมมือกับพวกลักลอบขนสินค้าหนีภาษีอีก และหลังจากถูกจับพวกเจ้ายังจะลากตระกูลเด็บส์ให้ล่มจมไปกับพวกเจ้าด้วยอีกรึ?"

แลนเซียกับแลงมูร์ที่ถูกล่ามตรวนอยู่ พลันจ้องมองเบอร์นาร์ดด้วยความงุนงงสับสน

"เรา... เรายักยอกเงินงั้นรึ? ท่าน... ท่านมอบเงินให้เรา 100,000 เหรียญทองงั้นรึ? "แลนเซียกับแลงมูร์ ตกอยู่ในความงุนงงสับสนอย่างสิ้นเชิง

ความโกรธเกรี้ยวของเบอร์นาร์ดกำลังระเบิดออกมาเขาหันหน้ากลับและคุกเข่าต่อหน้าเคลย์ น้ำตาของเขาหยดลงบนพื้นขณะที่เขากล่าวว่า"ฝ่าบาท เจ้าสองคนนี้เป็นเพียงหมาป่าตะกละที่ไม่รู้จักพอคู่หนึ่งตอนที่พวกมันยังเป็นเด็ก ข้าเห็นว่าพวกมันนั้นเป็นเด็กกำพร้าสองคนที่น่าเวทนาดังนั้นข้าจึงเก็บพวกมันมาเลี้ยงดูและต่อมาก็มอบหมายให้พวกมันจัดการงานสำคัญให้ดูแลแต่พวกมันกลับเอาแต่ยักยอกเอาเงินทองจากตระกูลของข้าเข้ากระเป๋าของพวกมันเองแม้กระนั้นด้วยเห็นแก่มิตรภาพอันยาวนานระหว่างข้ากับพวกมันข้าไว้ชีวิตพวกมันและยังได้มอบเงินทองให้พวกมัน 100,000 เหรียญทอง นี่แสดงให้เห็นถึงความเมตตาและปราณีจากข้าแต่ตอนนี้เล่า? ตอนนี้พวกมันกลับมาอยู่ที่นี่เพื่อใส่ร้ายและป้ายสีตระกูลเด็บส์ของข้าพวกมันปรารถนาจะทำลายตระกูลเด็บส์! ด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม! ฝ่าพระบาทหัวใจของข้าแตกสลาย หัวใจของข้าแตกสลายหมดสิ้นแล้ว!"

มองดูเบอร์นาร์ดที่กำลังคร่ำครวญทั้งน้ำตาขุนนางมากมายในห้องประชุมเริ่มลังเลและสงสัยว่า แลนเซียกับแลงมูร์นั้นแท้จริงแล้วใส่ความตระกูลเด็บส์

"เบอร์นาร์ด เจ้า... เจ้า... " แลนเซียกับแลงมูร์โกรธจนหน้าดำหน้าแดงแต่พวกเขาก็ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว

สองพี่น้องคู่นี้ไม่ทราบว่าได้เสียสละเพื่อตระกูลเด็บส์ไปมากมายเพียงใด?

พวกเขายอมแม้กระทั่งร่วมมือลักลอบขนสินค้าหนีภาษีเพื่อตระกูลแน่นอนว่าเพราะพวกเขาทั้งสองไม่ได้กลัวตายถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าข้อเสนอของราชาเคลย์นั้นเย้ายวนมากเกินไปพวกเขาย่อมไม่มีทางทรยศตระกูลเด็บส์เป็นอันขาด

แต่ทุกเรื่องที่เบอร์นาร์ดพูดออกมาตอนนี้ล้วนเป็นคำโกหกทั้งสิ้น!

"โอ้? มีเหตุการณ์เช่นนี้ด้วยรึ?" เคลย์ชำเลืองมองเบอร์นาร์ด

เคลย์รู้สึกได้ว่าเบอร์นาร์ดนั้นได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่อาจสร้างเรื่องโกหกทั้งหมดออกมาเช่นนี้ได้ในทันที หากว่าเขาจะสืบสวนเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเขาไม่อาจหาข้อบกพร่องใดๆได้เลย

"ฮึ่มมันช่างน่าเสียดายที่น้องชายคนที่สามของเบอร์นาร์ดนั้นกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายไปแล้วเราไม่เจอแม้กระทั่งศพของเขา มิฉะนั้น หากน้องชายคนที่สามของเขาอยู่ต่อหน้าเขาเบอร์นาร์ดย่อมไร้ซึ่งคำแก้ตัว" เคลย์เริ่มโกรธ

ลักลอบขนหยกวารีหนีภาษี

เหมืองหยกวารีเป็นสถานที่ผลิตสินค้าราคาแพงที่มีส่วนสร้างความมั่งคั่งให้กับอาณาจักรซึ่งบอกได้เลยว่าความมั่งคั่งนั้นเป็นของเคลย์ด้วย

การทำเหมืองแร่และการลักลอบขนหยกวารีอย่างผิดกฎหมายหมายถึงการขโมยความมั่งคั่งจากเคลย์ เป็นธรรมดาที่เคลย์จะรู้สึกโกรธ

แต่ทว่าน้องชายคนที่สามของเบอร์นาร์ดได้กระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายไปแล้วในขณะที่เบอร์นาร์ดเองก็ดูเหมือนเตรียมการเผื่อเอาไว้แล้วสำหรับการทรยศของแลนเซียกับแลงมูร์

"เบอร์นาร์ด, ข้าจะให้ความเป็นธรรมหากเจ้าบริสุทธิ์จริง" เคลย์กล่าวอย่างจริงจัง

"ขอบพระทัยฝ่าบาท! ขอบพระทัยฝ่าบาท!"เบอร์นาร์ดกล่าวทั้งน้ำตานองเต็มหน้า

แต่เคลย์ประกาศเสียงเย็นเยียบว่า"แต่ข้าไม่อาจให้อภัยต่อผู้ที่ทรยศต่อผลประโยชน์ของอาณาจักรได้จากข้อมูลของหน่วยข่าวกรองที่ข้าได้มาดูเหมือนว่าผู้ที่รับผิดชอบในปฏิบัติการลักลอบขนของหนีภาษีครั้งนี้คือน้องชายคนที่สามของเจ้า"

"น้องสามยังงั้นรึ?" เบอร์นาร์ดจ้องมองเคลย์ด้วยความสงสัย

เคลย์มองเบอร์นาร์ดด้วยสายตาเย็นชา "เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกหรือไม่?"

สีหน้าของเบอร์นาร์ดบ่งบอกถึงความเจ็บปวดกล่าวว่า "แน่นอนข้าทราบดีฝ่าบาทข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพระองค์ถึงได้กล่าวออกมาเช่นนี้แต่ช่วงปีกว่าๆที่ผ่านมา น้องสามของข้านั้นเดินทางออกจากอาณาจักรเฟนไลและเริ่มท่องเที่ยวฝึกฝนที่อาณาจักรอื่นแต่เมื่อ 2-3 วันก่อนเขาเพิ่งส่งจดหมายกลับมาหาเรา"

สายตาของเคลย์เย็นชามากขึ้นไปอีก

คนของเขารายงานว่าขณะที่พวกเขากำลังเข้าจับกุมน้องชายคนที่สามของเบอร์นาร์ดนั้นชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส และเลือกที่จะกระโดดลงแม่น้ำด้วยตัวเองพวกเขาไม่สามารถตามรอยของเขาได้

"ฝ่าบาท! ฝ่าบาท! ท่านต้องให้ความเป็นธรรมแก่ข้า!"

เบอร์นาร์ดปรายตาจ้องมองไปยังแลนเซียกับแลงมูร์ด้วยความโกรธ"ท่านไม่อาจเชื่อถือวาจาหลอกลวงและคำกล่าวหาต่อตระกูลซึ่งจงรักภักดีต่ออาณาจักรซึ่งคนน่ารังเกียจทั้งสองนี้กล่าวออกมาได้”

"เบอร์นาร์ด เจ้า! เจ้า!" พี่น้องแลนเซียพูดอะไรไม่ออกในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความกังวล

ทันใดนั้นเองเคลย์ก็ยืนขึ้นและจ้องมองเบอร์นาร์ดด้วยสายตาเย็นชา"ข้าพูดออกไปแล้วว่า ข้าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้บริสุทธิ์และไม่ให้อภัยต่อผู้ที่ทรยศและยักยอกผลประโยชน์ของอาณาจักรด้วยหลักฐานที่อยู่ในมือข้า ตระกูลเด็บส์ของเจ้าเป็นผู้ต้องสงสัยว่าทรยศต่ออาณาจักรเหล่าองครักษ์!"

หน้าของเบอร์นาร์ดเปลี่ยนสีทันที "ฝ่าบาท! ฝ่าบาท!ข้าเป็นผู้จงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่ออาณาจักร! ฝ่าบาท!"

ทหารองครักษ์สองนายวิ่งเข้ามาในห้องประชุม

"เบอร์นาร์ด" เคลย์ยิ้มให้เบอร์นาร์ด

เบอร์นาร์ดเงยหน้าขึ้นมองด้วยท่าทางขอความเมตตาไปที่เคลย์ราวกับว่าเขาเป็นเด็กที่กำลังมองไปที่บิดามารดาของเขา

"ตระกูลของเจ้าจะซื่อสัตย์ภักดีหรือไม่นั้นคำถามนี้ที่จะถูกตัดสินโดยหลักฐานข้าจะให้โอกาสกับเจ้า ข้าจะไม่ถอนรากถอนโคนตระกูลของเจ้าในตอนนี้"

ในหัวใจของเขา เบอร์นาร์ดแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือการที่ตระกูลเด็บส์จะถูกถอนรากถอนโคนในทันที"โชคดีที่ข้าพบกองเถ้ากระดูกเหล่านั้นก่อนและมันยังคงเป็นอยู่ในห้องลับมันทำให้ข้ามีโอกาสได้เตรียมการไว้ก่อน" นับตั้งแต่วันที่เบอร์นาร์ดได้เตรียมการเรื่องต่างๆไว้เขาได้วางแผนและเตรียมการเอาไว้หลายขั้น

"องครักษ์ส่งเบอร์นาร์ดพร้อมด้วยทายาทของตระกูลเด็บส์ไปยังคุกวารีดำส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการลักลอบขนของหนีภาษีของตระกูลเด็บส์นั้นให้อัครเสนาบดีขวาเมอร์ริทเป็นหัวหน้าทีมสืบสวน"เคลย์ออกคำสั่ง

องครักษ์ทั้งสองนำตัวเบอร์นาร์ดออกไปทันที

"ฝ่าบาท! ข้าเชื่อมั่นในพระปรีชาของพระองค์!"เบอร์นาร์ดตะโกนบอกเคลย์ แม้แต่ตอนที่กำลังถูกลากตัวออกไป

คืนนั้น ถนนกรีนลีฟกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความคึกคัก

เสียงฝีเท้าม้าและเสียงตะโกนดังไม่หยุดกองทหารอัศวินหลายร้อยนายล้อมคฤหาสน์ของตระกูลเด็บส์เอาไว้ตอนนี้ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนของตระกูลเด็บส์

"เจ้ากำลังจะทำอะไร? เจ้ากำลังจะทำอะไร? เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ไหน?" ปู่รองของคาลัน อารองของเบอร์นาร์ด ตะโกนใส่เหล่าทหารองครักษ์ทันที

ผู้นำของกองอัศวินกล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า"เจ้ากล้าขัดราชโองการขององค์ราชายังงั้นรึ?"

แต่ปู่รองคนนี้เพียงเงยหน้าของเขากล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า"ราชโองการของฝ่าบาทงั้นรึ? ใครจะรู้ว่าเจ้านั้นนำราชโองการจากฝ่าบาทมาจริงหรือไม่? บอกมา! เจ้าต้องการอะไรกันแน่?"

"ท่านปู่รอง ด้านนอกเกิดอะไรขึ้นรึขอรับ?"

ตอนนี้นั้นคนของตระกูลเด็บส์มากมายวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ

แม้กระทั่งอลิซและโรว์ลิ่งเองก็รีบแต่งตัวและวิ่งมาอย่างเร่งร้อน ในทวีปยูลานหลังจากพิธีหมั้นแล้ว โดยทั่วไปคู่หมั้นจะเริ่มอาศัยอยู่ที่บ้านฝ่ายชายแต่หากให้พูดรวมๆแล้ว พวกเขาเข้าห้องหอก็ต่อเมื่อหลังจากจบพิธีแต่งงานแล้วเท่านั้น

ตามธรรมดาแล้วเป็นเช่นนั้น ...

มีหลายกรณีที่ผู้คนใช้ห้องนอนร่วมกันก่อนแต่งงานเช่นกันตราบใดที่ทั้งคู่ต่างเต็มใจ

"พี่อลิซ ด้านนอกเกิดอะไรขึ้นกันแน่?" โรว์ลิ่งที่กำลังจับมือของอลิซอยู่ถาม

อลิซเองก็งุนงงเช่นเดียวกัน "ข้าก็ไม่แน่ใจ"

ผู้คนหลายร้อยในคฤหาสน์ตระกูลเด็บส์เริ่มหลั่งไหลกันออกมาและพวกเขาส่วนใหญ่ดูเหมือนกำลังงุนงงสับสนมีเพียงแกนหลักของตระกูลที่รู้ความจริงเกี่ยวกับปฏิบัติการลักลอบขนของหนีภาษีที่เริ่มรู้สึกหวาดกลัว

ปฏิบัติการลักลอบขนของหนีภาษีเป็นหนึ่งในแผนการใหญ่ของตระกูลเด็บส์

เพื่อให้ปฏิบัติการนี้ดำเนินการได้ พวกเขาได้ลงทุนไปหลายสิบล้านเหรียญทองหากพวกเขาปฏิบัติการสำเร็จผลกำไรที่ได้กลับมาจะเป็นเงินหลายร้อยล้านเหรียญทองเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเด็บส์คิดอะไรงั้นรึ? เพียงแค่ปฏิบัติการสำเร็จครั้งเดียวก็พอแล้ว

แต่มันเห็นได้ชัดว่าปฏิบัติการนี้เกิดปัญหาแล้ว

"พี่คาลัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?" โรว์ลิ่งถามคาลันเช่นกัน

คาลันส่ายหน้า บ่งบอกว่าตัวเขาเองก็ไม่ทราบ

กลุ่มของอัศวินพิทักษ์ตำหนักมาชุมนุมกันนอกคฤหาสน์ ผู้นำของพวกเขาหัวหน้ากองอัศวินตอนนี้เมื่อเห็นคนของตระกูลเด็บส์ออกมามากมายก็ดึงเอาราชโองการออกมาจากอกเสื้อของเขาตะโกนด้วยเสียงสดใสว่า"ราชโองการขององค์ราชา ด้วยตระกูลเด็บส์ต้องสงสัยว่าร่วมกันลักลอบขนหยกวารีหนีภาษีประมุขตระกูลเด็บส์พร้อมด้วยทายาทของเขาได้ถูกตัดสินให้จำคุกวารีดำมีผลทันที"

สีหน้าของทุกผู้คนในตระกูลเด็บส์เปลี่ยนไปทันที

สีหน้าของบรรดาแกนหลักของตระกูลเด็บส์เปลี่ยนเป็นซีดขาว แม้แต่อลิซโรว์ลิ่งและคนอื่นๆในตระกูลต่างก็รู้สึกประหลาดใจและสับสน

องครักษ์หลายนายเดินเข้ามาและจับตัวคาลัน

"เอาตัวเขาไป!"

หัวหน้ากองอัศวินตะโกนสั่ง

ณ เวลานี้คาลันรู้สึกราวกับว่าแขนขาของเขาไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา เขาปล่อยให้เหล่าองครักษ์หิ้วปีกเขาไปยังประตูแต่เมื่อเขามาถึงประตู เขาพลันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาและหันหน้าของเขา ตะโกนออกมาว่า"ท่านปู่รอง อลิซ ท่านทั้งสองต้องหาทางช่วยข้าต้องหาทางช่วยข้าให้ได้นะ!"

หลังจากปล่อยให้คาลันตะโกนไปจนเขาพอใจเหล่าทหารองครักษ์หน้านิ่งไร้อารมณ์ใดๆก็พาตัวเขาตรงไปที่คุก

อลิซ โรว์ลิ่งและคนอื่นๆในตระกูลเด็บส์ทำได้เพียงแค่มองดูคาลันถูกจับตัวไปโดยไม่อาจช่วยเหลือใดๆได้ตระกูลของพวกเขาทรงพลังก็จริง แต่พวกเขาจะสามารถต่อต้านองค์ราชาได้อย่างไรกัน?

เช้าวันต่อมามีข่าวว่าตระกูลเด็บส์ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการลักลอบขนหยกวารีหนีภาษีได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งแวดวงขุนนางของเมืองเฟนไลขุนนางของเฟนไลหลายคนให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ

ยิ่งกว่านั้น คดีนี้ถูกไต่สวนโดยอัครเสนาบดีขวาเมอริทแห่งราชอาณาจักรเฟนไลซึ่งเขาจะลงมาคุมการไต่สวนด้วยตัวเอง

ภายในคฤหาสน์ของอัครเสนาบดีขวาเมอร์ริท

อัครเสนาบดีขวาเมอริทนั้นอายุ 70 ปีแล้ว แต่ในฐานะนักรบทรงพลังผู้เที่ยงธรรมเขาดูราวกับชายวัยกลางคน เขามีผมสีทองสั้นเรียบเป็นมันวาว

เวลานี้ อัครเสนาบดีขวาเมอร์ริทนั่งอยู่บนเก้าอี้เขากวาดตามองอย่างสบายๆไปที่แขกผู้มาเยือนจากตระกูลเด็บส์  ท่านปู่รองของคาลัน นีมิทซ์

"ใต้เท้าเมอร์ริทตระกูลของเราได้ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมจริงๆข้าหวังว่าใต้เท้า ท่านจะให้ความเป็นธรรมต่อตระกูลของเรา"

ในขณะที่เขาพูดนีมิทซ์ดึงหนังสือออกมาจากจากด้านข้างของเขา "ใต้เท้าเมอร์ริทข้าทราบมาว่าท่านชื่นชอบสะสมบทสวดศักดิ์สิทธิ์ บทสวดศักดิ์สิทธิ์นี้ถูกตีพิมพ์โดยวิหารเจิดจรัสเมื่อสามพันกว่าปีก่อนมันเป็นของหาได้ยากชิ้นหนึ่ง"

"โฮ่ บทสวดศักดิ์สิทธิ์งั้นรึ?"

เมอร์ริทรับมันมาง่ายๆ แต่ในขณะที่พลิกอ่านมัน เมอร์ริทจู่ๆก็พบว่ามีการ์ดใบหนึ่งติดอยู่ในหน้ากระดาษการ์ดที่ผลิตโดยธนาคารทองคำของจักรวรรดิทั้งสี่ การ์ดผลึกเวท!

ใบหน้าของเมอร์ริทเผยรอยยิ้มขึ้นมา

นีมิทซ์เฝ้าสังเกตุปฏิกิริยาของเมอร์ริทอย่างระมัดระวัง เมอร์ริทปิดบทสวดศักดิ์สิทธิ์และวางมันไปด้านข้างแล้วยิ้ม"นีมิทซ์ ท่านควรจะทราบว่านอกเหนือจากบทสวดศักดิ์สิทธิ์แล้วข้ายังเป็นแฟนตัวยงของงานแกะสลัก ไม่นานมานี้ เมื่อข้าได้เห็น 'ตื่นจากฝัน' ข้าชอบมันมาก ระหว่างพิธีหมั้นของตระกูลท่าน ข้าได้เห็นอลิซ โอ้นางดูคล้ายกับผู้ที่อยู่ในรูปแกะสลักยิ่งนัก ข้าสงสัยว่า...เป็นไปได้หรือไม่หากข้าต้องการสนทนากับอลิซเป็นการส่วนตัว"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด