ตอนที่แล้วตอนที่ 123 จดหมายเชียนฮุ่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 125 เด็กหนุ่มยามค่ำ

ตอนที่ 124 ข้อสังเกตของปิง


ปิงเอาเส้นทางมาเทียบดูอย่างระมัดระวังเป็นเวลานาน แล้วส่ายศีรษะ"ตำแหน่งนี้ไม่ถูกต้อง"

"ตำแหน่งไม่ถูกต้อง?" ถังเทียนอึ้ง

"ตำแหน่งของหมู่ดาวกางเขนใต้จะอยู่ตรงกันข้าม"ปิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง" แม้ว่าประตูดวงดาวจะเปลี่ยนได้แต่ตำแหน่งหมู่ดาวจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก"

"จริงหรือปลอม?" ถังเทียนไม่เชื่อปิง

ปิงเบิกตาจ้องดู และกล่าวอย่างหงุดหงิด "เจ้ากำลังสงสัยคนยุคเก่าผู้คุ้นเคยมากกับกองทัพหรือ?"

ถังเทียนรู้สึกละอายใจทันที "เอ่อ..., ลุงก็เห็น เชียนฮุ่ยบอกไว้ก่อนว่ามีหลายที่ซึ่งไม่แน่ใจเต็มร้อย"

ปิงไม่สนใจถังเทียนและกล่าวต่อไป "ประตูดวงดาวสามารถเปลี่ยนได้แน่ แต่ข้าไม่เคยเห็นหมู่ดาวเพอร์ซูสมาก่อน แต่เมื่อคิดดูอีกทีสิ่งที่ค่ายใหญ่เคยพูดไว้ก่อนนั้น ยังคงมีอีกทางหนึ่ง"

ถังเทียนดูเหมือนจะได้ยินสิ่งที่เขาพูดและเขาถูกปลุกขึ้น "ทางไหน?"

"จากตำหนักวิญญาณพลังยุทธ เข้าไปในภูมิภาคจิตวิญญาณ มีเส้นทางหนึ่งอยู่ที่นั่นซึ่งตัดตรงถึงค่ายใหญ่  เมื่อในอดีต หลายคนเคยเดินผ่านทางนั้น  แต่ถนนเส้นนั้นไม่ง่ายที่จะผ่านเข้าไป"ปิงอธิบาย

"อย่างนั้นก็เยี่ยมเลย!" ถังเทียนร้องลั่น โบกมือในอากาศ "งั้นไปกันเถอะ, ไปกัน"

ปิงกลอกตา "ข้าบอกแล้วว่าถนนเส้นนั้นไม่ง่ายที่จะเดินผ่านไปได้"

"ที่ว่าไม่ง่าย หมายความว่าไง?" ถังเทียนถาม

"ถนนเส้นนั้นเมื่อในอดีตสามารถใช้ได้แต่เพียงทหารชั้นผู้ใหญ่"ปิงจ้องมองถังเทียนและขมวดคิ้ว "พ่อหนุ่ม ฝีมือเจ้ายังอ่อนหัดมากนัก!"

"ทหารชั้นผู้ใหญ่?"  ถังเทียนขมวดคิ้ว ถ้าเป็นในอดีตเขาคงไม่เห็นด้วยกับวิธีพูดของปิงแน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่เพราะประสบการณ์กับห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงที่เขาต่อสู้อยู่  เขาเข้าใจแล้วว่า ทหารชั้นผู้ใหญ่ก็หมายความว่ามีความแข็งแกร่งมาก

ปิงแหงนหน้ามองฟ้า ทำสีหน้าเหมือนคิดลึก และกล่าวทันที "ข้าไม่อาจระบุได้แน่นอน  ที่สำคัญคือมันผ่านมานานหลายปีแล้ว ข้าไม่อาจรับรองได้ว่าอสูรดวงดาวในอดีตอาจไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้วก็ได้  เราแค่ไปที่นั่นและตรวจสอบดูให้ชัดก็ได้"

ถังเทียนผงกศีรษะทันที "ใช่แล้ว จริงด้วย!"

"อย่างนั้นเจ้าต้องไปบอกลาพวกเขาเสียก่อน" ปิงเตือนถังเทียน"ครั้งนี้เราอาจต้องอยู่ในภูมิภาควิญญาณเป็นเวลานานก็ได้"

ถังเทียนรู้สึกว่าปิงพูดถูก และเดินเข้าไปบอกลาลุงเฉียน  ลุงเฉียนเดาว่าถังเทียนต้องการไปตามหาคุณหนู ดังนั้นจึงไม่รั้งเขาไว้และยังมอบหินดวงดาวและแก่นพลังวิญญาณให้ถังเทียนอีกมาก

กระเป๋าที่แห้งของถังเทียนจึงเต็มอีกครั้ง

ออกจากตระกูลซ่างกวน ถังเทียนหามุมที่ไม่มีใครเห็นและเข้าไปในห้องจิตวิญญาณพลังยุทธ หลังจากนั้นก็เข้าเมืองสามวิญญาณ

จากเมื่อครั้งที่เขาจากมา เมืองสามวิญญาณไม่เปลี่ยนไปมาก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลินทำให้ดูผิวเผินแล้วเมืองสามวิญญาณกลายเป็นเมืองที่ซบเซา  จำนวนผู้คนบนท้องถนนลดลง  ถังเทียนไม่ได้สงสัยข้องใจอะไร เขามุ่งหน้ากลับไปที่คลังอาวุธทหาร

ถังเทียนพบเซรีนอยู่ในคลังอาวุธ

แต่เมื่อได้เห็นเซรีนซึ่งจะว่าเหมือนคนก็ไม่ใช่ เหมือนผีก็ไม่เชิง  ถังเทียนแทบจำนางไม่ได้  ผมของนางยุ่งเหยิงและใบหน้ามอมแมมเสื้อผ้ารุ่งริ่งไม่เรียบร้อยดูคล้ายกับอู่กวง

เมื่อเซรีนเห็นถังเทียน ก็ทำเป็นเหมือนกับว่านางไม่เห็นอะไร ขณะที่ยังคงพึมพำบางอย่าง

"สตรีนางนี้ยังไม่ได้เสียสติใช่ไหม?" ถังเทียนถามปิงอย่างกังวล

ปิงกลับตรงกันข้าม ดูเหมือนจะมีประสบการณ์และความรู้ "คนอย่างพวกเขาก็เป็นเช่นนั้นเอง ทันทีที่พวกเขาพบบางอย่างที่พวกเขาหมกมุ่นได้  พวกเขาก็จะทิ้งชีวิตตัวเอง หึหึเมื่อไม่กี่พันปีก่อน ช่างจักรกลก็เป็นแบบนี้ทุกคนและดูเหมือนช่างจักรกลในยุคปัจจุบันก็ยังมีนิสัยเหมือนกัน"

จากน้ำเสียงของปิง ถังเทียนได้ยินว่ามีคงต้องมีช่างเครื่องกลบางคนคงเคยมีเรื่องกับเขามาก่อน

"เฮ้, เซรีน!"ถังเทียนตะโกน ตอนแรกเซรีนไม่ได้ยินเสียงตะโกน ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือก ได้แต่ขึ้นเสียงตะโกนให้ดังขึ้น

ครั้งนี้เซรีนได้ยินเขา  ตาของนางค่อยๆเพ่งมอง เมื่อเห็นเป็นถังเทียน นางตะโกนกลับ "เจ้ามาแล้วเหรอ"พูดเสร็จก็หมุนตัวและเดินออกไป

เมื่อเห็นเช่นนี้ ถังเทียนขมวดคิ้ว โดยไม่พูดอะไรสักคำเขาก้าวเท้ายาวและคว้าตัวเซรีนไว้ หันมาถามปิง "ที่นี่มีบ่อน้ำบ้างไหม?"

เซรีนสบถด้วยความโมโห "เจ้าจะทำอะไร? อย่ามาทำข้าเสียเวลา"

ปิงแสดงท่าทางว่าไม่ต้องห่วงข้า และชี้ไปที่ด้านหลังถังเทียน"ข้างหลังเจ้า เดินไปประมาณ 200 เมตรจากนั้นเลี้ยวขวา"

ถังเทียนไม่พูดอะไรสักคำ ลากเซรีนไปตามทางเดินที่ปิงบอก

เซรีนสะบัดมือเขา แต่ถังเทียนไม่สนใจนาง ผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องการมีชีวิตหรือไง  เมื่อเห็นเส้นเลือดในตานาง เขารู้เลยว่านางไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว

พวกเขาพบสระน้ำและลำรางน้ำบรอนซ์ที่มีสายน้ำไหลลงสระ

พอถังเทียนจับเซรีนโยน นางกรี๊ดลั่นลอยละลิ่วลงสระ

หยดน้ำนับไม่ถ้วนกระเด็นขึ้นมา

"ตอนนี้อาบน้ำได้แล้ว ถ้าเจ้ายังส่งเสียงโวยวายลั่นอีกอย่าหวังว่าจะได้แตะต้องอาวุธจักรกลต่อไปในอนาคตอีกเลย"

หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว ถังเทียนก็หมุนตัวเดินออกมา

เซรีนเตรียมจะอ้าปากด่า แต่ทันใดนั้นก็ไม่สามารถพูดออกมาได้  คำพูดถังเทียนกระทบจุดอ่อนนางไม่ยอมให้นางได้แตะต้องอาวุธจักรกล แย่ยิ่งกว่าฆ่านางเสียอีก

นางดำน้ำ เนื่องจากไม่มีทางเลือกก็ต้องยอม

เซรีนประพฤติตัวดีทันที

※※※※※

"พ่อหนุ่ม ข้าไม่เห็นด้วยเลยว่าเจ้าจะต้องโกรธหงุดหงิดอย่างนั้น" ปิงประหลาดใจ

ถังเทียนมีท่าทีปกติ"นั่นเป็นเพราะลุงมองผิด หนุ่มน้อยชาวฟ้ายังจะมีอะไรมาโค่นได้อีกเหรอ?"

เขาตั้งใจลืมเรื่องที่เซรีนทำไว้กับเขา(กัดน้องชาย)

เมื่อมองเห็นชิ้นส่วนและส่วนประกอบเครื่องกลทั้งหมดวางกองอยู่แทบเท้าเขา ถังเทียนรู้ว่าเซรีนอยู่ในช่วงศึกษาทำความเข้าใจในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่จึงได้รื้ออาวุธเครื่องกลนับไม่ถ้วน

ผู้หญิงคนนี้บ้าจริงๆ

ถังเทียนลอบเลียริมฝีปากและอดสรรเสริญนางไม่ได้

ใช้เวลาไม่นานเซรีนก็อาบน้ำเสร็จ

นางเปลี่ยนเสื้อผ้าและรู้สึกสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด ผมเปียกชื้นของนางถูกพาดอยู่ไหล่ ใบหน้านางดูเหมือนจะมีน้ำมีนวลขึ้นซึ่งเดิมทีก็สวยอยู่แล้วทำให้นุ่มนวลบรรยายไม่ถูกและสีหน้าที่รู้สึกอายแฝงความน่าเวทนาอยู่เล็กน้อย

"อย่าเชียวนะ!"เมื่อเห็นสีหน้าของเซรีนแล้ว ถังเทียนรีบยกห้ามนางไว้

เขามีประสบการณ์พลังสตรีมากับตัวเองแล้ว

"ไปพักผ่อนเดี๋ยวนี้เลย"ถังเทียนยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นกันเซรีนไว้ ห้ามไม่ให้เซรีนพูด น้ำเสียงของเขาเข้มงวด  "อย่ามาต่อรองกับข้า ถ้าเจ้าเหนื่อยจนตายข้าจะยิ่งสูญเสียมาก"

เมื่อเห็นว่าเซรีนต้องการพูด  เขาถลึงตามองและขึ้นเสียง"ไม่ต้องมายั่วข้า, ไปเลย"

เซรีนกระโดดผางเตรียมอาละวาดแต่ก็ยอมไปนอนแต่โดยดี

ความจริงนางเหนื่อยล้ามากแล้ว  จิตใจความคิดนางเลือนลางไปหมด  เจ้าเด็กนี่กลายเป็นคนดุร้ายตั้งแต่เมื่อใด

※※※※※

เมื่อเห็นว่าเซรีนไปนอนแล้ว  ถังเทียนและปิงไปตรวจสอบพื้นที่รอบๆ

จากฐานทัพโดยการแนะนำของปิง  ถังเทียนเริ่มเดินลึกเข้าไปในภูมิภาควิญญาณ  หยาหยาเหมือนกับว่าได้กลับมาบ้านของมัน ตื่นเต้นกระตือรือร้นและตลอดการเดินทางมันจะส่งเสียงดังยี้ย้าตลอดเวลา

ขนาดของหยาหยาไม่เปลี่ยน แต่ลายเส้นเกราะบนร่างกายของมันชัดเจนยิ่งขึ้น  แต่ที่เปลี่ยนชัดเจนที่สุดก็คือบนหลังของมันเพิ่มธงเล็กๆ ขึ้นมา

"ระวังนะ, สถานที่นี้เคยมีภูตอสูรดวงดาวอยู่หลายตัว"ปิงเตือนถังเทียน "จากสิ่งที่ข้าเห็น จุดที่เราอยู่ตรงนี้ก็คือภูมิภาคล่าวิญญาณ สังเกตดูหยาหยา แม้ว่าตัวอ่อนขุนพลวิญญาณจะอ่อนแอมาก แต่มันก็คล่องแคล่วว่องไวมาก"

ภูมิภาคล่าวิญญาณเป็นพื้นที่อันตรายมากและบางครั้งพวกเขาจะพบเห็นพวกนักสู้ผู้ตามล่าแก่นพลังวิญญาณภายใน  แต่จุดที่ปิงนำทางไปเป็นพื้นที่ปลอดจากร่องรอยโจมตีถังเทียนจึงไม่พบนักสู้เลยแม้สักคนเดียว

ทันใดนั้นหยาหยาเงียบเสียงลง ธงเล็กๆ บนหลังของมันหยุดโบกพริ้ว มันย่อเอวลงสายตาจ้องดูข้างหน้า ทำหน้าเหมือนทหารลาดตระเวณ

ถังเทียนระมัดระวังตัวทันที

ตรงไปข้างหน้าดูเหมือนจะมีรัศมีสีแดงกระพริบอยู่

ทันใดนั้นเสียงรัวที่เกิดจากหัวใจเต้นแรงดังออกมา

"มันคืองูภูตดวงดาว"ปิงเตือนถังเทียน

ความเร็วของงูภูตเร็วกว่าที่ถังเทียนคาดไว้ มันไวมากจนแทบจะมาปรากฏต่อหน้าต่อตาเขาทันที งูมีขนาดยาวสามเมตรหนาเท่าแขนของคนโตเต็มวัย บนร่างของมันมีเกล็ดเป็นบรอนซ์อย่างดีเกล็ดเหล่านี้เหมือนมีการออกแบบที่ซับซ้อน แต่สิ่งที่ทำให้ถังเทียนสั่นกลับเป็นหัวงู

ในกลางหัวงูสามเหลี่ยมมีใบหน้าที่ใกล้เคียงกับมนุษย์อย่างน่าทึ่ง

"ภูตอสูรดวงดาวเหล่านี้หลังจากดูดซับชิ้นส่วนจิตวิญญาณพลังยุทธโบราณแล้วก็จะมีลักษณะอย่างมนุษย์"เสียงของปิงหนักแน่นมาก และเขาลดเสียงลง "เจ้าต้องระมัดระวังให้มาก  มันแข็งแกร่งกว่าภูตอสูรดวงดาวธรรมดาเจ้าลองสู้กับมันได้ แต่ถ้าสู้ไม่ได้ ให้วิ่งหนีซะ  เราค่อยมาเวลาอื่นได้"

ถังเทียนพยักหน้าไม่พูดอะไรสักคำ เกราะนกยูงครามปรากฏบนร่างของเขา

ช่วงตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ถังเทียนใช้จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของตนเองหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณพลังยุทธของเกราะนกยูงคราม

เกราะนกยูงครามจึงแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

การเผาไหม้ของถุงมือหมู่ดาวเตาหลอมทำให้ถังเทียนรู้สึกว่าสมบัติของเขามีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ในอดีตสมบัติสำหรับเขาก็เป็นเพียงแค่สมบัติ  แต่บัดนี้ เขาเห็นพวกมันเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิต

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความคิดเช่นนี้หรือไม่แต่ความสัมพันธ์ระหว่างถังเทียนกับสมบัติกลายเป็นใกล้ชิดกันมากขึ้น

ในท่ามกลางขนนกยูงทุกเส้นจะมีลายเส้นสีเงินบางๆเพิ่มขึ้นมา คลื่นพลังออกมาพร้อมกับเกราะและถังเทียนรู้สึกได้ว่าตัวของเขาเองเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง

ถังเทียนตั้งท่าป้องกันและจ้องดูงูภูตดวงดาวที่อยู่ต่อหน้าเขา

นัยน์ตาเย็นชาของงูภูตดวงดาวจ้องถังเทียนกลับใบหน้าที่ไม่มีความรู้สึกดูเหมือนจะแฝงไว้ด้วยความชั่วร้ายอุณหภูมิโดยรอบลดลงกระทันหัน และรอบๆ ตัวงูภูตดวงดาว มีเกล็ดหิมะเริ่มตก

สีหน้าถังเทียนเปลี่ยน

เหมือนกับว่ารับรู้ได้ทันที งูภูตดวงดาวที่อยู่ต่อหน้าเขามีระดับที่สูงกว่าภูตอสูรดวงดาวที่เขาเคยพบมาก่อน

ระดับหก!

ทันใดนั้นงูภูตดวงดาวอ้าปากของมันและพ่นควันรูปร่างกลมออกมา ทันทีที่ออกมาจากปากของมันกลุ่มก้อนควันก็ขยายอย่างรวดเร็ว

จุดพื้นที่ๆหมอกพ่นผ่านจะกลายเป็นชั้นน้ำแข็งเคลือบอยู่ด้านบน

ขณะที่กลุ่มก้อนหมอกลอยมาถึงหน้าถังเทียนก็ดูเหมือนมีกำแพงน้ำแข็ง กดดันใส่เขา

ถังเทียนไม่เคลื่อนไหวหลบงูภูตดวงดาวต่อหน้าเขาจะช่วยให้เขาประเมินถึงอันตรายที่ยังมาไม่ถึง  ถ้าเขาไม่สามารถรับมืองูภูตดวงดาว  อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถล่วงลึกลงไปได้  ยิ่งเส้นทางไกลออกไป  ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น

อย่างไรก็ตามจากที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้ นับว่าเขาเติบโตแล้ว

ขุนพลวิญญาณกรงเล็บภูตพรายและอู่กวงสร้างความตกตะลึงให้กับถังเทียนบางอย่างที่เขาไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใจว่าวิชาต่อสู้ที่แท้จริงสามารถทำให้เกิดพลังทำลายล้างรุนแรงได้

ถังเทียนนับว่าได้เปิดโลกทรรศน์สู่โลกใหม่

เขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธระดับสูง  แต่ยังคงฝึกหมัดสะท้านฟ้าต่อบางสิ่งบางอย่างที่เขาทำให้สมบูรณ์แบบแล้ว ก็สามารถฝึกเคล็ดสังหารได้

แรงสั่นสะเทือน เป้าหมายของเขาคือเข้าใจถึงแก่นแท้แรงสั่นสะเทือน

บุรุษหนุ่มผู้นี้จะไม่รามือลงแน่นอน

สีหน้าของถังเทียนสงบและมั่นคง  เขาย่อเอวเหยียดมือขวาออกไปข้างหน้า และจู่ๆอากาศที่ว่างเปล่าก็สั่นสะเทือนทันทีราวกับว่าเขาคว้าจับความสั่นสะเทือนนั้นได้จากอากาศอากาศโดยรอบเริ่มสั่นสะเทือน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด