ตอนที่แล้วตอนที่ 118 หั่วฉี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 120 กรงเล็บภูตพราย!

ตอนที่ 119 ปลุกวิญญาณ


ถังเทียนเริ่มก้าวเดินไปบนพื้นโดยไม่คาดคิดอะไรและฝุ่นดินใต้เท้าเขาระเบิดดังปังทันที ในท่ามกลางเศษดินที่ร่วงลงเหมือนฝนในทุกที่ร่างถังเทียนหายวับทันที

ชั่วเวลาต่อมาถังเทียนมาปรากฏข้างตัวหั่วฉี

เลือดในตัวเขากำลังเดือดพล่านด้วยพลังงานซึมซาบไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย

สัญชาตญาณของเขาชัดเจนขึ้น การควบคุมการโคจรของพลังปราณเที่ยงแท้ทำได้ไม่ยาก  ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังไม่สิ้นสุดแค่อาศัยพลังของเขา ถังเทียนรู้สึกว่าเขาสามารถฆ่าช้างให้ตายได้ในหมัดเดียว

นี่เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนอยู่ในสภาวะคลั่งแต่ไม่สูญเสียการควบคุมตนเอง  ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติเขาคงประหลาดใจตนเองแทบบ้าไปแล้ว

แต่ตอนนี้ความรู้สึกของเขาให้ความสำคัญอยู่ข้างหน้า ภายในดวงตาสีแดงของเขา มีแต่เพียงหั่วฉีเท่านั้น

พื้นที่การมองของเขาเลือนลาง  ขณะที่เขาเหินบินด้วยความเร็วสูง  แขนขวาของเขามีเพลิงสีเขียวลุกโพลง อบอุ่นและกล้าแข็ง

หั่วฉีคิดจะก้าวหลบฉากและในสายตาถังเทียน นี่เป็นครั้งแรกที่ความเคลื่อนไหวของเขากลายเป็นชัดเจนมาก

ตอนนี้แหละ!

ทันใดนั้นถังเทียนตวาดลั่น  ถ่ายเทพลังทั้งหมดและฝากความหวังไว้ในหมัดนี้เสียงเพลิงลุกโหมและระเบิดออกมา

หมัดนี้จะไม่ทำให้ปณิธานของเจ้าผิดหวังแน่นอน

เปลวเพลิงในดวงตาแดงฉานของเขาฉายประกายหมัดของถังเทียนต่อยถูกร่างของหั่วฉี

เคล็ดสังหารสะท้านสุญญากาศ

บอลแสงโปร่งใสปลิวออกมาเหมือนฟองน้ำอย่างเงียบและคลุมร่างหั่วฉีไว้ทั้งหมดและสิ่งที่ประหลาดพลันอุบัติคือ บอลสุญญากาศปรากฏแสงเขียวเลือนลาง

ภายในบอลสุญญากาศเขียวตาสีแดงแปลกประหลาดของหั่วฉีแสดงอาการตื่นเต้นเป็นครั้งแรก

เป๊าะ

บอลสุญญากาศขนาดมหึมาไม่เคยปรากฏมาก่อนแตกตัว

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

กระแสอากาศบางเหมือนมีดนับไม่ถ้วนไหลมาจากทุกตำแหน่งวิ่งเข้าหาหั่วฉีอย่างเมามัน

ประกายหวาดกลัวพาดผ่านสายตาของหั่วฉีและมือทั้งสองของเขากุมศีรษะ ขณะที่เขางอตัว

ปุ ปุ ปุ!

มีดอากาศบางเบาแทงเข้าร่างของหั่วฉีที่ตัวงอเป็นกุ้ง  ร่างของเขาเป็นเหมือนตะแกรงที่สั่นสะท้าน

"อ๊า.."บุรุษร่างสูงร้องออกมา เหมือนกับว่าเขากำลังถูกโจมตีทำร้ายด้วยพลังที่มองไม่เห็นจนเขาปลิว

ปัง!

ฟองเพลิงสีเขียวนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างของหั่วฉีและพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า

หั่วฉีผู้ถูกบอลเพลิงเขียวห่อหุ้มไว้ร้องโหยหวนอยู่ภายในเปลวเพลิงสีเขียว

ถังเทียนคุกเข่าหอบหายใจตาเบิกกว้าง จ้องมองหั่วฉีกลิ้งเกลือกอยู่ในเปลวเพลิง  หมัดนั้นสูบเอาเรี่ยวแรงของเขาไปทั้งหมด

เราชนะหรือเปล่า...?

จิตใจของถังเทียนว่างเปล่า  หลังจากใช้พลังของเขาไปทั้งหมด

เสียงร้องโหยหวนของบุรุษร่างสูงยิ่งดูโศกเศร้าอาดูรเพลิงสีเขียวเผาผลาญร่างเขาจนถึงปลายนิ้ว สีหน้าของเขาแสดงความหวาดกลัวและสิ้นหวังขณะที่เพลิงสีเขียวเหมือนหนอนไชกระดูกพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา

จุดที่ถูกไฟไหม้ไม่ทิ้งไว้แม้แต่ขี้เถ้า

นัยน์ตาของบุรุษร่างสูงฉายประกายแห่งความกลัว  ทันใดนั้นเขาส่งเสียงกู่ร้อง

หั่วฉีที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่ในเปลวไฟสีเขียวกลิ้งทับเปลวเพลิงก่อนจะโดดเข้าไปในร่างของบุรุษร่างสูง  และเขากลายเป็นคนที่มีเปลวเพลิงลุกติดตัวทันที

"อ๊า อ๊า อ๊าอ๊า!" บุรุษร่างสูงร้องลั่นด้วยเสียงแหลมสูงความเจ็บปวดผสานกับเสียงร้องโหยหวนทำให้ร่างเขาสั่นรุนแรง กล้ามและเนื้อบนร่างของเขากำลังไหลและละลายเหมือนดินน้ำมันเป็นฉากภาพที่น่าสยดสยอง

ใครก็ตามที่ได้เห็นประจักษ์กับภาพที่เกิดขึ้นข้างหน้าคงตกตะลึงอย่างหนัก

น่ากลัวมาก...เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ถังเทียนจ้องมองบุรุษร่างสูงอย่างว่างเปล่าฉากภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขานั้นเกินความรู้ของเขาไปมาก.... เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ทันใดนั้นความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งกับบุรุษร่างสูงในฐานะเป็นศูนย์กลางส่งเสียงดังได้ยินทั่วทุกที่

เปลวเพลิงบนร่างของบุรุษตัวสูงค่อยๆมอดลงอย่างช้าๆ ร่างของเขามาปรากฏต่อหน้าถังเทียน หน้าของเขากลับคล้ายหั่วฉี และสิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือเขามีตาที่แดงคล้ายกับตาของหั่วฉี และผิวของเขากลายเป็นสีเทา

"ฮ่าฮ่า" บุรุษร่างสูงหัวเราะด้วยเสียงที่แหบแห้ง"ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะบังคับให้ข้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้  อย่างไรก็ตาม ข้ายังต้องขอบคุณเจ้าถ้าไม่อย่างนั้น ข้าจะสามารถหลอมรวมร่างกับหั่วฉีได้อย่างไร?"

"หลอมรวมร่าง?"  ถังเทียนจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างระแวง

"ถูกแล้ว! นี่คือการรวมร่าง"บุรุษร่างสูงพูดอย่างภูมิใจ "การค้นคว้าการ์ดวิญญาณไกลเกินกว่าความรู้ของเจ้าจะเข้าใจได้  ชะตาของหั่วฉีและกำเนิดของข้าเป็นของข้า เขาเขา,  แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าข้าคงไม่มีทางพยายามรวมร่างแน่ ระดับความล้มเหลวสูงมาก ดังนั้นข้าต้องขอบคุณเจ้า"

เขามองดูที่มือของตนเองซึ่งเดิมทีไหม้จากเพลิงสีเขียว  ตอนนี้มือคู่นั้นฟื้นฟูดีแล้ว

เขาเป็นเหมือนกำลังพร่ำเพ้อ  "นี่คือพลังที่แท้จริง!  มันทำให้คนมึนเมาและทำให้ผู้เสพติดมัน  ดังนั้นจากวันนี้เป็นต้นไป ตัวข้าเรียกว่าหั่วฉี"

ทันใดนั้นเขาเงยหน้าขึ้นหน้าของเขาเหมือนคนกำลังเพ้อเจ้อ "เป็นไงบ้าง? เจ้าตื่นเต้นไหม?ตราบใดที่เจ้าเข้าร่วมกับเรา เจ้าก็สามารถบรรลุพลังเช่นนี้ได้”

"นี่คือโอกาสสุดท้ายที่ข้าให้เจ้าแล้ว"  บุรุษร่างสูงพูดอย่างใจเย็นพร้อมกับแผ่รังสีฆ่าฟันออกมาด้วย

ทันใดนั้นมีลมพัดมาวูบหนึ่ง

ร่างผอมแห้งร่างหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน

※※※※※※

ในห้องจิตวิญญาณพลังยุทธ เสียงของปิงดังลอยออกมา

"ในช่วงเวลายุคของเรา ไม่มีคนประหลาดอย่างนั้น โลกนี้ก้าวหน้าไปมากจนทำให้ข้ารู้สึกว่างเปล่า เจ้าก็รู้ ข้าเป็นคนประเภทครูฝึกทหารใจก็มักจะนึกถึงเรื่องเก่าๆ เสมอ"

ปิงอยู่ในอีกด้านหนึ่ง รีบโยนแก่นพลังวิญญาณเข้าไปในร่างของผู้เฒ่าหนงกรงเล็บภูตพรายและอีกทางหนึ่งก็พูดลอยๆ "ข้าไม่มีโอกาส ข้าไม่ใช่ขุนพลวิญญาณประเภทต่อสู้ถ้าแค่เอาชนะพวกสวะเล็กน้อย ข้าสามารถทำได้  แต่เจ้าตัวใหญ่นี้ คงต้องขึ้นอยู่กับเจ้า ขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งและประหลาดอย่างนั้น ในยุคของเราพบเห็นได้ยาก  นอกจากว่าเป็นเพราะวิทยาการใหม่ๆ?  เป็นไปได้แต่ทำให้ตนเองกลายเป็นสภาพไม่คล้ายมนุษย์ ไม่คล้ายวิญญาณ พลังแบบนี้  ราคาที่เจ้าต้องจ่ายออกไปมากมายขนาดไหน?"

"ครั้งนี้ข้าต้องเสี่ยงดวงเอาอย่างหนักทั้งหมดนี้เป็นแก่นพลังวิญญาณระดับเจ็ดพลังของเจ้าจะได้รับการรักษาไว้ในระดับสูงสุด ช่วงสุดยอดของเจ้าเมื่อเวลาเจ้ามีชีวิตคงเป็นระยะเวลาสั้นๆ  แม้ว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้ายังเหลืออยู่น้อยมาก แต่ข้ารู้ว่าเจ้ายังคงไม่พอใจระดับความเชี่ยวชาญของกรงเล็บภูตพรายที่เจ้าบัญญัติขึ้นมากรงเล็บเพลิงภูตพรายจะหายไปอย่างไม่คาดคิดใช่ไหม?”

แก่นวิญญาณระดับเจ็ดทั้งสิบเม็ดถังเทียนต้องใช้คะแนนถึงพันคะแนนแลกซื้อมา ถ้าไม่ใช่เพราะปิงขอร้องจริงจัง ถังเทียนคงไม่ยินดีซื้อมาเองแน่

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แก่นวิญญาณระดับเจ็ดเป็นเหมือนกับโยนเงินทิ้งออกไป  ขณะที่มันถูกเติมเข้าในร่างกรงเล็บภูตพราย

"แม้ตายไปแล้วเจ้าก็ยังไม่พอใจ..."

พลังงานจิตวิญญาณจากแก่นพลังวิญญาณระดับเจ็ดเพิ่มขึ้นเรื่อง แก่นพลังวิญญาณทุกเม็ดที่เข้าไปในร่างของกรงเล็บภูตพรายทำให้เกิดระลอกแสง  แสงเปล่งออกมาจากขาของผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายจากนั้นก็เป็นลำตัวไล่ไปจนถึงศีรษะ

ทุกครั้งที่รัศมีแสงกวาดผ่าน ร่างของผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายก็ชัดเจนขึ้น ร่างของผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายผอมบางเหมือนท่อนฟืนสีหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์ ตาของเขาลึกสงบเหมือนท้องฟ้ายามราตรี

"อย่างไรก็ตามโชคของเจ้านับว่าดีที่สามารถมาพบกับเจ้างี่เง่านั่น  ดูเหมือนเจ้ามีโอกาสจะได้ออกไปสู้อีกครั้ง  เป็นยังไงเล่า?  เจ้าต้องการหาความตื่นเต้นใช่แล้ว กรงเล็บเพลิงภูตพรายของเจ้าจะได้จุดประกายในโลกอีกครั้ง  เจ้าจะได้เข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง หลังจากสั่งสมความไม่พอใจและความภูมิใจทั้งหมดมาเป็นเวลานาน  ทั้งหมดจะได้รับการปลดปล่อย"

"เจ้าตื่นเต้นไม่ใช่หรือ?"  ปิงพึมพำกับตนเอง  น้ำเสียงของเขาค่อยๆ เบาลง และอดไม่ได้ที่มีความเสียใจแทรกเข้ามาด้วย "ถ้าผู้นำและกลุ่มเจ้าบ้าพวกนั้นได้โอกาสเช่นนี้  บางทีพวกเขาอาจก่อเรื่องได้ชนิดพลิกฟ้าคว่ำดินแน่นอน.."

"น่าเสียดาย,พวกเขาไม่มีโอกาส"

ปิงเงยหน้า ที่เขียนใบหน้าเหมือนหน้าไพ่ มีแววเสียใจเลือนลางแต่เขาก็ยังยิ้มได้

"แต่เจ้ามีโอกาสทำเช่นนั้น"

รอยยิ้มบนใบหน้าของปิงหายไป เขามองผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายเคร่งเครียดและกล่าวย้ำทีละคำ

"เจ้าต้องทุ่มเทพลังและต่อสู้!"

ฮื่อ!

ภายในดวงตาที่ลึกและสงบของกรงเล็บภูตพรายมีเปลวเพลิงลุกอยู่เงียบๆ

หน้าของปิงกลายเป็นสีแดงเขาตบไหล่ผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายจ้องมองตาเหมือนกับให้กำลังใจทหารที่กำลังจะเข้าสู่สงครามครั้งแรก  เขาตะโกน "ไป ไป สู้เขาจอมยุทธหนงกรงเล็บภูตพราย"

"จงเอาความค้างคาใจ และพกพาความภาคภูมิใจของเจ้าออกไปสู้!"

"กรงเล็บเพลิงภูตพราย จงเปล่งประกายของเจ้า  เจ้าต้องแผดเผาตาของพวกเขาได้อย่างแน่นอน!"

ฮื่อ!

กรงเล็บภูตพรายหายไปกับสายลม

※※※※※

ถังเทียนจ้องมองร่างผอมแห้งข้างหน้าเขาอย่างว่างเปล่า

นั่นผีกรงเล็บภูตพรายนี่

ผีกรงเล็บภูตพรายมีร่างกายผอมเหมือนไม้ฟืนคอยปกป้องอยู่ข้างหน้าถังเทียนเงียบๆ

"เอ๋? ขุนพลวิญญาณหรือนี่?" หั่วฉีประหลาดใจ  แต่เหมือนกับว่าเขาเห็นภาพตลก  เขาหัวเราะดังลั่น  "ข้ากำลังดูอะไรอยู่กันแน่? ขุนพลวิญญาณ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!โอว! พระเจ้า ใครกันบังอาจมาเล่นขุนพลวิญญาณต่อหน้าข้า?ตลกเกินไปแล้ว, นี่เหมือนกับเป็นการแสดงทักษะที่อ่อนแอของเจ้าก่อนจะกลายเป็นยอดฝีมือหรือเปล่า? โอ โอ โอ, ข้าเสียมารยาทไปหน่อย, ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้,ฮ่าฮ่าฮ่า!"

ถังเทียนตะลึงชั่วขณะ แต่เขาเรียกสติคืนมาได้ทันที

ปิง!

ต้องเป็นปิงที่ทำเช่นนี้ แต่ทำไมปิงถึงไม่ออกมาเองเล่า?

และ...ผีกรงเล็บภูตพรายที่อยู่ต่อหน้าเขา..ก็ให้ความรู้สึกที่ประหลาดต่อเขา เป็นความรู้สึกที่แตกต่างอย่างหนึ่ง

แต่.... ศัตรูแข็งแกร่งมาก... กรงเล็บภูตพรายจะต่อสู้ได้ยังไง?

"ปิง!" ถังเทียนร้องเรียกปิงอยู่ในใจอย่างร้อนรน "ทำไมท่านไม่ออกมาเล่า?แค่กรงเล็บภูตพรายตามลำพัง มันอันตรายมาก"

เสียงของปิงเต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย  "ข้าไม่ใช่ขุนพลวิญญาณประเภทต่อสู้  ข้าเป็นแค่ครูฝึกทหาร การวิ่งลุยเข้าไปสู้ไม่ใช่สิ่งที่ข้าทำได้ดี  แต่เจ้าอย่าดูแคลนกรงเล็บภูตพรายจะดีกว่า, ข้าปลุกวิญญาณเขาขึ้นมาเอง"

"ปลุกวิญญาณ?"ถังเทียนอึ้ง

"อืม.. กรงเล็บภูตพรายที่ตื่นขึ้นมานี้จะแข็งแกร่งมาก แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีอะไรก็ตาม แต่ข้าเชื่อว่าวิทยายุทธที่ผ่านการฝึกฝนขัดเกลามาเป็นอย่างดีมักจะกลายเป็นแก่นแท้ของพลังที่แท้จริง"เสียงของปิงเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น

"และผีกรงเล็บภูตพรายก็มีพลังเช่นนั้น!"

เสียงของปิงเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาด

ถังเทียนมองดูฟุ้งซ่าน

เสียงของหั่วฉีหักล้างความคิดฝึกฝนของถังเทียน  "ถ้าเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้  อย่างนั้นข้าจะแสดงให้เจ้าดูสิ่งที่เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของขุนพลวิญญาณ"

ปากของเขาแสยะยิ้มเย็นชา

"ขุนพลวิญญาณของเจ้าจะแข็งแกร่งและดีไหม  แต่ถ้าไม่ใช่ก็เสียเวลาเปล่า  ข้าไม่สนใจขุนพลวิญญาณที่อ่อนแอ"

ทันทีที่เขาพูดจบคำ ร่างของเขาหายวับไปจากตำแหน่งเดิมทันที

กรงเล็บภูตพรายที่อยู่ข้างหน้าถังเทียนเหมือนกับรูปปั้นพลันลืมตาทันที ในดวงตาที่สงบเยือกเย็นเหมือนฟ้ายามราตรี ไม่มีใครเดาออกได้ว่าเป็นความสุขหรือความโกรธกันแน่ที่ซ่อนอยู่ภายในนั้น

เช้ง!

นิ้วทั้งห้าของเขาแห้งกรังพลันงอเป็นเหมือนตะขอที่แข็ง  ขณะที่นิ้วกางออก แรงเสียดสีระหว่างนิ้วเปล่งเสียงออกมาเหมือนเสียงเสียดสีของโลหะ

นิ้วทั้งห้าเป็นเหมือนกรงเล็บวาดผ่านอากาศทันทีปลายกรงเล็บสร้างแรงเสียดทานกับอากาศสร้างเป็นรัศมีแสงสว่างห้าสาย

ประกายแพรวพราวสว่างวาบอยู่ข้างหน้า

ติง!

ประกายที่สว่างกว่าระเบิดออกเผยให้เห็นใบหน้าของหั่วฉีที่จ้องมองอย่างตะลึง

หมัดสีเทาของเขาเล็งค้างอยู่ขางหน้านิ้วที่แห้งกรังนั้นโดยมิอาจเคลื่อนไหวได้สักนิ้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด