ตอนที่แล้วตอนที่ 116 ดังนั้น....
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 118 หั่วฉี

ตอนที่ 117 การเปิดโปง


อวี่จินหงกังวลอย่างหนัก  เขาไม่เคยคาดเลยว่าถังเทียนจะเป็นคนที่คาดเดาได้ยากขนาดนี้

วันนี้ถังเทียนแทบจะสร้างความแค้นเคืองให้กับทุกตระกูลอยู่แล้วแล้วมาถึงตอนนี้เขาจะบังอาจบุกตระกูลอวี่ได้อย่างไร? เขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะโจมตีตระกูลซ่างกวนหรอกหรือ?  เขาไม่กลัวว่าทุกคนจะร่วมมือกันโจมตีหรอกหรือ?

แต่เหลียงชิวที่อยู่ต่อหน้าเขายังคอยพัวพันทำให้เขาไม่สามารถแยกจากไปได้

โธ่เว้ย!

ทันใดนั้นมีเสียงแว่วเข้ามาในหูของเขา

"ทำไมต้องดิ้นรนด้วยเล่า?"

อวี่จินหงมึนงงไปหมด  แต่ก่อนที่เขาจะทันรู้ตัว เขารู้สึกเจ็บที่อกและนัยน์ตาเขาค้างทันที

อกของเขาไม่ทราบมีรูตั้งแต่เมื่อไหร่

เหลียงชิวจ้องมองซือหม่าเซียงซานเย็นชาโดยไม่พูดอะไร

ซือหม่าเซียงซานทำเป็นยิ้มไร้เดียงสา"อาโมรี่และนางงามน้ำแข็งหานไปแล้ว ถ้าเรายังขืนชักช้าเดี๋ยวไม่มีอะไรเหลือให้ดูหรอกนะ”

ซือหม่าเซียงซานแค่นเสียงเย็นชา  ร่างของเขาหายวับไปทันที

เซียงซานหัวเราะและหายไปด้วยเช่นกัน

※※※※※※

บนเสาไฟประภาคาร หมิงจื่อฉวน,หวินอี้เหยาและหั่วเหยียนกวงทั้งสามคนยังรวมตัวกันอยู่  หมิงหย่ง, หวินตี้และหั่วเหยียนซานบินขึ้นมาสมทบบนเสาประภาคารเช่นกันและในที่สุดทุกคนก็โล่งใจที่ทั้งสามคนปลอดภัย

หมิงจื่อฉวนถอนหายใจ "ครั้งนี้เราพลาดครั้งใหญ่เสียแล้ว ช่างไม่รู้อะไรเลย"

หั่วเหยียนกวงคำราม พร้อมกับมีรังสีฆ่าฟันอยู่ในดวงตา"ไปลงนรกเสียเถอะตระกูลอวี่, ข้าจะไปฆ่าอวี่ชิงเจ๋อ!"

คำโกหกของอวี่ชิงเจ๋อและอวี่จินหงสามารถหลอกคนอื่นได้  แต่ไม่ใช่สามคนนี้

หวินอี้เหยาส่ายศีรษะ "เขาตายไปแล้ว  คนที่คล้ายภูตพรายเป็นคนทำ เขาฆ่าอวี่ชิงเจ๋อก่อนแล้วจึงไปฆ่าอวี่จินหง"

"ตระกูลอวี่จบสิ้นแล้วคราวนี้"หมิงจื่อฉวนมีสีหน้าซับซ้อน "ถังเทียนผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ การช่วยเหลือจากเขาจะทำให้ตระกูลซ่างกวนเจริญไปได้อีกสามร้อยปีอย่างแน่นอน"

"และมีแต่เพียงตระกูลอวี่ที่ต้องการสู้กับตระกูลซ่างกวน"หั่วเหยียนกวงพูดเฉื่อยชา"ตระกูลซ่างกวนมักเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของหมู่ดาวเพอร์ซูส คุณหนูเชียนฮุ่ยก็เป็นหมายเลขหนึ่งแห่งหมู่ดาวเพอร์ซูส"

"ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก" หวินอี้เหยาลดเสียง  "ถ้าตระกูลอวี่ไม่มีผู้หนุนหลัง  พวกเขาจะกล้าทำได้อย่างไร?  เรามาดูกันเถอะผู้หนุนหลังตระกูลอวี่จะยื่นมือออกมาช่วยเหลือหรือไม่"

อีกสองคนพูดเป็นนัย พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับผู้หนุนหลังลึกลับตระกูลอวี่

"ผู้ช่วยถังเทียนก็แข็งแกร่งนะ" หวินตี้ผิวปาก  เขาแพ้ตกเป็นรองผู้หญิงในวันนี้  แต่เขาก็ยังใจเย็นอยู่ได้

"นั่นน่ะสิ! เบื้องหลังถังเทียนก็ไม่ธรรมดา" หมิงหย่งพูดเสียงในลำคอ  "ยอดฝีมือเหล่านี้เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาไม่มีผู้หนุนหลังใดๆ"

"ข้าเกรงว่าจะมีอิทธิพลมากเสียด้วย"หั่วเหยียนซานพยักหน้า

"เราจะคอยดูกันไป" หมิงจื่อฉวนถอนหายใจ"โชคดีที่เรื่องของเราจบลงในเวลาสั้นๆ แบบนี้  แม้ว่าจะน่าขายหน้าอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ลากตระกูลของพวกเราเข้าไปร่วมด้วย"

หวินอี้เหยาและหั่วเหยียนกวงยังคงเงียบ

พวกเขาทั้งสามเป็นผู้นำของคนรุ่นใหม่  แต่เมื่อเทียบกับถังเทียนแล้วพวกเขาตระหนักว่า กลายเป็นคนละระดับกับพวกเขา

นี่ถือว่าทำให้คนหยิ่งยโสทั้งสามคนนี้ยอมรับความพ่ายแพ้

"เราจะไปสังเกตการต่อสู้ไหม?"  หวินอี้เหยาเงยหน้าถาม

"ไปสิ!" หั่วเหยียนกวงกัดฟัน "ทำไมจะไปไม่ได้เล่า! ข้าต้องการดูว่าเขาจะยอดเยี่ยมแค่ไหนกันแน่"

หมิงจื่อฉวนพยักหน้า "การต่อสู้ครั้งนี้เป็นสถานการณ์วิกฤติของหมู่ดาวเพอร์ซูสของพวกเรา"

※※※※※※※

"ทีนี้จะเอายังไง?" บุรุษผู้ไว้หนวดมองดูคนตัวสูง

ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าถังเทียนจะเลือกบุกโจมตี  จากมุมมองที่เขาเห็น เนื่องจากเชียนฮุ่ยไม่อยู่ในช่วงนี้  ตระกูลซ่างกวนคงไม่กล้าตอแยตระกูลอื่น

แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าถังเทียนกลับมาปรากฏตัว  มีความก้าวร้าวมากและคาดเดาไม่ได้

ตอนนี้กำลังใจของตระกูลซ่างกวนอยู่ในระดับสูง  ตระกูลอวี่คงไม่ใช่คู่ต่อกร ตระกูลอวี่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เปี่ยมอันตรายเสียแล้ว

บุรุษตัวสูงขมวดคิ้ว "เจ้านี่ไม่ธรรมดาเลย  ดูสิ ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ เขายังสามารถพลิกสถานการณ์ได้ เขาไม่ได้ห้าวบ้าบิ่นเหมือนลักษณะภายนอกที่เห็นเป็นแน่"

"ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้แล้ว"  บุรุษไว้หนวดขมวดคิ้ว  "ถ้าเราไม่ลงมือ  ตระกูลอวี่จะถูกลบออกไปแน่นอนข้าคิดไม่ออกเลยว่าคนในตระกูลอวี่คนไหนที่จะหยุดเขาได้  นอกจากนี้ เขายังมีผู้ช่วยถึงสี่คน"

คนตัวสูงดูเหมือนเหมือนลังเลเช่นกัน

ถ้าเขายื่นมือช่วยตระกูลอวี่ แน่นอนว่าตระกูลอวี่จะปลอดภัย  แต่นี่อาจหมายถึงอนาคตต้องขัดแย้งกับสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่ถ้าพวกเขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น  ตระกูลอวี่จะล่มสลายในวันนี้

ฝูงแกะที่นำโดยราชสีห์เพียงพอที่จะฉีกกระชากฝูงหมาป่าได้อย่าว่าแต่ตระกูลซ่างกวนไม่ใช่แกะ

ความกล้าหาญของถังเทียน เป็นการเข้าคู่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

ถ้าตระกูลอวี่ถูกล้มล้าง แผนการของพวกเขาทั้งหมดในหมู่ดาวเพอร์ซูสจะสูญสลาย  ถ้าพวกเขาปล่อยตระกูลอวี่ให้ดูแลตัวเอง  ตระกูลอื่นๆ จะไม่มีทางก้มหัวให้พวกเขาอีกครั้งแน่  ไม่มีการช่วยเหลือจากกองกำลังท้องถิ่น  พวกเขาจะต้องทุ่มพลังเพื่อให้ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ

แต่พวกเขารู้ชัดเจนว่า แม้ว่าเจ้านายสนใจมงกุฏอมตะ เจ้านายอยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจหลายอย่าง แต่เจ้านายไม่เคยถ่ายเทคนมาทางนี้เลยซึ่งก็หมายความว่าแผนจะพัง

ชะตาทั้งสองปิดสนิทแล้ว

"เราไม่อาจปล่อยให้ตระกูลอวี่พินาศอย่างนี้ได้"บุรุษตัวสูงยืนยัน "หลังจากผ่านพ้นไปแล้วปล่อยให้เจ้านายตัดสิน  เราจะต้องปกป้องตระกูลอวี่ไว้ก่อน"

"ดี" บุรุษไว้หนวดไม่ลังใจหายไปทันที

พวกเขาทั้งสองหายไปทันที

※※※※※※

"ปิดประตู! รีบปิดประตู!"

เสียงตะโกนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว  ตระกูลอวี่อยู่ในความยุ่งเหยิง ไม่มีผู้ใดนึกฝันเลยว่าตระกูลซ่างกวนจะกล้าก่อศึก  เชียนฮุ่ยไม่อยู่แน่นอนแล้วทำไมพวกเขาถึงกล้าทำ?

พวกนักสู้ที่ประจำการอยู่ที่หอสังเกตการณ์รู้สึกมึนชาและสั่นกลัวเมื่อเห็นภาพฝูงคนกำลังมา

เสียงฝีเท้าวิ่งผ่านไปนานไม่มีทีท่าหยุด

ครืน ครืน!

แต่ละก้าวเหมือนจะกระแทกลงหัวใจของพวกเขา

ใกล้เข้ามา... ใกล้เข้ามาทุกที

"เตรียมพร้อม!" หัวหน้าหน่วยป้องกันตระกูลตะโกนลั่น  เสียงสั่นเล็กน้อยแต่ตอนนี้เขารู้ว่าช่วงเวลาวิกฤติมาถึงแล้ว "ยิง"

ธนูหลายร้อยดอกถูกระดมยิงออกมา

นักสู้เหล่านี้มีพลังปราณเที่ยงแท้อย่างน้อยระดับสามและเหนือกว่าธนูหลายดอกมีแสงเจิดจ้าหุ้มอยู่และมีพลังน่าตระหนก

ธนูระดมยิงออกมาเป็นสายฝน

อากาศมีเสียงดังหึ่งๆ และเต็มไปด้วยเสียงแหวกอากาศ  ธนูเกือบทั้งหมดเล็งมาที่ถังเทียน  พวกเขารู้ว่าถังเทียนเป็นผู้นำของศัตรู  และตราบใดพวกเขากำจัดถังเทียนได้  พวกเขาก็จะได้ชัยชนะ

แต่ภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏตามมาทำให้พวกเขาหนาวเย็นจรดเท้า

ถังเทียนเป็นเหมือนแรดที่วิ่งเข้าขวิดใส่เขาเงื้อหมัดแล้วชกออก

ปึก

จู่ๆอากาศข้างหน้าเขาดูเหมือนมีแรงอัดเหมือนเป็นกำแพงอากาศ  เมื่อธนูโจมตีใส่กำแพงดูเหมือนว่าจะสะดุดไม่อาจไปต่อได้ ช่วงเวลาต่อมา อากาศก็เต็มไปด้วยลูกธนูซ้อนเป็นชั้นๆ เหมือนหิมะจะถล่ม

หมัดหิมะถล่ม!

ตอนนี้ด้วยปราณเที่ยงแท้ระดับห้าการใช้หมัดหิมะถล่มทลายทำได้ง่ายมาก

ถังเทียนเตะเท้าที่พื้นอย่างหนักทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นเหมือนกระสุนปืนใหญ่ที่ถูกยิงสร้างความสะท้านใจให้กับมือธนูพวกนั้น และเขาได้เข้าประชิดกำแพงด้านล่าง

เมื่อตระกูลอวี่ก่อตั้ง พวกเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะถูกบุกโจมตี

ถังเทียนสูดหายใจลึก ทั้งตัวเต็มไปด้วยปราณเที่ยงแท้ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ  เขาปล่อยหมัดใส่กำแพงที่สร้างด้วยหินน้ำเงิน

ปึ้ก!

หมัดเพลิงเขียวจมหายลงไปในหินน้ำเงินเหมือนกับว่าทำด้วยเต้าหู้

ชั่วนาทีต่อมากำแพงที่อยู่ต่อหน้าเขาก็ทรุดพังทลายลงเหมือนกับหิมะถล่มก้อนกรวดดินกระจายออกมา ที่อยู่ต่อหน้าเป็นช่องสี่เหลี่ยมเปิดกว้างขนาดสองเมตรปรากฏอยู่เหมือนกับว่ามีใครบางคนใช้ดาบตัดกำแพงออกไป

ถังเทียนหายเข้าไปในช่องเปิดแทบจะทันที

ช่วงเวลาต่อมา เขามาปรากฏอยู่ข้างล่างหอสังเกตการณ์ คำรามลั่นด้วยความโกรธและต่อยใส่ไม้หนาที่ค้ำหอสังเกตการณ์

ไม้หนาขนาดอ่างแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ขณะที่เศษไม้ปลิวกระเด็นไปทุกที่

แครก แครก แครก!

หอสังเกตการณ์สูญเสียไม้ค้ำยันก็เริ่มแตกและเอียงช้าๆ  หอสังเกตการณ์โดยปกติจะว่างเปล่าและสร้างขึ้นหยาบๆ ง่ายๆ จึงทำให้อยู่ในสภาพทรุดโทรม

พวกนักสู้ที่อยู่บนหอคอยตะโกนลั่น ขณะที่พวกเขาโยนคันธนูและลูกศรทิ้งและกระโดดลงมาจากหอคอย

ปัง!

หอคอยที่สูญเสียเสาค้ำที่เป็นจุดศูนย์ถ่วงก็ทรุดตัวทันทีทำให้เกิดผงฝุ่นเต็มไปหมด

มีเสียงดังสนั่นอีกเสียงตามติดๆ  แต่ตอนนี้เป็นฝีมืออาโมรี่ที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือการไล่ฟันเสาค้ำหอสังเกตการณ์อื่นๆ

เมื่อไม่มีภัยคุกคามใดๆ จากด้านบน  กำลังใจของทุกคนเพิ่มขึ้นทันที

ถังเทียนมีกลิ่นอายเหมือนกับพยัคฆ์ป่า ไม่มีใครหยุดได้  อาโมรี่ดูเหมือนจะบ้าไปแล้วดาบของเขาไล่ฟันไม่หยุด ดูเหมือนไม่มีใครเป็นคู่ต่อกรของเขาได้

หานปิงหนิงทะยานมาอยู่ด้านข้างถังเทียนและโจมตีโดยไม่คาดคิด แต่ละกระบี่ล้วนแทงถูกเป้าหมาย

ตระกูลอวี่หมิ่นเหม่ต่อการล่มสลาย

"ประมุขตระกูล!" ผู้อาวุโสตระกูลคนหนึ่งตะโกนอย่างเร่งร้อน เมื่อเห็นศิษย์ของตระกูลอวี่ถูกเข่นฆ่าเหมือนปศุสัตว์  เขากังวลใจเป็นอย่างมาก

อวี่หมิงเว่ยโกรธ ได้แต่สูดลมหายใจลึก "รออีกสักหน่อย"

ที่อยู่ข้างๆ เขาคือยอดฝีมือตระกูลอวี่  พวกเขาคือความหวังสุดท้ายสำหรับตระกูลอวี่

เขาต้องคอยต่ออีกเล็กน้อย....

แสงรัศมีสว่างวาบอยู่ต่อหน้าอวี่หมิงเว่ยเขาประหลาดใจอย่างอธิบายไม่ได้และโพล่งขึ้นทันที "พวกเขาอยู่นี่แล้ว"

※※※※※※

ความจริงถังเทียนไม่ล่วงรู้กลยุทธในการรบแต่อย่างใด  ในใจของเขา จะมีเสียงปิงคอยด่าทอเขาไม่หยุดหย่อน  โรคเก่าจากอาชีพเดิมทำให้เขาข่มตัวเองอดใจไม่ไหวเมื่อเห็นถังเทียนวิ่งตะลุยเข้าไปเหมือนคนโง่งม

"ไอ้เจ้าโง่เอ๊ย! ดันวิ่งเข้าไปหาฝูงคน นี่แกจะรีบร้อนไปตายหรือไง?"

"เจ้าไม่เห็นหรือว่าตรงนี้ไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ดี?  นี่เจ้ามีตาอยู่หรือเปล่า?"

"ใช้สมองของเจ้า,สมองน่ะ, มีบ้างไหม!"

……

ถังเทียนกลายเป็นคนหูหนวกไปแล้ว  เขาบ้าจากการต่อสู้ไปแล้ว  ไม่ใช่แค่เขาแต่ศิษย์ในตระกูลซ่างกวนก็พลอยบ้าไปด้วย

ความคิดของถังเทียนง่ายมากเพื่อไม่ทิ้งต้นเหตุความยุ่งยากในอนาคตต่อตระกูลซ่างกวน

เขากับเชียนฮุ่ยจะต้องมุ่งหน้าไปสวรรค์วิถีให้ได้  เส้นทางนี้เต็มไปด้วยอันตราย  จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ยังไม่มีใครรู้

แม้ว่าพวกเขาจากไป พวกเขาจะต้องทิ้งอนาคตที่งดงามไว้ให้ตระกูลซ่างกวน! ต่อให้พวกเขาจากไป ก็ต้องจากไปด้วยจิตใจที่สงบไร้กังวล

ทันใดนั้น มีสายตาเยือกเย็นจ้องมาทางถังเทียน

ถังเทียนชะงัก

เขาสะบัดหน้ามองทันที ในที่ไม่ห่างนักบุรุษร่างสูงคนหนึ่งกำลังจ้องมองเขา

แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือขุนพลวิญญาณข้างคนตัวสูงกลับให้ความรู้สึกที่น่าขนลุก

ม่านตาถังเทียนหดแคบ

เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนั้น! ขุนพลวิญญาณที่อยู่ต่อหน้าเขา ไม่ได้โปร่งแสงมีลักษณะเหมือนแก้วสีเทา  แต่เป็นร่างกายที่แข็งแกร่ง  แต่งกายในชุดนักสู้สีดำ  ผิวด้านนอกเป็นสีเทา  ถังเทียนสามารถเห็นเส้นสายกล้ามเนื้อ  อย่างไรก็ตามผมสีเทากลับดูคล้ายบอลเพลิง

แต่สิ่งที่ทำให้ใจสั่นก็คือ ตาคู่สีแดงน่าขนลุกจนหายใจลำบาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด