ตอนที่แล้วตอนที่ 110 มาหาเรื่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 112 ปะทะหั่วเหยี่ยนกวง

ตอนที่ 111 ความโกรธของชายหนุ่ม


เสียงจากคนที่ล่าไล่หลังเขาเสียงคำราม ถังเทียนไม่สนใจพวกเขา เขาเม้มปากแน่นแหลมเหมือนปลายมีดขณะเขาหรี่ตาที่เย็นชาลึกเหมือนสัตว์ป่า

ไอ้พวกบัดซบ อีกไม่ช้าพวกแกทุกคนจะได้รู้ว่าเมื่อหนุ่มชาวฟ้าโกรธแล้วจะเป็นยังไง!

เชียนฮุ่ยคือจุดอ่อนของถังเทียนซึ่งไม่มีใครเข้าใกล้ได้

ความเร็วของเขารวดเร็วมาก  แม้ว่ารองเท้าม้าบินจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับเกราะนกยูงครามแต่ในที่สุดก็ยังเป็นสมบัติชั้นบรอนซ์ในระดับเดียวกัน จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของถังเทียนได้รับการกระตุ้นและด้วยพลังของรองเท้าม้าบิน พลังจึงถูกปลดปล่อยเต็มที่

กีบเท้าทั้งสี่ของม้ามีพลังเหมือนสปริง ขณะที่พลังมากมายผ่านลงไปที่ขาของเขาถังเป็นเหมือนลูกธนูหลุดออกจากแล่ง สายลมปะทะเข้าที่หูจนได้ยินเสียงลมอื้ออึง

หมิงจื่อฉวนถูกถังเทียนจับตัวไว้แน่นรู้สึกจิตใจสะท้านหวั่นไหว เขาทำเป็นกล่าวอย่างใจเย็น"เจ้าหลบหนีไปไม่ได้หรอก! ยอมแพ้เสียเถอะ!"

"หนีเหรอ?" เสียงหัวเราะดังมาจากด้านบนศีรษะเขาและตามมาด้วยประโยคที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต "เจ้าคิดว่าข้ากำลังหนีหรือ?"

หมิงจื่อฉวนตะลึง  เขาไม่ได้หนีหรือ?  อย่างนั้นเขาก็...

"สบายใจได้กลุ่มตัวเลวร้ายทั้งหมดของพวกเจ้า ข้าจะไม่ปล่อยพวกมันไปแม้แต่คนเดียว"

ถังเทียนตั้งใจวิ่งเขาเงียบและไม่แสดงความกลัวเลยสักนิด ในท่ามกลางเสียงลมหวีดหวิวเขายังสงบอยู่ได้เป็นพิเศษ

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขากล่าวหมิงจื่อฉวนตกตะลึงอีกครั้ง เขาเกือบคิดว่าตนเองได้ยินผิดไป  สมองของเจ้านี่ถูกไฟเผาหมดแล้วหรือไง? เขามองไม่เห็นสถานการณ์ให้ชัดเจนหรอกหรือ?เขาไม่รู้ว่าเขาได้ต่อต้านเป็นศัตรูกับตระกูลที่ทรงพลังของหมู่ดาวเพอร์ซูสไปแล้วหรือนี่?เขาไม่รู้หรือว่าแม้แต่ซ่างกวนเชียนฮุ่ยก็ยังไม่กล้าทำเช่นนั้น....

ลมที่น่ากลัวปะทะเข้ากับหมิงจื่อฉวนจนทำให้เขาไม่สามารถลืมตาได้ แต่ใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่แน่ใจ คำพูดของถังเทียนเต็มไปด้วยความรู้สึกมั่นใจในตนเอง  เหมือนกับว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดกับเขาเป็นเรื่องง่ายๆ

เพราะเหตุผลอะไร?

เพราะเหตุผลอะไรคนผู้นี้ถึงได้มั่นใจในตนเองขนาดนั้น?

หมิงจื่อฉวนคิดหนักแต่เขาก็ยังคิดหาเหตุผลไม่ได้ แต่เนื่องจากเขารับหน้าที่จัดการเรื่องของตระกูลได้เองแล้วมุมมองของเขาจึงมากกว่าคนในวัยเดียวกัน

ถังเทียนมั่นใจในคำพูดของตนเองไม่ใช่กรรโชก แต่....

ทันใดนั้น แขนที่จับเขาอยู่ปล่อยพลังออกมาทำให้เขาเกือบร้องครวญครางออกมา แต่เขารักศักดิ์ศรีมาก เขาพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดไม่ร้องออกมาแม้แต่น้อย

เสียงลมหวีดหวิวที่ข้างหูหยุดลงแล้ว

ร่างของถังเทียนหยุดทันที

หมิงจื่อฉวนตาเบิกกว้างอย่างว่างเปล่าภูมิภาครอบๆ กว้างขวาง เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า แต่ทันใดนั้นนัยน์ตาเขาเป็นประกาย เขามีความสุขทันที ความจริงนี่เป็นที่เปิดกว้าง

เป็นพื้นที่ๆ ดี

เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้างขนาดนั้นจึงเป็นพื้นที่ได้เปรียบอย่างสิ้นเชิงสำหรับเขาและคนอื่นๆ

ไอ้เจ้าโง่นี่กล้าหยุดอยู่ที่นี่จริงๆ

จากจุดนี้เขาได้ข้อสรุปแล้วว่าถังเทียนมีความกล้า แต่ไม่รู้จักวางแผนเจ้าโง่นี่เลือกที่จะหยุดอยู่ตรงนี้

เดี๋ยวก่อน...

เจ้าโง่นี่..พยายามจะทำอะไร...

หมิงจื่อฉวนมองดูถังเทียนล้วงเชือกออกมาจากที่ใดไม่ทราบและมัดเขาอย่างรวดเร็ว

บัดซบเอ๊ย, ข้าจะไม่ปล่อยแกไปแน่!

หมิงจื่อฉวนไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูอย่างนั้นมาก่อน  ตาของเขาฉายแววโกรธแค้น  แต่เขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดยังไง ก็เปล่าประโยชน์เขาได้แต่ทนเงียบหน้าซีดขาว

หลังจากถังเทียนมัดเงื่อนสุดท้ายด้วยความช่ำชองแล้วเขาเงยหน้ามองเสาสูง

ทันใดนั้นใจของหมิงจื่อฉวนเกิดลางสังหรณ์อัปมงคล

แต่น่าเศร้าเขาไม่ทันได้ตอบสนอง แค่รู้สึกว่าตนเองถูกควบคุมไว้  เขารู้ว่าถังเทียนกำลังจะทำอะไรทำให้เขาถึงกับหน้าซีดขาว

"เจ้าทำไม่ได้..."

เขาอ้าปากพยายามห้ามถังเทียน  แต่ถูกลมพัดใส่อย่างรุนแรงจนพูดไม่ออก

ถังเทียนไม่ตั้งใจจะฟังคำพูดของหมิงจื่อฉวนอยู่แแล้ว เขาปีนขึ้นไปบนเสาจากนั้นทิ้งตัวหมิงจื่อฉวนลงมาเหมือนกับลูกมะพร้าวปลายเชือกมัดแน่นกับเสาสูง

หมิงจื่อฉวนห้อยอยู่กลางอากาศขณะนั้นเขารู้สึกอับอายเป็นที่สุด

ไม่เคยมาก่อน...ข้าไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน  ไม่เคยเลย

ข้าจะสับร่างแกให้ได้

หมิงจื่อฉวนได้แต่กัดฟันสาปแช่งในใจแต่เมื่อเหลือบมองจากหางตา เขาเพิ่งเห็นคนอื่นจากจตุรัสสาธารณะเขาจึงต้องหยุดสบถก่อน หน้าของเขาแดงจนดูเหมือนโลหิตจะไหลได้ทุกเมื่อเขาเกลียดที่ไม่สามารถหารูและมุดลงไปซ่อนตัวได้

※※※※※※

ทุกคนที่โผล่มาจากจตุรัสสาธารณะต้องชลอความเร็วลงอย่างช่วยไม่ได้  ภาพที่พวกเขาเห็นอยู่ต่อหน้าทำให้พวกเขาตะลึง

เงาชายหนุ่มคนหนึ่งยืนวางมาดอยู่บนเสาสูงบดบังดวงอาทิตย์ไว้ด้านหลังของเขาเหมือนกับว่าเขาเป็นภาพที่ติดอยู่ในดวงอาทิตย์

เชือกยาวถูกผูกมัดห้อยลงมาผู้ที่ถูกจับมัดห้อยอยู่กลางอากาศก็คือบุตรคนโตของตระกูลหมิง

ทุกคนตกตะลึง

ฉากภาพนี้ทำให้พวกเขาตกใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ปากของพวกเขาอ้าค้าง แต่ไม่มีเสียงรอดออกมาเป็นภาพที่เหลือเชื่อ แต่ก็ไม่สามารถลบภาพเงาโหดร้ายออกไปจากสายตาได้  ขณะที่บุรุษหนุ่มยืนอยู่บนยอดเสาดูเหมือนกับว่าเขามีพลังลึกลับชนิดหนึ่ง

ทั่วทั้งลานกว้างเงียบสงัดขนาดที่เข็มตกทุกคนก็ยังได้ยิน

อวี่ชิงเจ๋อเหม่อลอยเขาคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ของแผนการนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีสักภาพที่จะเป็นเหมือนภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา  เพราะเขาไม่กล้าเชื่อว่าจะมีคนโง่ขนาดนั้นโง่ถึงขนาดกล้าท้าทายตระกูลทั้งหมด

เขาควรจะหัวเราะตอนนี้ผลของแผนการโดดเด่นชัดเจนยิ่งกว่าที่เขาเคยคิด

แต่เพราะเหตุผลที่ไม่ทราบชัดบางอย่าง ทำให้เขาไม่อาจหัวเราะได้  ปากของเขาไม่อาจส่งเสียงเล็ดลอดออกมาได้เพราะต้องการเพ่งมองโดยไม่เสียสมาธิ ร่างของบุรุษหนุ่มบนปลายเสาไม่ได้โดดเด่นหรือแข็งแกร่ง แต่ว่าเปล่งรังสีน่ากลัวที่ทำให้วิญญาณของคนหวาดหวั่นได้

อวี่ชิงเจ๋อไม่รู้ว่าจะอธิบายพลังนั้นอย่างไร

ก็เหมือนกับเขาพร่ำบอกตัวเองว่าร่างของบุรุษหนุ่มบนปลายเสานั้นโอหังลำพองเกินไป...

ใช่แล้ว,,โอหังลำพอง

แต่เจ้าเด็กนั่นหยิ่งผยองขนาดที่ไม่มีผู้ใดกล้าหัวเราะเยาะ

"ถังเทียน! แกตายแน่!"

"ตระกูลหมิงจะไม่ยอมปล่อยแกแน่!"

องครักษ์ของหมิงจื่อฉวนตะโกนด้วยความโกรธทำให้ทุกคนตื่นจากฝัน ทั่วทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยความโกรธ ทุกคนเริ่มด่าทอแม้แต่หวินอี้เหยาผู้มีความอดกลั้นก็ยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อมองเห็นหมิงจื่อฉวนถูกแขวนห้อยอยู่ในอากาศ เขารู้สึกเจ็บปวด

คนที่น่าเคารพอย่างพวกเขาเคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน

หวินอี้เหยาและคนที่เหลือมองหน้ากันเอง  ทุกคนตระหนักได้ถึงความเกลียดชังและความโกรธในดวงตาเขานี่คือศัตรูที่แท้จริง

"ฆ่ามัน!"หั่วเหยียนกวงตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้นก่อนใคร

"ไป!" หวินอี้เหยาสั่งการโดยไม่ลังเล

ทุกคนเริ่มวิ่งตรงไปที่เสาสูงเหมือนน้ำไหลบ่า

ถังเทียนอยู่ใต้เงาอาทิตย์ใบหน้าของเขาซ่อนอยู่ในความมืด ไม่มีผู้ใดมองเห็นสีหน้าเขาได้ชัดเจน  มุมปากเขายกขึ้นและยิ้มอย่างเยือกเย็น

เมื่อเห็นคนหลั่งไหลตรงมาหาเขา เขากางแขนกว้างก้าวเท้าออกมาข้างหนึ่ง เขาเป็นเหมือนวิหคยักษ์ร่อนลงหากลุ่มคนพวกนั้น

นัยน์ตาเขามีแววประกายเหมือนเปลวเพลิงลุกโหม  เสียงลมหวีดหวิวผ่านหูเขาเหมือนดาบแต่ใจเขาสงบมาก

เหมือนกับม่านฟ้ายามราตรีบนยอดเขามีเด็กผู้หญิงหัวเราะเสียงสดใส และเด็กหนุ่มที่ท่าทางเขลากำลังงอนิ้วเกี่ยวก้อยสัญญากันตามประสาเด็ก

บางทีเมื่อเวลาผ่านไป พวกเราอาจจะโตขึ้น  แต่สัญญาที่ได้ทำไว้ตั้งแต่สมัยเด็กยังคงก้องอยู่ในหู

เด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงจำได้...

ปากของเขามีรอยยิ้มอบอุ่น หนักแน่นและมั่นคง

เขาจะไม่ยอมให้ใครจาบจ้วงหรือแตะต้องเรื่องระหว่างเขากับเชียนฮุ่ย

ไม่มีใคร,ไม่มีอะไรทำได้ทั้งนั้น!

บุรุษหนุ่มผู้นี้กล้าหาญมากและไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

บุรุษผู้นี้ยิ่งโตก็ยิ่งแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับครั้งก่อน

※※※※※※※※

เหมือนกับร่างวิหคยักษ์ถลาร่วงลงมาเหมือนกับดาวตกพุ่งตรงเข้าหาพวกเขา

คนในกลุ่มสะดุ้งกันทุกคน  แต่หวินอี้เหยาที่อยู่ในกลุ่มคนนั้นตะโกนลั่น"ซัดอาวุธลับของพวกเจ้า!"

เมื่อถูกกระตุ้นเตือนด้วยเสียงตะโกน ทุกคนต่างล้วงอาวุธลับของตนออกมาและตะโกนใส่ถังเทียนที่กำลังพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูงทันใดนั้นอาวุธลับถูกซัดออกไปเหมือนกับสายฝนส่งเสียงแหวกอากาศ

เสียงตะโกนดังลั่นอยู่ในอากาศเหนือพวกเขา

"นกยูง!"

พวกเขาทุกคนรู้สึกแต่เพียงว่ามีเงาสีน้ำเงินส่องประกายออกมาจากนั้นก็หายไป

"เอ๋,มันอยู่ไหนแล้ว?" ใครบางคนตะโกนด้วยความประหลาดใจ...

ช่วงเวลาต่อมา เสียงดังครวญครางดังออกมาจากในกลุ่มคน  ร่างสีน้ำเงินเป็นเหมือนพยัคฆ์ในฝูงแกะ  ทุกที่ที่มันไปจะมีเสียงร้องครวญครางตามมา

กลุ่มผู้คนเริ่มแตกตื่นตกใจ  ขณะที่ถังเทียนเป็นเหมือนปลาที่คล่องแคล่วว่องไว

สัญชาตไวหกเท่า

เป็นเหมือนช่วงที่ได้กลับไปยังห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง  เขาคุ้นเคยกับทุกอย่างเป็นอย่างดีด้วยสัญชาตญาณหกเท่า เขาปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ ปราณเที่ยงแท้ระดับห้าทำให้เขายกน้ำหนักได้อย่างง่ายดาย การต่อสู้ระยะประชิดเป็นการต่อสู้ที่ถังเทียนเชี่ยวชาญอยู่แล้ว  ด้วยวิทยายุทธที่หลากหลายและภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ทำให้สามารถดึงวิทยายุทธออกมาใช้ได้อย่างเหมาะสม

สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือปราณเที่ยงแท้ของเขาเป็นการผสมผสานด้วยพลังสองสายที่แตกต่างกัน

เพียงมองดูครั้งเดียวฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะค้นหาแนวทางไม่พบแม้แต่น้อย จึงได้แต่รวมตัวเป็นกลุ่มไว้

เกราะนกยูงครามทำให้รูปแบบการต่อสู้ของถังเทียนห้าวหาญและทรงพลังมากขึ้น  ร่างของเขามองดูเหมือนปีศาจมากขึ้น

เขารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะทำให้คนพวกนี้สับสนวุ่นวายและวุ่นวายหนักยิ่งขึ้น ในพื้นที่ซึ่งสับสนวุ่นวายนี้อาวุธลับไม่อาจใช้ได้

ความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนี้เมื่อเทียบกับ 18มนุษย์ทองแดงแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนัก แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนที่มากกว่าแต่สำหรับถังเทียนเหมือนกับไม่มีพลังอะไรเลย สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่กลุ่มคุณชายเสียมากกว่า

บุรุษหนุ่มถังไม่ใช่คนที่ใจกว้างอยู่แล้ว  เขากำลังเดือดดาลที่สุด

คำร้องทุกข์ก่อกวนของพวกคุณชายเหล่านั้นยั่วยุให้เขาโกรธ

เขาตัดสินใจแล้ว เขาจะไม่ปล่อยใครเลยสักคน

ร่างของเขาหายวับทันทีและมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าคุณชายที่อยู่ในชุดสวยงามคนหนึ่ง  ความเคลื่อนไหวเพียงสามท่าที่รวดเร็วมากองครักษ์สองคนที่อยู่ข้างๆ คุณชายผู้นั้นรู้สึกได้แต่เพียงสายตาที่เย็นเยือกพวกเขาถูกความตกใจครอบงำจนหน้าซีดขาว ขณะที่พวกเขาพยายามต่อต้านสุดชีวิต

ฝ่ามือของถังเทียนเป็นเหมือนมีดที่กลายเป็นเชือกที่อ่อนหยุ่นกระทบกับฝ่ามือของคู่ต่อสู้และเขายืมกำลังนี้ส่งให้ตัวเองขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น

เขายืมและอาศัยประโยชน์จากพลังที่ปะทะ

ถังเทียนเหมือนกับเล่นชิงช้าและโดดลงมาอยู่บนพื้นจรดปลายเท้าลงกับพื้นอย่างเงียบกริบ

ในระยะประชิดกับองครักษ์คุ้มครอง เขาจ่อปลายเท้าที่หลังของคุณชายคนหนึ่งและปล่อยพลังออกไป

คุณชายผู้นั้นร้องโหยหวนราวกับถูกแรดขวิดและกระเด็นไปข้างหน้าเหมือนกระสอบทราย

องครักษ์คุ้มกันเจ้านายตกใจกันหมด แต่ยังไม่ทันได้ตอบสนองพวกเขาก็คลาดกับเงาของคู่ต่อสู้

ร่างของถังเทียนเพิ่งยืนหยัดได้มั่นคงก็มีเสียงตะโกนจากด้านหลังของเขา

“ตายซะเถอะ!”

หั่วเหยียนกวงเงื้อหมัดที่มีเพลิงลุกโหมอย่างรวดเร็วดูเหมือนกับงูยักษ์ที่อ้าปาก  อากาศแตกระเบิดออกพร้อมๆกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นชัดเจน มีเสียงระเบิดดังออกมา

วิชาสังหารของหมัดงูเพลิงระดับห้า –งูเพลิงสังหาร

ความรู้สึกของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความร้อน  นัยน์ตาของถังเทียนมีประกายเยือกเย็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด