ตอนที่แล้วตอนที่ 5-2 แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่  5-4 ปรมาจารย์ช่างแกะสลัก

ตอนที่  5-3 ทะลวงสวรรค์


หลังจากรอยแตกขนาดใหญ่ทั้ง3 รอยปรากฏขึ้นบนแท่นกลมดำ แสงจากค่ายกลเวทพลันสว่างเจิดจ้าเช่นเดียวกันกับเสียงที่ดังราวกับรัวกลองที่ดังเร็วขึ้นและดังขึ้นเรื่อยๆ

“บึ้ม!”  “บึ้ม!”  “บึ้ม!”  “บึ้ม!”

เสียงดังราวกับฟ้าผ่าลงมาเป็นชุดอย่างต่อเนื่องปิดท้ายด้วยเสียง "บึ้ม!" แท่นกลมสีดำระเบิดเป็นชิ้นๆค่ายกลเวทบนแท่นแตกสลายไป จู่ๆปรากฏอักขระขึ้นซึ่งได้สร้างรอยแยกขึ้นมากลางอากาศมันเริ่มปรากฏขึ้นและขยายออกมาทุกทิศทางจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน

……

ในขณะที่มังกรบินแห่งหุบเขาหมอกยังคงวุ่นวายและประหลาดใจเกี่ยวกับตัวประหลาดรูปร่างมนุษย์อยู่นั้นจู่ๆพวกมันก็รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของพื้นดินมังกรยักษ์ทั้งหมดตื่นตระหนกและกางปีกของพวกมันบินขึ้นไปในอากาศทันทีหลังจากนั้นไม่นาน.....

“บึ้มมมมม!”

รัศมีพื้นที่ 1กิโลเมตรพลันระเบิดขึ้น เนินเขาซึ่งปิดผนึกถ้ำเอาไว้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นที่ราบเล็กๆ

"กรรรรร..."เสียงต่ำคำรามออกมาจากใต้ดิน

สถานที่ซึ่งมีแท่นกลมสีดำเคยอยู่นั้นพลันเกิดช่องว่างราวกับกระดาษที่ถูกฉีกออก เผยให้เห็นหลุมที่ว่างเปล่า ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแฝงแววชั่วร้ายสวมเสื้อคลุมยาวสีทองเข้มค่อยๆก้าวออกมาจากภายในหลุมพร้อมกับอุ้มลูกแมวน้อยสามตัวไว้ในอ้อมแขน

ตอนนี้ชายหนุ่มดูจะอยู่ในสภาพย่ำแย่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด

“ฟุบ!

หลุมที่เปิดอยู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยอย่างไรก็ตามบริเวณใกล้ๆหลุมยังคงมีความไม่เสถียร และยังคงมีสายฟ้าฟุ้งกระจายเป็นริ้วพลังงานอย่างบ้าคลั่งปรากฏขึ้นและหายไป

"ในที่สุด ...ข้าก็หนีออกมาได้เสียที" ชายหนุ่มจ้องมองไปยังช่องว่างที่ยังไม่เสถียรใบหน้าของเขาฉายแววสุขใจซึ่งเต็มไปด้วยความป่าเถื่อนออกมา

"ฮ่า ๆ...ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว? ตอนนี้ในที่สุดข้าก็หนีออกมาจากที่ห่าเหวนั่นได้เสียที"ทันใดนั้นแผลเป็นคล้ายรอยมีดบาดตรงกลางหน้าผากของชายหนุ่มพลันเปิดออกดวงตาที่สามซึ่งมีสีทองปรากฏขึ้นมา

ดวงตาสีทองเปล่งแสงกระจายออกมาทุกทิศทาง

"ที่นี่ ...ที่นี่คือทวีปยูลานจริงๆ?"ชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายเริ่มหัวเราะอย่างอัศจรรย์ใจและมีความสุข"นี่มันยอดเยี่ยมยิ่งนัก"

"ท่านพ่อข้าหิวแล้ว" หนึ่งในลูกแมวน้อยในอ้อมแขนของชายหนุ่มพลันพูดขึ้นมา

"ข้าก็หิวเช่นกัน"

ลูกแมวน้อยอีกสองตัวประสานเสียงขึ้นมาด้วย

ลูกกแมวพูดได้?

บางทีพวกมันอาจจะเป็นอสูรเวทระดับเซียน?

"ฮ่าฮ่า ได้ๆแถวนี้มีมังกรตัวเล็กๆบินอยู่นับร้อย พวกเจ้าออกไปอร่อยกับอาหารดีๆสักมื้อเถอะ"ชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายชั่วร้ายหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ

“อูวววว”

ลูกแมวน้อยทั้งสามตัวเริ่มร้องเมี้ยวๆอย่างตื่นเต้นทันใดนั้นเองพวกมันก็บินขึ้นไปจนมองเห็นเพียงสายฟ้าเลือนลาง พุ่งไปสู่ท้องฟ้า ร่างของพวกมันขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น....พร้อมด้วยรอยยิ้มชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายก้าวออกมาหนึ่งก้าวและปรากฏขึ้นท่ามกลางสายหมอกของหุบเขาแห่งหมอก

…..

ภายในหุบเขาแห่งหมอกมังกรยักษ์กว่าร้อยตัวยังคงบินวนอยู่กลางอากาศจนกระทั่งตอนนี้พวกมันยังคิดไม่ออกว่าอะไรทำให้พื้นดินระเบิดขึ้น

"นั่นมันตัวอะไร?"

พวกมันเห็นเงาเลือนลางขนาดใหญ่สามเงาปรากฏขึ้นมากลางหุบเหวแห่งหมอกสัตว์ประหลาดทั้งสามแต่ละตัวนั้นมีขนาดสูงกว่า 30 เมตรและยาวกว่า 100 เมตรพวกมันดูคล้ายสิงโตที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติหลายสิบเท่าแต่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ย่อมไม่ใช่สิงโตจริงๆเพราะมันทั้งสามตัวล้วนมีปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่งและยังมีดวงตา 6 ดวงอีกด้วย

ดวงตาหกดวงพร้อมด้วยสองปีก แถมยังมีร่างกายใหญ่ขนาดใหญ่ราวกับเบเฮมอธ*ในตำนาน

แต่ว่าแม้กระทั่งเบเฮมอธเองก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าสัตว์ประหลาดสามตัวนี้

"โฮกกกก!"สัตว์ประหลาดทั้งสามตัวอ้าปากสีแดงสดกว้างพร้อมปล่อยเสียงคำรามอันทรงพลังออกมาปากของพวกมันพลันเกิดพายุหมุนที่มีพลังดึงดูดไปยังเหล่ามังกรบิน

เหล่ามังกรนับร้อยอยากจะหนีไปให้พ้นจากความสยองขวัญนี้แต่ว่าแรงดึงดูดนั้นแข็งแกร่งเกินไปที่สำคัญคือแรงดึงดูดนี้มีผลเฉพาะกับพวกมันเท่านั้นและไม่แผ้วพานหินใดๆบนหน้าผาใกล้ๆพวกมันน้อยมาก

"กรรรรร!"

เหล่ามังกรกว่าร้อยตัวเริ่มคำรามด้วยความกลัวและบ้าคลั่งแต่พลังดึงดูดของใบหน้าที่น่ากลัวนั้น พวกมันไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากถูกดูดเข้าไปมังกรยักษ์ตัวนึงตกลงในปากที่อ้าค้างอยู่ของเหล่าสัตว์ประหลาดหกตา

สิ่งที่มังกรรู้สึกหวาดกลัวที่สุดก็คือ..

กระเพาะของสัตว์ประหลาดเหล่านี้ดูราวกับไม่มีวันเต็มอย่างไรก็ตามมังกรเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นไม่มากนักหนึ่งตัวน่าจะเพียงพอในการเติมเต็มกระเพาะของเหล่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นแต่เมื่อมังกรหนึ่งตัวถูกดูดลงไปในท้องของสัตว์ประหลาดสัตว์ประหลาดนั่นยังคงดูดมังกรตัวอื่นต่อไป

มังกรหนึ่งตัว...มังกรตัวอื่นๆ...

แรงดึงดูดจากปากของสัตว์ประหลาดทั้งสามนั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งนักมังกรเหล่านี้ล้วนอยู่ในระดับ 8 ยังไม่อาจต้านทานมันได้เมื่อมังกรตัวนึงถูกดูดลงไปในท้องของสัตว์ประหลาดหกตาในทุกๆระยะเวลาสั้นๆมังกรหนึ่งตัวจะถูกหนึ่งในพวกมันทั้งสามดูดกลืนลงไป

"นี่มันยอดเยี่ยมมาก!"หนึ่งในสัตว์ประหลาดหัวเราะเสียงดัง "นี่ผ่านมาหลายปีแล้วที่ไม่มีอาหารดีๆตกถึงท้อง"

"ข้าคิดว่าจะตายในที่บ้าๆนั่นและจะไม่มีโอกาสได้ออกมาอีกแล้วช่างโชคร้ายนัก.....ที่หมายเลขสี่กับหมายเลขห้า...."สัตว์ประหลาดอีกตัวนึงกล่าวออกมาพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ

สัตว์ประหลาดทั้งสามตกอยู่ในความเงียบงัน

พวกมันนึกย้อนกลับไปถึงพันปีก่อนที่เข้าไปติดอยู่ในสถานที่บ้าๆนั่นพวกมันทำอะไรไม่ได้ พวกมันได้แต่ปล่อยให้ความเย็นชาในหัวใจค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆไร้ความหวัง ไร้อนาคต พวกมันจะตายตอนไหนก็ไม่รู้ หากไม่ใช่เพราะบิดาของพวกมันพวกมันทั้งสามคงตายไปนานแล้ว ถึงแม้ว่าบิดาของพวกมันจะพยายามมากถึงขนาดนั้นก็ตามน้องสี่และน้องห้าของพวกมัน ซึ่งอ่อนแอที่สุด ก็ยังตายทั้งคู่

"ท่านพ่อกำลังมา"

สัตว์ประหลาดทั้งสามมองไปยังชายหนุ่มลักษณะคล้ายปีศาจที่กำลังเดินอยู่กลางอากาศมุ่งหน้ามาทางพวกมันร่างกายของพวกมันหดเล็กลงอีกครั้งกลายเป็นลูกแมวน้อยธรรมดาสามตัวอีกครั้งอย่างที่มันเคยเป็น ขนของพวกมันมีสีรุ้งและดูงดงามยิ่งนักปีกเล็กๆทั้งสองของพวกมันก็ดูสวยงามยิ่งกว่าปีกของมังกรเหล่านั้น

แต่ดวงตาทั้งสามชุดยังคงทำให้ใครก็ตามที่พบเห็นต้องตระหนก

"ท่านพ่อ"ตัวประหลาดทั้งสามบินไปหาบิดาของพวกมันอย่างตื่นเต้นตอนนี้บนใบหน้าของชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายไม่มีรอยของเลือดแล้วแม้กระทั่งฝุ่นที่เกาะอยู่บนชุดคลุมยาวสีทองเข้มที่เขาสวมอยู่ก็หายไปจนหมดสิ้นและใบหน้าของเขายังคงยิ้มแย้มอยู่

"เด็กๆอาหารมื้อนี้ดีหรือไม่?" ชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายหัวเราะออกมา"โฮ่, ยังมีอสูรเวทระดับ8 อยู่อีก และยังมีอยู่สองตัวด้วย"

ชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายมองไปยังด้านตะวันตกของหุบเหวแห่งหมอกในขณะเดียวกันกระโจมพลังงานรัศมีสีเหลี่ยมสีคล้ำพุ่งไปยังทิศตะวันตกเพียงชั่วอึดใจกระโจมพลังงานสีคล้ำล้อมกรอบมังกรลมกรดยักษ์ทั้งสองและดึงพวกมันขึ้นมากลางอากาศ

มังกรลมกรดทั้งสองดูเหมือนจะรู้ชะตากรรมตัวเองว่าความตายกำลังย่างกรายมาหาพวกมันพวกมันได้แต่พยายามคร่ำครวญด้วยเสียงต่ำเพื่อร้องขอความเมตตา

พวกมันคือมังกรลมกรดและถึงแม้ว่าพวกมันเป็นสัตว์เวทระดับ 8 เช่นเดียวกับมังกรมรกตและมังกรไฟจริงอยู่ที่พวกมันนั้นเป็นมังกรคนละสายพันธุ์กันแถมยังบินไม่ได้อีกด้วย ปกติแล้วพวกมันจะใช้ชีวิตอยู่ห่างจากมังกรมรกตและมังกรไฟเหล่านั้น

ตอนที่สัตว์ประหลาดทั้งสามกำลังมีความสุขกับการกินเหล่ามังกรบินนั้นพวกมันไม่ได้สนใจมังกรลมกรดที่อยู่ห่างไกลออกไปทั้งสองตัว

"มังกรบินกว่าร้อยตัวเพิ่งถูกกินไป"ใจของมังกรลมกรดทั้งสองสั่นไปด้วยความกลัว

คู่ต่อสู้ของพวกมันแข็งแกร่งเกินไปและไม่ต้องพูดถึงเจ้าลูกแมวน้อยทั้งสามตัวที่อยู่ในขนาด "ปกติ" นั่น

"เจ้าต้องการหนี?" ชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายยิ้มให้มังกรลมกรดทั้งสอง

สำหรับมังกรลมกรดทั้งสองที่มีร่างกายขนาดใหญ่ชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายเป็นเพียงก้อนกรวดเล็กๆเท่านั้นและแน่นอนว่าในใจของมังกรลมกรดทั้งสองรู้สึกขนพองสยองเกล้า พวกมันหายใจอย่างหนักหน่วงไม่หยุดพวกมันพูดออกมาด้วยภาษามังกร "พวกเราไม่กล้า พวกเราไม่กล้าหรอกนายท่านผู้ยิ่งใหญ่"

ดูเหมือนชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายจะเข้าใจภาษามังกรเขาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม"ดี ดีมาก.ข้าเพิ่งจะมาถึงดินแดนแห่งนี้และกำลังอารมณ์ดีมาก ข้าจะละเว้นชีวิตพวกเจ้าทั้งสองตอนนี้เจ้าทั้งสอง...ต้องมารับใช้ข้า"

โซ่พลังงานที่พันอยู่รอบตัวมังกรลมกรดทั้งสองพลันหายไปทำให้พวกมันร่วงหล่นลงสู่พื้นดินอย่างรุนแรง ทันทีที่พวกมันตกกระแทกลงกับพื้นพวกมันสบสายตากับชายหนุ่มพวกมันหมอบราบลงกับพื้นพร้อมกับก้มหัวลงเป็นการบ่งบอกว่ายอมเชื่อฟังคำสั่ง

มังกรนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่หยิ่งยโสเป็นอย่างยิ่งแต่ต่อหน้าพลังที่เหนือกว่ามากมาย พวกมันไม่มีทางเลือกใดๆนอกจากยอมสยบ

ต่อหน้าชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายคนนี้เพียงแค่กระพริบครั้งเดียวก็ฆ่าพวกมันได้อย่างไม่ต้องสงสัย

"ทวีปยูลาน"ชายหนุ่มแฝงแววชั่วร้ายสำรวจรอบข้างของเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม"ช่างเป็นดินแดนที่สวยงามอะไรเช่นนี้ข้าเชื่อเหลือเกินว่าข้าไม่มีวันโชคดีเช่นนี้เมื่อ 5,000ปีก่อนเป็นแน่"

……….

ภายในอาณาเขตภูเขาอสูรเวท

ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นั้นอุณหภูมิยังคงหนาวอยู่แต่ตัวลินลี่ย์กลับสวมใส่เพียงกางเกงขายาวและชุดชั้นในเท่านั้น เมื่อเขาเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์และเขายังคงตรวจสอบกระบี่ม่วงอย่างละเอียด

ณ ตอนนี้ลินลี่ย์ยังไม่ได้ตระหนักว่าเขานั้นได้ปลดปล่อยหายนะของโลกออกมาเพียงเพราะดึงกระบี่ยาวสีม่วงนี่ออกมา!

ความไม่รู้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!

แม้แต่ในช่วงเวลานั้นเดลินโคเวิร์ทเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สำหรับเดลิน โคเวิร์ทแล้วหายนะจะใหญ่ขนาดไหนไม่สำคัญตราบเท่าที่ไม่มีผลกระทบกับลินลี่ย์ต่อให้สวรรค์ถล่มลงมา เหล่าผู้แข็งแกร่งขั้นสุดยอดของทวีปยูลานก็สามารถรับมือกับหายนะเหล่านั้นได้ ยังจะมีอะไรน่ากลัวอีกเล่า?

มีแค่คนโง่เท่านั้นที่เห็นสมบัติที่สามารถเอาไปได้แต่กลับไม่เอาไป

"ท่านปู่เดลินคิดว่าตัวอักษรสองคำนี้หมายความว่าอะไร?" ลินลี่ย์ถามเดลินโคเวิร์ท

บนด้ามกระบี่ยาวสีม่วงมีอักขระสองตัวที่เขียนด้วยลายเส้นซึ่งซับซ้อนมาก

"นี่ ... "เดลินโคเวิร์ท ตาเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นสองคำนี้"คำเหล่านี้มาจากภาษากลางของดินแดนนรก ปีนั้นตอนที่ข้าเพิ่งจะได้เป็นจอมเวทระดับเซียนข้าได้เรียนรู้ภาษานี้มาบ้าง สองคำนี้สมควรเป็นคำว่า 'เลือด'และ 'สีม่วง' ตามลำดับ"

"เลือดม่วง?" ลินลี่ย์พึมพัมขึ้นมา "เป็นไปได้หรือไม่ว่าชื่อของกระบี่ยาวนี่คือเลือดม่วง?"

ลินลี่ย์ตรวจสอบกระบี่อ่อนเลือดม่วงอย่างระมัดระวัง, เลือดม่วงบางเหมือนปีกจักจั่นมันบางอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่ามันจะหลอมสร้างจากวัตถุดิบพิเศษ มันค่อนข้างเบาน่าจะหนักประมาณ 2.25 กิโลกรัม สำหรับลินลี่ย์น้ำหนัก 2.25กิโลกรัมนั้นแทบจะไร้น้ำหนักโดยสมบูรณ์

เมื่อเขาโคจรลมปราณเลือดมังกรในร่างกายของเขาเข้าไปในตัวกระบี่เลือดม่วงตัวกระบี่พลันเปลี่ยนเป็นยืดตรงและแข็งในทันที

เมื่อสะบัดข้อมือ...

"ควับ" เลือดม่วงส่งเสียงดังเบาๆตัดผ่านลำต้นของต้นไม้ใหญ่ขนาดสามคนโอบได้อย่างง่ายดายแม้ต้นไม้จะถูกตัดผ่านไปแล้วแต่ว่าต้นไม้กลับไม่ขยับแม้แต่น้อย แต่ลินลี่ย์รู้ดีว่าความจริงแล้วต้นไม้นั้นได้ถูกตัดออกเป็นสองส่วนเรียบร้อยแล้ว

แต่เลือดม่วงคมเกินไปเร็วเกินไปนั่นเป็นเหตุให้ต้นไม้ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยแม้จะถูกคมกระบี่ตัดผ่านไปแล้วก็ตาม

ลินลี่ย์พุ่งขึ้นไปเต็มกำลังในอากาศและปล่อยลูกเตะกลางอากาศไปที่กิ่งไม้บนต้นต้นไม้เริ่มสั่นในทันที หลังจากที่ลินลี่ย์เตะโดนกิ่งไม้ขนาดใหญ่กิ่งหนึ่งต้นไม้ทั้งต้นค่อยๆเลื่อนไหลตกลงมาสู่พื้นอย่างช้าๆ

ลินลี่ย์มองไปยังรอยตัดที่กระบี่เลือดม่วงได้สร้างไว้"เรียบอะไรอย่างนี้" บริเวณที่ถูกตัดไม่มีเศษเสี้ยนหรือรอยหยาบอยู่บนพื้นผิวเลยแม้แต่น้อย

"กระบี่นี่สุดยอดไปเลย"บีบีจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างขณะกำลังเคี้ยวเป็ดย่างจนแก้มป่อง

ลินลี่ย์อดขำไม่ได้แล้วหันไปสนใจกระบี่อ่อนเลือดม่วงต่อเขาพูดในใจ"ด้วยความรวดเร็วและคมกริบของมันต่อให้ข้าต้องต่อสู้กับศัตรูนับพันนับหมื่นข้าก็ไม่กลัวพวกมัน" ลินลี่ย์เริ่มกวัดแกว่งกระบี่อ่อนทันที

ลินลี่ย์ร่ายรำกระบวนท่าด้วยกระบี่โลหิตม่วงอย่างคล่องแคล่วจนดูราวกับมีคลื่นสีม่วงพริ้วไปมาอยู่ท่ามกลางป่าไม้หนาทึบ

ทั้งรวดเร็วและคมกริบ!

ด้วยตัวกระบี่ที่บางราวกับปีกจักจั่น!นั่นทำให้กระบี่เลือดม่วงเหมือนจะไม่ได้รับผลจากแรงต้านของอากาศ ซึ่งทำให้แม้ลินลี่ย์จะยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นร่างมังกรก็สามารถกวัดแกว่งกระบี่ได้ด้วยความเร็วสูงสุดอย่างง่ายดาย

"ลินลี่ย์เอ๋ยสิ่งที่น่าตกใจของกระบี่อ่อนเลือดม่วงนี้ไม่ไช่แค่คมมากเท่านั้น"ด้วยทักษะการประเมินราคาของ เดลิน โคเวิร์ทที่สูงส่งกว่าลินลี่ย์เพียงมองปราดเดียว เขาก็สามารบอกถึงความสามารถที่แท้จริงของกระบี่เลือดม่วงได้

ลินลี่ย์ได้แต่มองไปที่เดลินโคเวิร์ทด้วยความสงสัยอยากรู้

เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะ"นี่มันก็แค่ต้นไม้ธรรมดาการจะใช้กระบี่เลือดม่วงฟาดฟันมันให้ขาดนั้นย่อมง่ายดายแต่หากเจ้าเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง อย่างนักรบระดับ 7ซึ่งใช้โล่พลังลมปราณคลุมร่างเล่าข้าเกรงว่าเจ้าไม่อาจฟาดฟันคู่ต่อสู้ให้บาดเจ็บได้โดยง่ายเป็นแน่"

ลินลี่ย์ตาสว่างในทันที

"ความสามารถที่แท้จริงของกระบี่เลือดม่วงนั้นมีอยู่สองอย่างความสามารถแรกคือตัวกระบี่นั้นเปลี่ยนเป็นแข็งก็ได้อ่อนก็ได้และด้วยเหตุนี้การที่คู่ต่อสู้จะป้องกันการโจมตีของมันในระหว่างต่อสู้นั้นยากเย็นยิ่งส่วนอย่างที่สองนั้น... ความทนทานของมัน!อาวุธส่วนใหญ่ไม่อาจทนรับการต่อสู้ด้วยพลังลมปราณได้มากนักใช้ได้ไม่เท่าไรมันก็แตกหัก แต่กระบี่เลือดม่วงอันแสนล้ำค่าของเจ้านั้นกลับไม่เป็นเช่นนั้น"เดลิน โคเวิร์ท อธิบาย

ลินลี่ย์พยักหน้าช้าๆ

กระบี่ที่คมและแข็งแกร่งมากนั้นหากใช้กำลังมากไปย่อมแตกบิ่นได้แต่กระบี่อ่อนเลือดม่วงนั้นคมมาก ไม่เพียงแต่มันสามารถเปลี่ยนเป็นแข็งและอ่อนได้มันยังมีความเร็วและทนทานอีกด้วย

"ทั้งรวดเร็ว? ทั้งยืดหยุ่น?"

ลินลี่ย์ทดลองส่งพลังเวทธาตุลมเข้าไปในตัวกระบี่แทนลมปราณเลือดมังกร

เขาก็เริ่มกวัดแกว่งกระบี่เลือดม่วงตัวกระบี่นั้นเดิมทีก็เร็วอยู่แล้ว หลังจากเขาใส่พลังเวทธาตุลมเข้าไปในกระบี่มันก็เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกระดับนึงเลยทีเดียว แถมทิศทางของกระบี่ซึ่งไม่อาจคาดเดากระบี่ที่บางครั้งยืดตรงบางคราบิดโค้งเช่นนี้ ผู้ใดเล่าจักสามารถรับมือกับมันได้

ลินลี่ย์เข้าใจได้ในทันที"สำหรับข้าในตอนนี้ บางทีนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการใช้กระบี่อ่อนเลือดม่วง!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด