ตอนที่ 90 การซื้อขาย

ในสายตาที่ตกตะลึงของจิ่งหาว ปรากฏเปลวเพลิงที่ระเบิดเป็นพลุกระจายหายไปในอากาศ

เจ้าเด็กดื้อนั่นแข็งกระด้างเหมือนไม้ดูท่าจะร่วงคลุกฝุ่นเสียแล้ว

จิ่งหาวตื่นตัวเขาพุ่งไปยังตำแหน่งที่ถังเทียนอยู่ทันที

ควั่บประกายเงาดำและรังสีอำมหิตเยือกเย็นเสียดผิวมุ่งตรงมาทางเขา  จิ่งหาวรู้สึกว่าผมบนศีรษะตั้งชันจึงรีบยั้งฝีเท้าทันที

ขุนพลวิญญาณประหลาดตนหนึ่งกำลังขวางทางเขาไว้

ขุนพลวิญญาณนี้มีลักษณะที่แปลกประหลาดโดยเฉพาะหน้าของเขาเรียบลื่นเหมือนกระดาษ ลักษณะของใบหน้าดูเหมือนกับวาดเขียนลงไป นี่เป็นครั้งแรกที่จิ่งหาวเห็นขุนพลวิญญาณที่ประหลาดเช่นนั้น  แต่เขาไม่กล้าดูถูกขุนพลวิญญาณนั้น  เพราะรังสีอำมหิตที่ปล่อยออกมาจากขุนพลวิญญาณนั้นเหมือนกับเข็มจำนวนมากทิ่มแทงหัวใจของเขา

น่ากลัวมาก

จิ่งหาวลอบหวาดหวั่นใจ  พลังของขุนพลวิญญาณนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่หยั่งไม่ถึง

“ข้าไม่มีเจตนาร้าย”จิ่งหาวถอยหลังก้าวหนึ่งโดยอัตโนมัติ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ขุนพลวิญญาณข้างหน้า

ขุนพลวิญญาณไม่ได้พูดแต่รังสีอำมหิตของเขาไม่ได้ลดลดลง

จิ่งหาวค่อยคลายใจ ขุนพลวิญญาณของถังเทียนจะปกป้องเจ้านายโดยอัตโนมัติซึ่งก็หมายความว่าถังเทียนไม่อยู่ในอันตรายมากนัก เขาลอบประหลาดใจที่ถังเทียนมีขุนพลวิญญาณที่น่ากลัวเช่นนั้นจริงๆ  แต่เขาไม่เคยบอกกล่าวอะไร  ดูเหมือนว่าภูมิหลังถังเทียนจะไม่ใช่ง่ายๆอย่างที่เห็นเสียแล้ว ในไม่ช้าจิ่งหาวก็เริ่มยินดีเพราะถังเทียนจะถูกพาเข้าสำนักของพวกเขาและยิ่งภูมิหลังของถังเทียนน่ากลัวและไม่ธรรมดามากเท่าไหร่ก็นับว่าดีเท่านั้น

สถานะของจิ่งหาวในสมาพันธ์ชาวยุทธส่วนมากได้มาจากอาจารย์ของเขาเป็นส่วนใหญ่  แม้ว่าพลังของเขานับว่าไม่เลว  เนื่องจากวัยของเขา แต่เขาก็สั่งสมประสบการณ์การเมื่อเวลาผ่านไป  อย่างไรก็ตามถ้าเขาได้เชื่อมโยงกับกำลังเสริมที่แข็งแกร่ง ก็จะช่วยให้สถานะของเขาในสมาพันธ์ชาวยุทธและในสำนักของเขามั่นคงยิ่งขึ้น

นอกจากนี้....

สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่อุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณบนพื้น

แรงผลักดันที่น่าทึ่งของรอยแยกพลังงานที่เพิ่งผันผวนนี้  ทำให้เขาหวาดหวั่นอย่างช่วยไม่ได้

จิตวิญญาณพลังยุทธ!

ถังเทียนเข้าใจวิธีฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธจริงๆ

เปลวเพลิงสีเงินที่สลายตัวไปก่อนหน้านั้นหายเข้าไปในร่างของถังเทียน จิ่งหาวเห็นชัดว่า จิตวิญญาณพลังยุทธนั้นไม่มีรูปแบบ แต่ว่าเป็นสีเงิน

จิตวิญญาณพลังยุทธเงิน!

นี่คือสิ่งที่ทำให้จิ่งหาวอิจฉาจริงๆ อาจารย์ของเขาถ่ายทอดวิธีฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธเมื่อนานมาแล้วและเตือนเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าให้ฝึกฝนอย่างถูกต้อง  จิ่งหาวไม่เคยย่อหย่อนจนกระทั่งบัดนี้ เขาก็ยังมีแค่เพียงจิตวิญญาณพลังยุทธบรอนซ์  จิ่งหาวรู้แน่ชัดว่าการฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธนั้นลำบากเพียงไหน  และเกี่ยวกับจิตวิญญาณพลังยุทธเงินสำหรับเขาแล้วยังคงห่างไกลมาก

ครั้งหนึ่งอาจารย์บอกว่าทันทีที่จิตวิญญาณพลังยุทธเงินถูกเรียกออกมา  จิตวิญญาณพลังยุทธจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

อาจารย์ไม่ได้ระบุผลกระทบของจิตวิญญาณพลังยุทธเงิน แต่เขาสามารถบอกได้ว่าจิตวิญญาณพลังยุทธเงินมีคุณสมบัติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เป็นสิ่งที่....

สายตาของจิ่งหาวร้อนแรงเป็นประกาย..จ้องมองดูอุปกรณ์ฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธ ถังเทียนสามารถฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธและมันต้องเป็นผลมาจากเจ้าสิ่งนี้แน่ ตำนานระบุว่า ในช่วงยุคสามกองทัพใหญ่กองทัพดาวกางเขนใต้ก็มีของเหล่านี้แล้ว สมาพันธ์ชาวยุทธก็พยายามค้นคว้าเจ้าสิ่งนี้อย่างสุดความสามารถและหลายคนพยายามหาวิธีฟื้นฟูอุปกรณ์ที่น่าทึ่งนี้ แต่ไม่มีผู้ใดสามารถทำเช่นนั้นได้

คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้เห็นมันด้วยตนเอง!

แม้ว่าจิ่งหาวจะไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ เขาไม่มีความตั้งใจจะชิงมัน เพราะขุนพลวิญญาณที่คุ้มครองอยู่ต่อหน้าถังเทียนน่ากลัวอย่างแท้จริง  ยิ่งกว่านั้นสำนักของเขาเป็นพวกรักสงบมากกว่า เมื่อพบกับสถานการณ์อย่างนั้น ปกติพวกเขาเลือกที่จะทำธุรกรรมแลกเปลี่ยน ตามที่เขารู้ อุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว สำหรับถังเทียนอุปกรณ์นี้หมดประโยชน์ไปแล้ว  นอกจากนี้ เขามีความมั่นใจในข้อตกลงทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเพราะเขารับภาระให้อาจารย์ของเขา ดังนั้นพื้นฐานของเขาจึงเหนือกว่าคนอื่นๆ

และจิ่งหาวตัดสินใจทันทีที่ได้รับอุปกรณ์นี้ เขาจะรายงานไปให้อาจารย์ทราบ จิ่งหาวรู้ว่าสถานะของเขาในสมาพันธ์ชาวยุทธยังต่ำอยู่มาก  ถ้าเขาส่งมอบเจ้าสิ่งนี้ให้พวกเขาได้ ก็จะได้รับรางวัลไม่มากก็น้อยสำหรับสถานะของอาจารย์ของเขา จะแตกต่างกันมากและรางวัลที่ได้รับเก็บเกี่ยวก็น่าอัศจรรย์ ตราบเท่าที่อาจารย์ยังรักษาสถานะในสมาพันธ์ชาวยุทธได้มั่นคงเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่เป็นธรรมเช่นกัน

เขาต้องเตรียมพูดดีๆกับถังเทียนต่อไป

※※※※※※※※※※

มิทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด  ถังเทียนค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา

เมื่อฟื้นขึ้นแล้วถังเทียนเห็นปิงยืนคุ้มกันอยู่ต่อหน้าเขา  และจิ่งหาวยืนอยู่ห่างออกไปเขารู้สึกปลอดภัยทันที เป็นไปตามคาดลุงปิงเชื่อถือได้มากที่สุด...

เขารีบตะเกียกตะกายลุกขึ้น “เฮ้, ลุงปิง!” และเขาทักทายจิ่งหาวที่อยู่ห่างออกไป  “พี่จิ่งหาว!”

เมื่อเห็นว่าถังเทียนตื่นขึ้นแล้ว จิ่งหาวสดชื่นทันที “ยินดีด้วยขอแสดงความยินดีด้วย!ในฐานะนักสู้ระดับสี่ สามารถฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธเงินได้สำเร็จ  น้องถังเป็นคนแรกเชียวนะ!อนาคตที่สดใสรอเจ้าอยู่แล้ว!”

เมื่อเห็นว่าถังเทียนตื่นแล้วปิงไม่ได้กระพริบตาก็ลอยไปอยู่ด้านหลังของถังเทียน

ปิงถอยออกไปโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจิ่งหาวจึงรู้สึกเหมือนกับว่าภาระที่ถ่วงไหล่ถูกยกออกไปและขณะที่เขาถอนหายใจโล่งอก เขารู้สึกถึงความน่าหวาดหวั่น นอกจากอาจารย์เขาแล้ว ไม่มีใครทำให้เขาเครียดอย่างนั้นมาก่อน  แต่ปกติตามเหตุผลแล้วระดับขุนพลวิญญาณจะไม่สูงกว่าเจ้านายนี่นา...

จิ่งหาวเริ่มรู้สึกว่าถังเทียนและขุนพลวิญญาณของเขายากจะหยั่งคาดได้  เขาลอบส่ายศีรษะ  และหยุดคิดเรื่องนี้เอาไว้  มองดูถังเทียนด้วยนัยน์ตาเป็นประกายจิ่งหาวถามอย่างเป็นทางการ “น้องถังข้าขอทราบได้ไหมว่าอุปกรณ์นี้คือเครื่องมือฝึกพลังจิตวิญญาณใช่ไหม?”

ปิงที่อยู่ด้านหลังบอกเขาโดยไม่ส่งเสียง “บอกเขาได้ ไม่เป็นไร”

ถังเทียนรู้สึกได้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทันที เขาพยักหน้า “ใช่แล้วนี่คือเครื่องมือฝึกพลังจิตวิญญาณแห่งกองทัพดาวกางเขนใต้”

จิ่งหาวแสดงความยินดีออกมาทางสีหน้าทันที แม้ว่าเขาพยายามระงับสีหน้าอย่างสุดความสามารถ แต่ร่องรอยความสุขก็ยังเห็นได้ชัดจากสีหน้าของเขา  “ข้าไม่ทราบว่าน้องถังมีเครื่องมือที่น่าอัศจรรย์เช่นนั้น! ข้าเคยได้ยินมาว่าเครื่องมือนี้สามารถใช้ได้คนละหนึ่งครั้งเท่านั้น จริงไหม?”

“นั่นก็ถูกแล้ว”ถังเทียนพยักหน้า

สีหน้าของจิ่งหาวยิ่งมีความยินดีมากขึ้น “เจ้าจะยกให้ข้าได้ไหม?”เขารีบเพิ่มคำพูดต่อ  “น้องถังว่าราคามาได้เลย  ถ้าข้าไม่สามารถตัดสินใจได้  ข้าจะรายงานอาจารย์ข้า”

“เจ้าตกลงได้เลย”  ปิงบอกถังเทียนจากด้านหลัง

ถังเทียนตอบเป็นนัยว่า “ข้าไม่รู้เรื่องราคา  พี่จิ่งหาวกำหนดตามที่เห็นสมควรเถอะ”

จิ่งหาวคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะโยนการตัดสินใจกลับมาที่เขา  เขาเป็นคนซื่อสัตย์และตอนนี้เขาใคร่ครวญอย่างลำบากใจว่า “มันยากสำหรับข้าที่จะตีราคาอุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณเช่นกัน  เอาอย่างนี้เป็นไง,ข้าจะมอบการ์ดวิญญาณทองชุดหนึ่งแก่เจ้าเป็นการวางมัดจำ ส่วนที่เหลือข้าจะให้อาจารย์เป็นคนตัดสินใจ  เจ้าจะว่ายังไงบ้าง? อย่าห่วงเลยน้องถังอาจารย์ของข้าเป็นคนซื่อตรง เขาไม่ใช่คนที่ชอบเอาเปรียบคนอื่น”

ถังเทียนให้ความสนใจ “การ์ดวิญญาณชั้นทอง?”

จิ่งหาวค่อยวางใจเมื่อเห็นว่าถังเทียนให้ความสนใจ “นี่คือชุดการ์ดวิญญาณระดับทองที่ข้าได้มาจากผู้อาวุโสท่านหนึ่ง มีชุดละสามใบซึ่งประกอบไปด้วยวิทยายุทธที่ดีที่สุดของผู้อาวุโสท่านนี้  ก็มีประทับหัตถ์ใหญ่, พลังขาถานถุ่ย,วังวนแตกสลาย ทั้งหมดเป็นวิชาระดับห้า เหมาะกับน้องถังมาก  ค่าตอบแทนที่เหลือ อาจารย์จะส่งมาให้ในเร็วๆนี้”

ปิงให้คำแนะนำเงียบๆ “ทำตามที่เจ้าเห็นควร”

ถังเทียนไม่ลังเลใจ “ได้เลย”

จิ่งหาวปลาบปลื้มยินดี เขาไม่มีความกังวลใจอีกต่อไปเอาการ์ดวิญญาณชั้นทองยัดใส่มือของถังเทียน เหมือนกับกลัวว่าถังเทียนจะกลับใจเปลี่ยนคำพูด

พื้นผิวทองของการ์ดทองแตกต่างจากการ์ดเงินมาก  การ์ดทั้งสามใบดูสว่างและบางเบามาก  แต่กลับมีน้ำหนักมาก  พอเขาลูบการ์ดทั้งสามใบ ความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกท่วมทับเขาทันที

ถังเทียนตื่นเต้นเล็กน้อย ไม่มีความสงสัยในการ์ดทองอีกต่อไป

“น้องถังไม่ต้องห่วง  อาจารย์จะส่งข่าวดีมาให้ในไม่ช้า” จิ่งหาวเสริมและมองดูอุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณอย่างไม่กระพริบตา

ถังเทียนยิ้มทันทีและผายมือ “ข้าเชื่อใจพี่จิ่งหาว, ตอนนี้มันเป็นของท่านแล้ว”

จิ่งหาวรีบโถมตัวเข้าไปดู และโอบกอดอุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณบนพื้นอย่างระมัดระวัง

“อย่างนั้นข้าจะไม่รบกวนการฝึกฝนของเจ้าแล้ว”  จิ่งหาวเตรียมออกไปทันที

ถังเทียนยังคงต้องการทราบว่าเขามีความก้าวหน้ามากเพียงไหนดังนั้นจึงกล่าว “พี่จิ่งหาว เชิญตามสะดวก”

หลังจากจิ่งหาวลับสายตาไปแล้ว  ถังเทียนถามปิงด้วยความสงสัย  “จะดีเหรอที่ปล่อยให้เขาได้เครื่องมือฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธไป?”

“ไม่เป็นไรน่า”ปิงกล่าวถ่อมตัว “ความจริง อุปกรณ์นี้มีผลอย่างจำกัด  ก่อนนี้ในกองทัพ ก็เป็นแค่เครื่องกลธรรมดาเพราะใช้ได้แค่เพียงคนละครั้งเท่านั้น”

ปิงยังคงไม่หลุดปากออกมาว่า ใช่ว่าทุกคนจะบ้าระห่ำอย่างถังเทียน

ถังเทียนสบายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้นแต่ทันใดนั้นเขานึกถึงปัญหา และรีบถามขึ้นว่า “ข้าทนได้นานเท่าไหร่กัน?”

“มากกว่าข้าครึ่งชั่วโมง”ปิงพูดไปตามธรรมดา

“แค่มากกว่าลุงครึ่งชั่วโมงเองเหรอ?”  ถังเทียนผิดหวังอย่างหนัก

ปิงรู้สึกแทบจะกระอักเลือดออกมา เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากข่มใจไว้ไม่ให้เผลอตบหน้าถังเทียน

อย่าทะเลาะกับเจ้าเด็กบ้านี่... อย่าทะเลาะกับเจ้าเด็กบ้านี่....

ปิงยังคงทบทวนในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถังเทียนเงยหน้าขึ้น เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ “มากกว่าลุงแค่ครึ่งชั่วโมง  ข้าก็ไม่สามารถแสดงพลังข้าได้เลยน่ะสิ”

ปิงยังคงทบทวนในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า  อย่าทะเลาะกับเจ้าบ้านี่....อย่าทะเลาะกับเจ้าบ้านี่...

“โอ๊ย.แย่จัง..พูดถึงกองทัพของลุงนี่.. มาตรฐานแย่ ข้าประสบผลสำเร็จในสองชั่วโมงครึ่งได้อย่างง่ายดาย  นี่ก็หมายความว่า.. ว้าว.. ข้าเจ๋งจริงๆข้าเป็นเด็กยอดมนุษย์อย่างมิต้องสงสัย! ข้าแค่ใช้มือเดียวก็เอาชนะกองทัพดาวกางเขนใต้ได้หมดแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”

ถังเทียนฉีกยิ้มเต็มใบหน้า

คิ้วหนาๆ ของปิงบิดเบี้ยว เขารู้มานานแล้วว่าเจ้าเด็กบ้านี่น่ารำคาญอย่างมิต้องสงสัย

※※※※※※※※※※※

ในค่ายฝึกทหารใหม่ ช่วงฝึกรับการทุบตี

ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยบอลแสงพุ่งตกลงมาราวห่าฝน  แต่ถังเทียนยังป้องกันได้อย่างรัดกุม

เขาเป็นเหมือนปะการังท่ามกลางคลื่นที่เกรี้ยวกราด  ไม่ว่าคลื่นจะใหญ่เพียงไหนแต่เขาก็ยังไม่ตื่นเต้น

เขามีท่าทางที่สงบ ไม่มีท่าทีที่น่าอายตามปกติและฝีมือของเขาไหลลื่นเหมือนสายน้ำความเร็วในการโจมตีของเขาแสดงให้เห็นว่าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนแต่ทุกการกระทำนั้นถูกต้อง การฝึกตอนนี้ยากลำบาก ได้มีการเพิ่มระดับความยากในการฝึกให้ถังเทียนถึงสองเท่า

ถังเทียนรู้สึกแต่เพียงว่ารอบๆนั้นเขามีความรู้สึกที่ไวมากกว่าปกติ

หลังจากฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธระดับเงินได้สำเร็จสัญชาตญาณของเขายกระดับและขยายออกไปอย่างคาดไม่ถึง

จำนวนบอลแสงเพิ่มขึ้นขณะที่ความยากลำบากก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ถังเทียนยังคงสงบเหมือนเมื่อก่อนหลังจากผ่านไปยี่สิบนาทีก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรง

บอลแสงตกลงมาในระดับเข้มข้นจนน่าตระหนก ทำให้ศีรษะมึน

ในที่สุดพลังป้องกันของเขาก็ตกลง บอลแสงโจมตีถูกข้อมือของเขา

“อ๊าๆๆๆ”ถังเทียนร้องลั่น เขาถูกบอลแสงครองงำโดยสิ้นเชิง

ความรู้สึกได้แก้แค้นช่างสะใจเสียจริง

ปิงหัวเราะอย่างสะใจ

หลังจากหัวเราะแล้ว ปิงยังไม่อาจสงบใจได้  ห้าเท่า!  ระดับความยากของการฝึกโดนทุบตีเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่าเต็มๆถึงจะฝ่าแนวป้องกันของถังเทียนไปได้ และนี้คือการฝึกครั้งแรกหลังจากถังเทียนหลังจากเพิ่งจะยกระดับ  ทันทีที่ถังเทียนเริ่มปรับสัญชาตญาณได้  เขาจะทนได้นานมากยิ่งขึ้นแน่นอน

ถังเทียนนึกว่าด้วยสัญชาตญาณไงที่ไม่ธรรมดาของเขาอยู่แล้วความรู้สึกที่ไวเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่า.....น่ากลัวมาก