ตอนที่แล้วตอนที่ 81 เสือเขี้ยวดาบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 83 สัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ

ตอนที่ 82 เป้าหมายใหม่


เมื่อปิงกลับมาเจอถังเทียนและหลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของถังเทียนที่เด่นชัดแน่นอน  เขาประหลาดใจเล็กน้อย  เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเด็กนี่เล่นของสิ่งนี้

หลังจากสงบใจลงได้เขากระแอมเบาๆ “เอาล่ะ, พ่อหนุ่ม, หยุดได้แล้ว”

ถังเทียนหยุดเคลื่อนไหว

“หวา หวา ว้าว! ลุงปิงลุงมีของดีจริงๆ แล้วลุงยังเอามาซุกซ่อนไว้ที่นี่อีก  มันใช้ได้ดีอย่างคาดไม่ถึง, ข้ากล้ายืนยัน ข้าสามารถจัดการยอดฝีมือระดับห้าได้แน่นอน” เสียงของถังเทียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นนั้นดังออกมาจากเกราะเสือเขี้ยวดาบ

“เจ้าเรียกนักสู้ระดับห้าว่ายอดฝีมือเหรอ?”ปิงดุ

ถังเทียนค่อนข้างลังเลที่จะถอดเกราะเสือเขี้ยวดาบ  เขาออกมาจากตัวมันและมองปิงด้วยความมุ่งหวัง“ลุงปิง, ลุงให้เสือเขี้ยวดาบตัวนี้ข้าได้ไหม? ได้โปรด?”

“ไม่มีปัญหา” ปิงโบกมือตรงๆ “สถานที่นี้ทั้งหมดเป็นของเจ้า”

“ที่นี่ทั้งหมดเป็นของข้า...”  ราวกับว่าเขาถูกสายฟ้าฟาดถังเทียนเหม่อมองไปรอบๆ เขาเป็นเหมือนกระต่ายที่จู่ๆก็ตระหนักว่าฝนตกลงมาเป็นแคร็อท

“เอาล่ะ, ไม่ต้องพิรี้พิไรมาก ก็แค่ของเก่าแก่โบราณไม่กี่ชิ้นก็ทำให้เจ้าสูญเสียความเยือกเย็นไปได้แล้ว”  ปิงขมวดคิ้ว พร้อมกับการขยับคิ้วที่ดูเหมือนภาพวาด เมื่อมันขยับเคลื่อนไหวดูแล้วน่าขำขัน

“ของโบราณเหรอ?” ไม่เอาน่า,เสือเขี้ยวดาบแข็งแกร่งกว่าสมบัติบรอนซ์อื่นๆ มาก”  เห็นได้ชัดว่าถังเทียนเห็นแย้งกับมุมมองของปิงและเถียงเสียงดัง

“แล้วอย่างนั้นในปีนั้นเราพ่ายแพ้ได้ยังไง?”ปิงผายมือ “ข้ามีประสบการณ์กับตัวเองและผ่านสงครามมาแล้วข้าเห็นมาชัดเจนมากกว่าเจ้า”

ถังเทียนซึมเซาแต่เขายังคงดื้อแพ่งอยู่ “มันเป็นเครื่องกลต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นและสามารถเอาชนะสมบัติชั้นบรอนซ์อื่นๆ ได้แน่นอน”

ปิงถอนหายใจ“มันเป็นของตกยุคแน่นอน  เชื่อข้าเถอะตอนนี้เจ้ารู้สึกว่ามันทรงพลัง แต่นั่นเป็นเพราะความรู้ของเจ้ายังน้อยนัก ยกตัวอย่าง เจ้าเสือเขี้ยวดาบนี้ เจ้าอาจรู้สึกว่ามันแข็งแกร่งแต่ข้าขอบอกเจ้า เมื่อเจ้าเข้าสู่การรบจริงๆหินดวงดาวระดับห้าสามารถคงอยู่ในสนามรบได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

“ครึ่งชั่วโมง?”  ถังเทียนตะลึง

“เจ้ารู้ไหมเจ้าจะทำอะไรได้ในครึ่งชั่วโมงระหว่างรบจริง? โจมตีครั้งเดียว”  ปิงชูหนึ่งนิ้ว “หลังจากนั้น เจ้าจำเป็นต้องปีนออกมาจากเจ้ากระป๋องบรอนซ์เครื่องนี้  เจ้าจะไม่มีเวลาเปลี่ยนหินดวงดาวเพิ่มเพราะมันต้องใช้เวลาสิบสองชั่วโมงหรือมากกว่านั้นระบายความร้อนก่อนที่มันจะสามารถกลับมารบได้อีกครั้ง มันไม่อาจเทียบได้กับนกยูงครามบนตัวเจ้าซึ่งเจ้ายังมิได้ขุดเอาศักยภาพที่แท้ของมันออกมา  แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่เรื่องแค่นี้”

“อย่างนั้นคืออะไร?”  ถังเทียนถาม

“มันคือการพึ่งพา  หลายคนพึ่งพามันมากเกินไปและไม่ยินดีจะฝึกตนเองให้แข็งแกร่ง” ไม่บ่อยนักที่ปิงจะดูเคร่งขรึม “ถังเทียน  เจ้าต้องจำไว้ให้ดี  ไม่ว่าสมบัติหรืออาวุธจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตามมันจะไม่มีทางเป็นประโยชน์เท่ากับพลังของตัวเจ้าเอง หมัดของเจ้า,ปราณเที่ยงแท้ของเจ้า วิทยายุทธของเจ้าและร่างกายของเจ้า สิ่งเหล่านี้ต่างหากเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือที่สุดที่เจ้ามีอยู่  เจ้ายังสามารถสู้ได้ด้วยความดื้อรั้นถือดี  อย่าเอาแต่พึ่งพลังภายนอก  ไม่ต้องคำนึงว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน  ไม่ว่าเมื่อไหร่หรืออะไรก็ตาม การเพิ่มพลังส่วนตัวของเจ้าเป็นสิ่งพื้นฐานที่เจ้าจำเป็นต้องรู้”

ถังเทียนมองปิงด้วยสีหน้าแปลกประหลาด“ก็เป็นอย่างนี้มาแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ปิงซึมเซาขณะที่เขาไม่เห็น เขาพึมพำ “แน่นอน พอปลดปล่อยพลังของอาวุธ นั่นคือนักสู้ที่มีคุณภาพและนั่นจำเป็นต้องมีพลังของอาวุธพื้นฐาน สิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปเดี๋ยวนี้ก็คือเสือเขี้ยวดาบนั้นยังไม่อาจเทียบได้กับนกยูงครามของเจ้า มันไม่ใช่ขยะ  เพราะนกยูงครามมีจิตวิญญาณพลังยุทธ  ขณะที่เสือเขี้ยวดาบไม่มี อาวุธที่ฉลาดชิ้นหนึ่งเทียบกับอาวุธแข็งแกร่งก็ยังโดดเด่นมาก  แต่เกี่ยวกับสมบัติ  โดยส่วนตัว ข้ามีความเข้าใจน้อยเกินไป อย่าว่าแต่วัตถุโบราณอย่างข้าก็ต้องพยายามทำความเข้าใจคนเหล่านี้  มันต้องใช้เวลา  แต่ข้าสามารถบอกเจ้าได้แค่อย่าเดินไปตามเส้นทางเก่าที่พวกเราทำไว้ นั่นได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าผิด  ข้าเกรงว่ามันอาจยังคงดูแข็งแกร่งแม้กระทั่งวันนี้”

“เฮ้..ลุง”  ถังเทียนพูดตัดบทปิง

“หืม?”

“ลุงพูดว่าของทั้งหมดนี้เป็นของข้าใชไหม?”  ถังเทียนทำท่าทางเหยียดนิ้วมือ

“ถูกแล้ว มีอะไรเหรอ?”  ปิงถามอย่างไรรู้

ถังเทียนมีความสุขทันทีและวิ่งตรงไปที่อาวุธเครื่องกลแตะตรงโน้นบ้างตรงนี้หน่อย แม้แต่หยาหยาก็ไม่เข้าใจความตื่นเต้นของเขา มันทำตามเขาขึ้นๆ ลงๆ

“เฮ้ เฮ้ เย้ ทั้งหมดนี้เป็นของข้า ฮ่าฮ่าเยี่ยมเหลือเกิน”

“ขุนพลบรอนซ์ ไปเลย ไปไปไป

“หนุ่มน้อยชาวฟ้า  อาวุธจักรกลชาวฟ้า”

ถังเทียนตื่นเต้นร่าเริงส่งเสียงไปตามระหว่างอาวุธหุ่นกล

“เอาล่ะ ไปรับมอบฐานทัพกัน” ปิงอดกล่าวไม่ได้

“เยี่ยมเลย เยี่ยม”ตาของถังเทียนเป็นประกายทันทีและเขาวิ่งไปรับมอบฐานทัพกองทัพดาวกางเขนใต้ หวา...มันดีเยี่ยมเกินจนเขาอาจหัวเราะในฝันได้

ปิงมีสีหน้าช่วยไม่ได้พาถังเทียนไปยังที่ตั้งของตราสัญลักษณ์ “เอาละนะ กดฝ่ามือเจ้าลงบนนี้”

ถังเทียนร้องโอ้และกดฝ่ามือลงไปบนจุดที่ระบุไว้

เขาประทับเครื่องหมายกางเขนบนฝ่ามือของเขาที่สว่างขึ้น  และแสงสว่างจากมือถังเทียนก็เข้าไปในสัญลักษณ์

บึ้ม!

พื้นโดยรอบสั่นสะเทือน ขณะที่วงกลมมีแสงสว่างขึ้นและล้อมรอบตัวถังเทียนไว้แล้วหุ้มตัวเขาไว้ข้างใน

เป็นไปตามคาด...

ปิงไม่ตื่นเต้นไม่ก่อให้เกิดเสียงอะไรทั้งนั้นแต่ในใจเขาเต็มไปด้วยความสงสัย พ่อแม่ถังเทียนเป็นใครกัน?พวกเขามีความสัมพันธ์ยังไงกับกองทัพดาวกางเขนใต้?

หลังจากแสงกระจายหาย ถังเทียนยังคงสับสน  “แค่นั้นเองเหรอ?”

“อย่างนั้นเจ้ายังต้องการอะไรอื่นอีก?”ปิงเหลือกตา  “ก็ได้ ไปกันเถอะเราจำเป็นต้องกลับ ข้าพบแก่นพลังวิญญาณและหยกเหล็กวิญญาณแล้ว  เราโชคดีที่คลังอาวุธยังคงมีเก็บไว้บางส่วน”

“เราจะออกไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”  ถังเทียนเบิกตากว้าง  เขายังไม่เต็มใจจากไป  “อย่างนั้นข้าจะเอาเสือเขี้ยวดาบออกไปด้วย”

“ตู้เก็บอาวุธอควาเรียสของเจ้าเก็บมันได้พอดีไหม?”ปิงมองถังเทียน

“ไม่พอดี...”ถังเทียนยิ่งไม่ยอมแพ้กว่าเดิม “ข้าจะสวมมันออกไป”

“แล้วจากนั้นก็จะถูกคนอื่นตัดและปล้นใช่ไหม?”  ปิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “นี่ไม่ใช่นกกระจอกเทศบรอนซ์  ถ้าเจ้ากล้านำมันออกไปข้างนอก  จะมีคนมาปล้นฆ่าเจ้าเพื่อชิงอาวุธจักรกลเจ้าอย่านับข้ารวมไปด้วยล่ะ  ข้าเป็นแค่ครูฝึก  ฝีมือของข้าธรรมดามาก”

ถังเทียนรู้สึกไม่สบายใจแต่เขาก็รู้ว่าปิงพูดถูก นกกระจอกเทศบรอนซ์ก็ชักนำเรื่องยุ่งยากมาให้เขาพอแล้ว  ถ้าเป็นเสือเขี้ยวดาบอย่างนั้นเขาคาดว่าเขาคงไม่อาจถอดมันออกมาได้

ถังเทียนรู้สึกอารมณ์เสียเป็นพิเศษ  อารมณ์เหมือนกับว่าสวรรค์ล่มต่อหน้า เห็นได้แต่กินไม่ได้ ใช้ไม่ได้

ปิงเป็นเหมือนผู้วิเศษหยิบกล่องใบหนึ่งมาจากที่ใดมิทราบแล้วให้ถังเทียน

“อะไรกันนี่?”  ถังเทียนถามเพื่อความแน่ใจ

“โอวขณะที่ข้าตรวจดูกับดัก ข้าพบโดยบังเอิญบนศพตรงนั้น หลังจากผ่านไปหลายปีจำนวนคนที่เข้ามามีหลายคน” ปิงพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา “คนสองสามคนที่ตามเราเข้ามาจะตายด้วยเช่นกัน  ร่างของพวกเขาไม่มีอะไรมาก ถ้ามีอะไรมากมายข้าต้องตรวจดูให้เจ้าแล้ว เก็บกล่องใบนี้ไว้ในตู้อาวุธของเจ้า”

ถังเทียนเผลอยินดีและปลอบใจตนเองเขาเก็บมันไว้โดยมิได้ตรวจสอบแต่อย่างใด

ใจของเขาชอบอยู่แต่ชุดเสือเขี้ยวดาบเท่านั้น   เขาเห่อหลงใหลกับชุดอาวุธเครื่องกลเท่านั้น

“ไปกันเถอะ”  ปิงนำทางและลอยตัวไปข้างหน้า

ถังเทียนตามไปด้านหลัง

“นี่ลุง,ในที่สุดลุงก็ทนไม่ไหว.. ยอมเขียนหน้าเขียนตาตนเองแล้ว...”

“…..”

※※※※※※※

เมื่อทั้งสองคนรีบกลับมาหาเซรีนที่ร้านขายการ์ด ร้านที่ยุ่งเหยิงซึ่งถูกทำลายก็มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว

จอมโจรแพนด้าทั้งสามเป็นเหมือนเด็กดีที่ขยันทำงานเป็นอย่างดี  พวกเขาสวมชุดคนงานชุดยาวสวมหมวกกันน็อคทำงานงกๆไม่ยอมหยุดโดยไม่เงยหน้ามองถังเทียนด้วยซ้ำ

พอเห็นภาพเช่นนี้ ไม่ว่าเขาจะมองดูอย่างไร  ถังเทียนรู้สึกว่ามีปรากฏการณ์บางอย่างที่แปลกและเขาไม่สามารถอธิบายได้  เขาอดถามไม่ได้“เซรีน, เจ้าทำอะไรกับพวกเขาเหรอ?”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำถาม จอมโจรแพนด้าทั้งสามที่กำลังทำงานสุดชีวิตถึงกับตัวสั่น

เซรีนไม่ได้มองถังเทียนและถามว่า“เจ้าเอาแก่นพลังวิญญาณและหยกเหล็กวิญญาณมาด้วยไหม?”

“เรานำมาแล้ว”ปิงพูดพลางยื่นแก่นพลังวิญญาณและหยกเหล็กวิญญาณให้เซรีน

เซรีนรับมาดู และหลังจากตรวจดูชั่วครู่จึงกล่าวอย่างพอใจ “ไม่เลวเลย นี่หมายความว่าทุกอย่างที่นี่พร้อมแล้ว เอ่อ..ข้าเตรียมตัวอ่อนไว้เสร็จสิ้นแล้ว เอาล่ะพวกเจ้าไปได้แล้ว อย่ากวนใจขณะที่ข้าทำงาน อีกห้าวันพวกเจ้าค่อยกลับมารับของ”

ทันทีที่พูดจบเธอก้มหน้าก้มตาทำงานของเธอต่อไปทันที

ถังเทียนประหลาดใจ  เขาคาดไม่ถึงว่าสตรีผู้นี้จะเปลี่ยนบุคลิกไปสิ้นเชิงเมื่อถึงเวลาทำงาน

※※※※※※※※※※※※

เมื่อกลับมาถึงค่ายทหารใหม่  ถังเทียนเริ่มฝึกโหดทันที

ถังเทียนจำเป็นต้องใช้เวลาห้าวันเพื่อฝึกฝนในรอบการฝึกหนักครั้งต่อไป  ปิงตระหนักว่า ถังเทียนวางแนวทางฝึกแน่วแน่มากกว่าแต่ก่อน  วิธีการฝึกของเขาเหมือนกับว่าไม่สนใจชีวิตตนเองแม้แต่น้อย  เขาเริ่มฝึกวิชาท่าเท้าของเขาและเนื่องจากว่าเขาไม่มีวิชาท่าเท้าพื้นฐานมาก่อนเขาจึงเริ่มฝึกท่าเท้าพื้นฐานใหม่ทั้งหมด เขาไม่รู้จักวิธีฝึกลัด ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจ และยอมฝึกพื้นฐานวิชาต่อสู้ที่เขาไม่เคยฝึกมาก่อน

หัวใจถังเทียนกลับมากระตือรือร้นขึ้นบ้าง  นอกจากตามหาเชียนฮุ่ยและหาเจ้าบัดซบนั่นแล้วตอนนี้ถังเทียนมีเป้าหมายอื่นในระยะอันใกล้นี้อยู่ในใจ

ต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้

ขอเพียงแข็งแกร่งขึ้นเขาจะสามารถเปิดตัวและตัดสินเผชิญเรื่องราวอย่างสาสมใจ

ถังเทียนไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมแต่เขารู้สึกว่าเหมือนมีก้อนหินใหญ่ถ่วงอยู่ ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดโกรธเคืองและกระหายจะเพิ่มความเคลื่อนไหวของเขา

สิ่งที่ปิงได้พูดไว้ เขายอมรับฟังแต่ไม่ได้เห็นด้วยไปทุกอย่าง เนื่องจากเขามีวิธีการและแนวทางของตนเอง

แต่ก่อนนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฝึกตนเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

การฝึกโหดสิบวันผ่านไปในพริบตาเดียว  ถังเทียนมีแรงบันดาลใจใหม่ก็ยิ่งกระตือรือร้น  ทุกๆ ครั้งที่เหนื่อยล้า เขาจะคิดถึงคนผู้นั้นและร่างของเขามีความรู้สึกเหมือนมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ภายในตัวเขา

บางครั้งเขามีความรู้สึกว่าเขาเกิดมาเพื่อเข้ากันได้กับอาวุธจักรกลเหล่านั้น

แต่ปิงพูดถูก สภาพปัจจุบันของเขายังอ่อนแอเกินไป  ไม่เพียงแต่ไม่สามารถใช้เสือเขี้ยวดาบได้เต็มศักยภาพเท่านั้น  เขายังไม่สามารถปกป้องมันได้ด้วย  เมื่อไม่สามารถปกป้องแม้แต่อาวุธของตัวเองได้ถังเทียนไม่อาจทนเรื่องเช่นนั้นได้

แม้ว่าปิงจะรู้สึกทึ่งกับความดื้อรั้นของถังเทียน  แต่เขาไม่พูดอะไรมาก  เขาเดาความคิดของถังเทียนได้ง่ายมาก  ความจริง ถังเทียนดื้อรั้น  ไม่ว่าเขาทำอะไรก็ตามก็เหมือนกับแสดงออกมาทางหน้าทั้งหมด  ไม่ว่าเขาจะคิดอะไรก็ตาม  สำหรับถังเทียนแล้วดูเหมือนจะไกลเกินกว่าความเป็นจริงแน่นอน

แต่ปิงก็เข้าใจชัดถึงอุปสรรคในเป้าหมายของถังเทียน การไม่บ่นสักคำแม้อยู่ภายใต้แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ และเจ้าเด็กนี่ซึ่งฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานมาถึงห้าปีด้วยตัวเองทันทีที่เขากำหนดเป้าหมาย ต่อให้เอาวัวห้าตัวมาฉุด ก็ยังไม่สามารถดึงเขาออกจากเป้าหมายได้เลย

ปิงไม่กังวลแม้แต่น้อย สัญชาตญาณการต่อสู้ของถังเทียนยอดเยี่ยมทรงพลังนัก  ทันทีที่เขาดิ้นรนในระหว่างต่อสู้  เขาจะเข้าใจเหตุผลได้อย่างรวดเร็ว

ความจริงจะพิสูจน์ทุกอย่าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด