ตอนที่แล้วตอนที่ 72 ญาณทิพย์มองทะลุ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 74 แดนล่มสลายแห่งทวยเทพ

ตอนที่ 73 อสูรทองลึกลับ


เพื่อไม่ให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้จัดการ เย่ว์หยางเอาไข่อลเวงมาอีก 10 ใบ ทั้งหมดหยิบมาขณะที่เขาหลับตาทั้งนั้น

เย่ว์หยางมีความคิดในใจแล้ว ในความพยายามที่จะแสดงออก เจ้าอ้วนไห่ต้องการใช้ไข่ในมือของเขาจึงพูดว่า “ข้ามีลางสังหรณ์ว่าไข่อลเวงใบนี้ต้องเป็นของดีๆ แน่ ข้าซื้อมัน อะไรนะ? ไม่เหรอ? ผู้จัดการ! เราซื้อไข่อสูรและไข่อลเวงหลายใบ ถ้าเจ้าไม่ให้ไข่ใบนี้แก่ข้า อย่างนั้นต่อไปข้าจะไม่มาที่นี่อีก ถ้าเจ้ายอมให้ไข่ใบนี้ข้า ข้าจะพูดยกย่องเจ้าสักหลายคำและบางทีอาจโน้มน้าวคนๆนั้นให้เปลี่ยนใจขายฮุยไท่หลางให้เจ้าก็ได้นะ นั่นแหละ นั่นคือวิธีทำธุรกิจ ไข่ใบนี้ให้ฟรี อย่างนั้นเจ้าให้บัตรส่วนลดข้า 10% อย่าห่วง ข้าจะแนะนำเจ้านั่นให้ขายฮุยไท่หลางแก่เจ้า เจ้าไม่รู้หรือ ข้าเป็นลูกพี่เขา เขาจะต้องฟังข้า ข้าจะเก็บไข่อลเวงใบนี้ไว้ในกระเป๋าข้านะ…..”

ถ้าเจ้าอ้วนไห่ไม่ใจแคบเกินไป เย่ว์หยางอาจใช้ทักษะของเขาสับเปลี่ยนไข่ลึกลับนี้ก็ได้

มิฉะนั้น เขาคงไม่ยอมขายมัน

ถ้าผู้จัดการพบพลังลึกลับที่อยู่กับไข่ใบนี้ เย่ว์หยางจะทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไร

“เจ้าซื้อไข่อลเวงมาตั้งมากเพื่ออะไร?” อี้หนานไม่เข้าใจ แต่เนื่องจากเย่ว์หยางต้องการทำอย่างนี้ นางจึงไม่ต่อต้านแต่อย่างใด นางรู้สึกเลาๆ ว่าบุรุษคนนี้มีแรงจูงใจบางอย่างที่พูดออกมาไม่ได้ เพียงแต่ก่อนหน้านั้น ในร้านขายสัตว์อสูร ร้อยอสูรคำราม อี้หนานอดกลั้นไม่ถามเขา แต่เมื่อพวกเขาออกมาแล้ว นางจึงไม่เก็บความสงสัยไว้อีก

“พี่สามต้องมีเหตุผลบางอย่างถึงได้ทำอย่างนี้” เย่ว์ปิงยังคิดว่าเย่ว์หยางมีทักษะธรรมชาติปกปิดจริงๆ สามารถรู้สัตว์ที่มีธาตุเฉพาะที่ปิดบังได้

“เป็นไปหรือว่า ไข่อลเวงที่เข้ากันได้มากนั้น จะไม่ได้ใช้แค่โชคล้วนๆ?” อี้หนานตกใจ บุรุษผู้นี้มีทักษะชนิดนี้หรือ?

“……” เย่คงและพี่น้องสกุลหลี่ไม่พูดอะไร ได้แต่มองเย่ว์หยางอย่างลึกซึ้ง

พวกเขาไม่ได้พูดส่งเสียงออกมา แต่อารมณ์ของพวกเขามันท่วมท้นอยู่ในใจเขาแล้ว

ในสายตาคนอื่น อาจมองว่าเย่ว์หยางเห็นแก่ตัวไม่เคยเหลียวแลคนอื่น ไม่ใช่แค่ชอบพูดโกหกเท่านั้น เขายังหน้าด้านอีกด้วย แต่คนที่ได้คุ้นเคยกับเย่ว์หยางจริงๆ จะมีความรู้สึกที่แตกต่างสิ้นเชิงในตอนนี้ แม้ว่าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์จะไม่พูดออกมา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ เขายอมเดินทางไกลอย่างยากลำบากเพื่อตามหาน้องสาวของเขา เย่ว์ปิง จะมีกี่คนในโลกที่ทำได้อย่างนี้? เมื่อเย่ว์ปิงฟื้น เขาไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เขาพานางไปทั่ว อย่างไรก็ตาม เขาคือพี่ชายที่ยืนยันที่จะแบกนางขึ้นหลังขณะพาเข้าแดนปีศาจ ไม่เคยทอดทิ้งนางเลย

เผชิญหน้ากับปีศาจเป็นแสน เขาไม่ได้ใช้สหายของตนเป็นโล่ห์มนุษย์ในฐานะเครื่องแลกเปลี่ยนเกียรติยศให้ตัวเอง

เขาไม่เคยทอดทิ้งญาติสนิทมิตรสหายของเขา แม้สหายข้างตัวจะเป็นแค่สวะหรือคนตกยากที่กำลังจะอดตาย

พอเห็นว่าสหายของเขาถูกดูดเข้าในในสนามประลองเป็นตายด้วยพลังของขุนพลปีศาจ เขาไม่พูดแม้แต่คำเดียว เดินหน้าโดยไม่คำนึงว่าจะต้องเผชิญกับอันตรายเพื่อช่วยพวกเขา จะมีคนในโลกสักกี่คนที่จะเป็นได้อย่างเขา?

“ข้ารู้สึกได้จริงๆ ข้ารู้สึกว่าไข่อลเวงนี้ดีเป็นพิเศษ มันอาจเป็นไข่อลเวงของมังกรยักษ์ก็ได้ เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเกิดในโลกที่ประเมินไข่อลเวงนี้? อา , ข้าทำมันสกปรกแล้ว ไข่อลเวงใบไหนที่ข้าเลือกไว้กันแน่?” ขณะที่เจ้าอ้วนไห่พูดอย่างนี้ ทุกคนแอบหัวเราะเยาะเขา คนผู้นี้โง่จริงๆ พูดคุยอยู่กับขยะอยู่ได้ ถ้าพวกเขาเชื่อเจ้าอ้วนไห่จริงๆ พวกเขาคงอับโชคแน่

มีเพียงเย่ว์หยางที่รู้ว่าการกระทำของเจ้าอ้วนไห่ ปฏิเสธไปเพราะมีความโลภ ซึ่งเขาก็ถูกแจ๊คพ็อตจริงๆ เสียด้วย

สิ่งที่เจ้าอ้วนไห่เลือกขึ้นมาเป็นไข่อลเวงที่โดดเด่นแน่นอน

แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดอะไร แกล้งพูดสบายๆ กับเจ้าอ้วนไห่ไปอีกอย่างทำนองว่าไข่อลเวงใช้ประโยชน์ไม่ได้ “ถ้าเจ้าต้มไข่ใบนี้กินนะ เจ้าอาจจะเปลี่ยนสภาพเป็นหมูป่าชั้นทองแดงก็ได้นะ”

อี้หนานกับเย่ว์ปิดปากหัวเราะคิกคัก

อย่างไรก็ตาม เจ้าอ้วนไห่หน้าหนาเป็นพิเศษและไม่ได้สนใจเลย จากนั้นเขาพล่ามอย่างมีความสุขว่า “ถ้าข้าจะต้องวิวัฒนาการมัน ข้าจะวิวัฒนาการมันให้เป็นมังกรยักษ์”

เย่คงและพี่น้องสกุลหลี่อยากจะเป็นลม หลังจากมีคนบอกว่าเจ้าตัวอ้วน เจ้ายังจะพล่ามอย่างนี้อีกหรือ?

หลังจากหาโรงเตี๊ยมของนักรบและเข้าพักแล้ว เย่ว์หยางเอาไข่อสูรที่ประเมินว่าได้มาตรฐาน 5 ดาวและใส่มันร่วมกับไข่อลเวงที่มีพลังลึกลับ การกระทำเช่นนี้แทบจะทำให้คนที่เห็นมันหวาดหวั่น นั่นคือไข่อสูรมาตรฐาน 5 ดาว ถ้ามีอะไรผิดพลาด มันจะถูกทำลาย แม้ว่ามันจะไม่สามารถหลอมรวมเข้าด้วยกัน มันก็ยังเป็นไข่มาตรฐาน 5 ดาว ทำไมถึงต้องเสี่ยงพนันด้วย? ไม่ใช่แค่เย่คง เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ แม้แต่เย่ว์ปิงและอี้หนานผู้สนับสนุนเย่ว์หยางมากที่สุดก็ยังไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เย่ว์หยางพยายามทำ พวกเขารู้สึกว่าแม้อัตราล้มเหลวจะมี 1% พวกเขาคงไม่กล้าเสี่ยงใช้ไข่อสูรมาตรฐาน 5 ดาวแน่

โอกาสประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่เมื่อไข่อสูรกับไข่อลเวงหลอมรวมกันมีน้อยนิดมาก

ถ้าเย่คงที่เดิมยังเป็นสวะ และยังต้องเสี่ยง มันก็ยังคุ้ม อย่างไรก็ตาม กับสถานะปัจจุบันที่เย่ว์หยางเป็นอยู่ จำเป็นต้องเดิมพันด้วยหรือ?

“น้องเจ็ด มาทำสัญญาเถอะ” แต่ความคิดเห็นของเย่ว์หยางทำให้เย่ว์ปิงและอี้หนานตื่นเต้นมาก

ทุกคนเข้าใจว่าถ้าเย่ว์หยางไม่มั่นใจในผลที่ออกมา เขาจะไม่ยอมให้เย่ว์ปิงน้องสาวเขาทำสัญญากับไข่แน่นอน ตอนนี้เขาเรียกเย่ว์ปิงมาทำสัญญากับมัน ก็เหมือนกับบอกว่าสัญญากับไข่ที่หลอมรวมกันนี้จะประสบผลสำเร็จได้มิใช่หรือ?

เย่ว์ปิงมองเย่ว์หยางอย่างกังวล หลังจากผ่านไปนาน นางถามเสียงสั่นว่า “พี่สาม อสูรนี่คืออะไร? เป็นสายพฤกษาหรือเปล่า?”

เย่ว์หยางประหลาดใจ เย่ว์ปิงจะใช้ได้แต่เพียงอสูรสายพฤกษาเท่านั้นหรือ?

“ข้าได้ทดสอบในโรงเรียนมาแล้ว ข้ามีอัตราการเข้ากันได้กับอสูรพฤกษา 120% แต่อสูรรูปแบบอื่น เข้ากันได้เกือบ 50% ข้าเป็นนักเรียนที่โดดเด่นเฉพาะทางที่สุดและก็ข้าดีเฉพาะอสูรสายพฤกษา ถ้ามันไม่ใช่อสูรสายพฤกษา แต่พี่สามมั่นใจ อย่างนั้นให้ เอ่อ ให้พี่อี้หนานทำสัญญากับมันเถอะ” เย่ว์ปิงรู้สึกว่า มันจะเสียของได้ ถ้านางไม่สามารถใช้สัญญากับสัตว์ที่ถูกต้อง เนื่องจากนี้เป็นเรื่องต้องพิจารณา คงจะดีกว่าที่ให้อสูรนี้กับอี้หนาน ว่าที่พี่สะใภ้ในอนาคต เนื่องจากพี่ชายนางถูกคนอื่นปฏิเสธการแต่งงาน นางสามารถใช้อสูรนี้ผลักดันให้ 2 คนนี้ได้ใกล้ชิดกัน จะไม่ได้ผลที่ดีกว่าหรือ?

“ไม่, ข้ารับไข่อสูรที่มีค่าดังกล่าวไม่ได้หรอก” อี้หนานรีบสั่นหัว ถ้ามีโอกาสที่การหลอมรวมจะทำได้สำเร็จจริงๆ จนมันสร้างวิวัฒนาการได้จริงๆ อสูรมาตรฐาน 5 ดาวจะทะยานขึ้นกลายเป็นอสูรมาตรฐาน 6 ดาวหรือไม่?

อี้หนานรู้สึกว่านางไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุรุษคนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนมาพบกันโดยบังเอิญ ดังนั้นจะรับของมีค่าจากเขาได้อย่างไร?

เย่ว์หยางรู้สึกว่าอยากขออภัยต่ออี้หนานสักเล็กน้อย

เมื่อตอนที่เขาสู้กับอูอี้และเสียหั่วในป่าบันเทิง อี้หนานไม่เคยพบว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง จึงเลือกที่จะอยู่รั้งรอแทนที่จะหลบหนี นางสู้กับพวกมันในศึกสำคัญจนต้องสูญเสียผีเสื้อเมามายและเสือดำเงาในการต่อสู้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาปิดบังความแข็งแกร่งที่แท้จริงไว้ จนช่วงเวลาสุดท้าย เมื่ออี้หนานปกป้องเขาจนเผชิญกับการตอบโต้ทางจิตใจในที่สุดนางก็ล้มลงกับพื้นหมดสติไป

ถ้าเขาให้ไข่อสูรนี้กับนาง ก็ถือเสียว่าเป็นการชดเชยเล็กๆ น้อยๆ ที่นางต้องสูญเสียสัตว์อสูรของนางไป

พอเห็นว่าพี่สามไม่ได้คัดค้านอะไร เย่ว์ปิงจึงใจกล้าดึงมืออี้หนานมา “พี่..อี้หนาน ทำไมไม่ให้อะไรพี่ข้าบ้างล่ะ? ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนกันสักอย่าง น่าจะลงตัวนะ”

ขณะที่นางพูดอย่างนี้ อี้หนานจำอะไรบางอย่างได้

บางที สิ่งนั้นในตำนานอาจจะใช้ได้สำหรับเขา..

อี้หนานล้วงสร้อยอัญมณีม่วงออกมาจากคอที่ขาวปานหิมะของนางแล้วมอบให้เย่ว์หยาง “ถ้าเป็นอย่างนั้น มาแลกเปลี่ยนกัน”

เย่ว์หยางรับเอาสร้อยคอรูปประหลาดที่ยังมีกลิ่นหอมของอี้หนานติดอยู่มา ทันใดนั้น ใจของเขารู้สึกสั่นสะท้าน เสียงคำรามสะท้อนก้องอยู่ในใจเขา เหมือนกับว่ามันโกรธแต่ก็สุขใจเช่นกัน เหมือนเป็นการเชื้อเชิญ หรือเรียกหา นี่อะไรกัน? เป็นไปได้ว่าภายในอัญมณีนี้ ยังคงมีวิญญาณสิ่งมีชีวิตที่ทรงอำนาจอยู่ข้างในหรือ? เป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบไหน ระดับไหน? เมื่อเย่ว์หยางสงสัย เขาใช้ปราณก่อกำเนิดค้นหามัน ทันใดนั้นเขาตระหนักได้ว่าพลอยสีม่วงได้ดูดกลืนปราณก่อกำเนิดของเขาอย่างเมามัน นิ้วของเขารู้สึกได้ถึงคลื่นความเจ็บปวดมหาศาล และมีเลือดไหลออกมาและเข้าไปในพลอยม่วง

ท่ามกลางความตกตะลึง เย่คงและคนอื่นจ้องตาค้าง ลำแสงสีทองฉายออกมาจากอัญมณีเข้าไปที่มือเย่ว์หยาง

ทันใดนั้น บ้านทั้งหลังก็ถูกย้อมเป็นสีทอง

ฮุยไท่หลางที่แข็งแกร่งระดับ 5 ชั้นทองแดงยังคงรู้สึกไม่สบายใจกับแสงสีทองที่สวยงามนี้ ขาของมันสั่นเล็กน้อย..เงาสะท้อนในแสงสีทองบนผนัง เป็นรูปทรงของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนปรากฏขึ้น มันมีตาทองและฟันคม มีเกล็ด เขา, และปีกขนาดใหญ่ที่มีกรงเล็บ 4 ปีก ด้วยการปรากฏขึ้นเพียงชั่ววินาที หมาป่าวายุระดับ 3 ที่พี่น้องสกุลหลี่เพิ่งซื้อมา ก็หมดสติอยู่ตรงนั้นเอง

“นี่คือมังกรยักษ์ไม่ใช่หรือ? ปากของเจ้าอ้วนไห่ยังอ้าค้างกว้างขนาดจับช้างแมมม็อธใส่ได้สบายๆ

“สวรรค์!” เย่คงก็ยังรู้สึกอยากเป็นลม

ทหารรับจ้างที่อยู่ข้างนอกไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย แต่สัตว์อสูรที่มีความรู้สึกอ่อนไหวจะมีปฏิกิริยาทันที

รอบๆ โรงเตี๊ยม สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนตกใจกลัวจนปัสสาวะราด ที่อยู่ไกลออกไปก็กลัวจนเตลิดหนีไป ขนาดที่เจ้านายของพวกมันยังสั่งให้หยุดไม่ได้

สัตว์อสูรประเภทนกจำนวนหนึ่งที่กำลังบินอยู่กลางอากาศกลัวจนกระทั่งตกลงมาบนพื้น แต่ละตัวไม่สามารถบินต่อไปตามปกติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นกับสัตว์อสูรที่บินเหนือโรงเตี๊ยมนักรบ พวกมันกลัวมากจนเสียสติตาเหลือกขาวและบินลงมาอยู่ที่พื้น

พลอยม่วงในมือของเย่ว์หยางแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แสงสีทองเจิดจ้าส่องตรงมาที่อกของเขา

ด้วยเหตุนี้ทำให้เย่ว์หยางกลัวและรีบใช้มือกันมันเอาไว้

เขาคาดไม่ถึงว่าแสงสีทองมีความฉลาด มันหลบหลีกนิ้วของเขาและลอดผ่านระหว่างนิ้วมือของเขา เข้าไปในชุดตรงหน้าอกของเขา เย่ว์หยางร้องลั่นและรีบถอดเสื้อออก อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าชิ้นของโลหะลึกลับนั้นหลอมรวมอยู่ในแสงสีทอง ในที่สุดภายใต้สายตาของทุกคนในห้อง มันเปลี่ยนรูปเป็นของเหลวลูกกลมสีทอง

ความจริงชิ้นส่วนของโลหะลึกลับสีดำ หลังจากเปลี่ยนเป็นลูกกลมของเหลว มันก็บริสุทธิ์ขึ้นเรื่อยๆ

กากความไม่บริสุทธิ์สีดำหยดลงบนพื้น และในที่สุดลูกกลมทั้งลูกก็กลายเป็นสีเงินขาวบริสุทธิ์

ภายใน 3 วินาที ลูกบอลของเหลวสีทองที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เปลี่ยนเป็นสัตว์อสูรสีทองที่ไม่มีใครรู้จัก

ด้วยร่างสีเงิน และรัศมีทองรอบๆ มัน มันมีตาสีม่วงและกรงเล็บแดง ลำตัวกลมยาวมีหางและมีปีกอยู่ที่หลังของมัน ลักษณะของมันน่ารักมาก ลักษณะของเจ้านี่แตกต่างจากที่เย่ว์หยางและคนอื่นคิดว่ามันเป็นอย่างสิ้นเชิง ทุกคนคิดว่ามันจะกลายเป็นมังกรทองตัวน้อย พวกเขาไม่คิดว่ามันจะมีลักษณะแปลกๆ จากที่คิด อสูรทองตัวนี้มีร่างสีขาวเงินและมีสายสีทองลึกลับ มันกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว และกระโจนเข้าหาแก้วผลึกงูสีเขียวเข้มที่เย่ว์หยางได้รับจากการตัดหัวงูของไคเมรา 3 หัว เย่ว์หยางกวาดตาและมืออย่างว่องไว ก่อนที่มันจะงับแก้วผลึก เขารีบเก็บแก้วผลึกงูสีเขียวแก่

เจ้าอสูรทองเป็นเหมือนกับแมวหิวโซ มันชนเย่ว์หยางเบาๆ ต้องการจะชิงผลึกงูสีเขียวแก่จากมือของเย่ว์หยางและกินมันเป็นอาหาร

คนในห้องแทบจะเป็นลม เจ้านี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่?

เป็นสิ่งมีชีวิตหรือ? หรือว่ามันเป็นอสูรหุ่น?

พวกเขาเห็นว่ามันฉลาดและยังทำตัวเหมือนเด็ก มันเป็นอสูรชั้นทอง ทั้งยังต้องการกินบางอย่าง และของบางอย่างนั้นก็เป็นผลึกเวทเสียด้วย… มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เย่ว์ปิง, อี้หนาน, เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และพี่น้องสกุลหลี่พากันพิศวงขณะที่พวกเขามองดูเย่ว์หยาง หวังว่าจะได้รับคำอธิบายเพิ่มเติม

อสูรทองลึกลับตัวนี้ คืออะไรกันแน่?

*************************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด